พระเครื่อง : แหล่งข้อมูลบทความพระเครื่อง เครื่องรางของขลัง และวัตถุมงคล
Group Blog
 
<<
กุมภาพันธ์ 2557
 
2 กุมภาพันธ์ 2557
 
All Blogs
 
ตามกรอ.บินลัดฟ้าญี่ปุ่น ดูการบริหารโรงกำจัดขยะ

ตามกรอ.บินลัดฟ้าญี่ปุ่น ดูการบริหารโรงกำจัดขยะ

คอลัมน์ รายงานพิเศษ



ในยุคที่เทรนด์อุตสาหกรรมสีเขียวกำลังมาแรง การใส่ใจผลิตผลทางอุตสาหกรรม ทั้งของผู้ประกอบการ รวมทั้งผู้บริโภค นอกจากจะต้องดูแล ใส่ใจตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำแล้ว ในส่วนของการบริหารจัดการที่ปลายน้ำ ในการดูแลบำบัดของเสีย สิ่งปฏิกูล และกากอุตสาหกรรม ที่เหลือทิ้งเกินความต้องการ เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่จำเป็นต้องใส่ใจ



กรมโรงงานอุตสาหกรรม (กรอ.) กระทรวงอุตสาหกรรม จึงพาคณะสื่อมวลชนไปศึกษาดูงาน โดยบินลัดฟ้าไปถึงญี่ปุ่น ประเทศที่ได้ขึ้นชื่อว่า มีระบบห่วงโซ่อุตสาหกรรมสีเขียวที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดแห่งหนึ่งของโลกเพื่อนำมาเป็นรูปแบบในการบริหารจัดการกากของเสียและปฏิกูลในประเทศไทย



กรอ.ได้ปักหมุดในกลุ่มบริษัท "DOWA ECO SYSTEM" ดำเนินกิจการโรงงานกำจัดขยะและจัดการสิ่งแวดล้อมใหญ่สุดในประเทศญี่ปุ่น โดยเลือกโรงงาน Eco System Shiba ที่เป็นโรงงานกำจัดขยะอันตรายและไม่อันตรายอีกแห่ง ของ DOWA ซึ่งตั้งที่เมืองชิบะ เป็นต้นแบบของการศึกษาดูงานในครั้งนี้ เพื่อเปิดภาพให้เห็นถึงความจำเป็นของโรงกำจัดขยะ และการรับมือต่อชุมชนโดยรอบ



นายอิวาโอะ อิฮารา ที่ปรึกษา บริษัท Eco System Shiba ระบุว่า การจะลงทุนในส่วนของโรงงานกำจัดขยะได้นั้น ต้องดำเนินตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด โดยในปี 2543 กฎหมายของประเทศญี่ปุ่นเข้มงวดให้โรงงานกำจัดขยะขนาดใหญ่ต้องทำผลสำรวจและรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อมก่อนดำเนินการ และต้องได้รับความเห็นชอบจาก 3 ส่วนคือ 1.เจ้าหน้าที่ท้องถิ่น 2.ประชาชนในท้องถิ่น และ 3.ผู้เชี่ยวชาญ พร้อมกันนี้ต้องเผยแพร่ความเห็นหรือเปิดรับฟังความเห็นจากทุกภาคส่วน



สำหรับวิธีดำเนินการเพื่อลดแรงเสียดทานต่อชุมชน ในการไปก่อตั้งโรงงานใกล้เคียงนั้น โรงงานก็จะทำ ข้อตกลงกับชุมชน โดยเฉพาะเทศบาลเพื่อที่จะดำเนินการร่วมกันโดยข้อตกลงก็จะคุยกันว่าเวลามีปัญหาจะทำอย่างไร จะแก้ไขได้หรือไม่ เป็นลำดับไว้ เพื่อที่ทุกฝ่ายจะเดินไปตามข้อตกลงนั้นๆ ขั้นตอนการดำเนินงานต่างๆ ของโรงงานแห่งนี้ใช้เวลา 2 ปีจึงก่อสร้างได้ ซึ่งโรงงานที่ญี่ปุ่นจะไม่มีใครไปสร้างก่อนได้รับการอนุมัติ



หัวใจสำคัญคือ ต้องสร้างความเข้าใจให้กับชุมชน ซึ่งนายอิวาโอะ ได้ให้ความสำคัญอย่างมาก โดยอธิบายเพิ่มเติมว่า การก่อสร้างโรงงานกำจัดขยะ เหมือนกับการก่อสร้างสุขาสาธารณะ ถามว่าทุกคนรู้ว่ามีความจำเป็นไหม ก็ต้องตอบว่าจำเป็น แต่ถามว่าให้ไปสร้างใกล้ๆ บ้านไหม ก็ไม่มีใครต้องการ



ดังนั้น จึงขึ้นอยู่กับการสร้างความเข้าใจ ก็จะมีคนที่เข้าใจและยอมรับ บางส่วนก็ไม่เข้าใจ แต่ที่ยากที่สุดคือเข้าใจแต่ก็ยังไม่ยอมรับ ซึ่งบริษัทต้องลงพื้นที่เข้าไปเจรจา พูดคุย เพื่อให้ตกลงกันได้



สำหรับโรงงานนี้เป็นแห่งที่ 2 ในชิบะเป็นโรงงานเผากำจัดขยะอันตรายและไม่อันตราย เช่น สารเคมี กรด กากตะกอน ฯลฯ สามารถส่งเตาเผาได้ทั้งถัง 200 ลิตร มีกำลังผลิต 600 ตันต่อวันใหญ่สุดในญี่ปุ่น





นอกจากนี้ ยังมีเทคโนโลยีกำจัด คลอโรฟลูออโรคาร์บอน (CFC) ซึ่งได้รับอนุญาตจากหน่วยงานภาครัฐให้ สามารถทำลายคลอโรฟลูออโรคาร์บอนและเปลี่ยนเป็นพลังงานไฟฟ้าได้ และยังมีการจัดเก็บและกำจัดสิ่งปฏิกูลภายในโรงงานโดยไม่ให้มีกลิ่นออกมาภายนอกได้



ครั้นตัดภาพกลับมาที่ประเทศไทย มองภาพการลงทุนก่อสร้างโรงกำจัดขยะ รวมถึงแนวนโยบายต่างๆ มีการวางแผนเชิงรุกกันอย่างไรบ้าง ในฐานะ กรอ.ผู้เป็นทัพหน้าในการดูแลรับผิดชอบ



ในเรื่องนี้ นายณัฐพล ณัฏฐสมบูรณ์ อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม (กรอ.) ระบุว่า กรอ.เตรียมว่าจ้างบริษัทที่ปรึกษามาศึกษาการตั้งโรงงานกำจัดขยะของเสียภาพรวมโดยเฉพาะของเสียอันตราย วงเงิน 10 ล้านบาทคาดว่าจะใช้เวลาศึกษา 10 เดือนโดยจะเสร็จก่อนสิ้นปีนี้ ซึ่งจะมีการศึกษาตั้งแต่พื้นที่ตั้งโรงกำจัดขยะควรตั้งที่ไหน เตาเผาประเภทใดที่จะเหมาะสม



ขณะเดียวกัน จะศึกษาการนำเทคโนโลยีระบบโดยจะระบุลักษณะของวัตถุด้วยคลื่นความถี่วิทยุ (Radio Frequency Identification-RFID) มาควบคุม ติดตามการขนส่งกากอุตสาหกรรม ตั้งแต่ต้นทางคือจากโรงงานอุตสาหกรรมไปยังจุดกำจัดกากได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อลดปัญหาการลักลอบทิ้ง



อย่างไรก็ตาม ที่น่าเป็นห่วงขณะนี้ คือขยะอันตราย เพราะมีเตาเผาเพียงแห่งเดียวที่นิคมอุตสาหกรรมบางปู มีกำลังการเผาที่ 100 ตันต่อวัน แต่พบว่าขยะอันตรายมีถึง 2 ล้านตันต่อปี ซึ่งส่วนหนึ่งมีการนำไปฝังกลบและเข้าเตาเผาของโรงปูน ซีเมนต์ ทั้งที่ขยะอันตรายบางอย่างไม่ควรไปโรงปูนเพราะเราไม่ได้ออกแบบมาเพื่อขยะอันตราย



ท้ายที่สุดการก่อสร้างเตาเผาขยะขนาดใหญ่ของไทยมีความจำเป็น เบื้องต้นคาดว่าจะก่อสร้างด้วยกำลังการเผา 600 ตัน ต่อวัน มูลค่าก่อสร้างรวม 3,000 ล้านบาท



หากสามารถศึกษาความเป็นไปได้เสร็จภายในปีนี้ ปี 2558 จะเข้าสู่ขั้นตอนการของบประมาณจากรัฐบาล คาดว่าจะเริ่มก่อสร้างได้ปี 2559 และเปิดดำเนินการปี 2562 เพราะต้องใช้เวลาในการทดสอบระบบประมาณ 1-2 ปี จากปัจจุบันที่มีโรงงานฝังกลบขยะอันตรายขนาดใหญ่ 3 แห่ง ที่พบว่าความสามารถในการฝังกลบของทั้ง 3 บริษัทจะได้อีกประมาณ 10-15 ปี ดังนั้นการสร้างเตาเผาแห่งใหม่ จึงมีความจำเป็น



การกำจัดขยะของเสียนั้น ไม่ใช่เรื่องที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออก หากทุกฝ่ายยึดเรื่องสิ่งแวดล้อมเป็นที่ตั้ง



จากการศึกษาดูงานที่ Eco System Shiba กรอ.คงได้แนวนโยบายเพื่อมาปรับทัพ เดินหน้าการก่อสร้างโรงงานกำจัดขยะ ที่เป็นมิตรและดูแลชุมชนได้อย่างเป็นระบบมากขึ้น



สิ่งสำคัญที่ไม่ควรละลืม คือต้องสร้างความเข้าใจให้ชุมชน



Create Date : 02 กุมภาพันธ์ 2557
Last Update : 2 กุมภาพันธ์ 2557 7:32:29 น. 0 comments
Counter : 1282 Pageviews.

amulet108
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 96 คน [?]








Friends' blogs
[Add amulet108's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.