BlogGang.com : : amulet108 : ตรวจแถว"นิคมฯเอกชน" มั่นใจสู้วิกฤตน้ำท่วมฉลุย

ตรวจแถว"นิคมฯเอกชน" มั่นใจสู้วิกฤตน้ำท่วมฉลุย

ตรวจแถว"นิคมฯเอกชน" มั่นใจสู้วิกฤตน้ำท่วมฉลุย

คอลัมน์ รายงานพิเศษ

สถานการณ์น้ำท่วมล่าสุดในหลายพื้นที่เป็นสัญญาณเตือนให้ภาคอุตสาหกรรมต้องเริ่มตื่นตัว "เฝ้าระวัง? อีกครั้ง ปฏิเสธไม่ได้ว่าจากบทเรียนวิกฤตอุทกภัยปี 2554 ได้ฝากรอยแผล ส่งผลให้สูญเสียโอกาสทางธุรกิจและการลงทุนนับล้านล้านบาท ภาวะวิกฤตน้ำท่วมขณะนี้สิ่งที่ผู้ประกอบการต้องการมากที่สุดคือ "ข้อมูล? ที่ถูกต้องแม่นยำ

นายประเสริฐ บุญชัยสุข รมว.อุตสาหกรรมระบุว่า สั่งการให้ ผู้ว่าการการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) ติดตามพื้นที่นิคมฯ ในเขตอุตสาหกรรมและสวนอุตสาหกรรมทุกแห่ง เบื้องต้น มี 3 แห่งที่อาจอยู่ในจุดเสี่ยงคือ นิคมอุตสาหกรรมสหรัตนนคร นิคมอุตสาหกรรมบางปะอิน และนิคมอุตสาหกรรมบ้านหว้า (ไฮเทค)

คำถามคือ หน่วยงานที่กำกับดูแล ทั้งรัฐบาล กระทรวงอุตสาหกรรม กระทั่งผู้ประกอบการนิคม เขต สวนอุตสาหกรรม ได้เตรียมรับมือภาวะวิกฤตน้ำ ปีนี้กันไว้อย่างไรบ้าง

ในส่วนของ กนอ. นายวีรพงศ์ ไชยเพิ่ม ผู้ว่าการ กนอ. เปิดเผยว่าเบื้องต้นได้สั่งการระดับรองผู้ว่าการการนิคมฯ ให้ลงพื้นที่ในนิคม เขตอุตสาหกรรม สวนอุตสาหกรรมต่างๆ ที่มีความเสี่ยงในจ.พระนครศรีอยุธยาและจ.ปทุมธานี เริ่มที่นิคมฯ สหรัตนนคร เพื่อเตรียมรับมือ แต่ในภาพรวมทั้งนิคม เขตอุตสาหกรรม สวนอุตสาหกรรมทั้ง 5 แห่ง ประกอบด้วย นิคมฯ บางปะอิน นิคมฯ บ้านหว้า เขตประกอบการอุตสาหกรรมโรจนะ สวนอุตสาหกรรมนวนคร และสวนอุตสาหกรรมบางกะดี ได้สร้างเขื่อนกั้นน้ำถาวรสูงกว่าระดับน้ำท่วมสูงสุดเมื่อปี 2554 แล้ว จึงมั่นใจว่าจะไม่เกิดเหตุซ้ำรอยขึ้นอีก

นอกจากนี้ กนอ.ยังตั้งศูนย์ประสานงานที่สำนักงานใหญ่ กรุงเทพฯ เฝ้าระวัง 6 พื้นที่อุตสาหกรรมในจ.พระนครศรีอยุธยาและจ.ปทุมธานี เพื่อติดตามสถานการณ์ในภาพรวม พร้อมสั่งการเร่งด่วนหากเกิดภาวะคับขัน รวมทั้งยังได้จัดส่งผู้บริหารเข้าพื้นที่เพื่อติดตามสถานการณ์ และวางแผนรับมือหากน้ำเพิ่มระดับสูงขึ้นอีกด้วย

สำหรับแนวทางการป้องกันน้ำท่วมในนิคมฯ สหรัตนนคร แนวป้องกันน้ำถาวรคืบหน้าเพียง 30% แต่เมื่อประเมินสถานการณ์น้ำโดยรอบที่เริ่มลดระดับลง และความพร้อมของเขื่อนดินชั่วคราวรอบนิคมฯ ยาว 6 กิโลเมตรทั้งด้านหน้าและด้านหลัง ที่มีเครื่องสูบน้ำประจำการอยู่เป็นของนิคมฯ 3 ตัว สูบน้ำขนาด 1.5 ลบ.ม.ต่อวินาที จากกรมชลประทาน 2 ตัว สูบน้ำขนาด 0.3 ลบ.ม.ต่อวินาที มั่นใจว่านิคมจะปลอดภัยจากน้ำท่วมแน่นอน นอกจากนี้ บริเวณหน้านิคมฯ ยังมีถนนของกรมทางหลวงชนบทเป็นกำแพงกั้นน้ำอีกชั้นหนึ่งสูง 6-6.7 เมตร ความยาว 32 กิโลเมตร ทางกนอ.ยังเตรียมเขื่อนเคลื่อนที่เร็วความยาว 20 ก.ม.สูง 2.40 เมตร มาช่วยป้องกันน้ำให้กับนิคมฯสหรัตนนคร โดยใช้เวลาบรรจุทรายไม่เกิน 1 วันหากน้ำมาประชิด

ขณะเดียวกัน ได้วางระดับความปลอดภัยตามสีธงเทียบกับระดับน้ำคือ สีเขียวระดับปกติ สีฟ้า สีเหลืองระดับเฝ้าระวัง สีเหลืองระดับเตรียมอพยพ และสีแดงระดับอพยพ ซึ่งปัจจุบันยังอยู่ในระดับเขียว

ถ้าหากเกิดสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่โดยรอบหรือ มีแนวโน้มที่น้ำจะไหลเข้าท่วมพื้นที่นิคมฯ กนอ.จะปิดประตูระบายน้ำ และท่อลอด ตลอดแนวถนน 32 กิโลเมตร เพื่อป้องกันน้ำท่วมเข้าพื้นที่นิคมฯ และชุมชนโดยรอบกว่า 2,000 ครัวเรือน

ด้าน นายทวิช เตชะนาวากุล ประธานกรรมการบริษัท ไฮเทค กบินทร์ โลจิสติกส์ จำกัด ระบุว่าจากสถานการณ์น้ำท่วมในฝั่งจ.ปราจีนบุรี ทำให้นิคมฯ บ้านหว้าต้องติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เนื่องจากปีนี้ปริมาณน้ำฝนมาเร็วกว่าที่คาดไว้ แต่จากการติดตามสถานการณ์ปริมาณน้ำพบว่าไม่มากเมื่อเทียบกับปี 2554 หรือมีไม่ ถึงครึ่ง เป็นลักษณะการไหลของน้ำที่สูงลงที่ต่ำ ไม่เหมือนปี 2554 ที่เป็นการเอ่อล้นออกมาจากคลองและแม่น้ำ ดังนั้น ยังเชื่อว่ากรณีที่น้ำท่วมในบางพื้นที่เป็นเรื่องปกติ ที่ท่วมซ้ำซากทุกปีอยู่แล้ว ไม่ใช่ภาวะที่น่าวิตกกังวลแต่อย่างใด

นิคมฯ บ้านหว้าขณะนี้ยังไม่ได้รับผลกระทบจากปริมาณน้ำที่เพิ่มขึ้น แต่อย่างใด ขณะเดียวกัน ยังก่อสร้างแนวกั้นน้ำถาวรรอบนิคมฯ เรียบร้อยทั้งหมดแล้ว จึงมั่นใจว่าจะไม่เกิดปัญหาเหมือนปี 2554 แต่เพื่อความไม่ประมาทในช่วงที่ผ่านมาได้มีการเรียกซักซ้อมแผนระหว่างผู้บริหารนิคมฯกับผู้ประกอบการภายในนิคมฯถึงขั้นตอนรับมือภาวะวิกฤต และซักซ้อมแนวทางการอพยพกรณีที่คาดว่า ไม่สามารถควบคุมสถานการณ์ได้

ที่ผ่านมาหลังจากที่มีการนำเสนอข่าวกรณี น้ำท่วมในหลายพื้นที่ของประเทศ ยอมรับว่า ส่งผลกระทบต่อผู้ประกอบการทั้งในและ ต่างประเทศ เนื่องจากกังวลว่าเหตุการณ์อาจจะซ้ำรอยเมื่อปี 2554 อีก

ในส่วนของนิคมฯ บ้านหว้า ผู้ประกอบการได้ติดต่อสอบถามเข้ามาเป็นจำนวนมาก ถึงสถานการณ์น้ำล่าสุด รวมถึงแนวทางการรับมือ ซึ่งได้ชี้แจงและมั่นใจว่าผู้ประกอบการนักลงทุนจะมีความเข้าใจ ไม่กระทบต่อความเชื่อมั่น ในการลงทุน พร้อมยืนยันว่าเมื่อพิจารณาจากสถานการณ์แล้วยังเชื่อว่าวิกฤตน้ำท่วมในปีนี้จะไม่เหมือนปี 2554 และจะไม่มีทางท่วมนิคมฯ บ้านหว้าอย่างแน่นอน

ส่วน นายนิพิฐ อรุณวงษ์ ณ อยุธยา กรรมการผู้จัดการ บริษัท นวนคร จำกัด (มหาชน) ยืนยันว่าบริษัทมั่นใจแนวเขื่อนและกำแพงป้องกันน้ำความสูง 5.5 เมตร ล้อมรอบนิคมฯนวนคร ระยะทาง 20.6 กิโลเมตร ซึ่งเป็นแนวป้องกันที่แข็งแรงสำหรับรองรับกรณีเกิดเหตุการณ์น้ำท่วม อย่างไรก็ดี จนถึงขณะนี้บริษัทไม่กังวลเรื่องน้ำท่วมมากนัก ประกอบกับน้ำในเขื่อนต่างๆ ยังอยู่ในระดับไม่สูงมาก หากเกิดเหตุการณ์เช่นกรณีปี 2554 แนวป้องกันของบริษัทก็ยังรับมือได้ เนื่องจากเขื่อนและกำแพงป้องกันน้ำความสูงกว่า 5.5 เมตร ล้อมรอบนิคมฯ ยาว 20.6 กิโลเมตร พร้อมรองรับแล้ว

น.ส.อมรา เจริญกิจวัฒนกุล กรรมการบริษัท สวนอุตสาหกรรม โรจนะ จำกัด(มหาชน) กล่าวว่า บริษัทเชื่อว่าเหตุการณ์น้ำท่วมขณะนี้ไม่น่าจะรุนแรงเหมือนปี 2554 อย่างไรก็ดี บริษัทก็ไม่กังวลเนื่องจากได้ทำเขื่อนและแนวป้องกันน้ำท่วมที่มีความสูงจากระดับพื้นดิน 5 เมตร กันพื้นที่โดยรอบนิคมอุตสาหกรรมโรจนะ ความยาว 77 กิโลเมตรพร้อมรับมือแล้ว

นายพยุงศักดิ์ ชาติสุทธิผล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) ยังเชื่อว่าจากสถานการณ์น้ำท่วมขณะนี้ไม่ส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุน เนื่องจากในช่วงที่ผ่านมานักลงทุนต่างชาติมีความเข้าใจในสถานการณ์ของภัยพิบัติในประเทศเพิ่มมากขึ้น เหตุการณ์น้ำท่วมขณะนี้ยังไม่มีความวิตกกังวล เพราะส่วนใหญ่มีความรู้ความเข้าใจในธรรมชาติของประเทศไทย เพิ่มมากขึ้นจากเหตุการณ์ที่เคยเกิดในปี 2554 ที่ผ่านมา ขณะเดียวกัน อยากให้รัฐบาลเร่งดำเนินโครงการบริหารจัดการน้ำอย่างเต็มรูปแบบเพื่อเป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนได้อีกทางหนึ่ง

ทางด้านนักลงทุนญี่ปุ่นต่างก็จับตาดูสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด โดยนายเซทซูโอะ อิอุชิ ประธานองค์การส่งเสริมการค้าต่างประเทศของญี่ปุ่น ประจำประเทศไทย หรือ เจโทร ได้สอบถามทาง กนอ. และขอให้ช่วยดูแลนักลงทุนญี่ปุ่นในนิคมฯ สหรัตนนครและอีก 5 พื้นที่อุตสาหกรรมที่เหลือ เพราะกังวลว่าอาจกระทบต่อการผลิตของ นักลงทุนญี่ปุ่นที่มีสัดส่วนมากที่สุดใน 6 พื้นที่อุตสาหกรรม

กระทรวงอุตสาหกรรมจึงยืนยันว่าจากความพร้อมของเขื่อนรอบ 5 พื้นที่อุตสาหกรรมที่เสร็จแล้ว 100% และความพร้อมของนิคมฯ สหรัตนนครล่าสุดสามารถรับมือน้ำได้แน่นอน

นี่คือความคืบหน้าในการเตรียมรับมือของนิคมฯต่างๆ ที่เชื่อมั่นว่า ปีนี้รับมือได้ไม่น่าห่วงหลังมีบทเรียนจากเหตุการณ์ปี 2554 มาแล้ว

Create Date : 29 กันยายน 2556

Last Update : 29 กันยายน 2556 4:45:12 น.

0 comments

Counter : 885 Pageviews.