บพ.เชิญผู้ประกอบการสายการบินที่ให้บริการแบบเช่าเหมาลำรวม 6 รายถก พร้อมวางมาตรการกำกับดูแล ป้องซ้ำรอยพีซีแอร์ ขณะที่พีซีแอร์เดินหน้าให้บริการต่อ เพื่อให้มีสภาพคล่องและมีเงินชำระหนี้ ...
นายวรเดช หาญประเสิรฐ อธิบดีกรมการบินพลเรือน (บพ.) เปิดเผยว่า ในวันนี้ ได้เชิญผู้ประกอบการสายการบินที่ให้บริการแบบเช่าเหมาลำรวม 6 รายมาหารือเพื่อชี้แจงนโยบายการกำกับดูแลที่จะมีการเข้มงวดมากยิ่งขึ้น เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาเหมือนกรณีของสายการบินพีซีแอร์อีก ในเบื้องต้นเตรียมเพิ่มมาตรการกำหนดให้ต้องจัดส่งผลการดำเนินงานแจ้งมายัง บพ.ทุกๆ 3 หรือ 6 เดือน ทำให้ บพ.ได้ทราบข้อมูลเกี่ยวกับฐานะทางการเงินของแต่ละบริษัทอย่างใกล้ชิด และช่วยเฝ้าระวังไม่ให้เกิดปัญหาหนี้สินจนกระทบต่อการให้บริการการบินเหมือน เช่นกรณีของพีซีแอร์อีก
ต่อจากนี้เราจะดูแลเข้มงวดมากขึ้น แต่ละบริษัทต้องส่งตัวเลข เช่น ยอดรายได้ รายจ่าย กำไร ขาดทุน และภาระหนี้ ให้ บพ.พิจารณาตามระยะเวลาที่กำหนด หากบริษัทเริ่มมีปัญหาเรื่องการเงินจะได้ช่วยหาทางแก้ไข และป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาหยุดบินได้ทัน เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อผู้โดยสารที่ใช้บริการ นายวรเดชกล่าว
อธิบดี บพ.กล่ววว่า จะมีการแจ้งให้ทั้ง 6 สายการบินได้ทราบว่า บพ. เตรียมออกประกาศคุ้มครองสิทธิผู้โดยสารที่ใช้บริการสายการบินของไทยในเส้นทางไม่ประจำภายในประเทศและต่างประเทศด้วย เพื่อบังคับใช้กับสายการบินแบบเช่าเหมาลำ ในขณะเดียวกันจะได้รับทราบสถานะของแต่ละบริษัทและรับฟังปัญหา อุปสรรคของการดำเนินงานแต่ละรายว่า ต้องการให้ บพ. เข้าไปช่วยเหลือด้วย
ส่วนความคืบหน้าในการแก้ไขปัญหาการหยุดทำการบินของสายการบินพีซีแอร์ นายวรเดช กล่าวว่า จากการหารือร่วมกัน 3 ฝ่าย คือ พีซีแอร์ บริษัทสกายเจ็ท ซึ่งเป็นผู้ให้บริการภาคพื้นที่ประเทศเกาหลี และบริษัทแจชิน ซึ่งเป็นผู้ให้บริการเติมน้ำมันเครื่องบิน ผลสรุปว่า ทั้ง 3 ฝ่ายมีความเห็นที่สอดคล้องกันว่า ต้องการให้พีซีแอร์ดำเนินธุรกิจการบินต่อไป เพื่อให้มีสภาพคล่องและมีเงินมาชำระหนี้ได้ และได้ให้ทั้ง 3 ฝ่ายได้ทำหนังสือเพื่อยืนยันการทำธุรกิจร่วมกันเป็นลายลักษณ์อักษรส่งมายัง บพ. เพื่อใช้เป็นหลักฐานหากในอนาคตว่า หากฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งไม่ปฏิบัติตามคำยืนยันก็อาจมีความผิดและต้องเป็นผู้รับผิดชอบต่อปัญหาที่เกิดขึ้น
ผลการหารือเป็นไปด้วยดี โดยเฉพาะการแก้ไขปัญหาหนี้ของพีซีแอร์ พบว่า พีซีมีหนี้ค้างชำระเพียงรายการเดียวคือค่าน้ำมันรวมประมาณ 3 แสนเหรียญสหรัฐหรือประมาณ 10 ล้านบาท ส่วนบริษัทแจชินผู้จำหน่ายน้ำมันก็ยินยอมให้พีซีแอร์ทยอยผ่อนชำระหนี้ค่าน้ำ มันเป็นงวดๆ ละประมาณ 6 หมื่นเหรียสหรัฐ หากพีซีแอร์กลับมาทำการบินอีกครั้ง คาดว่าภายใน 1 เดือนจะชำระหนี้ที่ค้างได้ทั้งหมด นายวรเดชกล่าว
อธิบดี บพ. กล่าวต่อว่า การพิจารณาเพิกถอนใบอนุญาตประกอบกิจการการบินของพีซีแอร์จะต้องใช้ระยะเวลา ในการรวบรวมข้อเท็จจริงก่อน ส่วนการเพิกถอนใบอนุญาตทำการบินแบบเช่าเหมาลำของพีซีแอร์ที่จะหมดอายุในวัน ที่ 31 ต.ค.2555นั้น ขณะนี้ยังไม่ได้พิจารณา เนื่องจากพีซีแอร์ยังไม่ได้ยื่นขอต่ออายุใบอนุญาต หากมีการยื่นขอต่ออายุจะพิจารณารายละเอียดเกี่ยวกับแนวทางการแก้ไขปัญหาว่า จะสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ผู้โดยสารได้หรือไม่.