พระเครื่อง : แหล่งข้อมูลบทความพระเครื่อง เครื่องรางของขลัง และวัตถุมงคล
Group Blog
 
<<
พฤศจิกายน 2555
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
252627282930 
 
20 พฤศจิกายน 2555
 
All Blogs
 
เศรษฐกิจไทยยังหืดจับ! สศช.ชี้ต้องเข็นจีดีพีไตรมาส4ให้โตทะลุ 10%

เศรษฐกิจไทยยังหืดจับ! สศช.ชี้ต้องเข็นจีดีพีไตรมาส4ให้โตทะลุ 10%

สศช.ลุ้นจีดีพีไตรมาส 4 ต้องโตทะลุเกิน 10% จึงจะหนุนส่งเศรษฐกิจทั้งปีนี้ให้โตได้ 5.5% หลัง 9 เดือนแรกขยายตัวเพียง 2.6% ขณะที่หั่นคาดการณ์ส่งออกลงอีกรอบ เหลือโต 5.5% จาก 15.1% เมื่อต้นปี ชี้มูลค่าส่งออกข้าวเทียบปีที่แล้วติดลบ 38% แต่มีผลต่อภาพรวมการส่งออกเพียง 0.4% ขณะที่คาดปีหน้าโต 4.5–5–5%

นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) แถลงภาวะเศรษฐกิจไตรมาส 3 ว่าจีดีพีขยายตัว 3.0% ส่งผลให้ 9 เดือนแรกปีนี้จีดีพีขยายตัว 2.6% ปัจจัยที่ทำให้ไตรมาส 3 ขยายตัวมาจากการบริโภคและการลงทุนภายในประเทศเป็นหลัก ซึ่งการบริโภคขยายตัว 6.5% เป็นการบริโภคภาคเอกชนโต 6.0% ตามการปรับตัวดีขึ้นของรายได้ครัวเรือน และมาตรการคืนเงินภาษีให้ผู้ซื้อรถยนต์คันแรก ส่วนการใช้จ่ายภาครัฐขยายตัว 9.0% จากความสามารถเบิกจ่ายงบประมาณเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจดีขึ้น ขณะที่การลงทุนขยายตัว 15.5% เป็นการโตของการลงทุนภาคเอกชน 16.2% และการลงทุนภาครัฐขยายตัว 13.2% แต่เศรษฐกิจไตรมาส 3 จะขยายตัวได้มากกว่านี้ ถ้าส่งออกไม่ติดลบ โดยมูลค่าส่งออกไตรมาส 3 ในรูปดอลลาร์สหรัฐฯ หดตัว 3.0% มีมูลค่า 59,280 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ขณะที่ด้านปริมาณหดตัว 6.2% เนื่องจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก ส่วนการฟื้นตัวภาคอุตสาหกรรมหลังน้ำท่วมยังล่าช้า ส่งผลให้มูลค่าส่งออกสินค้าอุตสาหกรรมหดตัว 4.8% มูลค่าส่งออกสินค้าเกษตรหดตัว 25.4% โดย 9เดือนแรกปีนี้มูลค่าส่งออกสินค้าในรูปดอลลาร์สหรัฐฯหดตัว 0.9%

สำหรับเศรษฐกิจทั้งปี 55 สศช.ได้ปรับลดคาดการณ์การขยายตัวจีดีพีลง จากเดิมเมื่อ 20 ส.ค.55 คาดว่าจีดีพีจะขยายตัว 5.5-6.0% ปรับลงเหลือขยายตัว 5.5% จาก 9 เดือนแรกจีดีพีขยายตัวได้ 2.6% ดังนั้นหากจะให้จีดีพีทั้งปี 55 ขยายตัวได้ 5.5% ตามที่คาดไว้ ไตรมาส 4 ปีนี้ต้องขยายตัวเกิน 10% ขึ้นไป จากฐานไตรมาส 4 ปี 54 ที่จีดีพีหดตัว 8.9% โดยได้ปรับลดมูลค่าส่งออกทั้งปี 55 ลงเหลือ 5.5% จากเดิมที่คาดการณ์ว่าส่งออกจะขยายตัว 15.1%

ส่วนแนวโน้มเศรษฐกิจปี 56 คาดว่าจะขยายตัว 4.5-5.5% ส่วนการส่งออกคาดว่าจะขยายตัว 12.2% เงินเฟ้ออยู่ที่ 2.5-3.5% มีปัจจัยหนุนสำคัญคือการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก ที่จะเริ่มส่งสัญญาณชัดเจนในไตรมาสแรกปี 56 การฟื้นตัวของการค้าสินค้าคอมพิวเตอร์และอิเล็กทรอนิกส์ ขณะที่อุปสงค์ในประเทศมีแนวโน้มขยายตัวดี จากการปรับขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำทั่วประเทศ การปรับขึ้นของราคาสินค้าเกษตรในตลาดโลก และแรงขับเคลื่อนจากมาตรการคืนภาษีรถยนต์ที่จะส่งผลถึงปี 56 นอกจากนี้การเบิกจ่ายงบประมาณภาครัฐยังเป็นปัจจัยสนับสนุนสำคัญต่อการขยายตัวเศรษฐกิจปีหน้า ประกอบด้วยงบรายจ่ายปี 56 วงเงิน 2.4 ล้านล้านบาท งบเหลื่อมปี 225,000 ล้านบาท วงเงินลงทุนของรัฐวิสาหกิจ 557,000 ล้านบาท งบฯ เพื่อการวางระบบบริหารจัดการน้ำและสร้างอนาคตประเทศ  350,000 ล้านบาท และงบฯ ภายใต้แผนการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานด้านการขนส่งของประเทศมูลค่า 2 ล้านล้านบาท ส่วนแรงกดดันอัตราเงินเฟ้อยังอยู่ในเกณฑ์ต่ำ ตามราคาน้ำมันที่เพิ่มขึ้นช้าๆ และค่าเงินบาทที่มีแนวโน้มแข็งค่าขึ้นจากปี 55

เลขาธิการ สศช.กล่าวว่า ปัจจัยเสี่ยงเศรษฐกิจไทยปีหน้า คือ อุตสาหกรรมที่ใช้แรงงานสูงมีข้อจำกัดในการขยายตัว เนื่องจากต้นทุนค่าแรงที่สูงขึ้น และการแข็งค่าของเงินบาท ขณะที่สภาพคล่องส่วนเกินในระบบเศรษฐกิจและการเงินโลกเป็นความเสี่ยงที่อาจทำให้เงินบาทแข็งตัวได้เร็วกว่าที่ประมาณการและเพิ่มความเสี่ยงต่อการผันผวนในระบบเศรษฐกิจและการเงินโดยเฉพาะครึ่งปีหลัง ด้านราคาน้ำมันมีความเสี่ยงที่จะเพิ่มขึ้นเร็วกว่าคาดจากการเก็งกำไร “การบริหารจัดการเศรษฐกิจช่วงที่เหลือของปี 55 และ 56 ของไทย ควรให้ความสำคัญในการเร่งรัดการส่งออก เร่งรัดการเบิกจ่ายงบประมาณ และดำเนินการตามโครงการลงทุนสำคัญ โดยเฉพาะโครงการลงทุนภายใต้แผนบริหารจัดการน้ำ แผนลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน รวมทั้งเร่งรัดการพัฒนาพื้นที่เศรษฐกิจใหม่ นอกจากนี้ต้องติดตามและเตรียมการเพื่อรองรับแนวโน้มการแข็งค่าของเงินบาท โดยเฉพาะการดำเนินนโยบายการเงินที่น่าจะสอดคล้องกับเงื่อนไขทางเศรษฐกิจ  รวมถึงการปรับโครงสร้างราคาพลังงานตามแผนที่กำหนดไว้ เพื่อให้สอดคล้องกับต้นทุนที่แท้จริงและการเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงาน และการปรับกฎระเบียบด้านการค้าการลงทุน เพื่อให้ได้ประโยชน์จากการเปิดเสรีการค้า การเคลื่อนย้ายเงินทุนและแรงงาน ภายใต้กรอบการจัดตั้งประชาคมอาเซียนในปี 58 อย่างเต็มที่”

นายประสาร ไตรรัตน์วรกุล ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยกรณีที่ สศช. เสนอให้ ธปท.ใช้นโยบายการเงินผ่อนคลายต่อเพื่อสนับสนุนการลงทุน เพราะมองว่าปีนี้เศรษฐกิจไทยจะโต 5.5% มาจากฐานปีก่อนต่ำว่า ขณะนี้อัตราดอกเบี้ยนโยบายอยู่ในระดับที่สนับสนุนการลงทุนอยู่แล้ว ส่วนการลงทุนภายใต้แผนบริหารจัดการน้ำและการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน เป็นเรื่องของความพร้อมของโครงการมากกว่า ไม่มีใครบ่นเรื่องเงินหรืออัตราดอกเบี้ยแพง “สภาพัฒน์ฯ คาดว่าปีนี้เศรษฐกิจขยายตัว 5.5% ขณะที่ ธปท.คาดการณ์ไว้ที่ระดับ 5.7% ถือว่าอยู่ในระดับใกล้เคียงกันและมองว่าอัตราดอกเบี้ยนโยบายในระดับปัจจุบันค่อนข้างสนับสนุนการลงทุนพอสมควร ซึ่งปัจจุบันอัตราดอกเบี้ยนโยบายอยู่ที่ 2.75%”.




Create Date : 20 พฤศจิกายน 2555
Last Update : 20 พฤศจิกายน 2555 9:24:05 น. 0 comments
Counter : 1126 Pageviews.

amulet108
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 96 คน [?]








Friends' blogs
[Add amulet108's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.