ชาวนาจ่อยื่นหนังสือร้องนายกฯ ทบทวนจำนำข้าวใหม่ รับไม่ได้จำนำข้าว เหลือแค่ 12,000-13,500 บาท/ตัน ขู่หากรัฐบาลยังเฉยชาวนาพร้อมรวมตัวออกมาเรียกร้องสิทธิ์
เมื่อวันที่ 20 มิ.ย. นายชัย วัชรงค์ ผู้เชี่ยวชาญด้านเศรษฐศาสตร์การเกษตร และที่ปรึกษาสมาคมชาวนา และเกษตรกรไทย กล่าวในเวทีเสวนาสื่อมวลชน 'จับเข่าคุย ทุกมิติจำนำข้าว ตอบโจทยที่อยากรู้' ว่า เป้าหมายของการรับจำนำข้าวเรียงตามลำดับความสำคัญ คือ 1. ต้องการยกระดับรายได้ชาวนา 2. ความคุ้มค่าทางเศรษฐกิจ 3. วงเงินค่าใช้จ่ายทั้งหมด (กรอบวินัยการเงิน การคลัง) 4. ความโปร่งใสในการบริหารจัดการโครงการ และ 5. รัฐต้องเอาจริงเอาจังในการป้องกันการรั่วไหลของโครงการ แต่พอรัฐถูกกระแสโจมตีว่าโครงการนี้ขาดทุนกว่า 2 แสนล้าน อีกทั้งมีกระแสว่าชาวนาได้รับเงินเพียงครึ่งเดียวของงบลงทุน จนเป็นเหตุให้รัฐบาลพิจารณานโยบายรับจำนำข้าวใหม่ด้วยการลดการรับจำนำจาก 15,000 บาท/ตัน ลงเหลือ 12,000-13,500 บาท/ตัน ซึ่งรัฐบาลตอนนี้กำลังตกหลุมพรางของพวกที่บิดเบือนข้อเท็จจริง ฉะนั้นสิ่งที่อยากเสนอคือ รัฐไม่ควรจะลดกรอบการรับจำนำข้าว แต่ควรจะลดปริมาณข้าวลง 30% จากปริมาณที่รับจำนำเดิม
ด้านนายวิเชียร พวงลำเจียก นายกสมาคมชาวนา และเกษตรกรไทย กล่าวว่า ตนอยากให้ภาครัฐกลับไปทบทวนนโยบายการรับจำนำข้าวเสียใหม่ โดยครั้งแรกบอกว่าจะลดการรับจำนำข้าวจาก 15,000 เหลือ 13500 - 12,000 ส่งผลให้ชาวนาเกิดความวิตกกังวล พร้อมเกิดคำถามว่า ไหนรัฐบาลบอกว่าต้องการยกระดับชาวนาจึงเปิดโครงการรับจำนำข้าวขึ้น และชาวนาก็พึงพอใจมาก ที่ผ่านมาโครงการกำหนดว่า ข้าวที่ร่วมโครงการต้องมีความชื้น 15% จึงจะได้ราคา 15,000 ทว่าในความเป็นจริงชาวนาจะผลิตข้าวความชื้นเฉลี่ยที่ประมาณ 30% ดังนั้น เงินรับจำนำจึงจะได้ 12,000 เท่านั้น ขณะที่การได้รับเงินจำนำข้าวยืนยันว่าชาวนาได้รับ 100% โดยรัฐโอนผ่านบัญชี ธกส. ซึ่งที่มีกระแสว่าเงินไม่ถึงมือชาวนานั้น ขอยืนยันว่าไม่เป็นความจริง
ปัจจุบันต้นทุนการเพาะปลูกข้าวอยู่ที่ประมาณ 9,000 - 10,000 บาท/ตัน เพราะในความเป็นจริงชาวนายังมีต้นทุนผันแปรรวมอยู่ด้วย เช่น ต้นทุนเรื่องน้ำ และราคาของยาฆ่าแมลง เป็นต้น
นายวิเชียร กล่าวอีกว่า "อยากให้รัฐบาลกลับไปทบทวนโครงการรับจำนำนี้ให้มีต่อไป อย่างน้อยก็ให้จบโครงการหรือจบฤดูกาลข้าวนาปรัง ที่จะเก็บเกี่ยวภายในเดือนกันยายนที่จะถึงนี้ เมื่อจู่ๆ กขช. ก็มาเปลี่ยนแปลงนโยบายแบบกะทันหันทำให้ชาวนารู้สึกไม่พอใจมาก อีกทั้งยังรู้สึกว่าชาวนาไม่ได้รับความเป็นธรรม จึงต้องการที่จะให้ภาครัฐกลับไปทบทวนโครงการใหม่ หรือหากจะมีการเปลี่ยนแปลงก็ควรจะให้จบโครงการนี้เสียก่อน ส่วนในอนาคตจะเป็นอย่างไรค่อยมาคุยกันอีกที"
อย่างไรก็ตาม ณ เวลานี้ชาวนาทั่วประเทศกำลังมีการเรียกรวมตัวเพื่อพูดคุยเจรจาหาข้อสรุป ก่อนจะยื่นหนังสือให้นายกรัฐมนตรีพิจารณาภายในสัปดาห์นี้ และหากว่าทางรัฐบาลยังไม่มีปฏิกิริยาใดๆ ชาวนาทั่วประเทศก็จะรวมตัวกันออกมาเรียกร้องตามสิทธิรัฐธรรมนูญอย่างแน่นอน