รฟท.เล็งเพิ่มความถี่การเดินรถ 15 นาทีต่อขบวน
นายประจักษ์ มโนธัม รองผู้ว่าการหน่วยธุรกิจการเดินรถ การรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้จัดทำแผนการเดินรถไฟใหม่ทั้งหมด เพื่อเตรียมรองรับรถไฟรางคู่ที่จะเริ่มก่อสร้างทันทีหลังจาก พ.ร.บ.โครงสร้างพื้นฐาน 2 ล้านล้าน
บาท ผ่านการพิจารณาของรัฐสภา ซึ่งการจัดทำแผนดังกล่าวเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการของรถไฟให้ดีและคุ้มค่ากับการลงทุนมากยิ่งขึ้น หากการก่อสร้างรถไฟรางคู่แล้วเสร็จตามแผนการ รถไฟจะวิ่งได้เร็วและสามารถให้บริการได้อย่างมีศักยภาพมากขึ้น
รถไฟรางคู่ก่อสร้างเสร็จตามแผน จะส่งผลให้ขบวนรถไฟสามารถวิ่งรับส่งผู้โดยสารในทุกเส้นทางได้เพิ่มขึ้น และจะช่วยให้ ร.ฟ.ท.มีรายได้เพิ่มสูงขึ้นด้วย เช่น บริการรถไฟในเส้นทางกรุงเทพฯ-เชียงใหม่ ปัจจุบันใช้เวลาเดินทาง 15-17 ชั่วโมง (รถด่วนพิเศษ) แต่เมื่อมีรถไฟรางคู่จะลดเหลือ 9-10 ชั่วโมง ดังนั้นขบวนรถไฟที่ให้บริการเส้นทางนี้จากเดิมได้ขบวนละเที่ยวต่อวัน ต่อไปอาจให้บริการไปกลับได้ เป็นต้น และคาดว่าจะมีรายได้เพิ่มขึ้นอีกเท่าตัว
นายประจักษ์กล่าวว่า สำหรับความถี่แต่ละขบวนนั้นจะเร็วขึ้นทุกเส้นทาง โดยจะกำหนดให้ครึ่งชั่วโมงมีรถไฟให้บริการ 1 ขบวน จะไม่เกิดปัญหารอสับรางเหมือนปัจจุบันอีก หากในอนาคตมีผู้โดยสารใช้บริการมากขึ้น ก็จะพิจารณาให้มีขบวนรถบริการทุก 15 นาที หรือเร็วกว่านี้ก็ได้ ขึ้นอยู่กับจำนวนผู้โดยสาร อย่างไร ก็ตามในส่วนของขบวนรถไฟที่จะนำมาให้บริการจะไม่มีปัญหาขาดแคลนหากโครงการรถไฟรางคู่สามารถดำเนินการได้ เนื่องจาก ร.ฟ.ท.มีแผนการจัดซื้อรถจักรใหม่เพื่อนำมาให้บริการอยู่แล้ว เช่น รถจักรดีเซล จำนวน 20 คัน ที่ได้ลงนามสั่งซื้อไปแล้ว จะรับมอบได้ในอีก 15 เดือน โดยจะนำมาให้บริการขนส่งสินค้า ขณะเดียวกันยังอยู่ระหว่างจะจัดซื้ออีก 50 คัน เพื่อนำมาให้บริการผู้โดยสาร และยังมีแผนจัดซื้อเพิ่มเติมอีกเพื่อให้เพียงพอกับความต้องการของผู้โดยสารในอนาคต
รถไฟคันหนึ่งมีมูลค่าหลัก 100 ล้านบาท เมื่อซื้อมาแล้วก็ต้องใช้ให้คุ้มค่าและสอดคล้องกับการให้บริการอย่างแท้จริง เพื่อไม่ให้เสียโอกาสในการให้บริการผู้โดยสารและเพิ่มรายได้.