ผู้สื่อข่าวรายงานจากธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ว่า แนวโน้มเงินเฟ้อฉบับล่าสุดเดือน ก.ค.55 ได้ประเมินภาคครัวเรือน พบว่า แม้เสถียรภาพภาคครัวเรือนในภาพรวมยังอยู่ในเกณฑ์ที่ดีในขณะนี้ แต่ภาคครัวเรือนก็มีความเสี่ยงที่ต้องเผชิญอยู่ ซึ่งสะท้อนได้จากภาระหนี้สินมีแนวโน้มสูงขึ้นต่อเนื่อง ประกอบกับความมั่นคงทางด้านรายได้ของครัวเรือนที่เป็นผลต่อเนื่องมาจากวิกฤติเศรษฐกิจโลก อาจส่งผลให้ความสามารถในการชำระหนี้ของครัวเรือนลดลง โดยเฉพาะครัวเรือนที่ประกอบอาชีพเกษตรกรรม จะมีภาระในการชำระหนี้สูงกว่ากลุ่มอาชีพอื่นๆ โดยภาคครัวเรือนที่ประกอบอาชีพเกษตรกรรม มีภาระหนี้สูงกว่ากลุ่มอื่นมีสัดส่วนรายจ่ายชำระหนี้ต่อรายได้เฉลี่ยต่อเดือน 0.35 เท่า
ทางด้านนายชลิตรัตน์ จันทรุเบกษา รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ครม.เห็นชอบการปรับปรุงหลักเกณฑ์มาตรการสินเชื่อเพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (เอสเอ็มอี) ที่ประสบปัญหาอุทกภัย โดยในหลักเกณฑ์ ใหม่นี้ วงเงินค้ำประกันสูงสุด 30 ล้านบาทต่อรายต่อสถาบันการเงิน ขณะที่ในหลักเกณฑ์เดิม มีวงเงินค้ำประกันไม่เกิน 10 ล้านบาทต่อรายต่อสถาบันการเงิน แต่หากสินเชื่อเป็นเงินทุนหมุนเวียนเพียงอย่างเดียว บสย.จะค้ำประกันในวงเงินสูงสุดไม่เกิน 5 ล้านบาทต่อรายต่อสถาบันการเงิน ขณะเดียวกันในหลักเกณฑ์ใหม่ได้กำหนดระยะเวลาการรับคำขอ ภายใน 31 ธ.ค.2556 หรือเต็มวงเงินค้ำประกันรวมของโครงการ.