Group Blog
All Blog
--- ว่ า ด้ ว ย เ รื่ อ ง s u b / s u b / s u b กั บ นั ก วิ่ ง ---




























มีคำถามว่า

ใครทราบเรื่องการเรียก sub ในแต่ละระยะกับช่วงเวลาบ้างว่า
ปกติใช้หลักเกณฑ์อะไรในการแบ่ง sub ครับ

ยกตัวอย่าง ผมจบฟูลที่เวลา 5.22
เรียกว่า sub เท่าไรครับ 5 หรือ 6




::



ตอนนี้มาฟังคำตอบจากเพื่อน ๆ ในเพจนี้กันนะคะ

1. ต่ำกว่า 6 ชั่วโมงเรียก sub 6 ครับ
2. ปัดเศษขึ้นนะ เข้าใจมั้ย
3. อาจใช้คำว่า sub 5.30 ก็ได้ครับ
4. ถ้า sub จาง แสดงว่าไม่มีเงินค่าสมัครครับ แฮ่ ๆ
5. ถ้าแบบนี้ไม่รู้จะลงงานไหนดีต้องเรียกว่า subสน เปล่าครับ 555
6. sub5.23
7. sub คือน้อยกว่า เช่น subจาง
8. วิ่งนาน ๆ subเหงื่อบ้างนะครับ หยอก ๆ
9. ผมไม่มีsubครับ เมียยึด!
10. แต่ถ้าเล่นบอลจะเรียกว่า subขาหลอกนะครับ
11. ถ้าหิวให้นึกถึงกะเพราหมูsubครับ
12.ผลไม้รสเปรี้ยวมีตาเยอะ ๆ เรียกว่า subปะรด
13.ถ้าเจ้าชู้ระวังจะsubรางไม่ทันนะครับ

ยัง ๆ ไม่หยุดกัน

ใครเปิด

แต่ละเม้น อย่างฮา

14.ถ้าดูหนังฝรั่งไม่รู้เรื่องให้อ่าน sub ไทยนะครับ
15.อย่าไปเชื่อคับ พวกนี้เป็นพวก subเพเหระ
16. ผมจบฟูล 8.00 ชม. ผมsubน้ำตาครับ เกือบไม่จบ
17.สรุปงานบุรีรัมย์ไม่ได้วิ่งเพราะsubมัครไม่ทัน
18. ถ้าหนุ่ม ๆ วิ่งไปแล้วจ๊อกดูหญิงเรียกว่า subปะดน ได้รึเปล่าคะ..
ไม่มีเจตนากล่าวล่วงถึงหัวหน้าเผ่าของเรานะคะ

มาเหนือเมฆเลย 5555

เม้นนี้เล่นได้ เล่นใหญ่เลยนะ

19.ผมก็งงกะคำนี้มานาน วันนี้ก็คงsubสนต่อไป
20.ถ้าตามที่ผมเข้าใจ มันน่าจะมีการแบ่งครึ่งของชั่วโมงนะครับเช่น
4.59.59 เรียก sub 5 , ถ้า 5.29.59 เรียก sub5.30,
แต่ถ้าเกิน 5.3 ขึ้นไปเรียก sub6

มีสาระ

แต่ละเม้นท์ไม่ได้ช่วยเจ้าของโพสต์เล้ยยย... subสนกันต่อไป

มีแต่คนsubขาหลอกเจ้าของโพสต์

สรุป เจ้าของโพสต์ได้คำตอบหรือยังคะ

21. ถ้าเป็นนักวิ่งสายแร๊ป เวลาเจอกันจะทักทายว่า ว็อตsub....
22.เจ้าของโพสต์มาทางนี้ครับ ผมช่วยsubน้ำตาให้
23.sub แปลว่าด้านล่างหรือต่ำกว่าครับ
ดังนั้น sub4 คือต้องต่ำกว่า 4 ชั่วโมง


คนดีสุดแล้วในเม้นท์นี้


5555


24.อยากฝึกภาษาอังกฤษให้ดูsub eng ค่ะ
25.คำว่า sub คำเดียวแท้ ๆ ยอมใจสมาชิกกลุ่มนี้จริง ๆ
26.subน้ำตาเถอะนะคนดี หลับลงตรงนี้...
27.นั่นมันพักสายตาครับ!!
28.อย่าลืมกดไลค์กดแชร์กดsubตะไคร้ด้วยนะ (เล่นด้วยคน)
29.เสื้อมันบางเลยต้องมีsubใน
30.กลุ่มนี้มีsubเพเหระ
31.ค่อย ๆ บอกพี่เขาให้เข้าใจด้วยนะครับ
เมื่อวานผมก็subเป็ดกับไก่ครับ ไหว้เจ้า
32.เมียไม่อนุญาตให้ไปวิ่ง แล้วแอบไปวิ่ง
จะได้เจอกับsubปะเหร่อ
33.โพสต์นี้ต้องsubตะไคร้แล้วครับ 555


อ่านคอมเม้นท์แล้วชัก subสนค่ะ

34. ถ้าวิ่งมาราธอนจบก่อน 2 ชั่วโมง
เขาเรียก subperman

35.ไปเที่ยวกันมั้ย จะไปให้รีบไป
ไปกับพี่แล้วสบาย
เดี๋ยวพี่พาไปกิน sub sub sub

นั่นมัน ตับ ตับ ตับ คร่า


36.ถ้าซ้อมไม่ถึงเรียกsubน้ำตาครับ
37.เข้าเส้นชัยครบ 4 คน ขอนุญาตไปsubไพ่ต่อครับ



โอ๊ยยย เริ่มสับสนแล้วว่า
กลุ่มนี้นักวิ่งหรือคณะตลกกันคะ



38.ไข่เจียวหมูsubครับ อร่อย
39.อ่านไปก็subน้ำหมากไป
40.subปะเหร่อเจอแน่ถ้าวิ่งเร็วเกินไป
41.สาระมีอยู่ คอมเม้นท์ได้ความรู้
แบบนี้ต้องsubพอร์ตครับ




พยายามรูดหาสาระตั้งแต่เม้นแรก ปรากฏว่า ไม่มี
55555555555555555555555555555555

42.what's sub man


สรุปเขาโพสต์เอาฮาใช่มั้ย หนูกำลังจะเม้นสาระ ไม่กล้าเลย 55

นี่ก็subสนอยู่เหมือนกันจ้า เขาคงได้คำตอบแล้วล่ะ
เอาฮาต่อเนื่อง


43.ลงรายการวิ่งมาก ๆ จะเจอปัญหาsubจาง
ต่อมาก็ต้องพึ่งมาม่าหมูsub
ยิ่งอ่านแต่ละเม้นท์ก็ยิ่งsubสน


44.อุตส่าห์เลื่อนอ่านตั้งนาน ก็ไม่ได้อะไร
ได้แต่subน้ำหูน้ำตาและsubน้ำลาย

45.ยิ่งอ่านยิ่งซึมsubเรื่องราวดี ๆ
46.subขายาว ๆ หรือsubขาถี่ ๆ ครับ
ถึงจะได้เวลาsubดี ๆ
47.subกันจนเละ

48.subเพสัพตา อะเวราโหนตุ
สัตว์ทั้งหลายที่เป็นเพื่อนทุกข์ เกิดแก่เจ็บตาย
ด้วยกันทั้งหมดทั้งสิ้น จงเป็นสุขเป็นสุขเถิด
อย่าได้มีเวรแก่กันและกันเลย



สาธุ


49.วิ่งหนีด้วยความเร็ว pace พร้อมsubราง

มีใครให้มากกว่า subเพมั้ย จะปิดประมูลร่วมแล้วคร้าบบบ ง่วงงง


50. ไม่ยอมนอนกัน เดี๋ยวพรุ่งนี้ไปนั่งsubปะหงกในที่ทำงานกันนะครับ


เจ้าของโพสต์ได้คำตอบมั้ยยยย








ขอนุญาตเจ้าของกระทูนี้จากเพจวิ่งของพี่ป๊อก อิทธิพล สมุทรทองนะคะ
เราเองก็เป็นสมาชิกที่นี่มาเนิ่นนาน ได้รับแรงบันดาลใจจากเพื่อน ๆ ในเพจนี้
จนมีแรงบันดาลใจอยากจะไปฟูลมาราธอนกับเขาบ้าง

อ่านโพสต์นี้ มุกกระจาย ขำแต่ละเม้นท์ นอนดึกเพราะมัวแต่ขำนี่แหละ


ขอบคุณเพื่อน ๆ ที่เข้ามาอ่านกันนะคะ
ไม่ทราบได้คำตอบแล้วหรือยัง



ภูพเยีย

















Create Date : 06 กุมภาพันธ์ 2562
Last Update : 6 กุมภาพันธ์ 2562 9:40:18 น.
Counter : 555 Pageviews.

0 comment
--- เ ส า ร์ อ า ทิ ต ย์ ชี วิ ต แ ล ะ ค ว า ม รั ก ---






















เสาร์อาทิตย์นี้ตั้งใจจะไปหาลูก เขาอยากกินเป็ดเอ็มเคสุกี้ ลูกนัดมีหรือจะไม่อยากไป ปกติจะสอบและไปคณะ กิจกรรมเยอะ เวลาไม่ค่อยตรงกัน เราทำได้อย่างเดียวคือทำตัวให้ว่าง

อีกอย่างหนึ่งคือ ปิ่นกลับบ้านตรุษจีนแบบนี้ทุกปี เราจะเอาส้มไปให้และจะกินข้าวกับเพื่อนด้วย

เย็นวันศุกร์ เราเดินทางเข้าเชียงใหม่ แวะกินโจ้กสมเพ็ชรและกินชานมร้อนก่อนไปหาลูกที่หอ เขากำลังอ่านหนังสือกัน พ่อแม่ก็ช่วยกันเก็บห้องให้พวกเขา บ้านเราไม่ค่อยคุยกันมากมาย เจอกันแล้วก็อุ่นใจ ความสุขของคนบ้านนี้เป็นแบบนี้แหละ

เก็บกวาดห้องเสร็จ อาบน้ำเพื่อมาดูหน้ากากแก้วย้อนหลัง เพราะระหว่างเดินทางฉันคุยเรื่องอื่น ๆ เป็นเพื่อนเดินทางของสามี ช่วงนี้ปวดก้น กล้ามเนื้อคงล้าจากการวิ่งยาวและเป็นเวลานาน รู้สึกกังวลเล็ก ๆ ว่าจะวิ่งไม่ได้ พักไม่ทันวันลงสนามแข่ง ไม่อยากใช้ยาแก้ปวดหรือคลายกล้ามเนื้อใด ๆ นอกจากดูคลิปยืดเหยียดอาการปวดก้นของครูสุข น่าจะช่วยได้เยอะ หวังใจไว้อย่างนั้น

เราตกลงกันว่า จะออกไปจ็อกกิ้งเช้าวันเสาร์


ปรากฏว่า เช้าวันเสาร์ตื่นสาย ลูกสาวเตรียมตัวไปฟิตเนสกันแล้ว เราเองก็ยืนยันจะไปจ๊อกกิ้งที่ห้วยตึงเฒ่าเหมือนเดิม

อากาศยามเช้ายังสดชื่นอยู่แต่สาย ๆ คงร้อนเหมือนกันทุกที่ ดีแต่ว่าไม่มีควันและฝุ่นจิ๋วเหมือนคนเมืองหลวง เห็นใจพวกเขามาก ๆ เรานึกภาพความอึดอัดเหล่านั้นได้เพราะเราเองประสบปัญหาแบบนี้ทุกฤดูร้อน มีการเผาป่าและควันไฟจากเพื่อนบ้าน ฟ้าไม่เป็นสีฟ้าเป็นเดือน อึมครึม อึดอัด เคยถูกขึ้นบัญชีเป็นเขตภัยพิบัติมาแล้วในบางปี ไม่รู้ว่าอันตรายต่อร่างกายถึงระดับไหน คงเป็นระดับสะสมที่ไม่ออกอาการว่างั้นเถอะ ยังไงก็ขอให้ควันและฝุ่นจิ๋วในกรุงเทพฯผ่านไปเร็ว ๆ เสียสุขภาพทั้งกายและจิตใจ จะป่วยกันหมดแล้ว


เราสองคนเริ่มออกเดิน สวนทางกับนักวิ่งตื่นเช้า หลายคนคงจบการซ้อมยาวสำหรับเช้านี้ไปแล้ว เราก็อยากลุกนะ แต่ว่าออกจากไชยปราการดึก นอนดึก ข้ออ้างของคนตื่นสายและเตียงดูด แต่ดีที่ยังตัดสินใจออกบ้านได้ ตั้งใจจะออกไปหาอะไรกินก่อนจะไปบ้านเพื่อน

เราเดินจนเกือบครบรอบแต่ตัดเข้าไปในห้วยตึงเฒ่า ไปดูคิงคองกันดีกว่า เพราะครั้งที่แล้วเพิ่งเสร็จใหม่ ๆ เรากำลังวิ่งงานจ่าสมาน วิ่งเสร็จก็ไม่กลับเลย ไม่ได้แวะดู



























เดินเก็บภาพเป็นที่ระลึกในการมาเยือนลานคิงคองยักษ์ซึ่งทำจากหุ่นฟางที่ลานอ่างเก็บน้ำ มีบ้านให้พัก ราคาเท่าไหร่ไม่รู้เพราะยังไม่คิดจะมาพัก แต่เห็นนักท่องเที่ยวพอสมควร

เขาบอกว่าคิงคอกยักษ์สูงถึงสี่เมตรนี้จัดทำขึ้นเป็นสัญลักษณ์ของความอุดมสมบูรณ์ ถึงว่า มีสิงสาราสัตว์ที่ทำจากหุ่นฟางอีกหลายชนิด เลยเดินเก็บภาพจนพอใจและเดินกลับ รวมเดินชั่วโมงกว่า ๆ ได้ระยะแปดกิโล บางช่วงเราวิ่งเพราะแดดร้อนมาก

เราออกจากห้วยตึงเฒ่า แวะซื้อกับข้าวเมืองไปกินบ้าน ร้านนี้อาหารเมืองอร่อยมาก โดยเฉพาะลาบปลา ความตั้งใจว่าจะซื้อแค่ลาบปลาแต่ไม่เคยสัมฤทธิ์ผลเพราะไปยืนดูทีไรก็ต้องซื้อกับข้าวเมืองอย่างอื่นมาด้วย ทำอร่อยทุกอย่าง ไหน ๆ มาแล้วก็ซื้อกินกันเถอะ เราทำเองก็ไม่อร่อยแบบนี้

กินข้าวแล้วก็จะไปบ้านปิ่น แต่นัดปิ่นที่สุริวงศ์ บุ๊คเซ็นเตอร์ อยากหาหนังสือกลับมาอ่านบ้านบ้าง นานแล้วที่ไม่ค่อยซื้อหนังสือที่ร้านหนังสือ ส่วนใหญ่สั่งออนไลน์เพราะสะดวกดี เสน่ห์คนละอย่าง แต่ร้านหนังสือจะเดินสนุกกว่าถ้าเรามีเวลา

รอบนี้ปิ่นผอมเลงเพราะหมอให้ลดกินแป้งเนื่องจากรอบที่แล้วเธอกินมากจนร่างจะพัง ความดันก็ขึ้น พอลดแป้งก็เพรียวเหมือนเดิม เราก็อยากจะลดเหมือนกันนะแต่นึกว่าต้องวิ่ง ไม่มีแป้งจะเอากลัยโคเจนมาจากไหน ชีวิตนี้คงไม่ลีนกับใครแล้วล่ะ กินแหลกราญไม่บันยะบันยังแบบนี้

ปิ่นพาไปดงหนังสือวาดภาพ ได้กรี๊ดกันสนั่นกับไอเดียการสอนวาดภาพและลงสี เป็นการสอนเด็กออทิสติกในบางเล่ม หมายถึงว่า ให้เราดูภาพลายเส้นนั้นก่อน เห็นอะไรลงสีแบบนั้น อย่างสิงโต หากประมวลภาพแบบเรา แบบผู้ใหญ่ แบบคนเห็นอะไรมาเยอะแยะ ก็อาจจะเอาสัญลักษณ์ที่หัว อย่างน้อยก็ต่างจากสิงโต หัวหมาหรือแมว แต่ในภาพที่ครูสอนไม่ใช่ เห็นแล้วอึ้ง การลงสีแบบนี้ทำให้เผื่อจินตนาการ เป็นภาพที่ไม่จบ แต่ยังให้เราได้คิดและต่อยอดไปอย่างอื่นได้ ยิ่งเปิดดูก็ยิ่งชอบ บางภาพเป็นภาพของคอนดั๊กเตอร์ ภาพไม่ต้องชัด แต่เห็นแล้วเรารู้ ดูเหมือนภาพง่าย ๆ แต่ไม่ง่าย ทุกภาพผ่านการคิดการสอนมาก่อน เพียงแต่เราจะได้อะไรจากการดูหนังสือเล่มนี้

การวาดภาพไม่ง่ายหรอก ซื้อหนังสือมาฝึกเอง ดูยูทูป ดูการลงสีและก็เลียนแบบ วาดตาม ลอกการลงสี ลองทำภาพเดิมซ้ำ ๆ หลายครั้ง แต่ภาพของเราจะแบน ๆ เป็นภาพเบสิกเรียบง่าย ออกนอกกรอบก็เละเพราะไม่รู้เทคนิค พานจะหมดไฟเอาดื้อ ๆ

บางครั้งเราต้องการภาพแสง โปร่งใส ดูแล้วมีชีวิตชีวา สีเขียวของเขาทำไมไม่เหมือนสีเขียวของเรา สีแบบนี้เราผสมไม่เป็น ภาพของเราขาดเสน่ห์เพราะไม่มีมิติ ไม่รู้การลงพื้นหลัง ใส่แสงดาวให้ระยิบระยับ ฟ้ากลางคืน หมาหรือแมวที่มีขนฟู ปุกปุยและดูนิ่มนวลชวนกอด

แม้ใครจะบอกว่า วาดภาพไม่ยาก ใครก็วาดได้ มันก็วาดได้แบบที่วาดนั่นแหละแต่ต่อยอดไปกว่านี้ไม่ได้ เรายังอยากไปได้กว่านี้ คิดว่าต้องมีวิธี จะทำอะไรก็ต้องมีครู เราอาจพึ่งครูจากการเกาะขอบเรียนรู้ด้วยตัวเอง มันก็ได้ระดับหนึ่ง แต่ถ้ารู้เทคนิคจากห้องเรียน มันน่าจะดีขึ้นนะ เราเห็นตัวอย่างจากเพื่อน ๆ มาพอสมควร อยากลงสีเป็น อยากสร้างมิติให้ภาพได้ ขอแค่นี้แหละ

เราหลงในดงหนังสือภาพกันพอสมควร ฉันไม่กล้าซื้อหรอก ทำไมแพงขนาดนี้ แอบดูจนหนำใจแล้วก็เก็บไว้ที่เดิม แต่ปิ่นสิ ซื้อมาให้ บอกว่าจะวาดภาพให้ดีก็ต้องดูหนังสือด้วย หนังสือทำให้เราต่อยอดได้ทางหนึ่ง เพราะรู้ว่ายังไงเราก็ต้องวาดไม่เลิกแน่ ฉันล่ะซึ้งใจจริง ๆ เลย ขนาดตัวเองยังไม่กล้าซื้อเลย ปิ่นจะเป็นคนแบบนี้เสมอ อะไรที่เรารักหรือสนใจก็จะขวนขวายหามาให้ทุกครั้งที่รู้

เพื่อนถามว่า ฉันซื้อหนังสืออะไรบ้างแล้ว ก็ยื่นให้เธอดู ไม่รู้ว่าซื้ออะไรเหมือนกัน อยากอ่านเล่มไหนก็หยิบมา เพื่อนเลยบอกว่า ทำไมไม่เปลี่ยนมาอ่านหนังสือภาษาอังกฤษบ้าง ก็อยากอ่านนะแต่อ่านไม่รู้เรื่อง เล่มนึงอ่านเป็นปีแน่ ๆ

แต่คำถามที่เพื่อนทิ้งท้ายไว้นั้น ทำให้คิดแล้วสิ แต่ก็ไม่ค่อยมั่นใจว่าจะอ่านได้นะ ทุกภาษาคืนครูไปหมดแล้ว แค่พูดเป็น พูดรู้เรื่องเหมือนทุกวันก็ว่ายากเหลือเกินแล้วทุกวันนี้ คิดอยู่อย่างเดียวว่าแก่แล้ว สังขารจะหย่อนยาน หูจะตึง เดินไม่ไหว ไปไหนไม่ได้ กินข้าวไม่ค่อยอร่อยเพราะสัมผัสรับรสเสื่อมหมด ก็ขอมีดวงตาไว้สัมผัสความงามธรรมชาติ พอให้หวนระลึกได้ อ่านหนังสือได้บ้าง ก็เป็นความสุขมากพอแล้วสำหรับชีวิตที่เหลือ



















ออกจากสุริวงศ์ก็ชวนปิ่นไปร้านบ้านเหนือ หนังสือและภาพถ่าย ที่นี่มีขนมอร่อย อยากชวนเพื่อนไปนั่งกิน ชอบบรรยากาศร้านหนังสือที่นี่ด้วย

หนังสือที่บ้านเหนือฯนำมาขายนั้น คือลายเซ็นของเจ้าของร้าน ส่วนใหญ่จะเห็นผลงานของสำนักพิมพ์กำมะหยี่ สำนักพิมพ์นาคร สำนักพิมพ์มติชน สำนักพิมพ์ผีเสื้อ สำนักพิมพ์ผจญภัย ฯลฯ และหนังสือบทกวีที่เราคุ้นหน้าคุ้นตาและรู้จักชื่อเสียงของกวี

เราขอกาแฟน้องสองแก้ว น้องถามว่าอยากกินกาแฟอะไร เราก็ไม่รู้จะสั่งอะไร ก็แล้วแต่น้องดีกว่า ส่วนปิ่นสั่งน้ำเสารสโซดา เจ้าของร้านน่ารัก กิริยามารยาทดีมาก มีน้ำใจทำให้คนมาร้านรู้สึกสบายใจ รู้สึกคุ้นเคย เป็นกันเองและอยากอยู่นาน ๆ

กาแฟที่นี่รสชาติดี จำได้ว่าน้องชงกาแฟจากดอยภูคา รสชาติจะออกเปรี้ยวนิด ๆ แต่ปิ่นชอบอีกแก้วนึง จำไม่ได้แล้วสิว่ากาแฟจากที่ไหน รสชาติกลมกล่อม ไม่เข้มคมขมจัด รสชาติกลาง ๆ กลิ่นหอม กว่าจะรู้ว่าชอบอะไรก็แก่ แต่ก็นั่นแหละ ความชอบเปลี่ยนแปลงไปได้ตลอด ก่อนนี้เคยกินกาแฟขมเข้ม คิดว่ากาแฟอร่อยต้องรสชาติขมขนาดนี้

อันที่จริง กาแฟก็คงขมอยู่เหมือนเดิม มีแต่เราที่กินกาแฟอะไรก็ไม่ขมอีกต่อไปแล้ว


เรานั่งชิลล์ ชิลล์ที่นี่พักใหญ่ก่อนจะไปบ้านปิ่น






































































































ที่ร้านบ้านเหนือ กาแฟและภาพถ่าย








ออกจากบ้านเหนือฯ ก็ไปบ้านปิ่น แม่ปิ่นทอดปลาน้อยไว้ให้ไปกินบ้าน ไข่เค็มอีกโหล และหมูสะเต๊ะอีก (กินไม่พอห่อโตยว่างั้นเถอะ) มาบ้านนี้ทีไรได้ของกลับไปกินบ้านดอยเยอะแยะไปหมด

ปิ่นเอาของมาฝาก แต่ก็(แกล้ง ๆ ) หลบแม่ ปิ่นบอกว่า รีบเอาของฝากไปเก็บ เดี๋ยวแม่จะอิจฉา แม่ก็นั่งหัวเราะและบอกว่าอิจฉา ๆ ๆ ๆ ฮ่า ฮ่า ฮ่า

ฉันก็เปิดของฝากตรงนั้นแหละ ติ๊ต่างว่าแม่ไม่เห็น พอเห็นแก้วเซรามิกรูปเจ้าชายน้อยแค่นั้นแหละ กระโดดเหยง ๆ ไปมา ถูกใจขนาดเลย แล้วก็เสื้อวิ่งมาราธอนจากงานโลซานมาราธอนที่เพื่อนไปวิ่งมา ดีใจ ๆ ๆ จะใส่วิ่งเทรลเลยแหละเนี่ย ชอบสีน้ำเงิน ถูกใจมาก

มาคราวนี้น้องชายปิ่นไปเป็นคนสวนแล้ว ปิ่นซื้อที่ไว้ให้น้องชาย จะได้มีเวลาไปออกเหงื่อ เป็นคนสวน แต่วันแรกที่ไปลงสวน ขุดดิน ทำรั้ว ถึงบ้านตัวรุม ๆ เป็นไข้ แม่โวยวายเพราะไม่อยากให้ลูกชายตากแดดตัวดำ ยิ่งทำสวนก็ยิ่งเป็นไข้ ทำไมไม่ไปจ้างคนอื่นมาทำให้ ปิ่นเลยว่า ก็เขาอยากเป็นคนสวน ไม่ใช่ผู้จัดการสวนที่ชี้นิ้วให้คนอื่นทำ ก็ลองให้เขาทำก่อนปะไร แม่เตรียมเงินไว้เถอะ สักล้านสองล้าน แม่หุยลั่นบ้าน ชั้นจะไปเอาเงินที่ไหนมาให้พวกเธอ ฮ่า ฮ่า ฮ่า เข้าใจอยู่นะอารมณ์นี้ แต่เพื่ออนาคตข้างหน้า เราก็ต้องให้น้องชายปิ่นมีอะไรทำบ้าง การที่ไม่ไปไหน อาจทำให้เกิดอาการเบื่อหน่าย เฉา เศร้าซึม คนเราต้องมีชีวิตส่วนตัวบ้าง ยิ่งปล่อยให้เขาดูแลแม่คนเดียวแบบนี้ ก็ต้องหากิจกรรมให้น้องทำ ชีวิตจะมีชีวามากขึ้น พวกเราเห็นด้วยและเข้าใจ ก็หาเงินให้น้องทำสวนกันต่อไป อย่างน้อยวัน ๆ ก็ไม่ว่างจนเกินไป

ทำให้กลับมามองตัวเองว่า ชีวิตหลังเกษียณเราอยากทำอะไรบ้าง ที่คิดไว้คือมีร้านกาแฟและหนังสือนี่แหละ ทำแก้ว่าง อยากเปิดก็เปิด อยากปิดก็ปิด (เห็นแววเจ๊งตั้งแต่ยังไม่เปิดเลยนะ) ... อืม ไม่หรอก ทำอะไรก็ได้ที่เราทำด้วยตัวเองได้ ไม่ต้องจ้างคนอื่น อย่างเช่น สามารถชงกาแฟเองได้ ทำขนมเค้ก ขนมไทยได้ จัดการร้านและรับมือได้ ไม่ต้องมาก ทำให้มีความสุข ทำโปสการ์ดขาย ถุงผ้า แก้วและเสื้อที่มีลายเซ็นของเรา อันนี้ฝันฟุ้งไปก่อน นอกนั้นคงหาเวลาไปเที่ยว ไปวิ่งทั่วไทยนั่นแหละ อยากมีสุขภาพดีสมวัยมากกว่า


ล่ำลาปิ่นและแม่ที่บ้าน เจอกันเมื่อไรก็เมื่อนั้น ญาติก็มีแค่นี้แหละ

นัดไปรับลูกไปกินสุกี้เอ็มเค นาน ๆ ทีเขาจะหยุดตรงกัน ลูกบ่นตะแงว ๆ ว่าอยากกินเป็ดเอ็มเค
แต่ก่อนนี่ลูกต้องรอพ่อแม่ว่างจึงจะได้ไปไหน เดี๋ยวนี้เราสองคนต้องทำตัวให้ว่างเพราะถ้าลูกว่างตรงกันเมื่อไรก็จะได้ไปกินข้าวด้วยกัน

ตอนเดินผ่านร้านกระเป๋าแฮนด์เมด รู้สึกอยากได้มาก เดินกุมมือลูก บอกเขาว่า ถ้าเรียนจบ มีเงินเดือนแล้ว ซื้อกระเป๋าให้แม่นะ แม่อยากได้ แพงมั้ยแม่ น่าจะสักสามพันนะ แม่อยากได้ จ่ะ ถึงตอนนั้นพี่บุ๋นก็จะมีเงินเดือนแล้ว แต่ทำงานคงเหนื่อยน่าดู อยู่ รพ.ทั้งวัน อืม ใช่ งานเป็นแบบนั้น ลูกรู้อยู่แล้วนี่ งานที่ต้องดูแลคนอื่น เสียสละมากโดยเฉพาะชีวิตส่วนตัว กว่าจะเข้าที่เข้าทาง ถ้าลูกไม่เปิดคลินิกก็ดี จะได้จัดเวลาทำกิจกรรมที่ชอบได้ นอกนั้นก็ทุ่มเททำงานวิชาชีพของตัวเองให้ดีนั่นแหละ แม่ได้แต่หวังให้ลูกมีน้ำใจ เห็นใจคนอื่น อย่าเอาเปรียบหรือคอร์รัปชั่นเวลาของเพื่อนร่วมงาน ทำตัวน่ารัก อ่อนน้อมถ่อมตนอยู่เสมอ ยิ่งอยู่สูงกว่าเขายิ่งต้องอ่อนน้อม อย่าให้ใครได้มาว่าพูดจาไม่ดี ขึ้นเสียงกับคนไข้ คิดว่าครูบาอาจารย์สอนกันมาอย่างดีแล้วนะ จ่ะแม่

เราใช้เวลากับลูกพอสมควร พาเขาไปซื้อของใช้และขนม ลูกสาวก็เป็นสาวกันแล้วแต่เขายังเป็นเด็กน้อยของเราอยู่เสมอ เวลาไม่นานแต่พ่อแม่เหมือนได้มาเติมพลัง ทั้งจากเพื่อนและลูก ๆ มีใครให้รักและคิดถึง อยากมาหามันดีแบบนี้นี่เอง




















สุขสันต์วันทำงานนะคะ
ขอให้มีความสุขทุกท่าน
ขอบคุณค่ะ
ภูพเยีย


































Create Date : 04 กุมภาพันธ์ 2562
Last Update : 4 กุมภาพันธ์ 2562 11:30:37 น.
Counter : 769 Pageviews.

1 comment
--- วิ่ ง เ ก็ บ ร ะ ย ะ เ ดื อ น ม ก ร า ค ม 2 5 6 2 ---



















































































































































































































เดือนนี้วิ่งได้ 185.5 กิโล

อ่านหนังสือไปไม่กี่เล่ม มีฤดูคิดถึงของใบไม้ว้าเหว่ / สามก๊ก ฉบับวินทร์ เลียววาริณ / อยากให้เธอได้อ่าน / ความสั่นสะเทือนระหว่างเรา ทำให้อ่านเท่ารักเธอซ้ำอีกรอบ / บ้านที่อยู่ในบ้าน / วายังอมฤต ปิดท้ายด้วย ตอร์ติญ่า แฟลต รวม 9 เล่มเท่านั้น เอ๊ย นับผิด 8 เล่มต่างหาก แต่ดีใจที่หยิบแดนนี่และผองเพื่อนจากตอร์ติญา แฟลตมาอ่านอีกรอบ ความคิดความรู้สึกต่างจากที่เคยอ่านมาก่อนหน้านี้ 😪😅 เดือนนี้อ่านหนังสือไม่กี่เล่มเพราะไม่ค่อยว่าง แต่ดีใจที่อ่านจนจบ 😊😍

เดือนนี้เป็นเดือนพิเศษที่ได้ต้อนรับแม่และเพื่อน ๆ แม่ สิริรวมอายุเกือบเจ็ดร้อยปี เพราะแต่ละคนเจ็ดสิบขึ้นทั้งนั้น ได้ฉลองครบรอบ ๗๒ ปีให้แม่ เขียนบันทึกให้แม่แต่ก็เขียนไม่จบสักที เพราะพาเที่ยวหลายวัน ไฮไลต์สุดก็ตอนที่เพื่อน ๆ ร้องเพลงวันเกิด อวยพร กอดกัน บอกรักกัน ดีใจที่แม่มีกัลยาณมิตรมาจนเดี๋ยวนี้ ฉันนี้น้ำตาปริ่ม อิ่มใจ อบอุ่นหัวใจจริง ๆ ฉันดีใจที่ได้จัดงานวันเกิดให้แม่ที่บ้านของเรา ไม่รู้แม่จะมาอยู่กับเราตอนไหน

เดือนนี้ได้ย้อนไปจับกล้องส่องนก ได้ไปดูนกเมืองคองกับเพื่อนและคุณลุงอารากัน เสียดายที่คุณลุงไม่เห็น แต่เราจะหาเวลากลับไปอีกครั้ง

อาทิตย์ที่แล้วเราทันได้ไปดูนางพญาเสือโคร่งบานที่บ้านผาแดงและที่หมู่บ้านสันติวนา อาทิตย์นี้น่าจะโรยแล้วล่ะ เราก็เข้าเชียงใหม่ไปหาลูกพอดี

เดือนนี้ดูละครย้อนหลังไปหลายเรื่องเช่นกัน ไม่ว่าจะหลงไฟ / เงาใจ /คลับฟรายเดย์ (ซีรี่ส์นี้ติดตามมาต่อเนื่องเพียงแต่ดูย้อนหลัง) ดูหนังฉลาดเกมส์โกงอีกรอบแต่ไม่เร้าใจเหมือนตอนดูครั้งแรกเมื่อปีใหม่ที่กลับไปหาแม่ / ดูเพราะอากาศเปลี่ยนแปลงบ่อยอีกครั้ง ยังชอบมากอยู่ / ดูย้อนหลังละครเรื่อง กว่าอรุณจะรุ่ง เพราะเผลอไปดูตอนนี้สี่คนยายหลานย้ายมาอยู่กรุงเทพและน้องอรุณกลัวผู้ชายจึงต้องย้อนไปดูตอนแรก สะเทือนใจมากที่เธอถูกพ่อข่มขืน เรื่องนี้คุณกวางกมลชนกแสดงเป็นแม่ผู้ปกป้องลูกและแจ้งจับสามีจนเขาติดคุก แต่การดูแลลูกและครอบครัวตามลำพังหลังจากนี้เป็นเรื่องที่ต้องเอาใจช่วยและให้กำลังใจทุกคนในครอบครัวของเธอ ละครยังไม่จบหรอกนะ

แต่ที่ติดตามอยู่คือเรื่องสงครามนักปั้นและหน้ากากแก้ว

แต่ติดละครเรื่องหน้ากากแก้วมากกว่า แรก ๆ ดูเหมือนจะไม่ซับซ้อน คิดจะดูเล่น ๆ ไปเรื่อย ๆ ต่อจากเลือดข้นคนจาง ไป ๆ มา ๆ ภายใต้หน้ากากนั้น มีอะไรมากกว่าที่คิด ตอนนี้กำลังจะกระชากหน้ากากราชาวดีว่าที่แท้เธอคือน้ำทิพย์ และคนที่ร่วมกระทำผิดร่วมและรู้ทุกอย่างคือหมอโกศล (ก็สงสัยเหมือนกันว่า ทำไมหมอโกศลจึงได้ทุ่มเทและปกป้องราชาวดีโดยรับผิดแต่เพียงผู้เดียว เหตุผลเพราะรักน้ำทิพย์น่ะหรือ ??? ฉันคิดตื้นไปแน่ ๆ เลย รอดูว่าเขาจะคลี่คดีนี้ออกมายังไง)

วันนี้อากาศเย็นจนหนาว แต่สาย ๆ ก็ร้อน และกลับมาเย็นลงอีกยามค่ำ ปรับตัวแทบไม่ทัน

หมดเดือนมกราไปอย่างรวดเร็ว ถ้าไม่บันทึกก๊อก ๆ แก๊ก ๆ ไว้ คงลืมไปหมดแน่เลย

อ้อ...เกือบลืม เมื่อคืนนอนดูละครเรื่อง 'ทองเอก หมอยาท่าโฉลง' โอ๊ย หัวเราะท้องคัดท้องแข็ง เผลอเปิดไปเห็นตอนที่ทองเอกกำลังช่วยนางผ่องให้รอดจากการผูกคอตาย

เรื่องนี้ให้ความรู้เรื่องการรักษาด้วยแพทย์แผนไทยแบบโบราณ รู้จักสมุนไพรไทย ตำรับตำราด้วย ลองดูนะคะ สนุกและมีสาระด้วย

ขอให้เพื่อน ๆ มีสุขภาพแข็งแรงและมีความสุขมาก ๆ นะคะ
ภูพเยีย




















Create Date : 01 กุมภาพันธ์ 2562
Last Update : 1 กุมภาพันธ์ 2562 9:42:14 น.
Counter : 642 Pageviews.

0 comment
--- น ก ฟ้ า แ ล ะ น า ง พ ญ า เ สื อ โ ค ร่ ง ---





























เช้าวันเสาร์ เราตื่นแต่ตีสามเพื่อจะซ้อมวิ่งยาว ตั้งใจว่าจะวิ่งช้า ๆ ไปเรื่อย ๆ ให้ครบสี่ชั่วโมง ไม่สนใจว่าจะได้กี่กิโล ตั้งใจว่าจะไม่เดินตลอดสี่ชั่วโมงเท่านั้นเอง

อากาศตอนตีสามราว ๆ 11 องศา อาจจะไม่หนาวมากสำหรับคนอื่นแต่สำหรับฉันมันแทบจะไม่ไหว ทรมานตั้งแต่พาตัวเองออกจากเตียงนอนมานั่งกินขนมปังและกล้วยหอม เปลี่ยนเสื้อผ้าที่ต้องเพิ่มผ้าบัฟสองผืน คลุมหัวและสวมที่คอ สวมเสื้อแจ๊กเก็ตไปก่อนแล้วค่อยถอดทีหลังได้แต่ก็ลืมสวมถุงมืออยู่ดี คิดว่าวิ่งไปอากาศน่าจะอุ่นขึ้น จนแล้วจนรอดก็ไม่ได้ถอดเสื้อแจ๊กเก็ตเลย วิ่งไปอย่างนั้นจนครบเวลาที่ตั้งใจไว้

ขณะวิ่ง พยายามคุมใจให้อยู่กับก้าววิ่งเพราะรู้ว่าวันนี้มันไกลและต้องเหนื่อย แต่เพราะว่าจะไปช้า ๆ ไม่อยากเจ็บและอยากรู้สภาพร่างกายตัวเองด้วย ค่อย ๆ วิ่ง ค่อย ๆ ไป ใจนิ่งกว่าที่เคยเป็นมา ไม่วอกแวก ไม่เบื่อ ไม่กระวนกระวายอยากให้จบ แวะจิบน้ำทุกกิโลที่ 5 จากที่เคยจิบทุกกิโลที่สองหรือสาม จะด้วยอากาศเย็นด้วยก็ได้ที่ทำให้ไม่ค่อยหิวน้ำและไม่ค่อยเหนื่อย คู่วิ่งเจ็บหัวเข่ามาก ไม่ทราบเพราะสาเหตุอะไรหรือเพราะเร่งตัวเองวันวิ่งมินิมาราธอนงานใกล้บ้านนั่นหรือเปล่าไม่ค่อยแน่ใจ แต่ถ้าเจ็บ ควรเซฟร่างกายเลย ไม่ต้องฝืนมาก ไม่คุ้ม แต่เขาก็เดินเป็นเพื่อนจนครบสี่ชั่วโมงเช่นกัน

เราจบจากการวิ่ง ยืดเหยียดและกลับบ้านกินกาแฟกัน เป็นเช้าที่สดชื่นอีกวันแต่เราตั้งใจจะขึ้นดอยไปดูนางพญาเสือโคร่งที่สันติวนาและบ้านผาแดง ปีที่แล้วบานเร็วกว่านี้ไปหนึ่งสัปดาห์เพราะดูภาพเก่าที่เราไปดอย ปีนี้ดอกไม้บานช้าเนื่องจากฝนฟ้าอากาศแปรปรวน เจอหางปาบึกเข้าไปทำให้นางพญาเสือโคร่งมีแต่ใบ แต่กระนั้นก็อยากไปดูอยู่ดี

เราไปรับน้องออยด้วย เธออยากไปชมนางพญาเสือโคร่งและดูนกกับเรา ก่อนไปใช้เวลาบนนั้น แวะกินข้าวเติมพลังก่อน ฉันคงทนไม่ไหวถ้าหิว ดูนกไม่สนุกแน่ ๆ อาการหิวนั้นปั่นป่วนมากในทุกกิจกรรม วิ่งตอนที่ท้องว่างเกินไปก็ไม่สนุก ใครเคยวิ่งตอนท้องว่างจะเข้าใจ อยากจะจบไว ๆ คิดถึงแต่เมนูอาหารวุ่นวายในหัว สมาธิหายหมด

เราไต่ดอยไปที่หมู่บ้านสันติวนา แทบไม่มีใครจอดชมดอกไม้เหมือนปีที่แล้ว มีแต่รถเราจอดและเราสามคนเท่านั้น รถแต่ละคันแล่นลิ่วและผ่านไป

นกวันนี้ก็เหมือน ๆ ปีที่แล้ว ขาดแต่นกปรอดหัวขาว นกปรอดดำ มีแต่ปรอดหัวโขนหรือเจ้าปิ๊ดจะลิว นกสามัญประจำบ้านนี่แหละ เราเห็นพวกเขาบ่อยรอบ ๆ บ้าน ร้องเสียงไพเราะและน่ารัก แต่วันนี้ดูน่ารักมากยิ่งขึ้นเมื่ออยู่ท่ามกลางดอกไม้สีชมพู














กลีบบางและสีชมพูของนางพญาเสือโคร่งจะไม่ชมพูเข้มเหมือนซากุระ ละมุนละไม นุ่มนวลและอ่อนโยน สีหวานชวนชื่นใจ สายลมหนาวโชยมาบางเบาพอเห็นใบไม้ไหวสั่น ใบเล็กระริกพลิกพริ้วพอ ๆ กับหัวใจฉันยามนี้ นานแล้วสินะที่ไม่ได้มาอยู่ท่ามกลางธรรมชาติ อากาศสดชื่นและเวลาเนิบช้าแบบนี้ ความสุขคนละอย่างกับการออกวิ่ง

การวิ่งเป็นความรู้สึกยิ่งใหญ่ในใจ เป็นเรื่องราวใหม่ ๆ ในชีวิต เปลี่ยนตัวเองหลายอย่าง หนักแน่นขึ้น ใจเย็นและนิ่งขึ้น แค่ออกวิ่งได้ในแต่ละวัน ทำให้เกิดรอยยิ้มในใจไดเมื่อนึกถึง ไม่น่าเชื่อว่าวิ่งจะกลายเป็นชีวิตประจำวันได้ ปีนี้คงไม่ตะลอน ๆ ไปวิ่งที่นั่นที่นี่มากเหมือนก่อน ความกระหายอยากลดลง ควรทะนุถนอมและสงสารร่างกายบ้าง อย่าให้มันเหนื่อยล้าจนบาดเจ็บเพราะเราไม่ได้วิ่งเพื่ออวดหรือประกาศศักดาหรือต้องการให้ใครมายอมรับ ถึงจะวิ่งช้าและไม่เคยทำลายสถิติตัวเองใด ๆ เลย แต่ความสุขและความภูมิใจในสิ่งที่เกิดขึ้น เราต้องสัมผัสเอง ความรู้สึกของคนอื่นนั้นเราไม่มีวันหยั่งถึงหรอกต้องรู้สึกได้ด้วยตัวเอง



เช้านี้ ฉันเก็บภาพนกน้อยไปเรื่อย ๆ นกธรรมดาดูพิเศษขึ้นเมื่ออยู่กับดอกไม้แสนสวย เป็นความใจดีของธรรมชาติทั้งที่ดอกไม้ก็ทำหน้าที่โดยไม่เคยเกี่ยงงอน และคงไม่รู้หรอกว่าตัวเองสวย

วันนี้ฉันมีนกและดอกไม้มาฝากค่ะ ...
(เพื่อน ๆ สามารถคลิกที่ภาพเพื่อจะเห็นภาพใหญ่ขึ้นได้นะคะ :) )
















นกเขียวก้านตองหน้าผากสีทอง เพศเมีย






นกเขียวก้านตองหน้าผากสีทอง เพศผู้
เขาไม่ค่อยออกมาให้เก็บภาพมากนัก
จะซ่อนอยู่หลังกิ่งและดอกสีชมพูระยะไกล
แต่ฉันก็เก็บภาพไว้เป็นที่ระลึก

















































นกปรอดหัวโขนหรือนกหัวจุก(ไม่มีกรง)
ฉันไม่ชอบชื่อเรียกเขาว่า นกกรงหัวจุก
คงไม่มีนกชนิดไหนอยากอยู่ในกรงเพื่อมาประชันเสียงร้อง
เพื่อสนองความสุขและสร้างความบันเทิง
รวมถึงการพนันขันแข่งของคนหรอก


























นกแว่นตาขาวสีทอง

นกน้อยแสนน่ารักที่พบเยอะในทุก ๆ ที่ เขาจะอยู่รวมกันเป็นฝูง วันนี้ก็เจอนกแว่นตาขาวสีทอง นกแว่นตาขาวสีข้างแดงและนกแว่นตาขาวหลังเขียว ซึ่งดูคล้าย ๆ แว่นตาขาวสีทอง ต่างกันตรงท้องจะมีสีเทาตลอดไม่มีแถบเหลืองแบ่งกลางท้อง

เราดูเผิน ๆ ก็รู้ว่านกก็น่ารักแล้ว หากอยากรู้จักมากขึ้นก็ต้องใช้เวลากับมันจะได้แยกแยะขึ้นได้อีกนิดว่าคนละชนิดกัน

ก็เหมือนคนเรานี่แหละ เวลาที่เราอยากรู้จักใครสักคนมากขึ้น ก็ต้องให้เวลากับเขา สนใจ ใส่ใจและมีใจต่อกัน ว่ากันว่า มิตรภาพนั้น บางทีเกิดขึ้นง๊ายง่ายเพียงแค่เคมีตรงกัน มิตรภาพเกิดจากทั้งสองฝ่ายไม่ใช่ฝ่ายหนึ่งฝ่ายใด แต่ทุกอย่างก็ขึ้นอยู่บนโลกธรรมแปด หลีกหนีไม่ได้แม้เราจะไม่อยากให้เกิดขึ้น บางคนที่เราคบหากันมายาวนาน อยู่ ๆ ก็หลุดหายไป ต่อไม่ติด อะไรที่เคยดีต่อกันก็เหมือนไม่รู้จัก ดูว่างเปล่า ได้แต่คิดว่า ครั้งหนึ่งเราเคยดีต่อกันก็พอ ก่อนหน้านี้เราไม่มีเขาเราก็อยู่ได้ เก็บช่วงเวลาดี ๆ เหล่านั้นไว้ เรายังต้องไปต่อ มีอะไรให้คิดอีกเยอะแยะ วันหนึ่งผ่านไปเร็วเหลือใจ อะไรที่ยังไม่ได้ทำก็รีบลงมือทำซะนะ เวลาไม่คอยท่า เ ช่ น ด อ ก ไ ม้ บ า น . . . ไ ม่ เ ค ย ร อ ใ ค ร . . .






ขอให้ทุกท่านมีสุขภาพดีและมีความสุขมาก ๆ นะคะ
ขอบคุณค่ะ
ภูพเยีย






















Create Date : 30 มกราคม 2562
Last Update : 30 มกราคม 2562 9:25:30 น.
Counter : 831 Pageviews.

4 comment
--- ดู น ก เ มื อ ง ค อ ง ที่ เ ชี ย ง ด า ว ---






















เสาร์อาทิตย์นี้เราเพิ่งนัดกับเพื่อนว่าจะไปดูนกด้วยกันที่เมืองคอง นานแล้วที่ไม่ได้เจอกัน นานนับปีเลยก็ว่าได้ ต่างจากเมื่อก่อนที่ตามเพื่อนไปดูนกบ่อย ๆ ทราบข่าวอีกว่า คุณลุงอารากันกับเพื่อนมาดูนกเมืองไทย เป็นช่วงลองวี้คเอนด์ของคุณลุงพอดี เราว่างก็เลยอยากไปแจมดูนกด้วยกัน

เมืองคองเป็นชุมชนเล็ก ๆ ซ่อนอยู่หลังดอยหลวงเชียงดาว เป็นชุมชนสงบ สะอาด มีนาขั้นบันได มีพื้นที่สีเขียวเย็นตา เสน่ห์เมืองเหนือก็ไม่แตกต่างกันคือจะมีหมอกอ้อยอิ่งเรี่ยดอย อากาศเย็นตลอดปี ใครชอบบรรยากาศชนบทแบบนี้ก็จะมีความสุข ความสะดวกสบายก็มีพอควรต่างกับเมื่อยี่สิบปีที่แล้วที่สามีเคยมาอนามัยเมืองคอง ตอนนั้นเส้นทางมายาก เดินทางจากปากทางเข้าไป 30 กิโลเมตร ใช้เวลาสามชั่วโมงครึ่ง ดูงานเสร็จจะหาข้าวปลากินก็ลำบากเพราะยังไม่มีร้านค้าหรือร้านอาหาร ชาวบ้านทำอาหารกินเองแต่ในบ้าน ที่นี่ไม่ใช่เมืองท่องเที่ยว เป็นที่ที่เขาอยู่กัน แต่เดี๋ยวนี้อะไรก็ดีขึ้น ถนนหนทางดีขึ้น ย่นระยะการเดินทางได้มาก มีร้านค้า ร้านอาหารและร้านกาแฟ กินลมชมหมอกและดอยหลวงเชียงดาวกันแบบเต็มตา เดี๋ยวนี้ร้านกาแฟแทบจะเป็นสัญลักษณ์ของการท่องเที่ยวไปแล้ว มันมาพร้อมกับคำว่าสโลว์ไลฟ์ด้วยหรือเปล่านะ ตัวเล็กตัวน้อยก็เข้าร้านกาแฟกันหมด

แต่ที่เรามาเพราะอยากดูนกกะเต็นขาวดำใหญ่ ที่ว่ากันว่าเขาเป็นนกประจำถิ่นที่นี่

นึกถึงเมื่อสักสี่ห้าปีที่แล้ว เราไปเฝ้านกกะเต็นขาวใหญ่ที่ อช.แม่วงก์ คราวนั้นพลาดทั้งนกกะเต็นขาวดำใหญ่และนกเงือกคอแดง ได้นกขุนแผนมาปลอบใจคนละกระบุง แต่ก็ไม่คิดมากกัน เข้าใจเรื่องการดูนก เป็นแบบนี้แหละ แล้วแต่ดวง เจอก็ดี ไม่เจอก็ค่อยหาเวลามาอีก แต่เราก็ไม่เคยได้กลับไปเฝ้านกที่นี่อีกเลย

แถมได้ข่าวมาอีกว่า ที่เชียงราย พบกะเต็นขาวดำใหญ่ ( Crested Kingfisher) คิดในใจว่าต้องไปทักทายเขาสักครั้ง แม้ว่าใครต่อใครบอกว่า นกไม่เกาะเป็นที่ ต้องใช้กล้องส่องหา อาจจะเจอหรือไม่เจอก็ได้ แต่ก็ใกล้กว่าเดินทางไปแม่วงก์ล่ะนะ จนแล้วจนรอดก็หาเวลาไปเฝ้ากะเต็นขาวดำใหญ่ไม่ได้อีกตามเคย

งานนี้ถือว่าลงตัวสุดเพราะมีวันว่างพอดี อาทิตย์อื่น ๆ คิวแน่นเอี๊ยดเพราะมีญาติผู้ใหญ่จะมาบ้าน เราไปไหนไม่ได้

เราออกบ้านราว ๆ เที่ยงวันเสาร์ นัดเจอพรรคพวกบ่ายสอง แต่เพื่อน ๆ ไปเฝ้านกเขนน้ำหลังดำกันก่อนชวนมานั่งบลายด์เฝ้ากะเต็นใหญ่ตอนบ่าย ๆ ตอนนั่งเต็นท์ใหม่ ๆ นั้น อากาศร้อนจนเหมือนจะไหม้ แดดหน้าหนาวก็เป็นแบบนี้ ไม่ปรานีใคร แต่สักพัก ลมเอื่อย ๆ มา พอให้เย็นใจและนั่งบลายด์สบายขึ้น เรารอพี่กะเต็นไปเรื่อย ๆ แต่ก็ไร้วี่แวว จึงพอก่อนแค่นี้ นัดกันใหม่เช้าวันพรุ่งนี้

เราพักที่เดียวกับคุณลุงอารากันและคุณลุงที นัดคุณลุงกินข้าวตอนทุ่มตรง จะได้สั่งอาหารและดูแลคุณลุงกันหน่อยเพราะเขาดูแลเราอย่างดีเมื่อสี่ปีที่แล้วตอนที่เราไปดูนกที่เก็นติ้ง พาไปเฝ้านกแต่ตีสี่ พาเดินดูนกใกล้บ้านแถวเก็นติ้ง ยังประทับใจจนถึงเดี๋ยวนี้ ลุงไปดูนกมาหลายที่แล้วก่อนเดินทางมาที่นี่ แต่คุณลุงทียังไม่เคยเห็นกะเต็นใหญ่สักครั้ง คงหวังจะได้เจอเหมือนเรานั่นแหละ คุณลุงเกษียณแล้ว เลี้ยงหลานสองคน และทำสารคดีเกี่ยวกับนกเงือก คุณลุงถามว่าเรารู้จักนักดูนกคนดังของเมืองไทยบ้างหรือเปล่า เราได้แต่ยิ้ม ๆ ส่ายหน้า รู้จักแต่ชื่อ แต่ไม่เคยมีโอกาสได้เจอตัวจริง เรามือสมัครเล่นที่ไม่ได้ลุยเรื่องนกเหมือนคนอื่น ๆ ยังเบบี๋มาก ๆ ไปแค่พักผ่อนหรือตามคนอื่นไปเท่านั้น

คุณลุงทีเอาคลิปนกเงือกหลายต่อหลายชนิดให้เราดู ตื่นตาตื่นใจมากเพราะมีภาพการเลี้ยงลูก มีนกเงือกหลายชนิดและนกเงือกบินเต็มผืนฟ้า อัศจรรย์ใจจริง ๆ เห็นแล้วมีความหวัง คาดว่านกเงือกจะไม่สูญพันธุ์ วีดีโอแต่ละอันสวยงามมาก อะไรก็ไม่เท่ากับการเก็บภาพเหล่านี้ด้วยตัวเอง อิ่มตาอิ่มใจมากกว่าดูจากคนอื่น แต่เราเองไม่มีโอกาสได้ไปเก็บภาพเองหรอก เห็นของคุณลุงก็อิ่มตาอิ่มใจได้เหมือนกัน

ส่วนคุณลุงอารากันนั้น เห็นนกมาทั่วโลกแล้วก็ว่าได้ เขามีแพลนปีละเดือนถึงสองเดือนสำหรับการเดินทางไปดูนกในสถานที่ต่าง ๆ ซื้อรถกระบะที่มีบันได้ต่อขึ้นไปกางเต็นท์นอนบนรถด้วย เป็นรถสำหรับดูนกโดยเฉพาะ ค่ำไหนนอนนั่น เสบียงอาหารเสมือนครัวเคลื่อนที่ รถของนักดูนกส่วนใหญ่ก็จะประมาณนี้ ทุกครั้งที่เราดูนกก็จะเตรียมเรื่องอาหารให้พร้อมพอที่จะดูนกได้ตลอดวัน คุณลุงอารากันเป็นวิศวกร ทำธุรกิจใหญ่ที่ยังไม่สามารถวางมือให้ลูกชายทำโดยลำพัง ยังคอยเป็นที่ปรึกษาใหญ่ให้อยู่ แต่จัดสรรเวลาเพื่อพักผ่อนได้ดี

เราไม่ค่อยมีเวลาพักผ่อนมากนัก ทำงานทุกวัน เพียงแต่จัดสรรเวลาไปต่างจังหวัดเพื่อวิ่ง สี่ห้าปีมานี้เราสนใจเรื่องวิ่ง จากวิ่งเพื่อสุขภาพก็เกินสุขภาพคือลงแข่งขันวิ่งตามงานที่จะว่าไปแล้วคือการแข่งขันกับตัวเองล้วน ๆ เอาชนะตัวเองและไปให้ถึงเส้นชัยในระยะที่ลง ต้องใช้เวลาในการฝึกซ้อมมากขึ้น สนใจรายละเอียดในการซ้อม ชีวิตเราเปลี่ยนไปหมดตั้งแต่เริ่มวิ่ง เปลี่ยนทั้งเรื่องการกิน นอนและพักผ่อน เราซ้อมวิ่งหลังปิดร้านคือสองทุ่มเป็นต้นไปและวันไหนวิ่งยาวก็ขโมยเวลาของตัวเองคือการตื่นเช้าขึ้น วิ่งขณะที่คนอื่นกำลังหลับสบาย แต่เรามีเป้าหมายในการฝึกซ้อมก็ต้องต่อสู้กับผ้าห่มและเตียงดูด อากาศหนาว ๆ ก็ลุกยากมาก มีขี้เกียจ เหนื่อย ท้อและบางทีก็แอบถอดใจบ้างเพราะเส้นทางไกล แต่ก็แค่บ่นออกไป จะให้เราเลิกขณะยังวิ่งได้คงไม่มีทาง มีเพื่อนนักวิ่งที่เป็นแรงบันดาลใจส่วนตัว มีหนังสือหรือทริกต่าง ๆ บนโลกโซเชี่ยลให้เลือกอ่าน มีทั้งแบบจริงจังและแบบชิลล์ ชิลล์แล้วแต่ชอบ ส่วนใหญ่ใจความสำคัญคือการซ้อม ซ้อมและซ้อม ไม่ว่าจะวิ่งระยะไหนก็เหนื่อยกันไปคนละแบบ ยิ่งมาราธอนยิ่งต้องซ้อมให้ดี มาราธอนไม่มีปาฏิหาริย์ ต้องมีสมดุลทั้งทางกายและใจ มีแต่ใจก็ไปไม่ถึง แม้จะไปถึงแต่ก็อาจบาดเจ็บ เมื่อเตรียมใจจะเป็นผู้พิชิตมาราธอนก็ต้องเตรียมใจกับความพ่ายแพ้หรือแตะไม่ถึงเส้นชัยด้วย ระยะทาง 42 กิโลนั้น มีอะไรที่เราคาดไม่ถึงมากมาย บางคนอาจจะไม่ได้เริ่มด้วยซ้ำทั้งที่เตรียมตัวมาค่อนปี อาจจะป่วยหรืออะไรที่เราไม่สามารถรู้ล่วงหน้า ระหว่างทางก็เช่นกัน มีสถานการณ์พลิกผันได้ตลอด แต่นั่นแหละ ซ้อมกันเถอะ ความผิดพลาดอะไรก็อาจจะลดน้อยลงได้















นกกะเต็นน้อยธรรมดา (Common Kingfisher)
เพศเมีย ปากล่างจะมีสีแดง
เพศผู้ ปากจะสีดำสนิททั้งปากบนและล่างค่ะ










นกกะเต็นอกขาว ( White throated Kingfisher)










กะเต็นขาวดำใหญ่ ( Crested Kingfisher)

สามารถคลิกที่ภาพเพื่อดูภาพใหญ่ขึ้นนะคะ








เช้าวันอาทิตย์ เรานัดมากินกาแฟตอนตีห้าครึ่งและออกไปตั้งบลายด์กัน ไปตั้งแต่ฟ้ามืด ๆ เพราะกะเต็นใหญ่จะเซ้นส์สิถีฝกับกลิ่นมนุษย์ เราต้องเงียบกันจริง ๆ แต่ฉันก็ป่วยก่อน หายใจลำบาก และบ่อยครั้งที่สั่งน้ำมูกและไปเสียงดัง กังวลอยู่เหมือนกันว่านกจะไม่มาตรงที่หมาย

เราเงียบอยู่ในบลายด์จนสาย ก่อนแปดโมงจะมีนกออกมาหากินตลอด ที่มาเป็นพระเอกนางเอกของเช้านี้คือนกกะเต็นน้อยธรรมดา (Common Kingfisher) ชื่อคอมม่อนแต่ไม่ค่อยจะคอมม่อนนะ สีปีกยังฟ้าสดงดงาม พวกเขาเป็นนกอพยพ ไม่ใช่นกประจำถิ่น อย่างที่สระน้ำหน้าบ้านเรา จะพบเขาทุกปลายเดือนสิงหาคม มาทุกปีและก็กลับบ้านเขาเมื่อเข้าฤดูร้อน

เช้านี้กะเต็นน้อยธรรมดาทั้งเพศผู้เพศเมียออกมาหาปลากินกันสำราญใจ สลับกับนกกะเต็นอกขาว ( White throated Kingfisher) ซึ่ง หัว หลังตอนบน ไหล่และท้องสีน้ำตาลเข้ม คอและอกขาว ปากแดงสด ปีก หลังและหางสีฟ้าเข้ม หลังตอนล่างและตะโพกสีฟ้าวาว ขาและตีนแดง ขณะบินมีแถบขาวใหญ่ที่ปีก ตัวใหญ่มากและพบบ่อย เช้านี้เขาก็เกาะให้เราชมแบบสามร้อยหกสิบองศา ย้ายไปทางไหนก็เห็นเขา เก็บภาพจนอิ่มพอควรระหว่างรอการมาของพี่กะเต็นขาวดำใหญ่ พระเอกท้องถิ่นของเมืองคอง

รอจนแปดโมงเช้า สามีบอกว่า เห็นหัวนกฟู ๆ ตรงเกาะกลางด้านขวามือ ใช่หรือเปล่า ลองดูซิ
เราก็เอากล้องไล่หา ใช่แล้ว เขาออกมาแล้ว แต่ไกลมาก ๆ และเห็นแค่หัวฟูกระจายโผล่เหนือเนินหญ้าเล็กน้อย เรายิงภาพไว้เป็นเรคคอร์ดก่อน แต่ภาพไกลและไม่ชัด ไม่รู้ว่าเพื่อน ๆ เห็นนกกันหรือยัง เพราะอยู่ทางขวามือ ไม่ได้มาเกาะหมายหน้าบลายด์ของพวกเรา ฉันเก็บภาพได้ตอนเขาหันซ้ายหันขวาเหมือนดูลาดเลา ไม่วางใจที่จะมาหากินตรงที่เคยมา จากนั้นเขาก็บินไปเกาะที่ต้นฉำฉา เป็นมุมบังซึ่งเรามองไม่เห็นแล้ว

รอจนถึงสิบโมงครึ่ง คิดว่ากินแห้วกันอีกตามเคย เขาไม่มาตามที่เราหวัง เราเห็นใจกลุ่มนักดูนกสามคนที่เดินทางมาจากพัทลุง รวมทั้งคุณลุงทีและคุณลุงอารากันนี่แหละ เพราะเราสองคนกลับมาเมื่อไรก็ไม่ยากมาก

หลายคนไม่เข้าใจว่า ดูนกกันไปทำไม ไม่เห็นจะสนุกตรงไหน ไปวิ่งยังพอนึกภาพออกว่ามันมีอะไรบ้าง ได้ต่อสู้ ได้ออกแรง ได้เหงื่อและมิตรภาพแบบที่ใครต่อใครเล่าถึงกัน

แต่ก่อนเราก็บ้าพยายามหาคำตอบมาให้ พยายามคิดเหตุผลที่ฟังเข้าท่า แต่บางอย่างก็ไม่เห็นจะต้องตอบอะไร เราทำอะไรไร้สาระ ไม่เข้าท่าแบบไม่มีคำตอบมากมาย ความีสาระกับไร้สาระเป็นสมดุลของชีวิตได้เหมือนกัน อายุปูนนี้แล้ว อยากทำอะไรก็ลงมือทำเถอะ อาจจะมีแรงจูงใจจากคนอื่นนำทางบ้าง นอกนั้นก็ไปค้นหาด้วยตัวเอง หากไม่อยากทำอะไรก็เป็นเหตุผลส่วนตัวอยู่ดี นอนอยู่บ้านสบายกว่า บ้างก็ว่า ถ้าชอบการเปลี่ยนแปลงให้ออกเดินทางหรือทำอะไรใหม่ ๆ แต่ถ้าไม่ชอบการเปลี่ยนแปลงก็อยู่กับที่ สบายดีเหมือนกันนะ แต่ไม่ว่าจะทำอะไรหรือไม่ทำอะไรก็อย่าไปเบียดเบียนใครเป็นพอ เราก็หวังว่าความสุขเล็ก ๆ ของเราคงไม่ไปเบียดเบียนพื้นที่ของใครให้อึดอัดหรือรำคาญใจ ไม่ชอบก็ข้าม ๆ ไปก็เท่านั้น



ขอบคุณค่ะ
ภูพเยีย
6 มกราคม 2562









Create Date : 08 มกราคม 2562
Last Update : 8 มกราคม 2562 10:10:29 น.
Counter : 1281 Pageviews.

3 comment
1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  

ภูเพยีย
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 24 คน [?]



  •  Bloggang.com