Group Blog
All Blog
--- น ก ฟ้ า แ ล ะ น า ง พ ญ า เ สื อ โ ค ร่ ง ---





























เช้าวันเสาร์ เราตื่นแต่ตีสามเพื่อจะซ้อมวิ่งยาว ตั้งใจว่าจะวิ่งช้า ๆ ไปเรื่อย ๆ ให้ครบสี่ชั่วโมง ไม่สนใจว่าจะได้กี่กิโล ตั้งใจว่าจะไม่เดินตลอดสี่ชั่วโมงเท่านั้นเอง

อากาศตอนตีสามราว ๆ 11 องศา อาจจะไม่หนาวมากสำหรับคนอื่นแต่สำหรับฉันมันแทบจะไม่ไหว ทรมานตั้งแต่พาตัวเองออกจากเตียงนอนมานั่งกินขนมปังและกล้วยหอม เปลี่ยนเสื้อผ้าที่ต้องเพิ่มผ้าบัฟสองผืน คลุมหัวและสวมที่คอ สวมเสื้อแจ๊กเก็ตไปก่อนแล้วค่อยถอดทีหลังได้แต่ก็ลืมสวมถุงมืออยู่ดี คิดว่าวิ่งไปอากาศน่าจะอุ่นขึ้น จนแล้วจนรอดก็ไม่ได้ถอดเสื้อแจ๊กเก็ตเลย วิ่งไปอย่างนั้นจนครบเวลาที่ตั้งใจไว้

ขณะวิ่ง พยายามคุมใจให้อยู่กับก้าววิ่งเพราะรู้ว่าวันนี้มันไกลและต้องเหนื่อย แต่เพราะว่าจะไปช้า ๆ ไม่อยากเจ็บและอยากรู้สภาพร่างกายตัวเองด้วย ค่อย ๆ วิ่ง ค่อย ๆ ไป ใจนิ่งกว่าที่เคยเป็นมา ไม่วอกแวก ไม่เบื่อ ไม่กระวนกระวายอยากให้จบ แวะจิบน้ำทุกกิโลที่ 5 จากที่เคยจิบทุกกิโลที่สองหรือสาม จะด้วยอากาศเย็นด้วยก็ได้ที่ทำให้ไม่ค่อยหิวน้ำและไม่ค่อยเหนื่อย คู่วิ่งเจ็บหัวเข่ามาก ไม่ทราบเพราะสาเหตุอะไรหรือเพราะเร่งตัวเองวันวิ่งมินิมาราธอนงานใกล้บ้านนั่นหรือเปล่าไม่ค่อยแน่ใจ แต่ถ้าเจ็บ ควรเซฟร่างกายเลย ไม่ต้องฝืนมาก ไม่คุ้ม แต่เขาก็เดินเป็นเพื่อนจนครบสี่ชั่วโมงเช่นกัน

เราจบจากการวิ่ง ยืดเหยียดและกลับบ้านกินกาแฟกัน เป็นเช้าที่สดชื่นอีกวันแต่เราตั้งใจจะขึ้นดอยไปดูนางพญาเสือโคร่งที่สันติวนาและบ้านผาแดง ปีที่แล้วบานเร็วกว่านี้ไปหนึ่งสัปดาห์เพราะดูภาพเก่าที่เราไปดอย ปีนี้ดอกไม้บานช้าเนื่องจากฝนฟ้าอากาศแปรปรวน เจอหางปาบึกเข้าไปทำให้นางพญาเสือโคร่งมีแต่ใบ แต่กระนั้นก็อยากไปดูอยู่ดี

เราไปรับน้องออยด้วย เธออยากไปชมนางพญาเสือโคร่งและดูนกกับเรา ก่อนไปใช้เวลาบนนั้น แวะกินข้าวเติมพลังก่อน ฉันคงทนไม่ไหวถ้าหิว ดูนกไม่สนุกแน่ ๆ อาการหิวนั้นปั่นป่วนมากในทุกกิจกรรม วิ่งตอนที่ท้องว่างเกินไปก็ไม่สนุก ใครเคยวิ่งตอนท้องว่างจะเข้าใจ อยากจะจบไว ๆ คิดถึงแต่เมนูอาหารวุ่นวายในหัว สมาธิหายหมด

เราไต่ดอยไปที่หมู่บ้านสันติวนา แทบไม่มีใครจอดชมดอกไม้เหมือนปีที่แล้ว มีแต่รถเราจอดและเราสามคนเท่านั้น รถแต่ละคันแล่นลิ่วและผ่านไป

นกวันนี้ก็เหมือน ๆ ปีที่แล้ว ขาดแต่นกปรอดหัวขาว นกปรอดดำ มีแต่ปรอดหัวโขนหรือเจ้าปิ๊ดจะลิว นกสามัญประจำบ้านนี่แหละ เราเห็นพวกเขาบ่อยรอบ ๆ บ้าน ร้องเสียงไพเราะและน่ารัก แต่วันนี้ดูน่ารักมากยิ่งขึ้นเมื่ออยู่ท่ามกลางดอกไม้สีชมพู














กลีบบางและสีชมพูของนางพญาเสือโคร่งจะไม่ชมพูเข้มเหมือนซากุระ ละมุนละไม นุ่มนวลและอ่อนโยน สีหวานชวนชื่นใจ สายลมหนาวโชยมาบางเบาพอเห็นใบไม้ไหวสั่น ใบเล็กระริกพลิกพริ้วพอ ๆ กับหัวใจฉันยามนี้ นานแล้วสินะที่ไม่ได้มาอยู่ท่ามกลางธรรมชาติ อากาศสดชื่นและเวลาเนิบช้าแบบนี้ ความสุขคนละอย่างกับการออกวิ่ง

การวิ่งเป็นความรู้สึกยิ่งใหญ่ในใจ เป็นเรื่องราวใหม่ ๆ ในชีวิต เปลี่ยนตัวเองหลายอย่าง หนักแน่นขึ้น ใจเย็นและนิ่งขึ้น แค่ออกวิ่งได้ในแต่ละวัน ทำให้เกิดรอยยิ้มในใจไดเมื่อนึกถึง ไม่น่าเชื่อว่าวิ่งจะกลายเป็นชีวิตประจำวันได้ ปีนี้คงไม่ตะลอน ๆ ไปวิ่งที่นั่นที่นี่มากเหมือนก่อน ความกระหายอยากลดลง ควรทะนุถนอมและสงสารร่างกายบ้าง อย่าให้มันเหนื่อยล้าจนบาดเจ็บเพราะเราไม่ได้วิ่งเพื่ออวดหรือประกาศศักดาหรือต้องการให้ใครมายอมรับ ถึงจะวิ่งช้าและไม่เคยทำลายสถิติตัวเองใด ๆ เลย แต่ความสุขและความภูมิใจในสิ่งที่เกิดขึ้น เราต้องสัมผัสเอง ความรู้สึกของคนอื่นนั้นเราไม่มีวันหยั่งถึงหรอกต้องรู้สึกได้ด้วยตัวเอง



เช้านี้ ฉันเก็บภาพนกน้อยไปเรื่อย ๆ นกธรรมดาดูพิเศษขึ้นเมื่ออยู่กับดอกไม้แสนสวย เป็นความใจดีของธรรมชาติทั้งที่ดอกไม้ก็ทำหน้าที่โดยไม่เคยเกี่ยงงอน และคงไม่รู้หรอกว่าตัวเองสวย

วันนี้ฉันมีนกและดอกไม้มาฝากค่ะ ...
(เพื่อน ๆ สามารถคลิกที่ภาพเพื่อจะเห็นภาพใหญ่ขึ้นได้นะคะ :) )
















นกเขียวก้านตองหน้าผากสีทอง เพศเมีย






นกเขียวก้านตองหน้าผากสีทอง เพศผู้
เขาไม่ค่อยออกมาให้เก็บภาพมากนัก
จะซ่อนอยู่หลังกิ่งและดอกสีชมพูระยะไกล
แต่ฉันก็เก็บภาพไว้เป็นที่ระลึก

















































นกปรอดหัวโขนหรือนกหัวจุก(ไม่มีกรง)
ฉันไม่ชอบชื่อเรียกเขาว่า นกกรงหัวจุก
คงไม่มีนกชนิดไหนอยากอยู่ในกรงเพื่อมาประชันเสียงร้อง
เพื่อสนองความสุขและสร้างความบันเทิง
รวมถึงการพนันขันแข่งของคนหรอก


























นกแว่นตาขาวสีทอง

นกน้อยแสนน่ารักที่พบเยอะในทุก ๆ ที่ เขาจะอยู่รวมกันเป็นฝูง วันนี้ก็เจอนกแว่นตาขาวสีทอง นกแว่นตาขาวสีข้างแดงและนกแว่นตาขาวหลังเขียว ซึ่งดูคล้าย ๆ แว่นตาขาวสีทอง ต่างกันตรงท้องจะมีสีเทาตลอดไม่มีแถบเหลืองแบ่งกลางท้อง

เราดูเผิน ๆ ก็รู้ว่านกก็น่ารักแล้ว หากอยากรู้จักมากขึ้นก็ต้องใช้เวลากับมันจะได้แยกแยะขึ้นได้อีกนิดว่าคนละชนิดกัน

ก็เหมือนคนเรานี่แหละ เวลาที่เราอยากรู้จักใครสักคนมากขึ้น ก็ต้องให้เวลากับเขา สนใจ ใส่ใจและมีใจต่อกัน ว่ากันว่า มิตรภาพนั้น บางทีเกิดขึ้นง๊ายง่ายเพียงแค่เคมีตรงกัน มิตรภาพเกิดจากทั้งสองฝ่ายไม่ใช่ฝ่ายหนึ่งฝ่ายใด แต่ทุกอย่างก็ขึ้นอยู่บนโลกธรรมแปด หลีกหนีไม่ได้แม้เราจะไม่อยากให้เกิดขึ้น บางคนที่เราคบหากันมายาวนาน อยู่ ๆ ก็หลุดหายไป ต่อไม่ติด อะไรที่เคยดีต่อกันก็เหมือนไม่รู้จัก ดูว่างเปล่า ได้แต่คิดว่า ครั้งหนึ่งเราเคยดีต่อกันก็พอ ก่อนหน้านี้เราไม่มีเขาเราก็อยู่ได้ เก็บช่วงเวลาดี ๆ เหล่านั้นไว้ เรายังต้องไปต่อ มีอะไรให้คิดอีกเยอะแยะ วันหนึ่งผ่านไปเร็วเหลือใจ อะไรที่ยังไม่ได้ทำก็รีบลงมือทำซะนะ เวลาไม่คอยท่า เ ช่ น ด อ ก ไ ม้ บ า น . . . ไ ม่ เ ค ย ร อ ใ ค ร . . .






ขอให้ทุกท่านมีสุขภาพดีและมีความสุขมาก ๆ นะคะ
ขอบคุณค่ะ
ภูพเยีย






















Create Date : 30 มกราคม 2562
Last Update : 30 มกราคม 2562 9:25:30 น.
Counter : 827 Pageviews.

4 comments

ผู้โหวตบล็อกนี้...
คุณhaiku, คุณวลีลักษณา, คุณKavanich96

  
ภาพนกและดอกไม้ ถ่ายได้สวยมากเลยค่ะ

ที่บ้านจะเอาน้ำใสถาดไว้ให้นก มากินน้ำ อาบน้ำ จะมีนกปรอดหัวโขน 3-4 ตัวมาเป็นขาประจำช่วงบ่ายๆ ชอบดูเพลินดีค่ะ
โดย: วลีลักษณา วันที่: 30 มกราคม 2562 เวลา:19:22:10 น.
  
ชอบรูปนกเกาะเล่นตรงปลายกิ่งไม้ค่ะ
โดย: โอน่าจอมซ่าส์ วันที่: 1 กุมภาพันธ์ 2562 เวลา:3:03:44 น.
  
แวะมาทักทายครับ
โดย: สมาชิกหมายเลข 5089482 วันที่: 2 กุมภาพันธ์ 2562 เวลา:4:41:02 น.
  
ขอบคุณที่แบ่งปัน
โดย: Kavanich96 วันที่: 4 กุมภาพันธ์ 2562 เวลา:1:55:37 น.
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

ภูเพยีย
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 24 คน [?]



  •  Bloggang.com