Group Blog
All Blog
--- รู้ สึ ก ส ง บ แ ล ะ ป ล อ ด ภั ย ---
















หลายวันก่อน เขียนจดหมายไปบอกความคิดถึงถึงน้องคนหนึ่ง เธอหายไปจากเฟซบุ๊กได้สักระยะใหญ่ ๆ เธอบอกกล่าวก่อนเงียบหายไป ถึงไม่เห็นสเตตัสพูดคุยอยู่บนโลกออนไลน์แต่เรารู้สึกว่าเธอไม่ได้หายไปไหน มีบางอย่างเกี่ยวกับคำพูดของเธอที่กระทบใจเราเมื่อถามถึงความสุข ฉันแค่อยากรู้ว่าเธอมีความสุขกายสบายใจดีหรือเปล่า เธอเงียบไปสักพักก่อนตอบกลับมาว่า ไม่รู้จะเรียกว่ามีความสุขหรือเปล่า แต่เธอรู้สึกสงบและปลอดภัย ใช่ สองคำนี้แหละที่ยังติดค้างอยู่ในใจ

เมื่อวานเป็นวันพิเศษวันหนึ่ง อาจจะไม่แตกต่างจากวันอื่น ๆ ทั่วไปที่ใครต่อใครไม่ได้ให้ความสำคัญ เนื่องจากหลายคนยังมีแม่อยู่ให้คอยปรนนิบัติ ได้ดูแล พูดคุยและเห็นความเป็นไปในแต่ละวัน แต่บางบ้าน บางครอบครัว แม่อยู่บนสวรรค์ แต่แม่ยังอยู่ในบ้าน คงอยู่ในเรือนใจเสมอ มีไหมที่ใครจะคิดถึงใครได้ทุกวัน มีสิ ความผูกพันบางอย่างที่เราเข้าไม่ถึง เขาอาจจะไม่ได้เขียนบอกเราได้ทั้งหมด แต่เรารู้สึกยินดีที่เขาได้บอกเล่า เป็นตัวหนังสือก็ดี เป็นภาพเก่า เป็นความทรงจำผ่านบางสิ่งบางอย่างที่เรารับรู้ได้

หลายคนมีโอกาสได้เป็นแม่ จะเป็นแม่แบบไหนนั้น ขึ้นอยู่กับความคิด ความคิดมีผลต่อการดำเนินชีวิต หลายคนไม่ได้เป็นแม่แต่ต้องมีแม่ และมีความเป็นแม่ในแบบของเขา เป็นความละเอียดอ่อนและพิเศษที่เราสัมผัสได้ หรือนั่นเพราะเราต่างมีความรู้สึกเหล่านี้ตรงกัน

ฉันถามน้องสาวว่า แม่จะน้อยใจหรือเปล่าที่ฉันไม่ได้เขียนกลอนหรือวาดรูปไปโพสต์ให้แม่เหมือนทุกปี ปีนี้ขี้เกียจตัวเป็นขน วันหยุดยาว ได้แต่นอนอ่านหนังสือ ไม่อยากทำอะไรสักอย่าง

เธอว่า ไม่หรอก แม่ไม่ใช่คนขี้ใจน้อย สิ่งที่เราทำทุกวันกับแม่สำคัญกว่า คุยกับแม่ทุกวันแบบนี้แหละ แม่จะได้ไม่เหงา

แต่ถึงกระนั้น ฉันก็ยังอวยพรให้แม่บนเฟซบุ๊กอยู่ดี ทำแล้วสบายใจ แม้ว่าได้ให้เงินพิเศษเล็ก ๆ น้อย ๆ กับแม่แล้ว บอกแม่ว่า ให้น้อยจะได้ซื้อหวยน้อย ๆ ที่เหลือจะได้ซื้ออาหารเลี้ยงแมว แม่หัวเราะใหญ่เพราะรู้ดีว่าลูกต้องมามุกเดิม ๆ ไม่หวยก็แมว

สำหรับลูก ๆ ของฉัน ฉันไม่ได้ขออะไรจากพวกเธอ อยากทำอะไรให้ก็ทำ ไม่อยากทำก็ไม่ต้องทำ ไม่อยากให้อึดอัด กดดันอะไรกันมากมาย เขาชอบอยู่กันเงียบ ๆ สบาย ๆ เป็นธรรมชาติของเขา แต่เขาก็อวยพรให้แม่ง่าย ๆ ไม่กี่คำนะ ซื้อสติ๊กเกอร์ไลน์ให้พ่อกับแม่คนละชุด ขำ ๆ ดี ส่งสติ๊กเกอร์เล่นกันทั้งวัน รู้สึกพ่อแม่อย่างเราสองคนจะเห่อมากเป็นปกติกับสิ่งที่ลูกทำให้ คิดแบบนี้ได้ จึงต้องทำอะไรให้แม่อย่างนี้บ้าง ไม่น่าเชื่อว่าเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ แต่ยังรู้สึกดีได้ขนาดนี้

เราสองคนดูภาพวาดและคำอวยพรของลูกสมัยเด็ก ๆ แล้วขำ ๆ กัน ถ้าครูไม่ให้ทำการ์ดวันแม่เพื่อเอาคะแนน เราคงไม่ได้อ่านอะไรแบบนี้หรอก พวกเขาขี้อายและเก้อเขินที่จะบอกอะไรเราเยอะ ๆ นอกจากแพทเทิร์นเดิม ๆ 'รักแม่ที่สุดในโลกกกกกกก' หรือการได้กอดกันทุกวัน

ปีนี้ลูกไม่ได้มาบ้านเพราะมีสอบ แต่พ่อของเขาจะเข้าไปประชุมทั้งอาทิตย์ เธอน่าจะดีใจกับเรื่องนี้มากกว่าเยอะ

ก่อนออกบ้าน สามีฉันถามถึงหนังสือแนวสืบสวนสอบสวนที่ฉันอ่าน เพราะอ่านจบเรื่องนึง ฉันก็เล่าให้เขาฟัง ประเภทไซโคกันสุดฤทธิ์ว่างั้นเถอะ เพราะคนที่เขียนหนังสืออสามัญฆาตกรรมนี้เป็นกวี นักวิ่งและนักเขียนที่ฉันไม่เคยรับรู้มาก่อนว่าเขาเขียนแนวนี้ด้วย

ฉันดีใจนะ ที่เขาอยากอ่าน 'อสามัญฆาตกรรม'ด้วย เล่มนี้เลยได้อ่านสองคน ฉันจะได้มีเพื่อนคุยถึงเนื้อหาในหนังสือ เพราะทุกวันนี้ ฉันชวนเขาดูละครหลายเรื่อง ดูเพื่อจะได้มีเพื่อนคุย วิเคราะห์ตัวละครอย่าง นิราในใบไม้ปลิดปลิว และแม่อย่างสินจัยในบริบทแม่ในละครเรื่องด้ายแดง

แต่สองสามวันนี้ฉันอ่านเล่มนี้ค่ะ ' มายด์ฮันเตอร์ ล่าปมวิปลาส ยอดฆาตกร'

เล่มนี้เพื่อนนักเขียนคนนึงฝากมาให้ บอกมาบาง ๆ ว่า เขามีส่วนช่วยแปลเล่มนี้ครึ่งเล่ม แต่ไม่ได้ออกชื่อในหนังสือ เขาถามก่อนว่า ชอบดูหนังแนวทริลเลอร์หรือเปล่า ฉันตอบว่า ชอบสิ ไม่ได้ตอบไปงั้น ๆ เพื่ออยากได้หนังสือหรอกนะ

หนังแนวทริลเลอร์ฆาตกรรม ไม่ว่าจะ The Silence of the Lambs , The Cell, Zodiac , Mystic River, Sleepers, Insomnia, หรือซีรีย์อย่าง Hannibal (เรื่องนี้ฉันได้อ่านหนังสือและดูมากกว่าสองรอบในแต่ละภาค ชอบกำเนิดฮันนิบาลมากที่สุดหลังจากที่ได้ดูอำมหิตไม่เงียบเป็นตอนแรก )

ตอนดูหนังที่มีตัวละครผู้ร้ายเป็นฆาตกรต่อเนื่อง เราจะรู้สึกว่าพวกเขาเป็นโรคจิต น่ากลัว เลวทรามสุดขีด อะไรที่ทำให้คน ๆ หนึ่งกลายเป็นอาชญากรผู้โหดร้ายได้เพียงนี้

ในหนังสือ ' มายด์ฮันเตอร์ ล่าปมวิปลาส ยอดฆาตกร' เป็นเรื่องจริงซึ่งเขียนโดยอดีตเจ้าหน้าที่หน่วยสนับสนุนการสืบสวนของเอฟบีไอ จอห์น ดักลาส บอกเล่าถึงเบื้องลึกคดีตลอดชีวิตการทำงาน 25 ปีของเขา ได้ทำการวิเคราะห์เชิงจิตวิทยาของผู้ต้องหา จำแนกทั้งบุคลิกลักษณะ คาดการณ์พฤติกรรมและสาเหตุอันเป็นแรงจูงใจให้เกิดการฆ่า แต่ผู้เขียนหนังสือเล่มนี้ซึ่งเป็นนักวิเคราะห์พฤติกรรมอาชญากรของเอฟบีไอตัวจริง พาเราเจาะลึกลงไปในจิตใจของฆาตกร ทำให้ฆาตกรเหล่านั้นกลายเป็นเด็กยังไม่สิ้นกลิ่นน้ำนมไปเลย

อ่านตอนแรก ๆ ดูจะเป็นวิชาการไปหน่อย แต่พอเข้าที่เข้าทาง หนังสือเชิงสารคดีผสมอัตชีวประวัติจริงเล่มนี้ ทั้งโหด ทั้งมันและตื่นเต้นไม่แพ้การอ่านนิยายและภาพยนตร์ที่เคยดูมาค่ะ

ฉันนึกถึงคำของน้องที่พูดว่า รู้สึกสงบและปลอดภัยขึ้นมา ภาวะอารมณ์ขณะอ่านหนังสือแนวทริลเลอร์ฆาตกรรมที่ทำให้ฉันตื่นเต้น สะพรึงกลัว แต่ยังรู้สึกสงบและปลอดภัยไปพร้อม ๆ กัน นั่นเป็นเพราะฉันจมดิ่งและถูกกลืนไปกับการอ่านหนังสือที่ถูกใจด้วยก็เป็นได้ เป็นช่วงเวลาที่ดีเหมือนกับการวิ่งระยะยาวนั่นแหละ เกิดสมาธิ ได้อยู่กับความรู้สึกของตัวเองและจังหวะที่ตัวเองชอบ บอกใครก็ไม่ลึกซึ้งเท่าเขาจะรู้สึกได้ด้วยตัวเอง

ขอบคุณค่ะ
ภูพเยีย


















Create Date : 13 สิงหาคม 2562
Last Update : 13 สิงหาคม 2562 9:23:22 น.
Counter : 566 Pageviews.

0 comments
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

ภูเพยีย
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 24 คน [?]



  •  Bloggang.com