Group Blog
All Blog
--- ค ว า ม ท ร ง จำ ข อ ง ฉั น วั น ที่ ๒ ๖ ตุ ล า ค ม ๒ ๕ ๖ ๐ ---































































วันนี้นั่งชมพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร อยู่ที่บ้านตั้งแต่เช้าจนห้าโมงเย็น พระราชพิธีสง่างาม ขรึมขลัง ศักดิ์สิทธิ์และสมพระเกียรติ จากนั้นก็ไปวัดพระเจ้าพรหมมหาราช เพื่อร่วมถวายดอกไม้จันทน์

อากาศโปร่ง ฟ้าใสในช่วงเช้าและครึ้มฟ้าครึ้มฝนช่วงบ่าย ฝนโปรยลงมาหลังจากที่ในหลวงรัชกาลที่ ๑๐ ทรงเสด็จพระราชดำเนินกลับ

ฉันออกจากจอทีวี ขี่เจ้าฟีโน่ฝ่าฝนไปวัด คนที่บ้านซึ่งอยู่วัดตั้งแต่เช้าเล่าให้ฟังสั้น ๆ ว่า ช่วงค่ำนี้คงมีคนทยอยมาอีกรอบ ช่วงเช้าคนในอำเภอทยอยมาแน่นเต็มลานและที่นั่งในเต็นท์ เดี๋ยวรอพิธีอัญเชิญไฟพระราชทานไปสู่พระเมรุมาศจำลองตอนทุ่มตรง เราจึงจะได้ถวายดอกไม้จันทน์อีกรอบ

หัวค่ำฝนเริ่มตก จากปรอย ๆ ก็เป็นเส้นฝอยและตกหนักขึ้นเรื่อย ๆ ตอนที่เจ้าหน้าที่อัญเชิญไฟหลวงพระราชทานเดินไปสู่พระเมรุมาศจำลอง ทุกคนที่มาร่วมงานยืนสำรวม สงบเงียบ ยกเว้นเสียงฝนราวรับรู้เสียงร่ำไห้ในใจพวกเรา

พระราชพิธีดำเนินไปอย่างเรียบง่ายท่ามกลางสายฝนนั้น หลังจากเจ้าอาวาส คณะสงฆ์และข้าราชการผู้ใหญ่ของอำเภอถวายดอกไม้จันทน์แล้ว เราก็เข้าแถวเพื่อถวายดอกไม้จันทน์

เจ้าหน้าที่จัดให้เราเข้าแถว ๆ ละหกคน และบอกให้เราทราบว่า ให้หยิบดอกไม้จันทน์ด้วยมือซ้ายขึ้นมาแนบอก หันดอกไม้จันทน์ออก รอเจ้าหน้าที่บอกถวายความเคารพ ผู้ชายให้คำนับ ผู้หญิงให้ถอนสายบัว ถ้าถอนสายบัวไม่เป็นหรือย่อไม่ได้ให้คำนับ จากนั้นวางดอกไม้จันทน์ด้วยมือขวา และถวายความเคารพอีกครั้งก่อนเดินออกไปทางขวาและรับหนังสือที่ระลึกจากงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพในหลวงรัชกาลที่ ๙

ฉันไม่ได้เก็บภาพในงานนอกจากภาพสายฝนก่อนออกมาเข้าแถวสองสามภาพ หัวใจว่างโหวงบนใบหน้าสงบและเรียบเฉย เหมือนวันนี้ เดือนที่แล้ว ฉันกำลังอยู่ในงานพระราชทานเพลิงศพพ่อของฉัน ฉันรู้แต่ว่า ฉันต้องเข้มแข็งและจัดงานครั้งสุดท้ายให้สมเกียรติของพ่อ ฉันคิดถึงพ่อมาก คิดถึงสุดหัวใจแม้รู้ว่าพ่อไปสบายแล้วแต่ก็คิดถึง...

แต่คืนนี้ ฉันคิดถึงในหลวง คิดถึงความรักและสิ่งที่พระองค์ทำเพื่อประชาชนมาตลอดชีวิต ไม่มีคำราชาศัพท์หรือคำใดที่แทนใจได้เท่าความรู้สึกนี้ รู้สึกสำนึกในใจว่า ฉันจะทำหน้าที่ของฉันให้ดีและจะเป็นคนดีสมกับที่เกิดมาใต้ร่มพระบารมีของพระองค์ท่าน

หลังจากถวายดอกไม้จันทน์แล้ว ฉันขี่มอเตอร์ไซค์ฝ่าสายฝนกลับบ้านเลย ได้ชมโขนหน้าพระราชพิธีต่อจนสี่ทุ่ม ทุกขั้นตอนของพระราชพิธียิ่งใหญ่สมพระเกียรติของพระองค์ท่าน ความรักของพระองค์ท่านไม่เคยหายไปไหน ความรักของพระองค์ท่านอยู่ที่นี่ บนผืนแผ่นดินและในดวงใจปวงชนชาวไทยตราบนิรันดร์

น้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้นหาที่สุดมิได้
๒๖ ตุลาคม ๒๕๖๐


















Create Date : 27 ตุลาคม 2560
Last Update : 27 ตุลาคม 2560 15:11:21 น.
Counter : 2704 Pageviews.

1 comment
--- วั น ที่ ๒ ๖ ตุ ล า ค ม ๒ ๕ ๖ ๐ ---



















เมื่อวานนี้ ฟ้าไชยปราการยังฉ่ำไปด้วยสายฝน หมอกฝนคลุมฟ้าจนเป็นฝ้าขาวขุ่นไปทั่ว สิ่งที่บังดวงอาทิตย์ในเช้านี้เป็นหมอกฝนหรือความหมองหม่นมืดมิดในหัวใจเรากันแน่ วันพรุ่งนี้แล้วสินะที่เราไม่อยากให้มาถึงเลย แต่เราหรือจะเอาชนะกฎเกณฑ์ของธรรมชาติ

ฉันขอคนที่บ้านให้ช่วยพาไปที่วัดป่าไม้แดง พระเจ้าพรหมมหาราชในเช้านี้ก่อนเพราะอยากชมพระเมรุมาศจำลองในพิธีถวายดอกไม้จันทน์ของอำเภอก่อนวันงานจริง เพราะวันงาน คงไม่เหมาะที่จะถ่ายภาพต่าง ๆ เก็บไว้นอกจากสายตา

ปราฏว่า เช้านี้ยังไม่แล้วเสร็จ มีจิตอาสาช่วยงานกันมากมายรวมทั้งคนที่บ้านด้วย เลยคิดว่า ค่ำคืนนี้จำเป็นต้องเรียบร้อยเพราะงานพิธีจะเริ่มวันพรุ่งนี้แล้ว ภาวนาอย่างเดียวว่า อย่าให้ฝนฟ้ากระหน่ำแบบไม่ลืมหูลืมตาเหมือนที่ผ่านมาสองวันเต็ม ๆ อีกเลย





































































ราว ๆ ทุ่มตรง เราสองคนไปที่วัดป่าไม้แดงอีกครั้ง อากาศปิด ครึ้มฟ้าครึ้มฝนจนน่าวิตก แต่พระเมรุมาศจำลองสำหรับประกอบพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร วันที่ 26 ตุลาคมนี แล้วเสร็จอย่างสวยงามสมพระเกียรติของพระองค์ท่าน (ด้านซ้ายมือจะมีพระเมรุมาศจำลองตามแบบของทางราชการ และพระเมรุมาศที่ทางเจ้าอาวาสให้สร้างขึ้นตามแบบล้านนาเพื่อถวายดอกไม้จันทน์ในวันจริง สวยงามและเป็นเอกลักษณ์ )


หลังจากเก้บภาพเสร็จ เราออกซ้อมวิ่งเหมือนเช่นทุกวัน ฟ้าฝนทำท่าจะตกอีกครั้ง เราวิ่งได้เพียงห้าสิบนาที ฝนก็ตกโปรยปราย อดใจหายไม่ได้ เราไม่ควรกังวลสิ่งที่ยังมาไม่ถึง แต่ก็ไม่คิดอะไรไปมากกว่านี้ ไม่ควรทุกข์ล่วงหน้า ไม่ว่าจะอย่างไร เราไม่คิดว่าฝนฟ้าคืออุปสรรคที่มาลบหรือหยุดยั้งความตั้งใจของเราได้


ค่ำคืนนี้ น้องชายของฉันก็เตรียมชุดใหญ่เต็มยศพร้อมติดเครื่องราชอิสรียาภรณ์ชั้นสูงสุดของเขาสำหรับงานพิธีถวายดอกไม้จันทน์ที่ชัยภูมิ เขาส่งภาพที่ติดเครื่องราชอิสรียาภรณ์จนครบมาให้ชมเป็นบุญตาสำหรับคนที่ไม่ได้รับราชการอย่างฉันและน้องสาว ดูยังไงก็ไม่ทราบว่า แต่ละเหรียญเครื่องราชฯที่ใช้ประดับเกียรตินั้นมียศฐาบรรดาศักดิ์อย่างไร นอกจาเชิดชูและภูมิใจไปกับเขาด้วย น้องชายเล่าให้ฟังคร่าว ๆ ว่า ได้ใช้เหรียญเครื่องราชอิสรียาภรณ์ของพ่อพอดี

ส่วนคนที่บ้าน ก็เตรียมชุดใหญ่เต็มยศสำหรับงานพิธีในวันพรุ่งนี้เช่นกัน เป็นข้าราชการก็ต้องแต่งกายให้สมพระเกียรติพระองค์ท่าน อย่างเรา ๆ ก็แต่งกายด้วยชุดสุภาพที่ดีที่สุดเท่าที่เราจะหาได้ สำรวมกาย วาจา ใจ น้อมถวายดอกไม้จันทน์ในวันพรุ่งนี้เช่นกัน



เช้าวันที่ ๒๖ ตุลาคม ๒๕๖๐


ตอนตีห้า ฉันฝันว่าได้เข้าเฝ้าสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯสยามบรมราชกุมารี ไม่ทราบว่าเป็นงานอะไร แต่ทุกคนใส่ชุดไทยจิตรลดาสีดำกันทุกคน และฉันเป็นคนสุดท้ายที่หมอบ ๆ คลาน ๆ เข้าไปรับถุงทองของชำร่วยพระราชทานอะไรสักอย่างจากพระหัตถ์พระองค์ท่าน คนที่หมอบข้าง ๆ พระองค์ท่านเสียงเข้มกับฉันว่า อย่าหมอบขนาดนี้ คลานคุกเข่าเข้ามาแล้วทำมือเอางานก่อนรับของจากพระองค์ท่าน

ฉันก้ม และเงยหน้ามองพระพักตร์พระองค์ท่านและเอางาน ปีติล้น ตื้นตันใจว่า ทำไมถึงโชคดีมีบุญที่มีโอกาสได้ใกล้ชิดพระองค์มากขนาดนี้ คลานสองเข่าออกมาและดูถุงทองพระราชทานเล็ก ๆ นั้น เป็นยาเม็ดสีส้ม ยาแก้ปวดลดใข้ที่บ้านฉันขายมากที่สุด นับเป็นยาหลักของบ้านเลยก็ว่าได้บรรจุอยู่ในถุง มีใครสักคนมาขอถุงทองในมือนี้ ฉันก็ยินดีจะให้เขา แต่สะดุ้งตื่นก่อนพอดี คนที่บ้านมาปลุกเพราะเขากำลังจะออกไปงานพิธีถวายดอกไม้จันทน์ที่วัดป่าไม้แดง พระเจ้าพรหมมหาราชแล้ว


ฉันเล่าให้เขาฟัง ก่อนเห็นเขาใส่ชุดใหญ่สีขาวออกบ้านไป ฉันเขียนเล่าให้แม่และน้องฟังในไลน์ เป็นฝันดี รู้สึกตัวเองมีบุญมาก ๆ ที่ได้ใกล้ชิดพระองค์ท่านที่สุดแล้ว ขอพระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน










บันทึกเช้าวันที่ ๒๖ ตุลาคม ๒๕๖๐
ขอน้อมส่งเสด็จสู่สวรรคาลัย ณ ตรงนี้
ฉันจะทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีและจะเป็นคนดี
ด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้ตราบนิรันดร์




















Create Date : 26 ตุลาคม 2560
Last Update : 26 ตุลาคม 2560 9:35:13 น.
Counter : 1488 Pageviews.

3 comment
--- แ ส น ส ว ย ---























เช้าวันอาทิตย์ที่ 15 ตุลาคมนี้ เรามีนัดกับงานวิ่งผู้สูงอายุล้านนาซึ่งจัดงานวิ่งการกุศลเป็นครั้งแรก เราตื่นตั้งแต่ตีสี่ อาบน้ำอาบท่าเตรียมไปงานวิ่งเพราะรับบิ๊บราว ๆ ตีสี่ครึ่ง

ฝนตกพรำ ๆ และมีทีม่าว่าจะตกไม่หยุดเสียด้วย เอาล่ะสิ นี่จะเป็นงานวิ่งกลางฝนเหมือนงานวิ่งที่นครพิงค์หรือเปล่านะ ไม่ว่าจะอย่างไร เราก็ไป ไหน ๆ ก็เคยวิ่งกลางฝนมาแล้ว สนุกไปอีกอย่าง

ไปถึงหน้างาน เราอาจจะมาเช้าไปหน่อยหรือเปล่า ดูเหมือนเงียบ ๆ ไม่ค่อยมีนักวิ่งสักเท่าไหร่ ฝนก็ตกเรื่อย ๆ เลยนั่งกินกาแฟและขนมปังในรถก่อนจะไปรับบิ๊บ

แต่ยิ่งใกล้เวลาปล่อยตัว แม้ฝนจะตกปรอย ๆ ไม่ขาดสายแต่นักวิ่งยังทยอยมาสมัครหน้างานไม่ขาดสายเช่นกัน ผู้จัดงานก็บอกจำนวนนักวิ่งคร่าว ๆ ว่ามีกว่าแปดร้อยคน นับว่าไม่น้อย ดีใจที่มีนักวิ่งเชียงใหม่และจากที่อื่น ๆ มาร่วมงานวิ่งนี้ด้วยกัน

เราวอร์มร่างกายจนเหงื่อซึมนิด ๆ คิดแค่ว่าพอให้วิ่งสบาย ๆ กะจะไปสบาย ๆ ไม่กดดันอะไรเพราะระยะทางไม่ถึงสิบกิโล ไกลกว่าฟันรันไปนิดหน่อย

พอถึงเวลาปล่อยตัว หลังหกโมงเล็กน้อย ถนนเปียกและยังพอมีฝนอยู่บ้าง อากาศกำลังสบาย เราสองคนก็วิ่งตามนักวิ่งคนอื่นไป กะว่าจะวิ่งสบาย ๆ แต่เมื่อถึงหนึ่งกิโลก็ดูนาฬิกาบอกเพซการวิ่ง เราเริ่มที่เพซ 6 กว่า ๆ ซึ่งเป็นความเร็วในการวิ่งมากกว่าเราซ้อมเล็กน้อย เราก็ยังไปต่อโดยไม่ลดลงมาให้เหลือเพซแปดเหมือนที่เราซ้อม คิดว่าอุ่นเครื่องไป ตามเขาไป ระยะทางไม่ไกล ไม่น่าจะหมดแรงก่อน เราคุมเพซ 6.4 ไปจนถึงกิโลที่ 4 หยุดดื่มน้ำ ทำให้เพซเพิ่มไปแตะที่ 7.08 แต่ก็ยังเร็วกว่าที่ซ้อมอยู่ดี จากนี้ เราวิ่งไปตามเสต็ปนี้ล่ะ ถือเป็นวิ่งเทมโป้ไปเรื่อย ๆ ละกัน ที่ไม่รู้สึกเหนื่อยเพราะอากาศเย็นด้วยก็ได้

ความจริง เขาอยากให้เราได้ชมรอบคูเมืองเชียงใหม่ แต่เราคุ้นเคยกับที่นี่พอควร การวิ่งที่ดูไม่จริงจังในคราวแรก กลับดูจริงจังและตั้งใจขึ้น เรายังสนุกอยู่เพราะเราซ้อมสม่ำเสมอ ระยะทางไม่ไกล เราจึงสนุกกับมันได้ ยกเว้น เราไม่ซ้อมเลยและคาดหวังว่า สิ่งที่เคยทำได้ในอดีต มันยังจะทำได้อีก มันอาจจะใช่แต่หลังวิ่งอาจจะเจ็บก็ได้

การฝึกซ้อมทำให้สองกิโลสุดท้ายเราเร่งได้อีก แรงไม่ตก ถือว่าเป็นที่น่าพอใจ เราจบ 7.4 กิโล ดวยเวลา 49 นาที นับว่าใช้ได้สำหรับการตื่นมาวิ่งสนุก ๆ กันในเช้านี้

แต่เราไม่สามารถอยู่ร่วมงานกับชมรมผู้สูงอายุได้ แม้รู้ว่าวันนี้มีการมอบสมุดบันทึกเก็บระยะการวิ่งเพื่อพ่อ ระยะทาง 999 กิโลเมตร เพราะเราต้องพาแสนสวย แมวของเราไปโรงพยาบาลสัตว์เล็กแต่เช้า เธอไม่สบายมาหลายวันแล้วแต่เราเพิ่งรู้เมื่อวานนี้

เช้าวันเสาร์แสนสวยมาหาเราตอนเรากำลังทำกับข้าวเพื่อนำไปฝากลูก ๆ ที่หอเย็นนี้ เธอเดินมาหาแบบระโหยโรงแรง เราจับเนื้อตัวก็ดูซูบผอมซี่โครงเป็นสันกลางหลัง ตกใจมากเพราะอาการซูบซีดเหมือนตอนที่สีตรังป่วยเมื่อปีที่แล้ว ใจคอไม่ค่อยดี จับแสนสวยนอนพักรอในกรง จะพาไปหาหมอเช้านี้เลย

เรารอจนหมอออกจากฟาร์มเพื่อตรวจอาการเบื้องต้นของแสนสวย หมอบอกว่า แสนสวยเป็นมะเร็งที่เต้านม จำเป็นต้องพาปโรงพยาบาลด่วนเลยเพราะทางคลินิกผ่าตัดเคสนี้ไม่ได้

รู้สึกใจหาย แสนสวยป่วยหนักตั้งแต่ตอนไหนเราไม่รู้ ปกติเราไม่ได้มาคลุกคลีกัน ต่างคนต่างอยู่ เราเห็นกันแบบนี้มาห้าหกปีแล้ว

แสนสวยจึงได้มานอนพักที่ห้องของสองสาวเพื่อรอการไปโรงพยาบาลในเช้าวันอาทิตย์หลังจากเราวิ่งจบแล้ว


ที่โรงพยาบาลสัตว์แห่งนี้ มีการทำบัตรใหม่และกรอกชื่อผู้ป่วยของเราคือแสนสวย ฉันลืมใส่นามสกุลของเราลงไป แต่ก็คิดว่ากรอกข้อมูลอื่น ๆ ครบถ้วนแล้ว

เรามานั่งรอคิว ระหว่างนั้น มีสามีภรรยาคู่หนึ่งอุ้มลูกหมารอ มันป่วยจนดูเงื่องหงอยใต้ผ้าห่มของเจ้าของ ส่วนที่นั่งฝั่งขวาน้องผู้หญิงกับหมาตัวโต ๆ และสองหนุ่มสาวกับหมาอีกตัว และที่เพิ่งเข้ามาใหม่คือหญิงสาวกับหมาปั๊กที่มีก้อนเนื้อปูดใหญ่ที่ก้นของมัน

แต่ละคนดูคุ้นเคยกับสถานที่แห่งนี้ เขาทักทายพูดคุยกันราวกับรู้จักกันมานาน หรือพวกเขาสนิทกันง่ายขึ้นเพราะมีสัตว์เลี้ยงเหมือนกันหรือเปล่า เจ้าของสัตว์เลี้ยงดูหน้าตาเป็นคนจิตใจดี สุขภาพดี หมา แมวของพวกเขาดูมีสกุลรุนชาติ ไม่เหมือนกับแสนสวยของเราที่เป็นแมวจร มาจากไหนเราไม่รู้ รู้แต่ตอนคาบลูกมานอนกินนมที่บ้านเราแล้วเท่านั้น จะอย่างไร เราก็รักแสนสวยและลูก ๆ ของมัน อยู่ด้วยกันจนเป็นสมาชิกของบ้านไปตั้งนานแล้ว แสนสวยก็น่ารักสำหรับเราเสมอแม้จะดูซีดเซียวในยามนี้


เสียงเรียกชื่อแสนสวยดังขึ้น ให้เข้าห้องตรวจห้องที่ 6 เราอุ้มแสนสวยออกจากกรงเพราะกลัวแสนสวยตกใจ วิ่งหนีเตลิดเปิดเปิงเพราะไม่คุ้นสถานที่ แต่แสนสวยก็ไม่ได้ทำอย่างที่เราคิด เธอนอนสงบเสงี่ยม ไปไหนไม่ไหวแล้วหรือไม่ก็วางใจเมื่ออยู่ในอ้อมอกของเรา

แสนสวยนอนนิ่งให้ตรวจ พาไปเอกซเรย์ เธอก็ยอมให้หมอพลิกตัวไปมา คงหมดเรี่ยวหมดแรง ไม่ขืนตัวต่อสู้แต่อย่างใด หมอยังชมเลยว่า น้องเรียบร้อยจังนะคะ

เราคิดว่า แสนสวยคงกลัวหมอ ให้ความร่วมมืออย่างคนว่านอนสอนง่าย หรือรู้ลึก ๆ ว่าพ่อแม่พามาที่นี่แล้วเธอจะหาย

หมอเชิญเราสองคนมาดูฟิล์มเอกซเรย์ด้วยกัน มองเห็นก้อนเนื้อที่บวมเต่งเป็นก้อนใหญ่ใต้ราวนม ดูทางเดินอาหารก็ไม่มีอาหารถึงกระเพาะแม้สักน้อย ดูสภาพปอดก็นับว่าดีอยู่ แต่หัวใจเล็กมากเพราะไม่ค่อยมีเลือดมาสูบฉีด เป็นสภาวะขาดอาหารและน้ำอย่างรุนแรง

หมอขอโกนขนที่เท้าหน้า หาเส้นเพื่อให้น้ำเกลือก่อน และรอผลจากการตรวจเลือดว่าจะผ่าตัดในวันอังคารที่จะถึงนี้ได้หรือไม่ และจำเป็นต้องขอแอดมิดแสนสวยไว้ที่โรงพยาบาลเพื่อดูอาการ โชคดีที่มีเตียงผู้ป่วยว่างหนึ่งที่ ไม่งั้นเราต้องเอากลับบ้านและต้องไป ๆ มา ๆ อาจจะไม่ค่อยสะดวกเพราะเราไม่ได้พักในตัวเมือง

แสนสวยไม่เคยเข้าโรงพยาบาล นี่เป็นครั้งแรก อาจจะตื่นตระหนกตั้งแต่เมื่อคืน อาจจะกังวล กลัวสารพัด กระเพาะฉี่เต็ม ไม่ยอมฉี่ ไม่ยอมขับถ่าย ใช้กระบะทรายไม่เป็นเพราะเขาอยู่กับธรรมชาติ อึแล้วกลบตามต้นไม้ตามที่เราเคยเห็น อาจต้องสวนกระเพาะฉี่จะได้สบายขึ้น เห็นแล้วก็เวทนามาก

หมอชี้แจงค่าพยาบาลรักษาเบื้องต้นให้เราทราบ เป็นเงิน 7,700 บาท เรานิ่งฟังเงียบ ๆ เป็นเงินไม่น้อยทีเดียว ยังไม่รวมค่าแอดมิดรายวันและค่าอื่น ๆ ที่เรายังไม่รู้ ไม่ว่าจะการเติมเลือดหรือค่ายารักษา ผ่าตัด จิปาถะ แต่มาถึงขั้นนี้แล้วก็ได้แต่ทำใจ เพราะเราคงทำใจไม่ได้ที่จะปล่อยให้แสนสวยเผชิญกับโรคร้ายไปตามบุญตามกรรม ใครก็ไม่อยากป่วย ใครก็ไม่อยากสร้างภาระให้ใครหรอก โชคดีแค่ไหนที่เราไม่ได้เป็นคนป่วยเสียเอง ได้มีโอกาสดูแลความเจ็บไข้ของแสนสวยก็ดีแล้ว จะดูดายได้อย่างไร อยู่ด้วยกันมากี่ปีแล้วเนี่ย

หลังจากปล่อยแสนสวยไว้ที่โรงพยาบาล เราพาลูก ๆ ไปกินข้าว ซื้อข้าวของเครื่องใช้ เอาภาพพ่อไปเข้ากรอบเพราะจะจัดหิ้งพระใหม่ จากนั้นก็ฝากลูก ๆ ให้ช่วยมาเยี่ยมแสนสวยแทนพ่อแม่ระหว่างนี้


คล้อยหลังไม่เท่าไหร่ คุณหมอโทรมาบอกว่า แสนสวยเกล็ดเลือดต่ำ มีเกล็ดเลือดเพียงแค่หมื่นเดียวจากที่แมวปกติควรมีสองสามแสน ตกลงว่า อังคารนี้ทำการผ่าตัดไม่ได้ เม็ดเลือดขาวสูงอีก อาจมีอาการติดเชื้อ ต้องเลื่อนการผ่าตัดเป็นวันศุกร์แทน ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ต้องดูว่าร่างกายตอบสนองต่อยาหรือเปล่า อาจต้องมีการเติมเลือดด้วย เพราะการผ่าตัดมีโอกาสเสี่ยงกับการวางยาในกรณีที่แมวชรามาก เฮ้อ ช่างน่าเวทนาเสียจริง ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าข้างหน้าจะเป็นอย่างไร แต่ก็ภาวนาให้ปลอดภัย


ฉันพยายามที่จะไม่คำนึงถึงเรื่องค่าใช้จ่ายที่อาจบานปลายไป เพราะไม่รู้ว่าเคสนี้จะยืดเยื้อแค่ไหน แต่เราก็ต้องรักษา เราต้องดูแลตัวเองให้มากจะได้ดูแลแสนสวยได้ด้วย



แสนสวยอาจจะมาบรรเทาความคิดถึงถึงพ่อและเรื่องของพ่อที่เรายังวุ่นวายใจอยู่ก็ได้ ทำให้เราเปลี่ยนเรื่องจดจ่อมาอยู่กับปัจจุบันที่เราต้องดูแลและจัดการกับสิ่งมีชีวิตรอบตัว อยู่ดูแลสัตว์เลี้ยงที่เรารัก ที่กำลังป่วยไข้และต้องการความช่วยเหลือจากเราเพราะเห็นเราเป็นที่พึ่งของพวกเขาจริง ๆ

พ่ออาจจะกำลังบอกเราอยู่ว่า ให้อยู่กับปัจจุบัน ทำสิ่งที่ถูกที่ควรให้ดีเท่าที่เราจะทำได้ หากมีกำลังพอช่วยเหลือใครได้ให้รีบทำ เพราะทุกชีวิตมีค่าและเป็นโอกาสที่เราจะได้ช่วยเหลือกัน


ขอให้แสนสวยมีกำลังใจดีและสุขภาพดีพอที่จะได้รับการผ่าตัดนะ
คิดถึงแสนสวยจริง ๆ












บ่ายนี้ ลูกสาวไปเยี่ยมแสนสวยให้
บอกว่าดูง่วง ๆ ไม่รู้ซึมยาหรือเปล่า
ดีใจที่ลูกไปเยี่ยมแสนสวยกัน








ขอให้ทุกท่านสุขภาพดีและมีความสุข
ขอบคุณค่ะ
ภูพเยีย
16 ตุลาคม 2560



















Create Date : 16 ตุลาคม 2560
Last Update : 16 ตุลาคม 2560 15:19:34 น.
Counter : 751 Pageviews.

1 comment
--- เ พื่ อ น ส มั ย เ ป็ น เ ด็ ก ห ญิ ง ---











ค่ำนี้ ขณะจุดธูปสำหรับแขกที่มาเคารพศพพ่อ มีผู้หญิงผมสีทองยืนอมยิ้มตรงหน้า นัยน์ตาเศร้า เราต่างสบตากันนิ่ง สายตาแบบนี้ รอยยิ้มแบบนี้ที่คุ้นเคยและติดอยู่ในใจ นานแสนนาน ดวงตาฉันเริ่มผ่าวร้อนทั้งที่ตั้งใจจะไม่ร้องไห้ให้ใครเห็น น้ำตาฉันค่อย ๆ คลอเบ้ากลบตาจนเริ่มมองเธอไม่ค่อยชัด....

แอนนนน.... ฉันเรียกเธอแผ่ว ๆ เหมือนอยู่ในภวังค์

แอนแน่เลย เธอยิ้มพร้อมพยักหน้าช้า ๆ เราสวมกอดกันแน่น น้ำตาไหล คิดถึงเธอจังเลยแอน

แอนตบหลังฉันเบา ๆ เสียใจด้วยนะภู พ่อไปสบายแล้ว

อืม .. ขอบคุณนะ ขอบคุณที่มา เพราะพ่อสินะ เราจึงได้เจอกัน งานอื่นก็ช่างไม่มีโอกาส

ดีใจมากนะ ที่เจอเธอ ไม่ได้เจอกันมากี่ปีแล้วนี่ ตั้งแต่สมัยเราเป็นเด็กหญิงอยู่เลย โอ๊ยคิดถึงมาก (กอดดดดดด) แอนจำเค้าได้เหรอ

จำได้ ภูตัวเล็กลง ผมซอยสั้นเหมือนเดิม ดูไม่เปลี่ยนเลย

อยากคุยด้วย อย่ารีบกลับนะแอน ฟังพระสวดก่อน เดี๋ยวคุยกันนะ...

พระสวดจบ ฉันส่งญาติผู้ใหญ่แล้วก็ดิ่งมาหาเพื่อน แอนยิ้มเหมือนตอนเป็นเด็กเลย มีเขี้ยวเสน่ห์ สวยและดูอ่อนเยาว์ กิริยาก็ยังวัยรุ่น เด็กกว่าอายุเยอะ แอนดูสดใส

คิดถึงสมัยปิดเทอมใหญ่เนาะ รอที่จะเจอกัน เค้ามา แอนก็เดินกระมิดกระเมี้ยนไปมา กว่าจะทักกันได้ อายกันอยู่นั่นแหละ จนพ่อต้องเรียกแอนเข้ามาบ้าน ท่ามากทั้งคู่ ฮ่า ฮ่า ฮ่า แอนจำได้หรือเปล่า

จำได้สิ เค้าก็ถามน้าหาญว่า ปิดเทอมแล้วเมื่อไรภูจะมา เค้าก็มีเพื่อนแบบภูคนเดียว เค้าอ่านการ์ตูนญี่ปุ่นเพราะภู เขียนจดหมายเป็นก็เพราะภู หัดดูสนุกเกอร์ เชียร์ลิเวอร์พูล อะไรอีกนะ บ้าหน้ากากเสือตามภู ดูจอมโจรจอมใจและแย่งชอลิ้วเฮียงกัน ตกเย็นก็ขี่จักรยานหนีเจ้าแอมไปสนามเด็กเล่น เค้าก็นั่งเฝ้าภูเล่นบาสฯกับพวกผู้ชาย สารพัดจริง ๆ

น้ำตาฉันไหลอีกครั้ง นึกไม่ถึงว่าฉันมีภาพเหล่านี้ในใจเพื่อน ไม่เคยรู้เลย รู้แต่ว่า ทุกครั้งที่ปิดเทอมและต้องมาบ้านพ่อ เราต้องได้ไปร้านหนังสือด้วยกัน ขลุกและคุ้ยหนังสือการ์ตูนบางเล่มที่ออกไม่ตรงเดือน เราต้องหาให้ครบเซ็ต เราเป็นนักสะสมหนังสือการ์ตูนเหมือนกัน ฉันเกือบลืมไปแล้วถ้าแอนไม่พูดขึ้นมา

ความสุขในเยาว์วัยของเด็กหญิงสองคน

ฉันขอเบอร์แอนไว้ เราไม่เจอกันเลยตั้งแต่จบม.6 ยังไม่รู้ความเป็นไปของแอนเลย รอชีวิตเข้าที่เข้าทาง เราคงมีเรื่องคุยกันอีกมากมายกับช่วงเวลาที่หายไป

ก่อนจาก แอนบอกฉันว่า สงสัยเค้าต้องเริ่มเขียนจดหมายอีกใช่มั้ย เค้าเขียนจดหมายไม่เป็นแล้วนะภู


24 กันยายน 2560















Create Date : 11 ตุลาคม 2560
Last Update : 11 ตุลาคม 2560 13:28:00 น.
Counter : 614 Pageviews.

3 comment
--- ค ว า ม ลั บ ข อ ง ชี วิ ต : ขจรฤทธิ์ รักษา ---











เวลาสอนลูกหรือสอนหลานก็มักจะยกตัวอย่างเป็นคำโบราณมาให้ฟัง
เช่นโบราณว่า สิ่งที่ไม่มีควรอวดคือ อวดรู้ อวดมั่ง อวดมี อวดดี อวดเก่ง
เพราะสิ่งเหล่านี้ พูดโอ้อวดไปแล้วมันมีแต่ส่งผลเสียกับตนเอง
อย่างน้อยก็ทำให้คนอื่นไม่ชอบ คุยกับคนขี้อวดแล้วน่ารำคาญไม่สนุก

แต่ยังมีความลับอีกอย่างที่พยายามเตือนสติลูกหลานอยู่เสมอคือ
นอกจากไม่อวดรวยแล้วต้องไม่อวดจนด้วย
เช่นชอบพูดจนติดปากว่า "จนจังเลย" ไม่มีเงินเลย ลำบากจังเลย
ถ้อยคำเหล่านี้ไม่ถึงกับเป็นคำอัปมงคล แต่มันก็ยังส่งผลเสียต่อตนเองมาก
หากพูดด้วยประโยคแบบนี้บ่อย ๆ ชาตินี้ทั้งชาติก็จะจนยากและลำบากไปตลอด
เหมือนกับเป็นคำสาปที่ตัวเองให้กับตัวเอง

คนที่พูดว่า จนจังเลย ไม่มีเงินเลย ให้สังเกตดูว่า
เขาก็จะเป็นคนแบบนั้น คือจะไม่มีเงินเลย และจนจังเลยไปชั่วชีวิต

ดังนั้นจะมีมากมีน้อย หรือไม่มีเลยก็ไม่ควรพูด
ควรจะจัดการแก้ปัญหาความยากจนหรือความไม่มีเงินไปอย่างสงบเงียบ
ให้ตระหนักรู้ว่า ถ้อยคำดี ๆ นั้นถือเสมือนเป็นคำอวยพรให้กับตัวเอง
ต้องหมั่นฝึก หมั่นปฏิบัติ
ชีวิตต่อไปข้างหน้าจะผ่านพ้นความทุกข์ยากลำบากไปด้วยดี...





ขจรฤทธิ์ รักษา

_/i_










Create Date : 06 ตุลาคม 2560
Last Update : 6 ตุลาคม 2560 8:05:59 น.
Counter : 575 Pageviews.

3 comment
1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  

ภูเพยีย
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 24 คน [?]



  •  Bloggang.com