
ฉันเขียนบันทึกในสมุดบันทึกพร้อมกับวาดรูปแทบทุกวัน เปลี่ยนจากการเขียนถึงคนที่ต้องขอบคุณ สิ่งดี ๆ ที่พบเจอในแต่ละวันมาเป็นการวาดภาพเพิ่ม ถือเป็นการฝึกวาดลายเส้นของตัวเอง เป็นลายเส้นธรรมดา ลงสีง่าย ๆ ไม่ถึงกับพิถีพิถันแต่ก็ไม่ชุ่ย อย่างน้อยภาพแทนความรู้สึกได้ดีในแต่ละวัน
จากที่เคยซ้อมวิ่งทุกวัน มาเจอฝุ่นควัน ทำเอาชีวิตเฉาลงไปมาก ฉันไม่ได้สนใจสนามแข่งมากไปกว่าการซ้อมทุกวัน การซ้อมสำคัญกว่าวันจริงมากมาย ซ้อมไม่พอ ซ้อมไม่ดีก็อย่าหวังว่าจะวิ่งสนุก นี่ฉันมีสนามที่จะต้องลงวิ่ง เป็นสนามเทรลและระยะทางไกล แต่ขาดซ้อมเกือบเดือน และยังไม่รู้ว่าจะอีกสักเดือนหรือเปล่าที่จะได้เริ่มต้นใหม่ ต้องเรียกว่าเริ่มใหม่จริง ๆ ระหว่างนี้ซ้อมวิ่งไม่ได้ ฝฝุ่นควันคลุมเมือง คลุมดอย ลอยวนอยู่ทั่วบ้าน ฟ้าขาวโพลน ไม่เคยแสบตา แสบจมูกและปวดหัวเท่านี้
ปกติฉันไม่เคยหาเหตุผลในการไม่ซ้อมวิ่ง ยกเว้นป่วยจริง ๆ หรือฝนตกแบบฟ้าผ่าเปรี้ยง ๆ นั่นแหละสำหรับฝนปรอย ๆ หรือตกต่อเนื่องก็ไม่เคยกังวลมาก วิ่งได้อยู่ แต่การซ้อมวิ่งฤดูร้อนและฝุ่นจิ๋วที่ทำอันตรายต่อระบบการหายใจ เป็นภัยเงียบแบบนี้ จำต้องหยุด เลือกรักษาชีวิตก่อน
แปลกใจและไม่เข้าใจเลยว่า ทำไมหน่วยราชการจึงเพิกเฉยต่อสถานการณ์ที่เข้าขั้นต้องประกาศเป็นเขตภัยพิบัติในเขตที่เราอยู่
อำเภอไชยปราการเคยถูกประกาศเป็นเขตภัยพิบัติมาแล้ว ทางการจำเป็นต้องเตือนภัยและต้องให้ความรู้ความเข้าใจแก่ประชาชน ห้ามการเผากิ่งไม้ใบหญ้าหรือขยะทุกอย่าง แต่เผาป่าตั้งแต่ปิงโค้งข้างทางถนนนี่เกิดขึ้นได้อย่างไร มันไม่ใช่ภัยจากธรรมชาติ และปีนี้ ค่า PM สูงมากและน่ากลัวมาก เพราะเม็ดฝุ่นสามารถเข้าไปในกระแสเลือดได้ เป็นภัยเงียบ พิษฝุ่นอุดตันและสะสมในร่างกายทำให้เกิดโรคหลอดเลือดตีบในสมองได้
สังเกตว่า คนในอำเภอไม่ได้ตระหนักถึงอันตรายต่อชีวิตตัวเอง ไม่ใส่หน้ากากเพราะเกรงจะเป็นตัวประหลาด ยังใช้ชีวิตตามปกติ ฝุ่นควันก็ทนเอา หากใส่หน้ากากก็แบบขอไปทีเพราะรำคาญที่จะใส่ มันไม่สะดวก เห็นแล้วก็เศร้าใจ เพราะทุกคนอาจคิดแค่ว่า ถึงฤดูร้อน เราก็ต้องเจอภาวะแบบนี้ เป็นเรื่องปกติ ชาชินและคุ้นเคยไปเสียแล้ว
ถ้าพ่ออยู่ พ่อคงโทรฯมาถามทุกวันว่า ฝุ่นควันเบาบางบ้างหรือยังลูก ระวังสุขภาพด้วยนะ พ่อฉันจะสนใจทุกความเป็นไปในจังหวัดที่ลูกอยู่ ไม่ว่าจะแผ่นดินไหว ค้ายาบ้า ฝนตกน้ำท่วม หรือเมืองญี่ปุ่นเนรมิตอย่างฮิโนกิแลนด์ งานวิ่งที่จัดในอำเภอของเรา หรือทุก ๆ ความเป็นไปในชีวิตประจำวันของลูกทุกคน แต่พ่อไม่ทันได้รับรู้เรื่องฝุ่นจิ๋วเป็นพิษที่เชียงใหม่ติดอันดับหนึ่งของโลก
พ่อเคยมาบ้านช่วงนี้แหละเพราะพ่อไม่ชอบฤดูหนาว ถ้าพ่ออยู่ พ่อก็มาไม่ได้แน่นอนเพราะพ่อเป็นโรคหอบหืด ไม่มีอากาศดี ๆ ให้พ่อหายใจ ถึงพ่อไม่อยู่ ฉันก็ต้องบอกเพื่อนฝูง คนที่เรารัก ๆ ทุกคนว่าอย่ามาเชียงใหม่ช่วงนี้ ใครมีแผนจะมาก็งดซะ ไม่มีใครบอกหรอกว่าเชียงใหม่ไม่ควรมาเที่ยว กลัวเสียภาพลักษณ์ กลัวนักท่องเที่ยวหดหาย กลัวเสียผลประโยชน์ ผู้หลักผู้ใหญ่ไม่ใส่หน้ากากกันฝุ่น ประมาณว่า หายใจได้สบายดี
วันก่อนเห็นประชาสัมพันธ์ทางสาธารณสุขเดินแจกหน้ากากอนามัย แต่ทว่าตัวเองไม่สวมหน้ากาก แปลว่าอะไร ไม่เข้าใจจริง ๆ
การยอมรับความจริงเป็นสิ่งที่ถูกต้อง การให้ความรู้เชิงวิชาการเกี่ยวกับพิษภัยของฝุ่นเป็นเรื่องที่ต้องกระทำอย่างยิ่งเพราะเป็นปัญหาสุขภาพระยะยาวที่มันร้ายแรงมาก ๆ
ตอนนี้ทำได้อย่างเดียวคือภาวนาขอให้ฝนตกก่อนฤดู
ฝนหลงฤดู...
ขอบคุณค่ะ
ภูพเยีย