Group Blog
All Blog
--- แ ม่ กำ ป อ ง เ ท ร ล 2 0 1 9 ---


















เทรลที่เท่าไรแล้วคะพี่ เด็ก ๆ ถามระหว่างทางวิ่ง
นึกไม่ออกเหมือนกันนะ ที่แน่ ๆ ไม่ใช่ครั้งแรก

ฉันพอมีประสบการณ์จากการวิ่งเทรลสนามอื่น ๆ มาบ้าง จึงค่อย ๆ เรียนรู้จากแต่ละสนามว่าแตกต่างกันอย่างไร จะต้องเตรียมตัว เตรียมร่างกายเพื่อฝึกซ้อม เตรียมเสบียงอย่างไร สำคัญที่สุดสำหรับเสบียงคือ น้ำอย่าได้ขาด ไม่มีเทรลสนามไหนที่เตรียมน้ำได้พอสำหรับแนวหลังที่เข้ามาถึงจุดเช็คพ้อยต์ เราต้องรอคนแบกมาให้ กว่าจะมาถึงบนดอยสนามที่เราแข่ง แต่ทำไงได้ มาช้าก็ต้องรอ

โดยส่วนตัวแล้ว คิดว่านักวิ่งเทรลเป็นนักวิ่งที่รับมือกับสถานการณ์ตรงหน้าได้ค่อนข้างดี ตรงที่ว่า พวกเขาไม่ค่อยคาดหวังกับการดูแลหรือการจัดการของผู้จัดมากนัก ไม่หวังน้ำบ่อหน้า ไม่อาจเชื่อได้ทั้งหมดว่าเขาจะเตรียมน้ำหรืออาหารให้เราอย่างเพียงพอ


เรามีประสบการณ์ตรงมาพอสมควร ถึงจุดเช็คพ้อยต์ที่ผู้จัดบอกว่า มีข้าวไข่เจียว ข้าวสวยร้อน ๆ ให้กินไม่อั้น แต่บนนั้นกลับว่างเปล่า มีน้ำให้เติมและไปต่อได้ก็ดีแล้ว แถมยังไม่มีหน่วยพยาบาลคอยตามดูระหว่างทางวิ่งด้วย เขาให้เราจัดการตัวเอง ถ้าจะถอนตัวออกจากการแข่งขัน เขาจะชี้แจงแต่ละจุดไว้ ถึงกระนั้นก็ไม่ได้หมายความว่า เขาจะเอาเปลสนามไปรับแล้วนอนลงมานะ แต่เรานั่นแหละต้องลากสังขารลงทางลัดอีกสองสามกิโลเพื่อไปนั่งรถอีแต๋นที่เขารับไปส่งที่จุดสตาร์ท พร้อมตัดบิบเราและเป็น DNF สำหรับงานนั้น เรื่องวิ่งไม่จบนั้น ไม่มีใครอยากเป็นหรอก มีเหตุและปัจจัยแตกต่างกันไป มีเวลากลับไปทบทวนและค้นหาสิ่งที่เราขาด จากนั้นต้องรวบรวมกำลังใจของเราเพื่อลงสนามหน้า เป็นเรื่องภายในของเราล้วน ๆ ที่จะไปต่อหรือจะหยุดแค่นั้น หยุดพร้อมยอมแพ้และยอมรับว่าเราทำได้ดีที่สุดแล้ว หรือจะสู้กับความพ่ายแพ้ที่อาจจะเกิดอีกซ้ำแล้วซ้ำเล่า ซึ่งอาจจะไม่ผ่านอีกเลยก็ได้ แต่ฉันกลับเลือกสู้นะ จะพ่ายแพ้ซ้ำแล้วซ้ำเล่า ฉันก็สู้ ยิ่งแก่ก็ยิ่งเลิกแคร์คำเปรียบเทียบของคนอื่น ฉันวิ่งช้าและแรงน้อย วิ่งเพื่อตัวเอง ในจังหวะของตัวเอง ภูมิใจในสิ่งที่ตัวเองทำได้เสมอ

พูดถึงสนามวิ่งเทรลกันต่ออีกนิด ใช่ว่าจะไม่มีสนามเทรลที่ดูแลนักวิ่งดีนะ งานเทรลที่เขาใหญ่นี่แหละ เหมาะสำหรับบีกินเนอร์มาก ๆ หน้างานไม่โอ่อ่า อลังการ ไม่ค่อยโปรโมตตัวเองแต่งานดีมาก ๆ สถานที่ธรรมชาติ เส้นทางสวยงามตลอดสาย อาจจะบังคับเป้น้ำแต่ไม่เอาไปก็ไม่เป็นไร เพราะมีน้ำแทบจะทุกสองกิโล มีเกลือแร่ให้กินเหลือเฟือ ที่พิเศษคือข้าวต้มมัดแม่นภาที่แพ็คใส่ถุงพลาสติกห่อละหนึ่งชิ้น อร่อยมาก ๆ มีให้กินอย่างจุใจ แถมให้พกไปกินระหว่างวิ่งได้อีก ขากินอย่างฉันแฮปปี้สุด ๆ วิ่งอย่างมีความสุขที่สุดละงานนี้ ดีใจที่ได้เริ่มแบบไม่ทารุณ ทำให้อยากลองสนามที่ยากขึ้นเป็นธรรมดา

ฉันชอบทุกช่วงเวลาของการวิ่ง ไม่ว่าจะการตื่นไปซ้อมหรือลงสนาม ชอบความปรารถนาส่วนตัว ชอบความท้าทายที่หมายถึงความเป็นไปได้และเป็นไปไม่ได้ แต่ชอบที่สุดคือความค่อยเป็นค่อยไปหลังจากที่ตั้งเป้าหมายไปแล้วว่าจะทำอะไร ค่อย ๆ เริ่มจากระยะสั้น ๆ ไประยะยาว ฉันไม่เคยเริ่มวิ่งแบบก้าวกระโดดสักครั้ง ใจไม่เจ๋งพอ สังขารยิ่งแล้วใหญ่ ตัวก็สั้น ขาสั้นและท้วมกว่าตอนเป็นสาว ๆ ยิ่งเริ่มวิ่งตอนวัยทองยิ่งต้องระมัดระวัง ยังมีอาการวูบวาบและความไม่ปกติอีกมากมายที่ต้องรับมือเพียงลำพัง

สำหรับงานเทรลแม่กำปองนั้น ฉันลงระยะกลาง ๆ เอาแค่พอสำเหนียกสำนึกถึงความเหนื่อย พอได้เห็นระยะทางทั่วสนาม ไม่เอาพี้คที่สุดเพราะร่างกายไม่พร้อม ซ้อมน่ะซ้อมแน่แต่ซ้อมไม่พอและพักไม่พอ ที่ซ้อมทุกวัน วิ่งทุกวันนี่ ขอแค่ทันคัทออฟเท่านั้นและไม่บาดเจ็บ (ไม่จบก็ได้แต่ไม่อยากบาดเจ็บ)

ทั้งที่เตรียมตัวพร้อมพอสมควร จัดเป้อย่างดี น้ำเต็มถุงเป้และพกน้ำอีกสองขวด เตรียมเกลือแร่ใส่ซองยาเล็ก ๆ เพื่อละลายน้ำกินระหว่างทาง เตรียมเจลไปสิบซองแต่ไม่เคยกินเลย เอาใส่เป้มาฝากคนนั้นคนนี้ แต่คนที่ฉันตั้งใจเอามาฝากเขาไม่กินเจล และอีกคนก็เตรียมมาแล้ว น้อง ๆ ที่วิ่งด้วยกันนั้นกินเจลทุกห้ากิโล เขาซ้อมมาแบบนั้น แต่ฉันกินแต่เกลือแร่

ในเป้ยังมีช็อกโกแลต ซูกัส ขนมปัง กล้วยตาก ทิชชู่เปียก ชุดทำแผล ถุงมือหนัง ไม้เท้าและที่ขาดไม่ได้เลยคือยาดม แต่ที่ลืมสนิทเลยคือถุงเท้า เพราะงานที่ต้องข้ามน้ำจะเอาไปสำรองในถุงซิปไว้ ฉันตกน้ำทุกครั้ง ไม่เคยข้ามน้ำได้แม้แต่ครั้งเดียว แต่ครั้งนี้หนักสุดคือตกไปทั้งตัวและเปียกแบบละเอียด น้ำซึมไปทุกส่วนตั้งแต่หัวจรดเท้า โชคดีคือ ของในเป้เซฟหมดแม้แต่มือถือเพราะใส่ถุงซิปกันน้ำอีกที เอาน่ะ ต้องวิ่งทั้งรองเท้าเปียก ไม่สนุกเท่าไหร่ แต่ก็ต้องไป ถือว่าอาบน้ำจากธารธรรมชาติ เย็นดี

งานนี้หาข้าวเหนียวหมูปิ้งไม่ได้ หลังวิ่งเทรลที่เชียงรายแล้ว เราพกข้าวเหนียวหมูปิ้งกันตลอด มันอยู่ท้องและไปต่อได้สบาย งานเขาประทับช้าง ไร่อ้อยที่น่านหรือตอนขึ้นดอยหนอก ผู้จัดน่ารัก แจกข้าวเหนียวหมูทอด ตอนเช้าก็มีข้าวปลาอาหารให้กิน มีถั่วเขียวต้มน้ำตาลให้กินด้วย ของธรรมดาที่หากินได้ในเวลาปกติแต่มันมีค่ามากตอนเราลงสนาม ถือว่าไปปิกนิกละกัน

สนามแม่กำปองสวยนะ แม้วิวไม่กระจ่างตาจนตะลึงอย่างที่ดอยช้างหรือบนดอยหลวงพะเยา ไม่ได้วิ่งขึ้นเขาหรือเลาะริมดอย ไม่ได้ลมภูเขา แต่เส้นทางดีทีเดียว เป็นป่าไผ่ ดินดำดินนุ่ม มีดอกกระเจียวเยอะแยะ ดอกคำมอกสีเหลืองหอม ๆ พราวพื้น แต่โดนย่ำเสียเละเพราะเป็นทางวิ่งของเราทั้งไปและกลับ มีดอกไม้สีขาวที่ฉันไม่รู้จัก หอมกลิ่นป่า กลิ่นแห่งความมีชีวิตชีวาและเสียงหอบ เหนื่อยของตัวเอง

งานนี้ฉันเหนื่อยเร็วไป เป็นอาการที่ไม่ได้เผื่อใจไว้ก่อนว่าจะเจอ

วิ่งเทรลเหนื่อยน่ะเหนื่อยแน่ อันนี้รู้ แต่อาการขาตายและไปไม่ได้นี่เพิ่งเจอทั้งที่วิ่งช้า ช้าแบบเผื่อเหลือเผื่อ คือไม่ใส่เต็มแรงจนหมดแต่ไปเรื่อย ๆ เกลี่ยกำลังไว้ให้จบ เอาแค่จบเท่านั้น

แต่เวลานั้นคือเดิน สวนทางกับสามี เขาบอกว่า ไปหาที่นอนไป พักให้หายแล้วค่อยไป เวลาเหลือเยอะแยะไม่ต้องรีบ

เดินไปได้พักนึง พี่ขจรฤทธิ์และน้องอุ๊กำลังสวนทางมา หน้าตาสดใสสุด ๆ เห็นแล้วทึ่งขณะที่ตัวเองหมดสภาพ

คล้อยหลังจากนี้คือหมดสภาพมาก ต้องนั่งลงกับพื้นแทบจะทุกสามก้าว จิบน้ำเรื่อย ๆ เติมน้ำเกลือแร่ไว้ทั้งสองขวด เส้นทางก็ไม่ได้โหดจนตกใจ ก็รู้ล่วงหน้าแล้ว ดูกราฟก่อนวิ่ง รู้ว่าบนดอยก็เป็นแบบนี้แหละ ไม่มีทางราบ ไม่ตื่นตกใจกับเรื่องเหนื่อย แต่ที่่คิดอยากหยุดเพราะอยากเซฟตัวเอง

ที่ซาบซึ้งสุดคือ ทุกครั้งที่นั่งอยู่ เด็ก ๆ จะเข้ามาถามไถ่อาการ เราก็บอกว่า 'หมด' ค่ะ หมด คำเดียวสั้น ๆ หมดก็ต้องพัก ไม่มีใครช่วยอะไรเราได้หรอก นั่งพักให้หายเหนื่อยเลย ไม่ต้องฝืนวิ่งไปหยุดไป

น้องถามว่า พี่มีเสบียงมั้ยครับ พี่ไหวมั้ยครับ มีน้องที่ให้เราหยิบสเปรย์ไล่แมลงจากหลังเป้ของเขา และเขาช่วยพ่นที่แขนขาและต้นคอให้เราเพราะรู้ว่าเราจะอยู่ตรงนี้อีกนาน น้องผู้ชายอีกคนบอกให้เราเอาบัฟที่คอออก และช่วยเอาน้ำในเป้ของเราชุบผ้าบัฟ ให้เราโปะไปตามเนื้อตัว บางคนเอาน้ำเย็นของเขามาให้เรารดตัว น้องผู้หญิงรุ่นเดียวกันก็หยุดถามตลอดเพราะผลัดกันแซง ผลัดกันตาม สาว ๆ ที่วิ่ง 40 แต่ละคนอย่างเท่ แข็งแรงและน่ารักสุด ๆ เขาไม่รีบ หยุดช่วยเหลือเรา

จุดวี้คสุดของเราคือ หูอื้อ ตากล้องบอกฉันว่า พี่ขึ้นทางชันนี้ไปอีกนิด พักที่กระท่อมเลยครับ ที่มีแกลลอนพลาสติกสีฟ้าสองใบ น้ำเต็มเปี่ยมแต่ไม่รู้น้ำอะไร จะวักล้างหน้าก็ไม่กล้า น้ำดำเกิน แต่มีกล้วยน้ำว้าดิบแขวนไว้หนึ่งเครือ ยังกินไม่ได้ แต่พื้นกระท่อมนั้น เป็นของเราโดยปริยาย เราปลดเป้ นอนราบไปกับพื้น ดมยาดม เวลาเหลือ แต่ก่อนมาถึงจุดนี้คือ อยากจะหยุดการแข่งขันแล้ว เพราะน้องบอกว่าอาการที่เราเป็นคือตัวเย็นเฉียบ หูอื้อ มันไม่ปกติ เสี่ยงกับการไตวายได้ ถ้าเราจะออกจากการแข่งขันก็บอกเขาได้ เขาจะแจ้งที่จุดหน้าก่อนถึงจุดที่จะดึงเชือกขึ้นไป

แต่น้องอีกคนก็ว่า พักก่อนพี่ ถ้าเคยเป็นแบบนี้ก้พัก เอาพี่ว่า อยากจะลองก็ได้ อีก 15 โล เวลาพี่เหลือเฟือ

ฉันได้แต่ขอบคุณและพยักหน้าให้ทุกคน อวยพรให้โชคดีทุกคน

พักหายเหนื่อยแล้วก็ไปต่อ ท้อได้ เหนื่อยได้ วิ่งไกลก็เป็นแบบนี้อยู่แล้ว เราซ้อมมามากกว่านี้ กว่าจะลงสนามได้ เราต้องซ้อมล่วงหน้ามาก่อนเท่าไร เราตั้งใจจะวิ่งสนามไหน เราก็ต้องซ้อม

การซ้อมของคนเราก็หวังผลต่างกัน ซ้อมเพื่อความเป็นเลิศก็เป็นแบบหนึ่ง การบ้านของเขาปึกใหญ่และหนาหนักกว่าเราอย่างเทียบกันไม่ได้ แต่ของเราซ้อมเอาจริงเอาจังเพียงเพื่อให้ทันคัทออฟ เพราะเราวิ่งช้าและแรงน้อย ถ้าไม่ซ้อมก็ไม่ต้องลงสนามแข่งกับเขาหรอก เป็นภาระของผู้จัดแล้วก็ไม่ได้ประโยชน์อะไรกับตัวเอง สนุกก็ไม่สนุก

ขนาดว่าซ้อมแต่ก็มีอะไรไม่คาดคิดกับร่างกายได้ ทุกอย่างเกิดขึ้นได้เสมอระหว่างเส้นทางวิ่งหรือเส้นทางชีวิต แม้เราได้ฝึกฝน เตรียมตัว เตรียมใจรับมือกับสถานการณ์ตรงหน้า การมีประสบการณ์อาจจะดีตรงที่เราไม่กระวนกระวายใจมาก อะไรเกิดก็เกิด แก้ได้ก็แก้ไขไป แก้ไขไม่ได้ก็ไม่ต้องไปทุกข์ล่วงหน้า เอาเฉพาะหน้าให้ดี รู้ศักยภาพของตัวเอง รู้จักตัวเอง ถ้าวิ่งแล้วมีแต่ความทุกข์ก็ไม่รู้จะวิ่งไปทำไม อยู่บ้าน นอนตากแอร์อ่านหนังสือก็สบายดี ไม่รู้จะมาตากแดด ตากเหงื่อ ไปทำไม แต่ก็...นะ การวิ่งก็มีเสน่ห์ของมันอยู่ ถ้ารู้ว่าระยะนี้ วิ่งยังไงก็จบ เราคงไม่ต้องวิ่งกันแล้ว เส้นทางไกลมักมีอะไรให้เราเผชิญไม่รู้จบ เราไม่รู้ว่าอะไรรอเราอยู่ แม้วันนั้นเราจะทำทุกอย่างเต็มกำลังแล้วแต่อนาคตก็เป็นสิ่งที่เราไม่รู้ ถ้ารู้อนาคตก็คงไม่ใช่ชีวิต

และไม่เคยมีสนามไหนที่สมบูรณ์แบบนั่นหมายถึงสภาพสนามและการวิ่งของเรา ยกเว้นความพึงพอใจส่วนตัว รอยยิ้มที่เรามอบให้ตัวเองได้

ลงสนามแต่ละครั้งก็มีอะไรไม่เหมือนเดิมแม้จะวิ่งสนามเดิม เป็นชีวิตเดิม ๆ แต่เติมรสชาติให้ชีวิตของเราพอกระชุ่มกระชวยหัวใจ เป็นสมดุลของชีวิตทางหนึ่งที่เราเลือก



ขอบคุณผู้จัดงานนะคะ โดยรวมเราว่าจัดงานดี มีน้ำเย็นและน้ำหวานที่ไม่ค่อยหวานมากให้ดื่มระหว่างทาง ถ้ามีเกลือแร่ให้น่าจะดีกว่านี้ได้ค่ะเพราะวิ่งระยะไกล แจกข้าวเหนียวหมูทอดก่อนวิ่งก็ได้นะคะ แบกไปเองได้ ชอบเส้นทาง ครั้งนี้ไม่หลง ริบบิ้นเยอะแยะ ตากล้องเยอะจนเครียด ฮ่า ฮ่า ฮ่า คิดท่าไม่ออก สมองเบลอ จะทำมินิฮาร์ทก็ทำไม่ทัน จะชูนิ้วชี้ก็ยังนิ้วหงิก ชูไม่ทันสมองสั่งการ แต่ยิ้มได้เมื่อเห็นกล้อง ก็คนมีความสุขกับการวิ่งอะนะ

ขอบคุณน้อง ๆ ทู้กกกกกกกคนที่เจอะเจอกันระหว่างเส้นทางวิ่ง ที่เอื้อเฟื้อ ช่วยเหลือ คอยถามไถ่ ไหวมั้ยพี่ ไหวมั้ย ไปด้วยกันนะ ตามหนูมาพี่ ให้กำลังใจมาตลอดทาง ขอบคุณทุกน้ำใจที่มีมากจนเหลือเฟือเผื่อแผ่ ไม่ตำหนิ ไม่ต่อว่าป้าที่ชอบวิ่งเทรล แถมเข้าใจคำว่า หมด แบบไม่ต้องอธิบายความหมายให้ยืดยาว เราซ้อมนะ แต่ซ้อมไม่พอ


ขอบคุณตากล้องทุกท่านนะคะ วิ่งก็งั้น ๆ แต่มีภาพเป็นล้าน 555
เดี๋ยวต้องหาเงินไปปลดลายน้ำ ซื้อภาพไว้เป็นที่ระลึกค่ะ


ขอแสดงความยินดีกับฟินิชเชอร์ทุกท่าน และขอให้กำลังคนที่ DQ หรือ DNF ทุกคนนะคะ พักฟื้นร่างกายให้ดีก่อน ถนอมเนื้อถนอมตัวละถูกต้องแล้ว ถ้าจะสู้ต่อก็ซ้อมใหม่แล้วมาลุยกันอีก

ขอบคุณทุกท่านที่ได้เจอในวันนั้นค่ะ เราคงได้พบกันอีกนะคะ
ขอบคุณค่ะ
ภูพเยีย
2 มิถุนายน 2562














Create Date : 07 มิถุนายน 2562
Last Update : 7 มิถุนายน 2562 11:34:36 น.
Counter : 636 Pageviews.

1 comments

ผู้โหวตบล็อกนี้...
คุณอุ้มสี

  

บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
ลักกี้ Food Blog ดู Blog
newyorknurse Klaibann Blog ดู Blog
tuk-tuk@korat Travel Blog ดู Blog
ปุณวิถีณ์ Photo Blog ดู Blog
ภูเพยีย Funniest Blog ดู Blog

ดีใจที่ได้เข้ามาอ่านค่ะ
โดย: อุ้มสี วันที่: 7 มิถุนายน 2562 เวลา:11:34:34 น.
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

ภูเพยีย
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 24 คน [?]



  •  Bloggang.com