ติดตาม twitter ได้ที่ @karnoi กด
ติดตามข้อมูลเว็บทาง FaceBook กด

cartoonthai
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 237 คน [?]




New Comments
Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add cartoonthai's blog to your web]
Links
 

 

เทศกาลโคมไฟ สีสันเมืองใต้ และมหัศจรรย์โลกน้ำแข็ง

เทศกาลโคมไฟ สีสันเมืองใต้ และมหัศจรรย์โลกน้ำแข็ง @ Hat Yai Ice Dome

image

การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ร่วมกับเทศบาลนครหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา กระทรวงวัฒนธรรมสาธารณรัฐประชาชนจีน โดยสถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทย สมาพันธ์ธุรกิจท่องเที่ยวจังหวัดสงขลา องค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมกันจัดงานเทศกาลโคมไฟ สีสันเมืองใต้ และมหัศจรรย์โลกน้ำแข็ง@ Hat Yai Ice Dome ประจำปี 2553 ขึ้น โดยเทศกาลโคมไฟ สีสันเมืองใต้ เพื่อเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจและสร้างความเชื่อมั่นเรื่องความปลอดภัยในแหล่ง ท่องเที่ยวพื้นที่ภาคใต้ตอนล่าง โดยเฉพาะอำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา

โดยกำหนดจัดขึ้นในระหว่างวันที่ 1 พฤศจิกายน 2553 – 28 กุมภาพันธ์ 2554 ตั้งแต่เวลา 17.00-23.00 น. และมหัศจรรย์โคมไฟโลกน้ำแข็ง@ Hat Yai Ice Dome กำหนดจัดขึ้นในวันที่ 1 พฤศจิกายน 2553 - 30 เมษายน 2554 ณ สวนสาธารณะเทศบาลนครหาดใหญ่ อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา

กิจกรรมภายในงานแบ่งการจัดแสดงโคมไฟออกเป็น 11 โซนภายใต้ชื่อ “11 มหัศจรรย์โคมไฟ” (11 Amazing Lantern) ประกอบด้วย


โซนที่ 1 โคมไฟเฉลิมพระเกียรติ
เป็นชุดโคมไฟที่สื่อความหมายถึงพระอัจริยภาพทางดนตรีและกีฬาของพระบาทสมเด็จ พระเจ้าอยู่หัวฯ และสัญลักษณ์ในนักษัตรปีพระราชสมภพของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ โดยจัดแสดงเนื่องในวโรกาสพระชนมายุครบ 7 รอบในปี 2554


โซนที่ 2 โคมไฟแบรนด์สินค้าต่าง ๆ และประติมากรรมร่วมสมัย
จัดแสดงโคมไฟ 50 ปีการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย
โคมไฟชุดนี้จัดทำขึ้นเพื่อเฉลิมฉลองในโอกาสครบรอบปีที่ 50 ในปี 2553 ของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) และจัดแสดงโคมไฟแบรนด์สินค้าที่ให้การสนับสนุน

image


โซนที่ 3 โคมไฟจินตนาการโลกของเด็ก
ประกอบด้วยโคมไฟ 2 ชุด ดังนี้
1. โคมไฟชุดปราสาทเทพนิยาย
โคมไฟชุดนี้ สร้างมาจากจินตนาการของเด็กถึงเทพนิยายกรีก เป็นโคมชุดปราสาทเทพนิยาย ประกอบด้วยการ์ตูนที่สามารถเคลื่อนไหวได้
2. โคมไฟชุดการละเล่นของเด็กไทย
โคมไฟชุดนี้ได้จำลอง วิถีชีวิตและรูปแบบการละเล่นของเด็กไทยในสมัยโบราณที่แฝงไปด้วยความสนุกสนาน อาทิเช่น เดินกะลา ขี่ม้าก้านกล้วย และการตีวงล้อ


โซนที่ 4 โคมไฟนานาชาติ จัดแสดงโคมไฟเป็นตุ๊กตาแต่งกายชุดประจำชาติ จำนวน 20 ประเทศคือ
ประเทศไทย สาธารณรัฐเกาหลี สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม สาธารณรัฐอินเดีย ญี่ปุ่น สาธารณรัฐประชาชนจีน สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว นิวซีแลนด์ บรูไน มาเลเซีย สหภาพพม่า เขตปกครองตนเองทิเบต ออสเตรเลีย สก๊อตแลนด์ สหรัฐอเมริกา ราชอาณาจักรสเปน สหพันธ์สาธารณรัฐบราซิล สาธารณรัฐอิตาลี ราชอาณาจักรสวีเดน และสหพันธรัฐรัสเซีย


โซนที่ 5 โคมไฟไทย 4 ภาค จัดแสดงเอกลักษณ์ของความเป็นไทยผ่านโคมไฟไทย 4 ภาค ดังนี้
1. ภาคเหนือ นำเสนอ โคมไฟชุดประเพณียี่เป็ง (ประเพณีลอยกระทงแบบล้านนาไทย)
2. ภาคกลาง นำเสนอ โคมไฟชุดประเพณีวิ่งควาย
3. ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ นำเสนอ โคมไฟชุดประเพณีบั้งไฟพญานาค
4. ภาคใต้ นำเสนอ โคมไฟประเพณีบุญเดือนสิบ


โซนที่ 6 โคมไฟโลกของสัตว์ ประกอบด้วย
1. กลุ่มโคมไฟสัตว์โลกใต้ทะเล
2. กลุ่มโคมไฟปลากัด
3. กลุ่มโคมไฟนก
4. กลุ่มโคมไฟสัตว์ขั้วโลก
5. กลุ่มโคมไฟหมีแพนด้า
6. กลุ่มโคมไฟสัตว์ป่า
7. กลุ่มโคมสัตว์ป่า
8. กลุ่มโคมไฟหอยทาก/กบ/เต่าทอง
9. กลุ่มโคมไฟสัตว์ดึกดำบรรพ์


โซนที่ 7 โคมไฟ Hi-Light เทศกาลต่าง ๆ
จัดแสดงโคมไฟตามโอกาสวันสำคัญ ๆ ดังนี้
1. โคมไฟเทศกาลลอยกระทง
2. โคมไฟเฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
3. โคมไฟเทศกาลวันคริสต์มาส
4. โคมไฟเทศกาลวันส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่
5. โคมไฟวันเด็ก
6. โคมไฟเทศกาลวันตรุษจีน
7. โคมไฟเทศกาลวันวาเลนไทน์


โซนที่ 8 โคมไฟท่องเที่ยว 14 จังหวัดสีสันเมืองใต้
1. จังหวัดชุมพร นำเสนอ โคมไฟอนุสาวรีย์ยุวชนทหาร
2. จังหวัดระนอง นำเสนอ โคมไฟน้ำพุร้อน
3. จังหวัดพังงา นำเสนอ โคมไฟเขาตะปู
4. จังหวัดภูเก็ต นำเสนอ โคมไฟอนุสาวรีย์ท้าวเทพกษัตรีและท้าวศรีสุนทร
5. จังหวัดกระบี่ นำเสนอ โคมไฟรูปปั้นปูดำ
6. จังหวัดสุราษฎร์ธานี นำเสนอ โคมไฟหินตา
7. จังหวัดตรัง นำเสนอ โคมไฟรูปพะยูน
8. จังหวัดนครศรีธรรมราช นำเสนอ โคมไฟพระบรมธาตุเจดีย์
9. จังหวัดพัทลุง นำเสนอ โคมไฟมโนราห์
10. จังหวัดสตูล นำเสนอ โคมไฟเกาะหินซ้อน
11. จังหวัดสงขลา นำเสนอ โคมไฟรูปปั้นหนูแมวบริเวณหาดสมิหลา
12. จังหวัดนราธิวาส นำเสนอ โคมไฟเรือกอและ
13. จังหวัดยะลา นำเสนอ โคมไฟเงาะซาไก
14. จังหวัดปัตตานี นำเสนอ โคมไฟรูปมัสยิดกลาง

image


โซนที่ 9 โคมไฟเทพมหามงคล (โคมกลางน้ำ) แบ่งเป็น 2 โซน คือ
1. โคมไฟชุดเทพเจ้ากรีก ประกอบด้วย โคมไฟเทพซุส โคมไฟเทพโพไซดอน โคมไฟเทพเฮตีส โคมไฟเทพทอรัส และโคมพระจันทร์บริวาร
2. โคมไฟชุดมังกรเทพเจ้าแห่งโชคลาภของจีน


โซนที่ 10 โคมไฟเมืองหาดใหญ่ (โดยเทศบาลนครหาดใหญ่)


โซนที่ 11 โคมไฟน้ำแข็ง
"โคมไฟน้ำแข็ง" ต้นตำรับจากเมืองฮาร์บิน สาธารณรัฐประชาชนจีน โดยฝีมือช่างทำโคมไฟน้ำแข็งจากสาธารณรัฐประชาชนจีน ทั้งนี้ได้รับความร่วมมือจากกระทรวงวัฒนธรรมสาธารณรัฐประชาชนจีน โดยสถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนในการเชิญช่างจากมณฑลเฮ่ยหลงเจียง สาธารณรัฐประชาชนจีน โดยจัดแสดงโคมไฟน้ำแข็งในรูปแบบสถานที่สำคัญของประเทศต่าง ๆ ดังนี้
1. โคมไฟจีน (หอฟ้าเทียนถาน)
2. โคมไฟไทย (ศาลาไทย)
3. โคมไฟเฉลิมพระเกียรติ เนื่องในโอกาส 84 พรรษา 7 รอบ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ (มังกร+กระต่าย)
4. โคมไฟญี่ปุ่น (เสาโทโรอิ-ได้รับการยกย่องเป็นมรดกโลก)
5. ความสัมพันธไมตรี 36 ปี ไทย-จีน (3 รอบ) ช้าง+แพนด้า
6. โคมไฟกรีก (เมืองโบราณกรีก-เอเธนส์)
7. โคมไฟสหรัฐอเมริกา (ทำเนียบขาว)
8. โคมไฟอังกฤษ (หอนาฬิกาบิ๊กเบน)
9. โคมไฟรัสเซีย (โบสถ์เซนต์โซเฟีย)
10. โคมไฟอิตาลี (หอเอนปิซา)
11. โคมไฟมาเลเซีย (ตึกแฝด)
12. โคมไฟสิงคโปร์ (เมอไลออนส์)
13. สไลด์เดอร์ยาว 3 ระดับ
14. อุโมงค์ต้นไม้เกร็ดน้ำแข็ง
15. บาร์น้ำแข็ง
16. น้องสุขใจ
17. ขบวนรถไฟชุมทางหาดใหญ่

อัตราค่าเข้าชมโคมไฟน้ำแข็ง
คนไทย
สำหรับผู้ใหญ่ ค่าเข้าชม 200 บาท
สำหรับเด็กสูงไม่เกิน 150 เซนติเมตร ค่าเข้าชม 100 บาท
เข้าชมฟรี สำหรับคนพิการ ผู้ใหญ่อายุ 70 ปี ขึ้นไป และเด็กสูงไม่เกิน 100 เซนติเมตร

ต่างชาติ
สำหรับผู้ใหญ่ ค่าเข้าชม 300 บาท
สำหรับเด็ก ค่าเข้าชม 150 บาท




 

Create Date : 27 พฤศจิกายน 2553    
Last Update : 27 พฤศจิกายน 2553 21:53:01 น.
Counter : 1578 Pageviews.  

พาชมทุ่งดอกทิวลิปงามสะพรั่งที่ฮอลแลนด์

image

.

image

.

image

.

image

.

image

.

image

.

image

.

image

.

image

.

image

.

image

.

image

.

image

.

image

.

image

.

image

.

image

.

image

.

image




 

Create Date : 27 พฤศจิกายน 2553    
Last Update : 27 พฤศจิกายน 2553 9:30:53 น.
Counter : 1365 Pageviews.  

แช่น้ำร้อนอุ่นๆที่ "น้ำพุร้อนแม่จัน"

อากาศหนาวๆแบบนี้หลายคนบอกว่าต้องไปแช่น้ำร้อนอุ่นๆที่ "น้ำพุร้อนแม่จัน หรือ น้ำพุร้อนห้วยหินฝน" ตั้งอยู่ที่ บ้านห้วยยาโน ตำบลป่าตึง อำเภอแม่จัน จังหวัดเชียงราย


     "น้ำพุร้อนแม่จัน หรือ น้ำพุร้อนห้วยหินฝน" เกิดขึ้นจากรอยเลื่อนแนวตะวันออก-ตะวันตกของน้ำแม่จัน พบเป็นบ่อน้ำเดือด บ่อน้ำร้อน พุน้ำร้อนและบ่อน้ำซึม ในบ่อน้ำร้อนสามารถพบก๊าซผุดขึ้นมากับน้ำพุร้อนบางบ่อเป็นจำนวนมาก มีกลิ่นกำมะถันรุนแรง พบแร่แปรสภาพพวก sinter scree talus คาร์บอเนต และซิลิกา





     นอกจากนี้ยังมีแหล่งท่องเที่ยวอื่นๆที่อยู่ใกล้เคียงอาทิเช่น ไร่แม่ฟ้าหลวง เมืองโบราณเชียงแสน พระลานทองอุทยานวัฒนธรรมลุ่มน้ำโขง ดอยช้างมูบ และเชื่อมโยงเส้นทางไปดอยแม่สลอง , น้ำตกห้วยก้างปลา ดอยแม่สลอง หมู่บ้านอีก้อดอยแสนใจ วัดพระธาตุจอมจันทร์ พระตำหนักดอยตุง

ข้อมูลเพิ่มเติม:
กรมการท่องเที่ยว





 

Create Date : 26 พฤศจิกายน 2553    
Last Update : 26 พฤศจิกายน 2553 20:27:15 น.
Counter : 3066 Pageviews.  

สัมผัสทรายขาว น้ำทะเลสีคราม ณ เกาะอาดัง

เกาะอาดัง
เกาะอาดัง เกาะตะรุเตา

เกาะอาดัง

เกาะอาดัง เกาะตะรุเตา

เกาะอาดัง

เกาะอาดัง เกาะตะรุเตา


สรุปข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก อุทยานแห่งชาติตะรุเตา และ คู่หูเดินทาง

หลังจากพาไปชมความงามของท้องทะเล เกาะหลีเป๊ะ กันแล้ว คราวนี้ก็ถึงเวลาของ เกาะอาดัง ซึ่งเป็นเกาะที่ขนาดใหญ่ที่สุดของ อุทยานแห่งชาติตะรุเตา อยู่ห่างจาก เกาะหลีเป๊ะ ไปเพียง 1.6 กิโลเมตร

ในอดีต เกาะอาดัง เป็นที่ซ่องสุมของโจรสลัด ปล้นสะดมเรือ มีหาดทรายขาวละเอียด สวยงาม และมีแนวปะการังอยู่รอบ ๆ เกาะ เหมาะสำหรับดำน้ำตื้น เป็นที่ตั้งของหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติที่ ตต. 5 (แหลมสน) อยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานแห่งชาติประมาณ 40 กิโลเมตร



เกาะอาดัง

เกาะอาดัง เกาะตะรุเตา


เกาะอาดัง มีเนินทรายสีขาวแหลมยื่นออกมารับลมทะเล พร้อมแนวต้นสนที่ขึ้นกันเรียงรายอยู่บริเวณชายหาด และหน้าที่ทำการอุทยานฯ เรียกว่า ชายหาดแหลมสน เป็นจุดที่ตั้งศูนย์บริการนักท่องเที่ยว มีบ้านพัก ลานกางเต็นท์ บรรยากาศเงียบสงบเป็นส่วนตัว เพราะเป็นเกาะของอุทยานแห่งชาติ จึงไม่มีการตั้งชุมชน

ชายหาดแหลมสน นี้ถือเป็นจุดชมวิวพระอาทิตย์ขึ้นจุดหนึ่งที่สวยงามมาก เหมาะสำหรับที่จะเล่นน้ำ พักผ่อนนอนเปลญวนที่บริเวณชายหาด อ่านหนังสือเล่มโปรด สูดอากาศบริสุทธิ์ เกี่ยวก้อยหวานแหวกับคนรู้ใจ ตกดึกก็ออกมานอนนับดาวบรรยากาศสุดแสนจะโรแมนติก


ผาชะโด

เกาะอาดัง เกาะตะรุเตา


หรือถ้าใครชอบผจญภัยท้าทายเล็กน้อย ก็ให้เดินมายังภูเขาด้านหลังที่ทำการฯ หรือ "ผาชะโด" ซึ่งในอดีตบริเวณนี้ใช้เป็นจุดสังเกตการณ์ของกลุ่มโจรสลัด เพื่อเข้าโจมตีเรือสินค้า แต่ปัจจุบันเป็นจุดชมทิวทัศน์สวยงามของท้องทะเล ทั้งนี้ หากขึ้นมาข้างบนจะเป็นจุดชมวิว สามารถมองเห็น เกาะหลีเป๊ะ และ เกาะรังกาวี ของมาเลเซียได้

ซึ่งมีอยู่ด้วยกัน 3 จุด คือ จุดเหนื่อยน้อย เหนื่อยมาก และเหนื่อยมากที่สุด ความสูงถึงจุดสุดท้ายประมาณ 700 เมตร ความสวยงามก็แตกต่างกันไปตามความพยายาม และความฟิตของร่างกาย เพราะทางขึ้นค่อนข้างลาดชัน บางช่วงต้องปีนก้อนหินขึ้นไป ควรพกน้ำและเสบียงไปด้วยเพื่อเป็นการเติมพลังระหว่างทาง โดยใช้เวลาในการเดินประมาณ 30 นาที



ผาชะโด

เกาะอาดัง เกาะตะรุเตา



TIPS รู้ก่อนเที่ยว

การเดินทาง

• รถยนต์


จากกรุงเทพฯ ขับมายังจังหวัดเพชรบุรี ใช้เส้นทางหลวงหมายเลข 4
ผ่านจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร จากนั้นใช้ทางหลวงหมายเลข 41
ผ่านเข้าเขตจังหวัดนครศรีธรรมราช พัทลุง จากพัทลุงไปอำเภอรัตภูมิ
จังหวัดสงขลา ให้ใช้ทางหลวงหมายเลข 4 แล้วแยกขวาไปตามทางหลวงหมายเลข 406
ถึงจังหวัดสตูล ระยะทาง 973 กิโลเมตร

• รถโดยสารประจำทางสถานีขนส่งสายใต้


รถโดยสารปรับอากาศวีไอพี 24 ที่นั่ง กรุงเทพฯ-สตูล รถออกเวลา 18.00 น.
ระยะเวลา 12 ชั่วโมง รถโดยสารปรับอากาศ ม.4(ข) 50 ที่นั่ง 2 ชั้น
กรุงเทพฯ-สตูล รถออกเวลา 18.35 น. ระยะเวลา 13.30 ชั่วโมง
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Call Center โทร. 1490 หรือ
//www.transport.co.th

ช่วงเวลาที่เหมาะสม

สำหรับการท่องเที่ยวคือ ตั้งแต่ 15 พฤศจิกายน ถึง 15 พฤษภาคม ของทุกปี

ท่าเรือข้ามเกาะ



มี 2 ท่า คือ ท่าเรือปากบารา และท่าเรือตำมะรัง ในทุก ๆ วัน
จะมีเรือเฟอร์รี่และเรือสปีดโบ๊ทให้บริการ ใช้ระยะเวลาในการเดินทาง ประมาณ
1.30 ชั่วโมง สำหรับเรือสปีดโบ๊ท ส่วนเรือเฟอร์รี่ ประมาณ 2.30 ชั่วโมง
เมื่อลงรถ บขส. แล้วสามารถต่อรถสองแถวไปยังท่าเรือได้

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม

• ททท.สำนักงาน โทร. 0-7471-1055
• ประชาสัมพันธ์จังหวัด โทร. 0-7472-1375
• อุทยานแห่งชาติตะรุเตา โทร. 0-7478-3485, 0-7472-8027-8



ขอขอบคุณข้อมูลจาก




 

Create Date : 25 พฤศจิกายน 2553    
Last Update : 25 พฤศจิกายน 2553 21:33:06 น.
Counter : 1719 Pageviews.  

น้ำตกผาน้ำผ่า สถานที่ท่องเที่ยวใหม่บน ภูกระดึง

น้ำตกผาน้ำผ่า

น้ำตกผาน้ำผ่า ภูกระดึง

น้ำตกผาน้ำผ่า


น้ำตกผาน้ำผ่า ภูกระดึง

เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก pantip.com โดย คุณนิสิต

เชื่อว่าถ้าเอ่ยถึง "ภูกระดึง" นักเดินทางหลาย ๆ คนคงนึกถึงภาพแสงอาทิตย์ที่ค่อย ๆ ลาลับขอบฟ้า หรือเริ่มค่อย ๆ โผล่ออกมาจากหลังขุนเขาในยามเช้า บนผาหล่มสัก ผาหมากดูก และผานกแอ่น แต่ล่าสุด อุทยานแห่งชาติภูกระดึง ได้ค้นพบสถานที่ท่องเที่ยวแห่งใหม่ นั่นก็คือ "น้ำตกผาน้ำผ่า" ตั้งอยู่ในบริเวณด้านทิศเหนือในเขตป่าปิด ซึ่งเป็นป่าธรรมชาติที่ยังบริสุทธิ์ ที่มีความสูง ความสวยงาม และสง่างามมากที่สุดในเขตอุทยานแห่งชาติภูกระดึง

ทั้งนี้ นายรณภพ คัชมาตย์ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติภูกระดึง กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธ์พืช กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เปิดเผยว่าอุทยานแห่งชาติภูกระดึงได้พบน้ำตกแห่งใหม่ ชื่อ น้ำตกผาน้ำผ่า โดยอยู่ในเขตป่าปิด หรือดูจากสภาพภูมิประเทศของภูกระดึง ตรงที่เป็นเหมือนรูปใบบอนหรือรูปหัวใจ

น้ำตกผ่าน้ำผ่า
เกิดจากลำธารน้ำผ่า มีความยาวประมาณ 3.1 กิโลเมตร ลักษณะน้ำตกไหลเป็นสายพลิ้ว ๆ คล้ายสายฝนตกลงมาจากหน้าผา ความสูงประมาณ 80 เมตร เป็นสายเดียวดิ่งลงถึงพื้นล่าง ขณะที่ความชันตั้งฉากจากด้านบนสู่ด้านล่าง 90 องศา หากอากาศดีท้องฟ้าแจ่มใส เมื่อมีแสงอาทิตย์กระทบน้ำตกจะเกิดประกายรุ้ง แลดูสวยงามจนได้ชื่อว่าเป็นราชาแห่งป่าดิบชื้น


น้ำตกผาน้ำผ่า

น้ำตกผาน้ำผ่า ภูกระดึง


อย่างไรก็ตาม หัวหน้าอุทยานแห่งชาติภูกระดึง ระบุว่า น้ำตกผาน้ำผ่า ถูกค้นพบมาระยะหนึ่งแล้ว แต่ยังไม่เป็นที่รู้จักมากนัก เพราะการเดินทางเข้าไปชม น้ำตกผาน้ำผ่า ค่อนข้างลำบาก อีกทั้งอยู่ในเขตป่าปิด ไม่อนุญาตให้นักท่องเที่ยวเข้าไปเที่ยวตามลำพัง ต้องมีเจ้าหน้าที่นำทาง และไม่ได้เปิดให้เข้าไปชมกว่า 20 ปีแล้ว จึงทำให้ น้ำตกผาน้ำผ่า และบริเวณใกล้เคียง คงความงามตามธรรมชาติและมีสัตว์ป่าชุกชุม

ซึ่ง ในปีนี้ทาง อุทยานแห่งชาติภูกระดึง จะเปิด น้ำตกผาน้ำผ่า ให้นักท่องเที่ยวเข้าชมความสวยงาม โดยกำหนดให้เข้าเที่ยวได้วันละ 100 คนเท่านั้น นักท่องเที่ยวที่สนใจแจ้งความจำนงได้ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ทั้งนี้ ขณะนี้อยู่ระหว่างสำรวจเส้นทางใหม่ให้มีระยะใกล้กว่าเดิม เพราะการเดินทางเข้าไปต้องใช้เวลาไปกลับกว่า 14 ชั่วโมง และปลอดภัยจากสัตว์ป่า รวมถึงกระทบกับสิ่งแวดล้อมให้น้อยที่สุด




 

Create Date : 24 พฤศจิกายน 2553    
Last Update : 24 พฤศจิกายน 2553 21:03:57 น.
Counter : 1385 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  24  25  26  27  28  29  30  31  32  33  34  35  36  37  38  39  40  41  42  43  44  45  46  47  48  49  50  51  52  53  54  55  56  57  58  59  60  61  62  63  64  65  66  67  68  69  70  71  72  73  74  75  76  77  78  79  80  81  82  83  84  85  86  87  88  89  90  91  92  93  94  95  96  97  98  
 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.