ติดตาม twitter ได้ที่ @karnoi กด
ติดตามข้อมูลเว็บทาง FaceBook กด

cartoonthai
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 237 คน [?]




New Comments
Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add cartoonthai's blog to your web]
Links
 

 

พิพิธภัณฑ์รถโบราณ...เจษฎา เทคนิค มิวเซียม.



Jesada Technik Museum ก่อตั้งขึ้นโดย คุณเจษฎา เดชสกุลฤทธิ์ นักธุรกิจชาวไทย ซึ่งเกิดแรงบันดาลใจจากการเดินทาง ไปท่องเที่ยวดูงานด้านเครื่องยนต์กลไก ในทวีปยุโรปและอเมริกา ได้พบเห็นพิพิธภัณฑ์หลายแห่งที่รวบรวมรถยนต์หายากไว้มากมาย และจัดแสดงได้อย่างน่าตื่นตาตื่นใจ คุณเจษฎาฯ จึงเริ่มสะสมรถยนต์หายากขึ้นบ้าง
เริ่มจากรถ Messerschmitt KR-200 ปี 1958 รถการ์ตูน (Bubble Car) รถคันแรกที่นำเข้ามาจากประเทศสวิสเซอร์แลนด์ ยิ่งสะสม ยิ่งค้นคว้า ยิ่งตระหนักว่าวิวัฒนาการยานยนต์มีส่วนสำคัญในการผลักดันให้เกิดความสุข ความสะดวกสบาย แก่มวลมนุษยชาติ ยนตรกรรมทุกชิ้นจะแฝงไว้ซึ่งปรัชญาแนวความคิด ที่บ่งบอกถึงจิตวิญญาณของผู้ออกแบบและผู้ผลิตสามารถใช้เป็นบทเรียนแก่คนรุ่นหลังได้อย่างล้ำค่า










 

Create Date : 10 สิงหาคม 2554    
Last Update : 10 สิงหาคม 2554 7:57:22 น.
Counter : 1886 Pageviews.  

เนินมหัศจรรย์



เนินมหัศจรรย์ มีลักษณะเป็นทางขึ้นเนินเมื่อ จอดรถดับเครื่อง และปล่อยเกียร์ว่าง รถจะไหลขึ้นเนินสูงอย่างน่าอัศจรรย์ ไปเองประมาณ 10 เมตร และจากการพิสูจน์

ปรากฏการณ์ดังกล่าว เกิดจากภาพลวงตา เนื่องจากวัดระดับ ความสูงของเนินจะมี ระดับต่ำกว่า ช่วงที่เป็นทางขึ้นเนิน ดังนั้นรถจึงถอยหลังตามแรงโน้มถ่วงของโลก

จากเพชรบูรณ์ ใช้เส้นทางหลวงหมายเลข 21 (เพชรบูรณ์-หล่มสัก) ระยะทางประมาณ 13 กิโลเมตร ถึงสามแยกนางั่ว เลี้ยวซ้ายไปตามทางหลวงหมายเลข 2258 เริ่มหลักกิโลเมตรที่ 0 เนินมหัศจรรย์ จะอยู่ระหว่างหลักกิโลเมตรที่ 17-18

จากทางหลวงหมายเลข 12 (พิษณุโลก-หล่มสัก) เมื่อได้เที่ยวเขาค้อเต็มอิ่มแล้ว เมื่อมาถึงสามแยกสะเดาะพง เพื่อจะกลับเพชรบูรณ์ ในเส้นทางหลวงหมายเลข 2258 มายังสามแยกนางั่ว เนินมหัศจรรย์ จะอยู่ระหว่างหลักกิโลเมตรที่ 17-18 หยุกรถทดสอบได้ ช่วงเทศกาลท่องเที่ยวจะมีรถจอดทดสอบมาก มาถึงช่วงนี้ต้องระวังให้มากๆ

ข้อมูลจาก : tat.or.th





 

Create Date : 09 สิงหาคม 2554    
Last Update : 9 สิงหาคม 2554 7:56:10 น.
Counter : 1768 Pageviews.  

เที่ยวสมุทรสงคราม สัมผัส“เสน่ห์แม่กลอง”



ลังจากเปิดตัวคู่มือส่งเสริมภาพลักษณ์ของแหล่งท่องเที่ยวในแต่ละภูมิภาค เพื่อให้เห็นภาพชัดเจนเราขอยกตัวอย่างแหล่งท่องเที่ยวใกล้กรุงเทพฯอย่างจังหวัดสมุทรสงคราม หนึ่งใน”เที่ยวหลากหลาย สไตล์ภาคกลาง” ที่สะดวกทั้งการเดินทางและใช้เวลาไม่มาก แต่สิ่งที่จะได้รับกลับไปคือความหลากหลาย

     ตั้งแต่การได้ชื่นชมกับความงามของสถานที่ทางประวัติศาสตร์ การได้บูชาพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ที่มีที่มาที่ไปน่าสนใจ อย่างหลวงพ่อบ้านแหลม ที่วัดบ้านแหลม หรือวัดเพชร สมุทรวรวิหาร อันเป็นวัดที่สร้างขึ้นในรัชสมัยพระเจ้าปราสาททอง แห่งกรุงศรีอยุธยา

     นอกจากนั้นยังมีวัดบางกะพ้อม วัดโบราณที่ประมาณการณ์กันว่าสร้างขึ้นในสมัยกรุงศรีอยุธยา ความพิเศษของที่นี่คือภายในวิหารเก่าแก่ที่คงอิทธิพลของสถาปัตยกรรมจีนตาม แบบศิลปะพระราชนิยมในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว ที่นี่เราจะได้กราบนมัสการพระพุทธบาทที่ซ้อนทับกันถึงสี่รอย พร้อมกับจิจรกรรมฝากผนังที่แปลกจากวัด อื่นๆคือ เป็นประติมากรรมปูนปั้นแบบลอยตัวซึ่งเป็นศิลปะจากช่างโบราณของแท้

     ส่วนใครต้องการฟังประวัติอย่างถึงอรรถรสขอให้ติดต่อกับทางวัด โดยจะมีพระเป็นมัคคุเทศก์ที่บอกเล่าเรื่องราวทั้งที่มีหลักฐานและข้อมูลจากเรื่องเล่าที่เล่าต่อๆกันมาให้ได้ทั้ง ความรู้และความเพลิดเพลิน

     ความหลากหลายอย่างที่สองของจังหวัดแห่งลุ่มน้ำแม่กลองนี้คือความ amazing ที่ไม่เคยเสื่อมคลายกับ ตลาดร่มหุบ ตลาดที่ถูกตัดกลางด้วยทางรถไฟที่ทุกวันนี้ยังใช้งานมี รถไฟวิ่งผ่านวันละหลายเที่ยว ความตื่นตาตื่นใจของตลาดนี้ในยามปกติคือสถานที่ที่ชาวบ้านและนักท่องเที่ยวสามารถซื้อหาสินค้าของกินเลื่องลือ ไม่ว่าปลาทู “ปลาทูแม่กลอง หน้างอคอหัก” หรืออาหารทะเลสดใหม่เลื่องชื่อ

     แต่ในยามที่รถเหล็กกำลังจะเคลื่อนผ่านตัดเข้าสู่ย่านการค้าของชาวบ้าน เวลาเช่นนี้คือเวลาของความตื่นตาของการเก็บตลาดแบบชั่วพริบตาก่อนที่จะกลับมาเป็นตลาดดั่งเดิม ในชั่วพริบตาได้เช่นกัน ซึ่งทุกวันนี้นักท่องเที่ยวที่ต้องการความตื่นเต้นและตื่นตาจะแห่มารอเวลารถไฟที่ตลาดนี้อยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน

     ส่วนใครที่เดินทางมาดูตลาดร่มหุบนี้ในวันหยุด โดยเฉพาะวันเสาร์ จบจากฉากเร้าใจแล้วสามารถเดินเลาะริมทางรถไฟ มาที่สถานที่ปลายทาง เจ้าหน้าที่การท่องเที่ยวแห่ง ประเทศไทย สำนักงานสมุทรสงครามแจ้งว่าที่นี่จะมีกิจกรรมทางวัฒนธรรมของเด็กๆและชาวบ้านมาแสดงให้ชม ร่วมทำงานศิลปะ หัตถกรรม งานประดิษฐ์ร่วมกับชาวบ้าน ภาย ใต้บรรยากาศย้อนยุค พร้อมกับสินค้านานาชนิดที่ถือเป็นสุดยอดของถิ่นแม่กลองที่เลือกได้โดยไม่ต้องกังวลกับรถไฟจะมาหรือจะไป

     ปิดท้ายกับความหลากหลายทางธรรมชาติและวัฒนธรรมพื้นบ้าน ชมสถาปัตยกรรมบ้านไม้ริมน้ำกับสีสันของชีวิตในบ้านแบบโบราณ ซื้อหาของฝากและชิมอาหารนานาชนิดรส ชาติดีที่ตลาดอัมพวา ก่อนที่จะถึงเวลาเย็นย่ำแดนร่มลมตก ทุกคนก็พร้อมสำหรับการนั่งเรือชมหิ่งห้อย ลัดเลาะจากคลองอัมพวาเข้าสู่คลองผีหลอก คลองหมาหอน ฯลฯ

     การชมด้วยความเงียบสงบ นอกจากจะไม่รบกวนสิ่งมีชีวิตตัวน้อยๆแล้ว ยังถือเป็นการเคารพสิทธิของการอยู่ร่วมกันของชาวบ้านที่พักอาศัยริมน้ำให้สามารถอยู่ร่วมกันได้ อย่างกลมกลืน การไม่สาดแสงไฟสู่ต้นลำพูที่เกาะของหิ่งห้อยตัวน้อย การไม่พยายามเข้าใกล้ไปจับต้องให้ระคายเคืองชีวิตอันแสนเปราะบางของหิ่งห้อย

     นี่เป็นข้อปฏิบัติที่เหมาะสมในการชมธรรมชาติเพื่อให้เกิดความยั่งยืน ซึ่งนักท่องเที่ยวทั้งหลายที่ได้มาเห็น ก็คงอยากจะทำให้แสงระยิบของหิ่งห้อยแม้บางพื้นที่จะถี่บ้าง ห่างบ้าง สามารถส่งแสงผ่านกาลเวลาสู่คนรุ่นต่อๆไปให้พวกเขาได้ชื่นชม และเรียนรู้การอยู่ร่วมกันของคนและธรรมชาติอย่างสมดุล

ข้อมูลโดย : โครงการ 7greens - การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย
1600 ถนน เพชรบุรีตัดใหม่ แขวง มักกะสัน เขต ราชเทวี กรุงเทพ 10400, ประเทศไทย
โทร: 02 250 5500, TAT Call Center: 1672
เว็บไซต์ : //7greens.tourismthailand.org/






 

Create Date : 08 สิงหาคม 2554    
Last Update : 8 สิงหาคม 2554 8:41:27 น.
Counter : 3075 Pageviews.  

นั่งเรือชมโลมาอิรวดี ตำบลแหลมกลัด



โลมาอิรวดี หรือ โลมาหัวบาตร

โลมาอิรวดี หรือ โลมาหัวบาตร (อังกฤษ: Irrawaddy Dolphin หรือ Ayeyarwaddy Dolphin) เป็นโลมาชนิดหนึ่ง มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Orcaella brevirostris อยู่ในวงศ์โลมา (Delphinidae) รูปร่างหน้าตาคล้ายโลมาทั่วไป แต่มีลักษณะเด่นคือ หัวที่มนกลมคล้ายบาตรพระ ลำตัวสีเทาเข้ม แต่บางตัวอาจมีสีอ่อนกว่า ตามีขนาดเล็ก ปากอยู่ด้านล่าง ครีบข้างลำตัวแผ่กว้างเป็นรูปสามเหลี่ยม ครีบบนมีขนาดเล็กมาก มีรูปทรงแบนและบางคล้ายเคียว มีขนาดประมาณ 180 - 275 ซ.ม.

     ไม่มีรายงานมีการกระจายอย่างกว้างขวางในมหาสมุทรแปซิฟิก มหาสมุทรอินเดีย อ่าวไทย มักพบเข้ามาอยู่ในแหล่งน้ำกร่อยและทะเลสาบ เช่น บริเวณปากแม่น้ำ โลมาอิระวดีบางกลุ่มอาจเข้ามาอาศัยอยู่ในแม่น้ำสายใหญ่ ๆ ด้วย เช่น แม่น้ำโขง และทะเลสาบเขมร ในปี พ.ศ. 2459 พบว่ามีอยู่ในแม่น้ำเจ้าพระยาด้วย

     ถูกค้นพบครั้งแรกที่แม่น้ำอิระวดีในประเทศพม่า จึงเป็นที่มาของชื่อ ปัจจุบัน สามารถพบได้ที่ ทะเลสาบชิลก้า ประเทศอินเดีย แม่น้ำโขง ทะเลสาบสงขลาและปากแม่น้ำบางปะกง เป็นต้น โลมาอิระวดีมีชื่อเรียกอื่น ๆ อีก เช่น "โลมาหัวบาตรมีครีบหลัง" “โลมาน้ำจืด", "โลมาหัวหมอน" ในภาษาใต้ และ "ปลาข่า" ในภาษาลาว เป็นต้น

     โลมาอิรวดีที่ ต.แหลมกลัด อำเภอเมือง จังหวัดตราด สามารถพบเห็นได้ตั้งแต่ช่วงเดือน พฤศจิกายน – ต้นเดือนมีนาคม เข้าชมโดยการนั่งเรือออกไปจากฝั่งเพียง 2 ไมล์ทะเลหรือประมาณ 15 นาที ก็จะสามารถที่จะชมโลมาเวียนว่ายเข้ามากินปลาทูได้อย่างใกล้ชิด ซึ่งเป็นภาพที่ชินตากับชาวประมงในพื้นที่ แต่จะเป็นความประทับใจสำหรับนักท่องเที่ยวที่ได้มาชม

     การเดินทาง อบต.แหลมกลัด อ.เมือง ใช้ถนนสาย ตราด – คลองใหญ่ จากกรุงเทพฯ เมื่อข้ามแม่น้ำเวฬุแล้ว มุ่งหน้าเข้าเมือง ก่อนเข้าเมืองจะมีทางแยกซ้ายไป อ.คลองใหญ่ ให้เลี้ยวซ้าย จากนั้นไปอีก 35 กิโลเมตร สังเกตขวามือมีทางแยกเข้าไปที่ อบต.แหลมกลัด

     สอบถามเพิ่มเติม (039) 584-233, 08-9936-1198 และ 08-7774-1299 คุณอดิศร



ข้อมูลโดย : การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ภูมิภาคภาคตะวันออก
1600 ถ.เพชรบุรีตัดใหม่ แขวงมักกะสัน เขตราชเทวี กรุงเทพฯ 10400
โทร. 0 2250 5500 ต่อ 3915-7 โทรสาร. 0 2250 0878
//www.traveleasthailand.org
E-mail : traveleastthailand@hotmail.com






 

Create Date : 07 สิงหาคม 2554    
Last Update : 7 สิงหาคม 2554 11:42:44 น.
Counter : 2064 Pageviews.  

วัดพระธาตุศรีจอมทองวรวิหาร




วัดพระธาตุศรีจอมทองวรวิหาร ตั้งอยู่ที่หมู่ 2 ตำบลบ้านหลวง อำเภอจอมทอง จากตัวเมืองเชียงใหม่มุ่งหน้าไปตามถนนสายเชียงใหม่-ฮอด 58 กิโลเมตร เป็นวัดสำคัญคู่เมืองจอมทองและเป็นที่เคารพสักการะของชาวเหนือโดยทั่วไป บริเวณที่ตั้งเป็นเนินดินสูงประมาณ 10 เมตร เรียกว่า ดอยศรีจอมทอง หรือดอยจอมทอง

ประเพณีเด่นของวัดคือ การแห่ไม้ค้ำโพธิ์ ซึ่งเป็นประเพณีของชาวล้านนาที่ถือว่าการเอาไม้มาค้ำโพธิ์เป็นการสืบทอดพระพุทธศาสนา


แหล่งข้อมูล: thai.tourismthailand.org





 

Create Date : 06 สิงหาคม 2554    
Last Update : 6 สิงหาคม 2554 10:49:10 น.
Counter : 1310 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  24  25  26  27  28  29  30  31  32  33  34  35  36  37  38  39  40  41  42  43  44  45  46  47  48  49  50  51  52  53  54  55  56  57  58  59  60  61  62  63  64  65  66  67  68  69  70  71  72  73  74  75  76  77  78  79  80  81  82  83  84  85  86  87  88  89  90  91  92  93  94  95  96  97  98  
 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.