ติดตาม twitter ได้ที่ @karnoi กด
ติดตามข้อมูลเว็บทาง FaceBook กด

cartoonthai
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 237 คน [?]




New Comments
Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add cartoonthai's blog to your web]
Links
 

 

จุดชมวิวดอยเสมอดาวและผาหัวสิงห์



ใน อุทยานแห่งชาติศรีน่านซึ่งมีสภาพเป็นป่าที่อุดมสมบูรณ์ เทือกเขาสูงสลับซับซ้อน วางตัวในแนวทิศเหนือ-ใต้ เป็นป่าต้นน้ำลำธาร ที่สำคัญของแม่น้ำน่าน ซึ่งเป็นแหล่งน้ำที่สำคัญของประชาชนในจังหวัดน่าน มีพันธุ์ไม้ที่สำคัญหลายอย่าง และเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่า มีจุดเด่นทางธรรมชาติ ที่มีทิวทัศน์ที่สวยงาม เป็นอุทยานแห่งชาติที่มีแหล่งท่องเที่ยวของจังหวัดน่านอยู่หลายแห่งได้แก่ เสาดินและคอกเสือ ปากนาย แก่งหลวง จุดชมทิวทัศน์ดอยผาชู้ ทิวทัศน์ทั้งสองฝั่งแม่น้ำน่าน จุดชมวิวดอยเสมอดาวและผาหัวสิงห์

ดอยเสมอดาว บริเวณจุดชมวิวอีกจุดหนึ่งของอุทยานแห่งชาติศรีน่าน มีพื้นที่เป็นลานกว้างตามสันเขา เหมาะสำหรับการพักผ่อน ดูดาว ดูพระอาทิตย์ขึ้นและตกดินในบริเวณเดียวกัน เดินทางสะดวก รถสามารถขึ้นมาได้ถึงที่ เส้นทางลาดยางตลอด มีเพียงช่วงปลายประมาณ 700 เมตร ที่ยังเป็นถนนลูกรัง บนดอยเสมอดาวมีลานกางเต็นท์ ห้องน้ำชาย-หญิง ให้บริการแก่นักท่องเที่ยวที่มาพักค้างแรม จากยอดดอยเสมอดาว จะได้เห็นทิวทัศน์ป่าเขา เห็นสายน้ำน่านที่ไหลผ่านอุทยาน ทะเลหมอกที่ปกคลุมสายน้ำเบื้องล่าง เป็นภาพที่สวยงาม

ผาหัวสิงห์ เป็นหน้าผามีรูปร่างเหมือนสิงโตนอนหมอบหันหน้าไปทางทิศตะวันออกสามารถมอง เห็นวิวทิวทัศน์ได้ 360 องศา ทิศเหนือมองเห็นตัวอำเภอเวียงสา ทิศใต้ มองเห็นทิวเขาเป็นแนวยาว ทิศตะวันออกมองเห็นผาชู้ แม่น้ำน่าน ทิศตะวันตก มองเห็นตัวอำเภอนาน้อยเกือบทั้งหมด และเป็นจุดชมพระอาทิตย์ตกที่สวยงามอีกจุดหนึ่ง มีเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติรอบผาหัวสิงห์ ระยะทาง 1.2 กิโลเมตร หากใครชอบความท้าทาย อยากเห็นทิวทัศน์รอบรอบเมืองน่านก็ลองปีนขึ้นไปดูได้ แต่ต้องติดต่อเจ้าหน้าที่ของอุทยานให้นำทางไป














ขอบคุณ oceansmile




 

Create Date : 24 มีนาคม 2554    
Last Update : 24 มีนาคม 2554 8:37:55 น.
Counter : 2194 Pageviews.  

น้ำตกไทรโยคน้อย น้ำตกสวยแห่งเมืองกาญจน์



น้ำตกไทรโยคน้อย หรือเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า น้ำตกเขาพัง เป็นน้ำตกที่มีชื่อเสียงมาช้านาน โดยน้ำตกตั้งอยู่ในเขตพื้นที่ของอุทยานแห่งชาติไทรโยค ตำบลไทรโยค อำเภอไทรโยค จังหวัดกาญจนบุรี โดยเหตุที่ได้ชื่อว่าน้ำตกเขาพัง เพราะเกิดบนหน้าผาหินปูนที่พังทลายลงมา จนเกิดโขดหินปูนลดหลั่นกันอยู่ตรงบริเวณเชิงเขา

     โดยมีต้นกำเนิดเป็นน้ำผุดจากภูเขาแล้วไหลมาตามลำธารเล็กๆ ไหลตกลงที่ผาหินปูนที่มีความสูง ประมาณ 15 เมตร แผ่กระจายไปตามพื้นเขาลาดเอียง ภายใต้ร่มเงาของพันธุ์ไม้นานาชนิด ในลำธารมีต้นกกขึ้นอยู่กระจัดกระจาย นับเป็นบรรยากาศที่ชวนให้ไปสัมผัสอีกแห่งหนึ่ง

     การเดินทาง สะดวกมากเพราะอยู่ติดกับถนนสายกาญจนบุรี-ทองผาภูมิ ระยะทางประมาณ 56 กิโลเมตร จากจังหวัดกาญจนบุรี หรือทางรถไฟ เริ่มต้นจากสถานีธนบุรีไปสิ้นสุดที่สถานีน้ำตก ตำบลท่าเสา ห่างจากตัวน้ำตก ประมาณ 1 กิโลเมตร ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการเที่ยวน้ำตก คือ ฤดูฝนซึ่งเป็นช่วงที่น้ำในน้ำตกมีมาก ประมาณเดือนกรกฎาคม - กันยายน

ข้อมูลโดย
กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช





 

Create Date : 23 มีนาคม 2554    
Last Update : 23 มีนาคม 2554 9:24:47 น.
Counter : 1994 Pageviews.  

เที่ยวชมท้องฟ้าจำลอง "กรุงเทพฯ"

ท้องฟ้าจำลอง "กรุงเทพฯ"


พระ บาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ เสด็จพระราชดำเนินทรง ประกอบพิธี เปิดอาคารท้องฟ้าจำลองกรุงเทพ เมื่อวันอังคารที่ 18 สิงหาคม 2507 และนับจากบัดนั้น ท้องฟ้าจำลองกรุงเทพ จึงเปิดการแสดง ให้นักเรียนและประชาชนเข้าชมได้ ตั้งแต่วันที่ 19 สิงหาคม 2507 เป็นต้นมา อาคารท้องฟ้าจำลองกรุงเทพ ประกอบด้วย 2 ส่วนสำคัญ คือ ห้องฉายดาว และ ส่วนแสดงนิทรรศการรอบห้องฉายดาว

ห้องฉายดาวเป็นห้องวงกลมขนาดใหญ่ ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 20.60 เมตร หลังคาเป็นรูปโดม สูง 13 เมตร เพดานโดมเป็นแผ่นอลูมิเนียมพรุน ทาสีขาวเพื่อรับแสง ที่ฉายออกจากเครื่องฉายดาวปรากฎเป็น ดวงดาวใน ท้องฟ้าจำลอง คล้ายกับดวงดาวในท้องฟ้าจริง ความจุ 370 ที่นั่ง ตรงกลางห้อง ตั้งเครื่องฉายดาวระบบเลนส์ของ Carl Zeiss ของบริษัทคาร์ล ไซซ์ ประเทศเยอรมนี

เครื่องฉายดาว นับเป็นประดิษฐกรรมทางวิทยาศาสตร์ ที่มีระบบการทำงาน ซับซ้อน ประกอบด้วยระบบ เครื่องกล ระบบไฟฟ้า และระบบแสงที่ประณีต ฉาย ภาพวัตถุท้องฟ้า และปรากฎการหลายชนิด เลียนแบบธรรมชาติ สามารถ ปรับเครื่องขึ้นลง เพื่อแสดงดวงดาวในท้องฟ้า ของประเทศใดก็ได้ตามวัน เวลาที่ต้องการ ทั้งดวงดาวในอดีต ปัจจุบัน และอนาคต และยังเป็นเครื่องฉายดาว ขนาดใหญ่เครื่องแรก ในย่านเอเซียอาคเนย์ด้วย



ศักยภาพของเครื่องฉายดาวของท้องฟ้าจำลองกรุงเทพ

ท้อง ฟ้าจำลองกรุงเทพ เป็นสถาบันการศึกษาแห่งหนึ่ง สังกัดศูนย์วิทยาศาสตร์ เพื่อการศึกษา กรมการศึกษา นอกโรงเรียน กระทรวงศึกษาธิการ เริ่มก่อสร้างขึ้น ตั้งแต่ปี พ.ศ.2505 ด้วยวัตถุประสงค์สำคัญ เพื่อ สร้างแหล่งที่ดี ให้เยาวชน ได้ชุมนุมหาความรู้ และใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ ส่งเสริมการศึกษาวิชาดาราศาสตร์ วิทยาศาสตร์ ภูมิศาสตร์ โดยให้นักเรียน เรียนรู้จากของจำลอง ซึ่งคล้ายของจริง งบประมาณ การก่อ สร้าง และดำเนินงานขั้นต้น จนสามารถเปิดแสดงให้ประชาชนได้ในปี พ.ศ.2507 เป็นเงินงบประมาณ 12 ล้านบาท

- ฉายดาวฤกษ์ได้ประมาณ 9,000 ดวง ขณะที่ตาเปล่าสามารถมองเห็นดวงดาวในท้องฟ้าได้ราว 2,000 ดวง
- ฉายดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์ และดาวเคราะห์ 5 ดวง และแสดงการเคลื่อนที่ผ่านไปในกลุ่มดาวต่าง ๆ ได้ชัดเจน
- ฉายภาพกลุ่มดาวต่าง ๆ แสดงแนวทางช้างเผือก กระจุกดาว เนบิวลา กาแลกซี่บางแห่ง ดาวแปรแสง ดาวเทียม ดาวหาง ดาวตก เมฆ แสงรุ่งอรุณ แสงสนธยา แสดงการเกิดสุริยุปราคา จันทรุปราคา แสดงเส้นสมมุติต่าง ๆ ในท้องฟ้า เช่น เส้นศูนย์สูตร เส้นสุริยวิถี เส้นเมอริเดียน แสดงขั้วทรงกลมฟ้า และตำแหน่งที่แกนผ่านขั้วโลก จะชี้ไปในรอบ 26,000 ปี แสดงระบบสุริยะ โลกหมุนในอวกาศ ภาพฉายแสดง รอบทิศ แสดงพื้นผิวดวงจันทร์ ดาวอังคาร พื้นผิวขั้วน้ำแข็งของโลก

โดยแต่ละรอบนั้นจะใช้เวลาในการจัดฉายประมาณ 1 ชั่วโมง และ รายการแสดง จะผลัดเปลี่ยนไปทุกๆ เดือน

ห้องฉายภาพ
ห้องฉายภาพ

การเดินทาง

ท้องฟ้าจำลอง เลขที่ 928 ถนนสุขุมวิท เขตคลองเตย กรุงเทพฯ 10110 รถไฟฟ้า BTS ลงสถานี เอกมัย
รถเมล์ สาย 25 72 508 รอบแสดง วันอังคาร – วันอาทิตย์ วันละ 4 รอบ เวลา 10.00น. – 15.30 น. โทร. 0-2392-1773

ข้อดี
1. เดินทางไปเที่ยว ได้อย่างสะดวกมาก นั่งรถไฟฟ้า BTS ไปลงที่สถานีเอกมัย
2. ใช้เวลาเที่ยวกับคู่เดทได้อย่างคุ้มค่า เพียงแค่ 1 – 2 ชั่วโมง



ติดต่อได้ที่

ศูนย์วิทยาศาสตร์เพื่อการศึกษา 928 ถนนสุขุมวิท เขตคลองเตย กรุงเทพฯ 10110

โทรศัพท์ : 0-2391-0544, 0-2392-0508
โทรสาร : 0-2392-0508, 0-2391-0522
อีเมล์ :
nsce@sciplanet.org


ตารางการแสดงรอบต่าง ๆ
ตารางการแสดงรอบต่าง ๆ











ขอบคุณข้อมูลจาก bangkokplanetarium




 

Create Date : 23 มีนาคม 2554    
Last Update : 23 มีนาคม 2554 8:07:26 น.
Counter : 2199 Pageviews.  

ชมสถาปัตยกรรมโบราณ "วังนารายณ์ราชนิเวศน์" จ.ลพบุรี



วังนารายราชนิเวศน์ตั้งอยู่ในตัวเมืองริมฝั่งแม่น้ำลพบุรี


สันนิษฐานว่าบริเวณนี้เดิมเป็น พระราชวังของพระราเมศวร เมื่อสิ้นสมัยของพระองค์พระราชวังก็ถูทิ้งร้าง จนถึงสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช กษัตริย์องค์ที่ 27 แห่งกรุงศรีอยุธยา เกิด กรณีพิพาทระหว่างฮอลันดากับไทย ฮอลันดาได้นำเรือปืนปิดปากอ่าวไทย และบังคับให้ไทยทำสนธิสัญญาเสียเปรียบทางการค้าและสิทธิสภาพนอก อาณาเขต สมเด็จพระนารายณ์มหาราชจึงทรงดำริว่า กรุงศรีอยุธยาอยู่ริมแม่น้ำใหญ่ซึ่งไหลลงสู่ทะเลและไม่ห่างไกลจากทะเล ชาวยุโรปส่งกองทัพเรือเข้ามาถึงกรุงศรีอยุธยาได้โดยง่าย จึงโปรดเกล้าฯให้สร้างราชธานีเป็นแห่งที่ 2 ที่ลพบุรี เมื่อปี พ.ศ.2209

สำหรับการก่อสร้างพระราชวังนั้น พระองค์ได้โปรดเกล้าให้ช่างชาวฝรั่งเศสเป็นผู้ออกแบบ

พระราชวัง และสิ่งก่อสร้างในสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราชมากมายในวัง พระนารายณ์ราชนิเวศน์สมเด็จพระนารายณ์มหาราชโปรดให้สร้างเมื่อพ.ศ. 2209
บนพื้นที่ 41ไร่ สำหรับเป็นที่ประทับพักผ่อน ล่าสัตว์ ออกว่าราชการ และต้อนรับแขกเมือง พระองค์ทรงโปรดประทับ 8-9 เดือนในแต่ละปี ต่อ มาเมื่อพระองค์เสด็จสวรรคตในปี พ.ศ. 2231 เมืองลพบุรีจึงถูกทิ้งร้าง จนถึงรัชสมัยพระบาทสมเด็พระจอมเกล้าเจ้าอยู่ หัว(รัชการที่ 4)โปรดให้บูรณะพระราชวังของสมเด็จพระนารายณ์มหาราชและสร้างพระที่นั่งขึ้น ใหม่ในปีพ.ศ.2399 และพระราชทานนามว่าพระนารายณ์ราชนิเวศน์




พื้นที่ทั้งหมดภายในพระราชวังแบ่งออกเป็น 3 เขตคือ

1.เขตพระราชฐานชั้นนอก มีอาคารที่สร้าง ในสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช ได้แก่

-อ่างเก็บน้ำซับเหล็ก จากบันทึกของชาวฝรั่งเศสกล่าวว่าระบบการจ่ายทดน้ำเป็นผลงานของชาวฝรั่งเศส และอิตาลี น้ำที่เก็บในถังเป็นน้ำที่ไหลมาจากอ่างซับเหล็ก
-สิบสองท้องพระคลัง สันนิษฐานว่าเป็นคลังเก็บสินค้าหรือเก็บสิ่งของเพื่อใช้ในราชการเลี้ยงตึก แขกเมือง ใช้เป็นสถานที่พระราชทานเลี้ยง บันทึกของชาวฝรั่งเศสกล่าวว่ามีคูน้ำล้อมรอบตึกภายในมีคูน้ำ มีสายน้ำพุขึ้น มาเหมือนจากฝักบัวรดน้ำ
-ตึกพระเจ้าเหาสันนิษฐานว่าคงเป็นหอพระประจำพระราชวังและมีพระพุทธรูปประดิษฐานอยู่ภายในตึก ซึ่งอาจชื่อว่าพระเจ้าเหา
-ตึกรับรองคณะทูตต่างประเทศตั้งอยู่ในเขตพระราชฐานชั้นนอก บันทึกของชาว ฝรั่งเศสกล่าวว่า ตึกหลังนี้อยู่กลางอุทยานซึ่งแบ่งเป็นช่องสี่เหลี่ยมจัตุรัส รอบตึกมีคูน้ำ ล้อมรอบ ภายในคูน้ำมีน้ำพุพุ่งเรียงรายได้ ระยะยาว 20แห่ง สมเด็จพระนารายณ์ฯได้พระราชทานเลี้ยงแก่คณะทูตจากประเทศฝรั่งเศส ณ สถานที่นี้ใน พ.ศ.2228 และ พ.ศ.2230
-โรงช้างหลวง มีทั้งหมด 10โรงด้วยกันและช้างที่ยืนโรงอยู่คงเป็นช้างทรงของสมเด็จพระนารายณ์มหาราชหรือเจ้านาย

2.เขต พระราชฐานชั้นกลาง มีพระที่นั่งที่สร้างในสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช 2องค์และสร้างในสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวได้แก่

-พระที่นั่งจันทรพิศาล ตามบันทึกของชาวฝรั่งเศสกล่าวว่าเป็นหอประชุมองคมนตรีสร้างในสมัย
สมเด็จพระนารายณ์มหาราชเมื่อพระราชวังร้างเครืองบนปรักหักพังรัชการที่ 4 โปรดฯให้บูรณะซ่อมแซมขึ้นใหม่ให้มีสภาพสมบูรณ์
-พระที่นั่งดุสิตสวรรค์ธัญญมหาปราสาท เป็นพระที่นั่งท้องพระโรงสำหรับเสด็จออกรับคณะราชทูตในสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช
-หมู่พระที่นั่งพิมานมงกุฏหมู่พระที่นั่งพิมานมงกุฏ สร้างในสมัยรัชการที่ 4 ประกอบด้วยพระที่นั่ง 4 องค์เชื่อมติดกัน
-ทิมดาบ สร้างสมัยรัชการที่ 4 เป็นที่พักของทหารรักษาการณ์

3.เขตพระราชฐานใน ในสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราชมีพระที่นั่งเพียงพระองค์เดียว

-พระที่นั่งสุทธาสวรรย์ เป็นพระที่นั่งที่ประทับของสมเด็จพระนารายณ์มหาราช พระองค์ทรงเสด็จสวรรคต ณ พระที่นั่งองค์นี้เมื่อวันที่ 11 กรกฎาคม 2231
-หมู่ตึกพระประเทียบ สร้างในสมัยรัชกาลที 4 เป็นที่พักของข้าราชบริภารฝ่ายใน มีทั้งหมด 8 หลัง



ข้อมูลอาหารพื้นเมือง ( ถ้ามี )

แกงส้มพวน, แกงอ่อมพวน, ปลาร้าสับ, ปลาเจ่า

ของฝากของที่ระลึก

ส้ม ฟักและปลาส้ม, ปลาร้า, ปลาแดดเดียว, น้ำพริก, ขนมบ้าบิ่น, วุ้นน้ำมะพร้าว, ข้าวกล้องหอมมะลิ, ไข่เค็มดินสอพอง, หน่อไม้, กระท้อน,น้อยหน่า,น้ำผึ้งพัฒนานิคม และผลิตภัณฑ์จากดอกทานตะวัน ดินสอพอง, ผ้ามัดหมี่, เครื่องทองเหลือง, ผลิตภัณฑ์แกะสลักจากหินทราย

ข้อมูลอื่นๆ ( มีโชว์ การแสดง )

ชมพระราชวังแวร์ซายแห่งลพบุรี

การเดินทางโดยรถยนต์

จากย่านการค้าปรางค์แขกตรงไปทางธนาคารไทยพาณิชย์ ตาม ถนนสุรศักดิ์ จะเห็นกำแพงอิฐสูงใหญ่อยู่ขวามือ

การเข้าชม พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติสมเด็จพระนารายณ์ฯ

เปิดให้เข้า ตั้งแต่เวลา 8.30-16.30 น. หยุดวันจันทร์-วันอังคารและวันหยุดนักขัตฤกษ์ การเข้าชมผู้เข้าชมจะต้องเสียค่าเข้าชม ชาวไทยคนละ 10 บาท ชาวต่างประเทศ 30 บาท

ติดต่อขอรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ พิพิธภัณฑสถาน แห่งชาติ สมเด็จพระนารายณ์ ถนนสรศักดิ์ อำเภอเมือง จังหวัดลพบุรี 15000 โทร. 0-3641-1458 , สำนักงาน ททท.ภาคกลาง โทร. 0-3642-2768-9












ขอบคุณข้อมูลจาก wikipedia และ edtguide

และภาพสวย ๆ บางส่วนจาก oknation.net/blog/winsstars




 

Create Date : 22 มีนาคม 2554    
Last Update : 22 มีนาคม 2554 7:50:11 น.
Counter : 2763 Pageviews.  

อุทยานนกน้ำทะเลน้อย จ.พัทลุง



อุทยานนกน้ำทะเลน้อย จ.พัทลุง


ทะเลน้อย เป็นทะเลสาบน้ำจืด อยู่ในอำเภอควนขนุนจังหวัดพัทลุงทางตอนเหนือของทะเลสาบสงขลา

โดยมีคลองนางเรียมเชื่อมระหว่างทะเลน้อยและทะเลสาบสงขลาทะเลน้อยเป็นบริเวณที่มีน้ำขังตลอดปี พืชส่วนใหญ่เป็นพืชน้ำที่โดดเด่นและสร้างสีสันให้กับทะเลน้อยได้แก่ สาหร่ายหางกระรอกสาหร่ายข้างเหนียว ที่มีดอกเล็กๆสีเหลือง สีม่วงสวยงาม บัวหลวง บัวสายบัวเเผื่อน เป็น ต้นความอุดมสมบูรณ์และความหลากหลายทางชีวภาพในวงจรธรรมชาติของทะเลน้อยเหมาะ สมอย่างยิ่งต่อการดำรงชีวิตของนกน้ำนานาชนิดทั้งนกประจำถิ่นและนกอพยพใช้ เป็นที่อาศัยช่วยเติมแต่งทะเลน้อยที่สวยงามจากมวลไม้น้ำได้มีความสมบูรณ์มี ชีวิตชีวาตามครรลองของธรรมชาติ


สภาพพื้นที่ของเขตห้ามล่าสัตว์ป่าทะเลน้อยทั้งหมด 450 ตารางกิโลเมตร ประกอบด้วยส่วนที่เป็นพื้นดินและพื้นน้ำ ส่วนพื้นดินมีเนื้อที่ 422 ตารางกิโลเมตร หรือ ร้อยละ 94 ของพื้นที่ทั้งหมด ลักษณภูมิประเทศส่วนใหญ่เป็นที่ราบชายทะเลสาบ ประกอบด้วยนาข้าวและป่าหญ้า ป่าพรุและป่าเสม็ด เป็นแอ่งน้ำมีพืชปกคลุม และที่ราบเชิงเทือกเขาบรรทัด มีเนินเขาสูงราว 100 เมตร จากระดับน้ำทะเล

ส่วนพื้นน้ำมีเนื้อที่ 28 ตารางกิโลเมตร หรือร้อยละ 6 ของพื้นที่ทั้งหมด คือ ตัวทะเลน้อยนั่นเอง มีความกว้างราว 5 กิโลเมตร และยาว 6 กิโลเมตร ความลึกโดยเฉลี่ยราว 1.5 เมตร ปกคลุมด้วยพืชน้ำต่างๆ เช่น บัว กระจูด หญ้าน้ำกก ปรือ และ กง กระจัดกระจายอยู่ทั่วไป โดยเฉพาะบริเวณน้ำตื้นและค่อนข้างนิ่ง




ท่องเที่ยวธรรมชาติทะเลน้อย

นัก ท่องเที่ยวที่เดินทางมาถึงทะเลน้อยจะมองเห็นตัวทะเลน้อยได้ส่วนหนึ่ง หลังจากเดินเข้าไปภายในเขตฯ แนะนำว่านักท่องเที่ยวที่เพิ่งเดินทางมาทะเลน้อยเป็นครั้งแรกควรจะเข้าไปหา ข้อมูลของพื้นที่ใน ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว ที่อยู่ริมตลิ่งใกล้ๆ กับประตูทางเข้าเขตฯ จากนั้นจึงเริ่มไปพักผ่อนที่ศาลาท่าเรือหรือลงเรือชมธรรมชาติ เส้นทางศึกษาธรรมชาติของทะเลน้อยแบ่งออกเป็นหลายจุด จากที่ทำการเขตห้ามล่าสัตว์ป่าทะเลน้อย นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางเที่ยวชมได้ดังนี้

1.สะพานไม้รอบที่ทำการฯ สิ่งที่น่าสนใจตามทางเดินเท้าในบริเวณที่ทำการฯ มีดังนี้ นกอีโก้ง นกพริก นกอีล้ำ นกยางควาย จอกหูหนู บัวสาย ปลากระดี่ ปลาช่อน สำหรับต้นกระจูดที่ใช้สำหรับทำหัตถกรรม ทางเขตฯ ได้นำมาปลูกแสดงไว้ใกล้ๆ ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว เพื่อให้นักท่องเที่ยวมีโอกาสได้ชมลักษณะดั้งเดิมของต้นกระจูด ก่อนนำไปผ่านขบวนการผลิต ขณะที่ท่านเดินผ่านไปตามเสาต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเสาไม้หรือเสาปูน ลองสังเกตดูว่าท่านเห็นวัตถุก้อนสีขาวหรือก้อนสีชมพูบ้างไหม

ท่าน ทราบไหมว่ามันคืออะไร และแตกต่างกันอย่างไรระหว่างทางเดินท่านจะพบผักตบชวาที่ถูกกั้นอยู่ในกรอบ และอาจพบนกอีโก้งหาอาหารกินอยู่ใกล้ๆ กอผักตบชวาเหล่านั้นคือ แหล่งสร้างรังวางไข่ของนกน้ำที่อาศัยอยู่ในบริเวณนั้น คือ นกอีโก้ง และ นกพริก และยังเป็นที่หลบภัยของสัตว์น้ำอื่นๆ ด้วยศาลากลางน้ำ เป็นจูดที่น่าสนใจและเป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวที่นำอาหารกลางวันมารับ ประทาน ด้วยบรรยากาศที่แวดล้อมไปด้วยความชุ่มฉ่ำของสายลมเย็นท่ามกลางกลุ่มบัวสายและจอกหูหนู มีเสียงกบ เขียดขับกล่อมพร้อม กับได้เห็นนกนานาพันธุ์ต่างสีต่างท่าทาง ต่างก็หากินอย่างอิสระ นับเป็นบรรยากาศที่หาได้ยากขึ้นๆทุกวัน หากท่านมีเวลามาก ขอแนะนำให้ท่านลงเรือไปชมความงามของทะเลน้อยในจุดอื่นๆ บ้าง

2.หมู่บ้านทะเลน้อย เดิมชาวบ้านมีอาชีพทำนาและทำประมงเป็นหลัก ปัจจุบันชาวบ้านส่วนหนึ่ง(อาจจะถึง1 ใน 3) เดินทางออกไปหางานทำในต่างถิ่น ชาวบ้านที่เหลือก็ยังทำนา ทำประมง ทำหัตถกรรม (เสื่อกระจูด) ค้าขาย และรับจ้างทั่วไป แต่ที่น่าประทับใจก็คือท่านจะพบกับรอยยิ้มและอัธยาศัยไมตรีของชาวบ้านที่มี ต่อนักนักท่องเที่ของฝากจากทะเลน้อย คงหนีไม่พ้น ผลิตภัณฑ์จากต้นกระจูดที่เกิดจากฝีมือและความวิริยะอุตสาหะของแม่บ้าน ชาวทะเลน้อย ไม่ว่าจะเป็น เสื่อ หมวก แผ่นรองจาน แผ่นรองแก้ว กระเป๋า ฯลฯ และ ของฝากที่ขึ้นชื่ออีกอย่างหนึ่งของทะเลน้อยก็คือปลาดุกร้าที่อร่อยแบบสุดจะ บรรยาย ต้นตำรับของปลาดุกร้าของแท้ต้องที่ทะเลน้อยเท่านั้น

3.ดงนกนางนวล ในช่วงเดือนตุลาคม-เดือนเมษายน เมื่อเรือออกจากท่าได้ราว 150 เมตร ท่านจะพบฝูงนกนางนวลเกาะอยู่ตามหลักไม้ที่ปักไว้ตามทางเข้าออกของเรือ นกนางนวลที่พบบ่อยในทะเลน้อยมี 2 ชนิด คือ นกนางนวลแกลบดำปีกขาว(Whitewinged Tern) และ นกนางนวลแกลบเคราขาว (Whiskered Tern) ท่านจะพบนกนางนวลแกลบเหล่านี้เกาะพักรวมกันตามไม้ที่ปักไว้ดังกล่าว นกทั้ง 2 ชนิดจะย้ายไปหาอาหารกินที่อื่นนอกช่วงเวลาที่กล่าวไว้ข้างต้น

4.ดงบัวสาย ผ่านจากนกนางนวลเรือจะพาท่านวนไปตามเข็มนาฬิกา จะผ่านไปในดงบัวสาย ดงบัวที่มีสีชมพูบ้านสะพรั่งในช่วงเวลา 8 โมงเช้า เมื่อ แดดร้อนแรงขึ้น บัวสายจะเริ่มหุบ และจะบานเต็มที่อีกครั้งหนึ่งในวันรุ่งขึ้นบัวสายเป็นบัวพันธุ์พื้นเมืองที่ แพร่กระจายทั่วไปในประเทศไทย ก้านใบสามารถนำมาประกอบอาหารได้ เช่น แกงส้ม ต้มกระทิ ผัดน้ำมัน หรือ ต้มจิ้มน้ำพริกได้ ในบริเวณดงบัวสายท่านอาจพบ นกยางกรอก นกอัญชันคิ้วขาว นกพริก หรือ นกอีแจว เดินหากินอยู่บนใบบัว ท่านสงสัยไหมว่าทำไมนกเหล่านั้นจึงเดินบนใบบัว หรือพืชน้ำ เช่นจอก แหนได้ ลองสังเกตดูความยาวของนิ้วเท้าของนกเหล่านั้นให้ดี

5.ดงนกเป็ดน้ำ นกเป็ดน้ำเป็นนกมีปีก มันบินได้และเคลื่อนย้ายที่อยู่เสมอ ส่วนมากจะพบได้ตามดงกระจูดหนูที่ไม่หนาแน่น ตามดงบัวสาย หรือ บัวหลวง นกเป็ดน้ำที่พบได้ตลอดปี คือ นกเป็ดแดง และ เป็ดคับแค(ยกเว้นเดือนสิงหาคม-ต้นเดือนตุลาคม จะเป็นช่วงที่นกเป็ดน้ำผลัดเปลี่ยนขนจะพบได้ยาก) ส่วนเป็ดลาย และเป็ดชนิดอื่นๆ จะเป็นเป็ดที่อพยพมาจากทางตอนเหนือของทวีปเอเชียพบได้เฉพาะในช่วงเดือน ธันวาคม-ต้นเดือนมีนาคม ส่วนมากเราจะเข้าใกล้ฝูงนกเป็ดน้ำได้ไม่มากนัก นกจะบินหนีขึ้นพร้อมๆกันครั้งละเป็นพันๆตัว พร้อมกับเสียงกระพือปีกพรึบพรับเป็นที่น่าตื่นตาตื่นใจมาก ส่วนใหญ่คนขับเรือจะรู้ว่าจะพบนกเป็ดน้ำได้ที่ไหน

และยังมีที่ท่องเที่ยวอีกมากมาย ดงกระจูดหนู ศาลานางเรียม คลองนางเรียม แหลมดิน ดงบัวบาน ผืนน้ำกว้าง



ติดต่อขอข้อมูลการท่องเที่ยว / ที่พัก

- เขตห้ามล่าสัตว์ป่าทะเลน้อย โทร.0 7468 5230
- สถานีพัฒนาและส่งเสริมการอนุรักษ์สัตว์ป่าทะเลน้อย โทร.0 7468 5599
- สำนักงาน ททท.ภาคใต้ เขต 2 โทร.0 7434 6514-6
- บ้านพักตากอากาศ "พรมเงิน" ริมทะเลน้อย โทร.0 7468 5225, 0 7468 5330
- บ้านพักในอุทยานกน้ำทะเลน้อย โทร.0 7468 5230
- สวนพฤกษศาสตร์ ถนนสายลำปำ-ทะเลน้อย โทร.0 7461 4224



การเดินทาง

  • การ เดินทางไปทะเลน้อย หากจะเริ่มจากกรุงเทพฯก็สามารถไปได้สะดวกทั้งทางรถยนต์ รถไฟ และเครื่องบิน โดยจุดหมายปลายทางอยู่ที่จังหวัดพัทลุง
  • เครื่องบินต้องบินไปลงหาดใหญ่ หรือตรังแล้วนั่งรถยนต์มาที่พัทลุงและทะเลน้อยตามลำดับ
  • รถไฟ มีรถผ่านสถานีพัทลุงทุกวัน ติดต่อสถานีรถไฟกรุงเทพฯ โทร.0-2223-7010,0-2223-7020
  • รถ ยนต์ มีรถประจำทางแบบธรรมดาและปรับอากาศ ออกเดินทางจากสถานีขนส่งสายใต้ใหม่ (กรุงเทพฯ)ทุกวัน จากพัทลุงจะต้องนั่งรถสองแถวไปยังทะเลน้อย (มีคิวรถสองแถว พัทลุง-ทะเลน้อยอยู่ใกล้สถานีรถไฟ)โดยใช้เส้นทางหลวงสาย 4048 ผ่านอำเภอควนขนุน ตลาดปากคลอง สุดปลายทางที่ทะเลน้อย เป็นระยะทางประมาณ 32 กิโลเมตร



















  • ขอบคุณภาพสวย ๆ และข้อมูลจาก
    phatthalung.go.th และ ททท.




     

    Create Date : 18 มีนาคม 2554    
    Last Update : 18 มีนาคม 2554 8:50:37 น.
    Counter : 2924 Pageviews.  

    1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  24  25  26  27  28  29  30  31  32  33  34  35  36  37  38  39  40  41  42  43  44  45  46  47  48  49  50  51  52  53  54  55  56  57  58  59  60  61  62  63  64  65  66  67  68  69  70  71  72  73  74  75  76  77  78  79  80  81  82  83  84  85  86  87  88  89  90  91  92  93  94  95  96  97  98  
     Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.