ติดตาม twitter ได้ที่ @karnoi กด
ติดตามข้อมูลเว็บทาง FaceBook กด

cartoonthai
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 237 คน [?]




New Comments
Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add cartoonthai's blog to your web]
Links
 

 

น้ำตกเอราวัณ




น้ำตก ที่สร้างชื่อให้กับกาญจนบุรีมากที่สุดนับแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ลักษณะเป็นน้ำตกหินปูนสีเหลือง สายน้ำใสสะอาด บางช่วงที่เป็นแอ่งน้ำจะมีสีเขียวมรกต ยามแดดสาดส่องจึงเกิดสีสันที่งดงาม ภายใต้ป่าใหญ่ที่ไม่รกครึ้มเกินไปแวดล้อมอยู่อย่างร่มรื่น ร่มเย็น

ที่ตั้ง : น้ำตกเอราวัณตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติน้ำตกเอราวัณ มีพื้นที่ครอบคลุมอำเภอเมือง อำเภอศรีสวัสดิ์ อำเภอไทรโยค จังหวัดกาญจนบุรี ภูมิประเทศทั่วไปเป็นภูเขาสูงสลับพื้นที่ราบ และเป็นป่าเบญจพรรณที่ไม่รกชัฏเสียเป็นส่วนใหญ่ ที่ทำการอุทยานฯ ตั้งอยู่ในเขตอำเภอศรีสวัสดิ์





น้ำตกเอราวัณ : เป็นน้ำตำหินปูน มีลำธารไหลทอดยาว ลงมาจากภูเขาระยะทางที่เกิดเป็นน้ำตกชั้นต่างๆ ประมาณ 1.5 กิโลเมตร สวยงามทั้ง 7 ชั้น สามารถเดินเที่ยวชมจนถึงชั้นบนสุดได้อย่างไม่ยากจนเกินไปนัก ชื่อน้ำตกเอราวัณ มาจาก ลักษณะของน้ำตกชั้นที่ 7 ลักษณะสายน้ำไหลบ่ามองดูคล้ายกับหัวช้างเอราวัณซึ่งมี 3 หัว จึงกลายมาเป็นที่มาของชื่อน้ำตก

เส้นทางศึกษาธรรมชาติ
: อุทยาฯ ได้จัดเส้นทางไว้สำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการศึกษาธรรมชาติ 2 เส้นทางคือ

เส้น ทางสายป่าดิบแล้งม่องไล่ - ระยะทาง 1,010 เมตร ลักษณะเป็นทางเดินเลียบลำห้วยม่องไล่ เริ่มจากสะพานค่ายพักไปบรรจบกับเส้นทางในน้ำตกเอราวัณชั้นที่ 3

เส้นทางเขาหินล้านปี - ระยะทาง 1,940 เมตร เริ่มจากลานจอดรถไปบรรจบกับเส้นทางสู่น้ำตกบริเวณสะพานของน้ำตกเอราวัณชั้นที่ 4


ถ้ำพระธาตุ
: อยู่ห่างจากอุทยานฯ ไป 12 กิโลเมตร ภายในมีหินงอกหินย้อยสวยงาม สามารถติดต่อเจ้าหน้าที่
นำชมได้ที่ที่ทำการอุทยานฯ

การเดินทาง
จาก ตัวเมืองกาญจนบุรี ใช้ทางหลวงหมายเลข 3199 (กาญจนบุรี - ศรีสวัสดิ์) ระยะทาง 66 กิโลเมตร ถึงตลาดเขื่อนศรีนครินทร์ ตรงไปเข้าที่ทำการอุทยานฯ รวมระยะทางจากตัวเมืองกาญจนบุรี 66 กิโลเมตร

อุทยานแห่งชาติน้ำตกเอราวัณ โทรศัพท์ 0 - 3451 - 6530






 

Create Date : 04 มิถุนายน 2554    
Last Update : 4 มิถุนายน 2554 10:12:39 น.
Counter : 2063 Pageviews.  

ย้อนอดีต ชมเสน่ห์เมืองเก่า ณ โบราณสถานเวียงลอ

โบราณสถานเวียงลอ ตั้งอยู่ห่างจากตัวอำเภอจุนไปตามทางหลวงหมายเลข 1021 ถึงบ้านห้วยงิ้วประมาณ 17 กิโลเมตร มีทางแยกเป็นทางเดินถึงบ้านน้ำจุนอีก 12 กิโลเมตร มีทางแยกเป็นทางเดินถึงบ้านน้ำจุนอีก 12 กิโลเมตร ปรากฏซากกำแพงเมืองเก่า วัดร้างอยู่มากมาย พระธาตุและวัดเก่าแก่คือ วัดศรีปิงเมือง เมืองลอหรือเวียงลอ มีคูเมืองและกำแพงคันดิน 1-2 ชั้น ล้อมรอบ ตั้งอยู่ที่ราบระหว่างเชิงดอยจิกจ้องและแม่น้ำอิง




ประวัติและผังเมืองของโบราณสถานเวียงลอ

ลักษณะผังเมืองเป็นรูปค่อนข้างกลม ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางราว 500 เมตร มีแม่น้ำอิงไหลผ่านแนวกำแพงด้านทิศใต้ และแม่น้ำอิงที่เปลี่ยนทางเดินไหลผ่านกลางเมือง จากทิศใต้ไปยังมุมเมืองด้านทิศตะวันออกเฉียงเหนือ แนวกำแพงเมืองเป็นคันดินไม่สูงนัก บางส่วนมีร่องรอยการก่ออิฐเสริมด้วยคูเมืองส่วนใหญ่ตื้นเขิน

ภายในตัวเมืองมีบ่อน้ำกรุอิฐจำนวนมาก พื้นที่ส่วนใหญ่เป็นที่ทำไร่ข้าวโพดและเป็นที่รกร้างว่างเปล่า แต่เดิมภายในเมืองลอ มีวัดร้างกว่า 50 วัด ตามวัดร้างจะพบพระพุทธรูปหินทรายและพระพุทธรูปทองสำริดจำนวนมาก แต่ถูกทำลายลงไปเกือบหมดแล้ว ที่สำคัญคือ วัดพระธาตุหนองห้าเป็นศาสนสถานที่ตั้งอยู่บนลาดชายเนินเขา ลักษณะเป็นเจดีย์ทรงคล้ายพระธาตุเจดีย์ที่วัดลีเมืองพะเยา ซึ่งสัณนิษฐานว่าสร้างเมื่อราวพุทธศตวรรษที่ 21 เป็นเมืองที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานว่า 900 ปี

ตามหลักฐานที่ปรากฏในศิลาจารึก พบที่วัดใหม่ ซึ่งเป็นวัดร้างในเวียงลอ ข้อความในจารึกกล่าวถึงเจ้าหมื่นล่อเทพศรีจุฬาสร้างวัดใหม่เมื่อ จ.ศ. 859 (พ.ศ. 2040) ถวายเป็นพระราชกุศลแก่มหาเทวีเจ้าและพระมหากษัตริย์ผู้ครองเมืองเชียงใหม่ และกล่าวถึงอาณาเขตวัดนี้ให้อยู่ในพื้นที่ตะวันออกจรดฝั่งแม่น้ำด้านใต้จรด คูเมืองชั้นนอก (คือเวียง) ด้านตะวันตกออกห่างไปร้อยวา

ส่วนด้านเหนือจรดคูเมืองและด้านท้ายของจารึกยังบอกว่า ผู้ใดมาครองเมืองลอต่อไปขอให้บำรุงพระพุทธศาสนาและวัดใหม่นี้สืบไปอย่าได้ ทำลาย ความในศิลาจารึกกล่าวชี้ให้เห็นว่า เวียงลอ หรือเมืองล่อ เป็นเมืองโบราณที่มีคูเมืองกำแพงเมืองล้อมรอบอย่างน้อย สองชั้นและชื่อเมืองลอ (เมืองล่อ) ก็เป็นชื่อเรียกกันมาตั้งแต่พุทธศตวรรษที่ 21 และเมืองลอสร้างก่อนปีที่สร้างวัดป่าใหม่นี้ หรือก่อน พ.ศ. 2040

ในสมัยล้านนา “เวียงลอ” เป็นเมืองสำคัญอยู่ระหว่างเส้นทางคมนาคมติดต่อระหว่างเมืองเชียงแสน เมืองเชียงของ เมืองเทิง เมืองพะเยา และเมืองน่าน ล้านช้าง ดังปรากฏในตำนานพระเจ้าทองทิพย์ วัดสวนตาล เมืองน่านว่า ในรัชสมัยพระเจ้าติโลกราช พ.ศ. 1993 คราวที่เสด็จไปตีเมืองน่าน ยกทัพผ่านเมืองลอและตั้งขุนนาง ครองเมืองลอด้วยเวียงลอ ยิ่งมีความสำคัญและมีผู้คนอยู่อาศัยมาตลอดสมัยล้านนา


และแม้ว่าล้านนาจะตกอยู่ในอำนาจพม่า แต่พม่ายังให้ความสำคัญโดยเจ้าเมืองลอ มีฐานะเท่าเจ้าเมืองสาดและให้เมืองลอขึ้นกับเมืองพะเยาในสมัยกรุงธนบุรี พ.ศ. ๒๓๒๒ พระยากาวิละได้กระทำการไถ่โทษโดยการตีเอาเมืองลอและเมืองเทิง กวาดต้อนผู้คนมาถวายสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ซึ่งความในตำนานกล่าวชี้ให้เห็นว่า เมืองลอยังเป็นเมืองสำคัญและมีผู้คนอยู่อาศัยมาโดยตลอด

จนถึงสมัยกรุงธนบุรี สันนิษฐานว่าเมือง ละจะร้างผู้คนและหมดความสำคัญลงในคราวที่พระยากาวิละยกทัพไปตี และกวาดต้อนผู้คนลงไปทั้งหมดนั่นเองสมัยพระเจ้ามหาพรหมสุรธาดา เจ้าปกครองนครน่านได้ให้ขุนหลวงไชยสถานนำไพร่พลออกมาตั้งบ้านเรือนใหม่เรียก ว่า “เมืองจุน”

หลังจากที่เมืองลอเสื่อมลง ขุนหลวงไชยสถานก็ได้รวมเอาเมืองลอไว้ด้วยกันในปี พ.ศ. 2443 เมืองลอ เมืองจุน เมืองเทิง นครน่าน เชียงของ รวมกันเป็นเขตการปกครอง “นครน่านเหนือ รวมเมืองพาน แม่สรวย เวียงป่าเป้า เชียงราย เชียงแสน แม่จัน ยุบเมืองลอ เมืองจุนเป็นตำบลขึ้นอยู่ในเขตการปกครองเป็นมณฑลพายัพเหนือ วันที่ 24 สิงหาคม 2506

กระทรวงมหาดไทยยกฐานะเป็นตำบลลอ ตำบลจุนเป็นกิ่งอำเภอ ให้อยู่ในเขตการปกครองของอำเภอเชียงคำ จังหวัดเชียงราย ต่อมาวันที่ 12 กรกฎาคม 2508 ได้ยกฐานะจากกิ่งอำเภอเป็น “อำเภอจุน” จังหวัดเชียงราย จนถึงวันที่ 28 สิงหาคม 2520 ได้มีการจัดตั้งจังหวัดใหม่ คือ จังหวัดพะเยา ให้อำเภอจุนอยู่ในเขตปกครองของจังหวัดพะเยา นับแต่นั้นเป็นต้นมาจนถึงปัจจุบัน

โบราณสถานเวียงลอ นั้นกินอาณาบริเวณกว้างใหญ่มาก ตั้งอยู่บนสองฝั่งลำน้ำอิง การจะชมให้ทั่วถึงนั้นต้องใช้เวลามากและการเดินทางที่ไกล รถยนต์ไม่สามารถเข้าถึงพื้นที่โบราณสถานจุดสำคัญต่างๆได้ พาหนะที่เหมาะสมมากๆคือจักรยาน ทำให้ได้เรียนรู้ประวัติศาสตร์และสัมผัสธรรมชาติ วิถีชีวิตอันสวยงามอีกด้วย ถ้ามีจักรยานควรติดไปด้วยเมื่อมาถึงโบราณสถานเวียงลอ รับรองจะเพลิดเพลิน สนุกและมีความสุขกับการมาเยือนโบราณสถานเวียงลอแห่งนี้

ข้อมูลโดย Visitphayao




 

Create Date : 03 มิถุนายน 2554    
Last Update : 3 มิถุนายน 2554 8:28:16 น.
Counter : 2628 Pageviews.  

ธารน้ำห้าสี หาดห้าสี ความมหัศจรรย์ธรรมชาติที่สรรค์สร้าง

Click here to see a large version
รูปภาพ ธารน้ำห้าสี หาดห้าสี ความมหัศจรรย์ธรรมชาติที่สรรค์สร้าง
Click here to see a large version
รูปภาพ ธารน้ำห้าสี หาดห้าสี ความมหัศจรรย์ธรรมชาติที่สรรค์สร้าง
Click here to see a large version
รูปภาพ ธารน้ำห้าสี หาดห้าสี ความมหัศจรรย์ธรรมชาติที่สรรค์สร้าง




 

Create Date : 02 มิถุนายน 2554    
Last Update : 2 มิถุนายน 2554 8:34:23 น.
Counter : 1444 Pageviews.  

"น้ำตกกะแง่สอด"น้ำตกสวยแห่งทุ่งใหญ่นเรศวร (ฝั่งตะวันออก)



หากคุณเป็นอีกคนที่รักการท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติและการผจญภัย คุณต้องไม่พลาดที่จะไปเยือนสถานที่ท่องเที่ยวที่ยังคงความเป็นธรรมชาติไว้ อย่างดีเยี่ยม อย่าง เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร (ฝั่งตะวันออก) อีกหนึ่งจุดหมายปลายทางด้านการท่องเที่ยวที่ตั้งอยู่ในท้องที่ตำบลไล่โว่ อำเภอสังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรี และตำบลแม่ละมุ้ง อำเภออุ้มผาง จังหวัดตาก

"น้ำตกกะแง่สอด" คือ สถานที่ท่องเที่ยวที่ตั้งอยู่ท่ามกลางป่าลึก ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรด้านตะวันออก เป็นน้ำตกขนาดเล็กที่มีความสวยงาม และยังคงเป็น ธรรมชาติมากแห่งหนึ่ง ตื่นตากับความงดงามของพรมมอสเขียวขจีที่ปูทั่วโขดหินบริเวณรอบๆน้ำตก พร้อมฟังเสียงเซ็งแซ่ของเหล่านกป่านานาชนิดที่อาศัยอยู่บริเวณรอบๆน้ำตก แห่งนี้

ข้อมูลเพิ่มเติม สำนักงานจังหวัดตาก ศาลากลางจังหวัดตาก อ.เมือง จ.ตาก 63000
โทร. 0-5551-1503 ต่อ 23620 โทรสาร 0-5551-1503 ต่อ 23666
tak@moi.go.th หรือ datatak@hotmail.co.th





 

Create Date : 01 มิถุนายน 2554    
Last Update : 1 มิถุนายน 2554 8:23:54 น.
Counter : 2013 Pageviews.  

ชมซากดึกดำบรรพ์ที่วนอุทยานไดโนเสาร์เชียงม่วน-แก่งหลวง



ไดโนเสาร์ เชียงม่วน เป็นไดโนเสาร์ตัวแรกที่ค้นพบในภาคเหนือ ระหว่างปี พ.ศ. 2545 – 2552 นายวรวุธ สุธีธร นักโบราณชีววิทยา หัวหน้าคณะสำรวจของกรมทรัพยากรธรณีได้นำคณะสำรวจเข้ามาทำการขุดค้นซากดึกดำ บรรพ์ที่พบที่ อำเภอเชียงม่วน จังหวัดพะเยา

โดยพบซากกระดูกไดโนเสาร์วางตัวเรียงต่อกันในแนวทิศเหนือ-ทิศใต้ จำนวน 104 ชิ้น ประกอบด้วยกระดูกคอ กระดูกสันหลัง กระดูกโคนหาง กระดูกสะโพกและกระดูกซี่โครง ผลการตรวจสอบทำให้ทราบว่าซากดึกดำบรรพ์ที่ค้นพบเป็นซากไดโนเสาร์ซอโรพอด ซึ่งมีคอยาว หางยาว เดิน 4 ขา และกินพืชเป็นอาหาร

ปัจจุบันยังไม่สามารถระบุชนิดได้ แต่พบว่ามีลักษณะต่างจากไดโนเสาร์ซอโรพอดชนิดอื่นๆที่เคยพบในประเทศไทย สันนิษฐานว่าอาจเป็นชนิดพบใหม่ของโลก เนื่องจากแหล่งที่พบเป็นพื้นที่ใหม่ที่เพิ่งมีการค้นพบซากดึกดำบรรพ์ของ ไดโนเสาร์เป็นครั้งแรก

ใกล้ๆ กันเป็นที่ตั้งของแก่งหลวง เป็นโขดหินขนาดใหญ่ที่ตั้งขวางลำน้ำยม ริมสองฝั่งเป็นป่าเต็งรังและป่าเบญจพรรณ เป็นที่พักผ่อนของคนเชียงม่วน ช่วงฤดูฝนสามารถนั่งแพล่องแก่งได้

วนอุทยานไดโนเสาร์เชียงม่วน-แก่งหลวง ตั้งอยู่ที่บ้านหนองกลาง ตำบลบ้านมาง อำเภอเชียงม่วน จังหวัดพะเยา เริ่มจากจากแยกบ้านบ่อเบี้ย ใช้ทางหลวงหมายเลข 1251 ไปทางอ.เชียงม่วนจนถึงสี่แยกบ้านมาง ให้เลี้ยวขวาไปประมาณ 4 กิโลเมตร แล้วเลี้ยวขวาอีกครั้งบริเวณบ้านปงสนุกไปตามทางอีกประมาณ 4 กิโลเมตรถึงวนอุทยานไดโนเสาร์เชียงม่วน-แก่งหลวง

ข้อมูลโดย Visitphayao








 

Create Date : 31 พฤษภาคม 2554    
Last Update : 31 พฤษภาคม 2554 8:35:24 น.
Counter : 2500 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  24  25  26  27  28  29  30  31  32  33  34  35  36  37  38  39  40  41  42  43  44  45  46  47  48  49  50  51  52  53  54  55  56  57  58  59  60  61  62  63  64  65  66  67  68  69  70  71  72  73  74  75  76  77  78  79  80  81  82  83  84  85  86  87  88  89  90  91  92  93  94  95  96  97  98  
 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.