ติดตาม twitter ได้ที่ @karnoi กด
ติดตามข้อมูลเว็บทาง FaceBook กด

cartoonthai
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 237 คน [?]




New Comments
Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add cartoonthai's blog to your web]
Links
 

 

"ถ้ำขมิ้น" ถ้ำสวยแห่งอุทยานแห่งชาติใต้ร่มเย็น



"ถ้ำขมิ้น" อีกหนึ่งถ้ำที่ถือว่าเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงของอุทยานแห่งชาติใต้ร่มเย็น อุทยานแห่งชาติที่มีพื้นที่ครอบคลุมท้องที่อำเภอบ้านนาสาร อำเภอกาญจนดิษฐ์ และอำเภอเวียงสระ จังหวัดสุราษฎร์ธานี

โดย ถ้ำขมิ้น เป็นถ้ำหินปูน ที่ค่อนข้างมีขนาดกว้างใหญ่มาก ภายในถ้ำนั้นงดงามไปด้วยประติมากรรมหินงอกหินย้อยที่มีความสวยงาม และเป็นที่อยู่อาศัยของค้างคาวจำนวนมากมาย

นอกจากนี้แล้วภายในถ้ำถ้ำขมิ้นยังได้จัดเส้นทางศึกษาธรรมชาติ ระยะทาง 1,250 เมตร สำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องเดินป่าศึกษาธรรมชาติบริเวณรอบๆถ้ำอีกด้วย

ถ้ำขมิ้น (ถำ้ำเหม็น) ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติใต้ร่มเย็น บริเวณหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติที่ รย.5 (ถ้ำขมิ้น) ในเขตเทศบาลตำบลนาสาร อำเภอนาสาร จังหวัดสุราษฎร์ธานี

ข้อมูลโดย กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช / travel.thaiza.com




 

Create Date : 13 ตุลาคม 2554    
Last Update : 13 ตุลาคม 2554 7:58:53 น.
Counter : 1874 Pageviews.  

กราบนมัสการพระธาตุ ณ วัดหนองแวง จังหวัดขอนแก่น



เนื่องจากในเดือนนี้มีวันสำคัญทางพระพุทธศาสนาคือ วันอาสาฬหบูชา ทางคู่หูเดินทางจึงอยากเชื้อเชิญให้เราชาวพุทธศาสนิกชนทั้งหลาย เข้าวัด ฟังธรรม รักษาศีล เพื่อเป็นการพักผ่อนจิตใจ หลังจากที่เราต้องใช้ชีวิตอย่างเหน็ดเหนื่อยกับโลกในยุคปัจจุบันนี้ ทุกครั้งที่ทางทีมงานได้ออกไปทำคอลัมน์เก็บเกี่ยวเรื่องราวและประสบการณ์ดีๆ มาฝากคุณผู้อ่านก็ไม่เคยพลาดที่จะต้องแวะวัด ทำบุญ กราบสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ของเมืองนั้นๆ เช่นกัน โอกาสนี้เราจึงอยากจะพาคุณผู้อ่านไปกราบนมัสการพระธาตุสิ่งศักดิ์สิทธิ์ อันเป็นตัวแทนของพระพุทธเจ้า ณ วัดหนองแวง ซึ่งมีพระมหาธาตุแก่นนคร หรือ พระธาตุ 9 ชั้นอันงดงามตั้งอยู่ที่นั่น พร้อมแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจของเมืองขอนแก่น


• วัดหนองแวง (พระอารามหลวง)
ซึ่งมีพระมหาธาตุแก่นนคร หรือ พระธาตุเก้าชั้น เรือนยอดทรงเจดีย์ (จำลองแบบจากพระธาตุขามแก่น) จัดสร้างขึ้นเนื่องในวโรกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงครองสิริราช สมบัติครบ 50 ปี และมหามังคลานุสรณ์ 200 ปี เมืองขอนแก่น ความสูงขององค์พระธาตุฯ 80 เมตร มีพระจุลธาตุ 4 องค์ ตั้งอยู่ 4 มุมและมีกำแพงแก้วพญานาค 7 เศียรล้อมรอบ เป็นศิลปะสมัยทวาราวดี ผสมผสานศิลปะอินโดจีน ในระหว่างการเดินขึ้นเราจะได้ยินเสียงอันไพเราะก้องกังวานของกระดิ่งที่แขวนไว้โดยรอบพระธาตุทั้ง 9 ชั้น ทำให้มีความสุขใจในขณะเดินขึ้นไปในแต่ละชั้น พร้อมยังสามารถเดินชมศิลปะและความงดงามของบานประตู ภาพวาด และหน้าต่างแกะสลัก บอกเล่าเรื่องราวเป็นภาพชาดก ภาพพุทธประวัติ ในชั้นบนสุดของพระธาตุเป็นสถานที่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุกลางบุษบก อีกทั้งยังเป็นจุดชมวิวทัศนียภาพความสวยงามของเมืองขอนแก่นได้รอบทั้ง 4 ทิศ โดยเฉพาะทางด้านทิศตะวันออกสามารถมองเห็นทิวทัศน์ของบึงแก่นนครที่มีพื้นที่กว้างใหญ่ถึง 600 ไร่




ภายในองค์พระธาตุแต่ละชั้น

- ชั้นที่ 1 เป็นหอประชุม มีพระบรมสารีริกธาตุของพระพุทธเจ้า ส่วนอุรังคธาตุ (ส่วนอก) และพระธาตุของพระสาวกประมาณ 100 องค์ ประดิษฐานอยู่ บานประตู หน้าต่าง แกะสลักภาพนิทานเรื่องจำปาสี่ต้น แบบ 3 มิติ และมีจิตรกรรมฝาผนังประวัติศาสตร์เมืองขอนแก่น
- ชั้นที่ 2 เป็นพิพิธภัณฑ์ของชาวอีสาน โดยเก็บรวบรวมข้าวของเครื่องใช้ในอดีตที่ค่อนข้างหาดูได้ยากในปัจจุบัน พร้อมทั้งทีการวาดลวดลายบนผนังที่เกี่ยวกับข้อห้ามของคนอีสาน ที่เรียกว่า "คะลำ" ซึ่งเป็นแนวประพฤติตนในการอยู่ร่วมกันของชาวอีสาน โดยแต่ละภาพก็หมายถึงข้อห้ามแต่ละข้อ ซึ่งมีทั้งหมด 35 ข้อ บานประตู หน้าต่าง เขียนลวดลายเบญจรงค์ และภาพแกะสลักนิทานเรื่องสังศิลป์ชัย
- ชั้นที่ 3 เป็นหอปริยัติบานประตู หน้าต่าง เขียนลวดลายเบญจรงค์และภาพแกะสลักนิทานเรื่องนางผมหอม เป็นนิทานที่ได้เล่าสืบต่อกันมาแต่โบราณของชาวอีสาน และในชั้นที่สามนี้ได้รวบรวมตาลปัตร พัดยศ และเครื่องอัฐบริขารของพระภิกษุสงฆ์ที่มีชื่อเสียงในจังหวัดขอนแก่น
- ชั้นที่ 4 เป็นหอปริยัติธรรม ภายในมีพิพิธภัณฑ์ของเก่า ภาพวาดที่บานประตู หน้าต่าง เป็นภาพพระประจำวันเกิด เทพประจำทิศ และตัวพึ่ง-ตัวเสวย
- ชั้นที่ 5 เป็นหอพิพิธภัณฑ์ มีบริขารของหลวงปู่พระครูปลัดบุษบา สุมโน อดีตเจ้าอาวาสวัดรูปที่ 6 บานประตูหน้าต่างแกะสลักภาพพุทธชาดก
- ชั้นที่ 6 เป็นหอพระอุปัชฌายาจารย์ บานประตูหน้าต่างแกะสลักนิทานชาดกเรื่องเวสสันดร
- ชั้นที่ 7 เป็นหอพระอรหันต์สาวก บานประตูหน้าต่างแกะสลักนิทานเรื่องพระเตย์มีใบ้
- ชั้นที่ 8 เป็นหอพระธรรม เป็นที่รวบรวมพระธรรม คัมภีร์สำคัญทางพระพุทธศาสนา พระไตรปิฏก ฯลฯ บานประตูแกะสลักรูปพรหม 16 ชั้น
- ชั้นที่ 9 เป็นหอพระพุทธ ตรงกลางมีบุษบก เป็นที่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุของพระพุทธเจ้า บานประตูแกะสลักภาพ 3 มิติ รูปพรหม 16 ชั้น

เปิดให้เข้าชมทุกวัน เวลา 8.00 – 18.00 น.













ขอบคุณ คู่หุเดินทาง




 

Create Date : 12 ตุลาคม 2554    
Last Update : 12 ตุลาคม 2554 7:58:21 น.
Counter : 1442 Pageviews.  

เที่ยวตามทางธรรมที่ "วัดไผ่ล้อม" (ตราด)



"วัด ไผ่ล้อม" ตั้งอยู่ที่ถนนหลักเมือง ต.บางพระ อ.เมือง จ.ตราด เป็นวัดที่มีบทบาทสำคัญที่สุดต่อการศึกษาของจังหวัดตราด โดยวัดแห่งนี้เคยเป็นที่พำนักของบิดาแห่งการ ศึกษาจังหวัดตราด คือ ท่านเจ้าคุณพระวิมลเมธาจารย์ วรญาณนุรักษ์ สังฆปราโมก (เจ้ง จันทสโร) หรือ ท่านเจ้าคุณเฒ่า

ซึ่งเป็นผู้ผลักดันให้วัดไผ่ล้อม เป็นแหล่งกำเนิดโรงเรียน ประถมศึกษาและมัธยมศึกษาใน จ.ตราด และยังเป็นโรงเรียนสอนนักธรรม สอนภาษาบาลี ให้ที่พักและอุปการะนักเรียนในชนบทที่เข้ามาเรียนต่อระดับสูงในตัวจังหวัด ให้ทุนการ ศึกษาแก่เยาวชนเป็นประจำทุกปีตลอดมา ให้บริการห้องสมุดแก่ภิกษุ สามเณร และบุคคลทั่วไป


ภายในบริเวณวัดยังมีสวนพุทธธรรมสำหรับให้ประชาชนได้ใช้เป็นที่ปฏิบัติธรรม และมีเจดีย์พิพิธภัณฑ์สามท่านเจ้าคุณซึ่งเป็นที่เคารพบูชาของคนในจังหวัด ตราด นอกจากนี้ยัง เป็นที่พึ่งของชาวบ้านมาทุกยุคสมัยที่มีการพัฒนาอย่างสอดคล้องกับความ เปลี่ยนแปลงของสังคม สำหรับสภาพแวดล้อมภายในคือ วัตรปฏิบัติที่เคร่งครัดของภิกษุ สามเณรควร แก่การเคารพศรัทธา นอกจากนั้นยังยึดมั่นแนวทางแห่งความกตัญญู ซึ่งเป็นรากฐานที่มั่นคงในการดำรงชีวิตของพุทธศาสนิกชน

นอกจากนี้ยังเป็นที่ตั้งของกลุ่มสัจจะสะสมทรัพย์ซึ่งตั้งขึ้นโดยพระสุบิน ปณีโต ผู้มีประสบการณ์ เป็นวิทยากรให้ความรู้เรื่องสัจจะสะสมทรัพย์เพื่อพัฒนาคุณธรรมครบวงจรของ ชีวิต เผยแพร่เรื่องการใช้ประโยชน์จากจุลินทรีย์แก่บุคคลทั่วไปใน จ.ตราดและต่างจังหวัด เป็นที่ปรึกษาด้านการจัดตั้งกลุ่มสัจจะสะสมทรัพย์ให้แก่หน่วยงานทั้งภาครัฐ และเอกชน องค์ความรู้ที่สามารถถ่ายทอดได้เกี่ยวกับ

-ให้ความรู้เรื่องการจัดตั้งกลุ่มสัจจะสะสมทรัพย์ การบริหารจัดการ การทำบัญชี การจัดสวัสดิการสำหรับสมาชิก

-เรื่องการทำน้ำสกัดชีวภาพ การทำปุ๋ยหมัก โดยใช้คุณสมบัติของจุลินทรีย์

ข้อมูลโดย : สีสันตะวันออก : Colours of the East




 

Create Date : 11 ตุลาคม 2554    
Last Update : 11 ตุลาคม 2554 8:25:37 น.
Counter : 2146 Pageviews.  

สวรรค์ทะเลตะวันออกที่ "เกาะช้าง"

หากพูดถึง "เกาะช้าง" เหล่าบรรดานักท่องเที่ยวที่เคยได้ไปเยือน คงสัมผัสได้ถึงความงดงามที่ธรรมชาติได้รังสรรค์ไว้ นอกจากนี้เกาะช้างยังเป็นสวรรค์ที่ใครหลายคนต้องการไปเยือนสักครั้งหนึ่งในชีวิตอีกด้วย





"เกาะช้าง"

     อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะช้าง เป็นอุทยานแห่งชาติทางทะเลตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกของอำเภอแหลมงอบ จังหวัดตราด บริเวณทะเลอ่าวไทยฝั่งตะวันออก ประกอบด้วยเกาะต่าง ๆ ประมาณ 47 กว่าเกาะ และมีเกาะที่มีลักษณะเป็นหินโผล่ขึ้นมาเหนือทะเลอีกจำนวนมาก

     นอกจากนี้แล้ว เกาะช้าง ยังถือว่าเป็นเกาะที่มีพื้นที่มากที่สุด มีเนื้อที่ประมาณ 268,125 ไร่ อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะช้าง มีเนื้อที่รวมทั้งเกาะ และน่านน้ำตลอดชายฝั่ง ประมาณ 650 ตารางกิโลเมตร หรือ 406,250 ไร่

     เดิมเกาะช้าง เป็นเกาะที่ไม่มีชุมชนตั้งถิ่นฐานอยู่อาศัย แต่มีความสำคัญในฐานะที่เป็นท่าจอดเรือหลบลมมรสุม เป็นแหล่งเสบียงอาหาร และน้ำจืด โดยเฉพาะบริเวณอ่าวสลักเพชร หรืออ่าวสลัด ซึ่งเป็นที่รู้จักกันดีในหมู่โจรสลัด ชาวจีนไหหลำ และญวน





"เกาะช้าง"

     ปัจจุบันบนเกาะช้างมีประชาชนอาศัยอยู่ 8 หมู่บ้าน เกาะช้างเป็นเกาะที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของประเทศรองจากเกาะภูเก็ต มีเนื้อที่ประมาณ 429 ตารางกิโลเมตร ลักษณะภูมิประเทศส่วนใหญ่เป็นเขาสูงมีผาหินสลับซับซ้อน โดยมียอดเขาที่สูงที่สุด ได้แก่ เขาสลักเพชร มีความสูง 744 เมตร

     สภาพป่าโดยทั่วไปอุดมสมบูรณ์ ส่วนใหญ่เป็นป่าดิบเขา อันเป็นบ่อเกิดของต้นน้ำลำธาร ทำให้มีน้ำตกหลายแห่งบนเกาะ ชายหาด และยังมีชายหาดที่ได้รับความนิยมจากบรรดานักท่องเที่ยวอีกด้วย นั่นคือ หาดทรายขาว, หาดคลองพร้าว, หาดไก่แบ้, หาดบางเบ้า, โลนลี่ บีช, อ่าวใบลาน, อ่าวคลองสน, หาดไข่มุก, สลักเพชร, บ้านเจ๊กแบ้ และด่านเก่า



"เกาะช้าง"

     อีกทั้งยังมีแหล่งดำน้ำดูปะการังที่สวยงาม ซึ่งตั้งอยู่ทางด้านตะวันตกของเกาะ และยังมีวิถีชิวิตชาวบ้าน ซึ่งเป็นวิถีชีวิตแบบดั้งเดิมที่น่าสนใจเป็นอย่างมาก ระยะทางที่ไม่ไกลจากกรุงเทพจนเกินไป และที่เกาะช้าง สภาพอากาศที่สามารถเดินทางไปเที่ยวเกือบตลอดทั้งปี หมู่เกาะช้าง จึงเป็นอีกแห่งหนึ่งที่นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทย และต่างประเทศนิยมเดินทางมาท่องเที่ยวไม่ขาดสาย

ข้อมูลโดย : การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ภูมิภาคภาคตะวันออก





ที่มา //travel.thaiza.com/




 

Create Date : 10 ตุลาคม 2554    
Last Update : 10 ตุลาคม 2554 8:41:14 น.
Counter : 2026 Pageviews.  

"ตลาดบางน้ำผึ้ง" กับเสน่ห์ตลาดน้ำริมสองฝั่งคลอง



"ตลาดบางน้ำผึ้ง" อีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวที่อยู่ในวัดบางน้ำผึ้งบางน้ำผึ้ง อำเภอพระประแดง จังหวัดสมุทรปราการ ... ซึ่งหากคุณย้อนอดีตไปเมื่อราว 30 ปีก่อน พื้นที่แถว ตลาดบางน้ำผึ้งเคยได้รับรางวัลแหล่งท่องเที่ยวอากาศดีติดอันดับ 1 ใน ของเอเชียจากนิตยสารไทม์ เมื่อ พ.ศ 2521

     ตลาดบางน้ำผึ้ง ตลาดที่ถูกโอบล้อมด้วยแม่น้ำเจ้าพระยา จึงส่งผลให้ดินรอบๆมีความอุดมสมบูรณ์ ชาวบาง้ำผึ้งจึงนิยมทำสวนในบริเวณนี้อย่างหนาแน่น ส่งผลให้บางน้ำผึ้งมี อากาศบริสุทธิ์ และมีผู้คนนิยมเดินทางมาพักผ่อนเสมอ

     เมื่อเค้าลางของแหล่งท่องเที่ยวกำลังมาเยือน ประชาคมชาวบางผึ้งจึงประชุมกันเพื่อหาแนวทางกำหนดอนาคตให้กับบางน้ำผึ้ง จนกระทั่งสรุปร่วมกันว่าคนในพื้นที่ต้องการ ตลาดน้ำ เป็นจุดเริ่มต้นของตลาดน้ำบางน้ำผึ้ง...

     สัมผัสแรกที่ย่างเท้าเข้าสู่ตลาด้ำบางน้ำผึ้งคือ ความร่มรื่น รอบตัวแวดล้อมไปด้วยต้นไม้สีเขียวขนาดใหญ่ แม้แต่สินค้าที่นำมาขายก็มีผัก ผลไม้ และไม้ดอกไม้ประดับเป็นสินค้า เอกของที่นี่ ผลไม้บางอย่างหาไม่ได้จากที่อื่น เช่น ลูกฟักข้าว ผลไม้ที่คนโบราณนิยมนำไปคั้นน้ำฟักข้าว ดื่มแล้วเย็นชื่นใจ รวมถึงลูกมะตาดผลโต

     ซึ่งชาวพระประแดงที่เป็นชาวมอญนิยมนำไปประกอบอาหาร นอกนั้นยังมีอาหารว่างสูตรโบราณ เช่น ม้าฮ่อ ไส้กรอกโบราณ ห่อหมกหมูหม้อดิน หอยทอดขนมครก ฯลฯ

     ข้อมูลท่องเที่ยว -
วัดบางน้ำผึ้งใน ต.บางน้ำผึ้ง อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ จากสะพานวงแหวนอุตสาหกรรม มาลงบริเวณถนนสุขสวัสดิ์เพื่อไปยังตลาดพระประแดง ขับตรง ไปเพื่อลงท่าน้ำพอสุดทางจะถูกบังคับให้เลี้ยวซ้าย ผ่านวัดทรงธรรมวรวิหาร สถานีอนามัยบางน้ำผึ้ง ซึ่งสามารถจอดรถได้ และ อบต.ได้จัดลานจอดรถเพิ่มขึ้นรองรับรถได้ จำนวนมาก มีเจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวก

ข้อมูลโดย :
โครงการ 7greens - การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย
เว็บไซต์ : //7greens.tourismthailand.org/






 

Create Date : 09 ตุลาคม 2554    
Last Update : 9 ตุลาคม 2554 10:00:24 น.
Counter : 1790 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  24  25  26  27  28  29  30  31  32  33  34  35  36  37  38  39  40  41  42  43  44  45  46  47  48  49  50  51  52  53  54  55  56  57  58  59  60  61  62  63  64  65  66  67  68  69  70  71  72  73  74  75  76  77  78  79  80  81  82  83  84  85  86  87  88  89  90  91  92  93  94  95  96  97  98  
 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.