ติดตาม twitter ได้ที่ @karnoi กด
ติดตามข้อมูลเว็บทาง FaceBook กด

cartoonthai
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 237 คน [?]




New Comments
Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add cartoonthai's blog to your web]
Links
 

 

10 สุดยอดที่เที่ยว ติดอันดับคนชอบอ่าน ปี 2554

ตลอดหนึ่งปีที่ผ่านมาคุณผู้อ่านชาว Sanook! Travel ไป
เที่ยวที่ไหนกันมาบ้างเอ่ย? เชื่อได้ว่า
คำตอบของคุณผู้อ่านแต่ละคนก็คงแตกต่างกันไปความชอบและไลฟ์ส่วนตัวในการท่อง
เที่ยวของคุณเป็นแน่ แต่อย่างน้อยน่าจะมีสถานที่สักแห่ง
ที่คุณผู้อ่านใฝ่ฝันว่าจะไปเยือนสักครั้ง
หรือไปซ้ำแล้วไปอีกได้แบบไม่รู้เบื่อ และเนื่องในโอกาส
ส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่นี้ Sanook! Travel จึงขอนำ
เสนอ 10
อันดับแหล่งท่องเที่ยวสุดฮอตที่ได้รับความสนใจคลิกเข้ามาอ่านมากที่สุด
มาลุ้นกันสิว่าจะมีสถานที่ท่องเที่ยวในดวงใจของคุณติดอยู่ในลิสต์ประจำปีนี้
หรือไม่ มาติดตามกันได้เลย



*** สิ้นสุดการนับเพจวิว ณ วันที่ 12 ธ.ค. 2552 จาก //www.travel.sanook.com



อันดับ 10 ปาลิโอ เขาใหญ่


เปิดอ่าน: 38,969 เพจวิว (คลิกอ่านต่อ)



มาเริ่มต้นลุ้นระทึกกันในอันกับ 10 ก่อน
กับแหล่งท่องเที่ยวสุดฮอตใจกลางเขาใหญ่
ที่มีนักท่องเที่ยวมาเยือนกันอย่างหนาแน่นโดยเฉพาะในวันหยุดสุดสัปดาห์ ปาลิโอ เขาใหญ่
แหล่งชอปปิ้งที่จำลองบรรยากาศในเมืองอิตาลีด้วยสีสันสดใส กับร้านรวงเก๋ๆ
เกือบ 120 ร้าน บนพื้นที่กว่า 7 ไร่ ให้เดินชอปปิ้งกันจุใจ
มีสินค้าให้เลือกมากมายทั้งของแต่งบ้าน เครื่องประดับ เสื้อผ้า เบเกอรี
ร้านไอศกรีม ฯลฯ
ซึ่งทุกร้านเขาได้คัดสรรมาเป็นพิเศษให้เข้ากับบรรยากาศเมืองจำลองนี้โดย
เฉพาะ ก่อนกลับอย่าลืมแชะภาพกับโลเกชั่นสวยๆ และรูปลานน้ำพุสุดตระการตา
ที่ใครมาก็ต้องถ่ายภาพเป็นที่ระลึก วันอาทิตย์ -พฤหัสบดี เปิดเวลา 08.00 -
19.00 น. วันศุกร์- เสาร์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ เปิดเวลา 08.00 - 21.00 น. คลิกเพื่อชมภาพบรรยากาศ







อันดับ 9 หาดบ้านกรูด อ. สะพานน้อย จ.ประจวบคีรีขันธ์ 


ความฮอต: 39,704 เพจวิว (คลิกอ่านต่อ)



ยังเป็นชายทะเลยอดฮิตที่นักท่องเที่ยวต่างยกนิ้วให้เป็นสถานที่ท่อง
เที่ยวในดวงใจในอันดับ 9 ประจำปี 2554 หาดบ้านกรูด
เป็นชายหาดที่สวยงามด้วยทรายขาวนวล ตา
มีลักษณะโค้งเรียวเช่นพระจันทร์เสี้ยว น้ำทะเลยังคงสีฟ้าครามสดใสสะอาด
ทิวทัศน์บริเวณหาดยังสวยงามไปด้วยทิวสนและสวนมะพร้าวที่เรียงรายตลอดถนน
เลียบหาด ซึ่งจะมีที่จอดรถ ศาลานั่งเล่น เลาะเลียบตลอดแนวชายหาด
อีกทั้งยังมีศูนย์ข้อมูลการท่องเที่ยวคอยให้บริการแก่นักท่องเที่ยวด้วยนอก
จากนี้ยังสามารถเดินทางไปชม พระมหาธาตุเจดีย์ภักดีประกาศ ริมหาดบ้านกรูด
ซึ่งจัดสร้างขึ้นเนื่องในวโรกาส
ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชทรงครองราชย์สิริราชสมบัติครบ
50 ปี ที่อยู่ใกล้ๆ ได้อีกด้วย ลิกเพื่อชมภาพบรรยากาศ






อันดับ 8 ตลาดน้ำบางน้อย จ.สมุทรสงคราม


ความฮอต: 44,986 เพจวิว (คลิกอ่านต่อ)



กระแสความฮอตของตลาดน้ำในปีนี้ยังมาแรงสม่ำเสมอ สถานที่ท่องเที่ยวสุดฮิตที่มีผู้ชมเข้ามาคลิกอ่านมากใน Sanook! Travel มากที่สุดเป็นอันดับ 8 นั่นคือ ตลาดน้ำบางน้อย จ. สมุทรสงคราม

ในอดีตนัดที่คลองบางน้อยเคยเป็นนัดที่คึกคักมาก
พ่อค้าแม่ค้าจะมาจองที่จอดเรือกันตั้งแค่คืนก่อนวันนัด
คนซื้อก็เริ่มพายเรือออกมาเลือกของกันอย่างคึกคักเช่นเดียวกัน
แม้วันนี้เวลาจะล่วงเลยผ่านไปกว่าร้อยปี
ตลาดน้ำบางน้อยจะเงียบเหงาซบเซาลงไปบ้าง
แต่ด้วยความคิดถึงและโหยหาอดีตของผู้คนยุคนี้
ตลาดน้ำบางน้อยจึงฟื้นตัวขึ้นมาอีกครั้ง พร้อมกับมีการปรับปรุงบ้านเรือ
เปิดร้านรวงให้นักท่องเที่ยวไปเดินชมบรรยากาศเก่าๆ ของบ้านเรือน
แวะซื้อสินค้าและชิมอาหารอร่อยๆ ในชุมชน รวมไปถึงชาวบ้านชาวสวน
นำสินค้าเกษตรของท้องถิ่นมาวางขาย
ให้เลือกซื้อเลือกหากันอย่างละลานตามีเวลาแวะไปเที่ยวกันได้นะครับ
เปิดทุกวัน แต่วันเสาร์-อาทิตย์ บรรยากาศจะคึกคักที่สุด คลิกเพื่อชมภาพบรรยากาศ






อันดับ 7 ตลาดน้ำปากช่อง อ. ปากช่อง จ.นครราชสีมา


ความฮอต: 46,101 เพจวิว (คลิกอ่านต่อ)



มาแรงตามกันมาติดๆ จนชาว Sanook! Travel คลิกอ่านเป็นอันดับ 7 ตลาดน้ำปากช่อง อีก
หนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวแห่งใหม่ ใน อ. ปากช่อง จ. นครราชสีมา
ที่อยากให้คุณได้ไปลองสัมผัส บรรยากาศตลาดน้ำรายรอบด้วยขุนเขา
อยู่ห่างจากอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่เพียงแค่นิดเดียว
ภายในตลาดแบ่งออกเป็นโซนของอาหาร ผักผลไม้ สินค้าโอทอปฝีมือดี
ใครอยากหาของกินอร่อยๆ หรือ ของฝากติดไม้ติดมือสามารถแวะไปเดินเที่ยวได้
หรือจะสนุกกับกิจกรรมต่างๆ เช่น ขี่ข้างเที่ยวตลาด พายเรือชมตลาดน้ำ
ก็ไม่น่าพลาดตลาดน้ำปากช่อง เดินทางไปง่ายๆเพียงไม่กี่ชั่วโมง
คุณจะได้ทั้งความสนุก อิ่มอร่อย พ่วงด้วยข้าวของให้ช้อปปิ้งกลับบ้าน คลิกเพื่อชมภาพบรรยากาศ






อันดับ 6 ตลาดร่มหุบ จ.สมุทรสงคราม


ความฮอต: 46,169 เพจวิว (คลิกอ่านต่อ)



คงเป็นเพราะเอกลักษณ์ที่โดดเด่นไม่ซ้ำใครของตลาดแห่งนี้ จึงทำให้ตลาดร่มหุบโดนใจชาว Sanook! Travel คลิกอ่านเป็นอันดับ 7 ตลาดร่มหุบ
หรือเรียกอีกชื่อว่า ตลาดแม่กลอง แต่เดิมชาวบ้านจะเรียกกันว่า
ตลาดเสี่ยงตาย เพราะเป็นตลาดที่ติดอยู่กับสถานีรถไฟแม่กลอง
และวางสินค้าบนรางรถไฟ เมื่อรถไฟผ่านมา
พ่อค้าแม่ค้าจะรีบหุบร่มกันอย่างพร้อมเพรียง
ซึ่งเป็นที่มาของชื่อตลาดแห่งนี้นี่เอง
และเมื่อมาถึงตลาดร่มหุบก็พลาดไม่ได้กับการซื้อปลาทู หน้างอ คอหัก
สุดยอดปลาทูแม่กลอง เนื้อแน่น รสชาติอร่อยกว่าที่ไหนๆ
อันเป็นเอกลักษณ์ของจังหวัดสมุทรสงคราม
นอกจากนี้ยังสามารถเลือกซื้อผักผลไม้หลากหลายชนิด ขนมหวานของไทยชนิดต่างๆ
ปลาสด ปลาแห้ง ปู หมึก กุ้ง หอยดองติดไม้ติดมือกลับบ้านได้ คลิกเพื่อชมภาพบรรยากาศ






อันดับ 5 จ. เชียงใหม่


ความฮอต: 51,944 เพจวิว (คลิกอ่านต่อ)



ติดอยู่ในลิสต์สถานที่ท่องในดวงใจของใครๆ หลายคนเป็นประจำทุกปี สำหรับ เชียงใหม่ เมือง
ท่องเที่ยวสุดฮอตในภาคเหนือ และมีสถานที่ท่องเที่ยวเยอะแยะมากมาย
เที่ยวกันได้ตลอดทั้งปีโดยเฉพาะหน้าหนาวประมาณปลายเดือนตุลาคมถึงเดือน
กุมภาพันธ์ ตามยอดดอยต่างๆ อากาศหนาวเย็น
ท้องฟ้าแจ่มใสตัดกับสีของดอกไม้เมืองหนาวนานาพันธุ์
หรือจะพักผ่อนในช่วงหน้าร้อน หรือหน้าฝนก็ได้อารมณ์ชิลล์ไปอีกแบบ
มีโอกาสแวะไปเที่ยวกันได้นะ แล้วคุณจะติดใจจนหลงรักเชียงใหม่แบบไม่รู้ตัว คลิกเพื่อชมภาพบรรยากาศ









อันดับ 4 หัวหิน-ปราณบุรี จ. ประจวบคีรีขันธ์


ความฮอต: 55,003 เพจวิว (คลิกอ่านต่อ)




ในบรรดาเมืองชายทะเลทั้งหลายนั้น 'หัวหิน' ยังคงครองความเป็นหนึ่งในใจหลายคนเสมอ ไม่เว้นแม้แต่ชาว Sanook! Travel

แม้วันคืนจะผ่านไปแต่เมืองตากอากาศสุดฮิตแห่งนี้ก็ยังได้รับความนิยมอย่าง
สูง เรื่อยเลาะลงไปจนถึงชายหาด 'ปราณบุรี' ที่เงียบสงบ
ก็ถือเป็นจุดหมายพักผ่อนของครอบครัวแห่งใหม่ที่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ จนเกินไป
รวมทั้งมีสถานที่ท่องเที่ยวใกล้เคียงที่น่าสนใจมากมาย ที่กิน ที่พัก
มีหลากหลายให้เลือกได้ตามใจชอบ
แล้วอย่างนี้คงไม่มีใครปฏิเสธได้ลงว่ามนต์เสน่ห์ของหัวหินยังต้องใจใครๆ
เสมอ คลิกเพื่อชมภาพบรรยากาศ





อันดับ 3 อ.มวกเหล็ก จ. สระบุรี


ความฮอต: 56,123 เพจวิว (คลิกอ่านต่อ)




เขยิบเข้าใกล้เรื่อยๆ สำหรับแหล่งท่องเที่ยวสุดฮิตของชาว Sanook! Travel ในอันดับ 3 ต้องยกให้แหล่งท่องเที่ยวที่อยู่ใกล้กรุงเทพฯ แค่ปลายจมูก อำเภอมวกเหล็ก จ. สระบุรี ที่
เดินทางไปก็ง่าย แค่ชั่วโมงกว่าๆ
ก็สามารถสัมผัสถึงความสวยงามของธรรมชาติและผืนป่าที่โอบล้อมด้วยขุนเขา
พร้อมแหล่งท่องเที่ยวมากมายไม่ว่าจะเป็นน้ำตกเจ็ดสาวน้อย น้ำตกมวกเหล็ก
ไร่องุ่นที่เปิดให้เที่ยวชมและไปสัมลมหนาว
สุดสัปดาห์นี้หากใครไม่อยากเดินทางไปเที่ยวไหนไกลๆ มวกเหล็ก
เปิดประตูต้อนรับรอเพื่อนๆ ทุกคนไปเยือนแว้ว คลิกเพื่อชมภาพบรรยากาศ




อันดับ 2 ตลาดน้ำตลิ่งชัน เขตตลิ่งชัน กรุงเทพฯ


ความฮอต: 62,368 เพจวิว (คลิกอ่านต่อ)




เรียกว่ามาแรงจริงๆ สำหรับแหล่งรวมของกินสุดดอร่อย ตลาดน้ำตลิ่งชัน
อยู่บริเวณริมฝั่ง "คลองบางขุนศรี" หรือคนทั่วไปมักเรียกว่า "คลองชักพระ"
ที่ยังคงบรรยากาศ และวิถีชีวิตของชุมชนริมน้ำ ชาวบ้าน วัด บ้านทรงไทย
ทั้งแบบเก่า และ แบบประยุกต์ ร้านค้า เรือขายของ
สองฝั่งแวดล้อมด้วยสวนกล้วยไม้ สวนผักและผลไม้พื้นบ้าน อาทิ กระท้อนห่อ
ขนุน มะปรางไข่ มะม่วง เป็นต้น ตลาดน้ำตลิ่งชัน เป็นตลาดกึ่งชนบท
ผสมผสานระหว่างชีวิตริมน้ำกับธรรมชาติ ตลาดมีเฉพาะวันเสาร์ - อาทิตย์
เท่านั้น โดยประมาณ 07.00 น. พ่อค้า แม่ค้า ซึ่งก็คือ
ชาวสวนในพื้นที่จะเริ่มนำผลผลิตจากสวน ซึ่งมีทั้งพันธุ์ไม้ ผักสด ผลไม้ ปลา
และสัตว์น้ำต่างๆ มาจำหน่ายเหมือนตลาดสดทั่วไป เพียงแต่ผลผลิตเหล่านี้
จะเปลี่ยนไปตามฤดูกาล และวิถีชีวิตชาวสวน คลิกเพื่อชมภาพบรรยากาศ






อันดับ 1 ทะเลใกล้กรุง


ความฮอต: 66,356 เพจวิว (คลิกอ่านต่อ)



ยังคงติดลิสต์อับดับ 1
แหล่งท่องเที่ยวในดวงใจของนักเดินทางเป็นประจำทุกปี สำหรับทะเลสวยๆ
ในเมืองไทย ไม่ว่าจะเป็นทะเลในจังหวัดภาคใต้ฝั่งอันดามันอย่างกระบี่ ภูเก็ต
พังงา รวมไปถึงหมู่เกาะต่างๆ และภาคใต้ฝั่งตะวันออกอย่างสมุย
ที่มีนักท่องเที่ยวเดินทางไปพักผ่อนกันทั้งปีอย่างไม่ขาดสาย
หรือทะเลภาคตะวันออก ที่โดนใจคนรักทะเล แต่มีเวลาน้อย
ก็สามารถไปได้ง่ายและใช้เวลาไม่นาน ทั้งเกาะล้าน เกาะช้าง เกาะกูด เกาะหมาก
เกาะเสม็ด รวมไปหาดต่างๆ ทั้งหาดพัทยา หาดบางแสน
หาดจ้าวหลาวก็งดงาดไม่แพ้ทะเลใต้
หรือจะมาพักผ่อนริมทะเลสุดคลาสสิกในจังหวัดเพชรบุรีและประจวบคีรีขันธ์
ก็ยังเป็นจุดหมายที่ดี และเดินทางไม่ลำบาก
เดินทางไปเช้าเย็นกลับก็ทำได้ไม่ยาก แต่ไม่ว่าจะเดินทางใกล้หรือไกล
การเดินทางไปเที่ยวทะเล
ก็ช่วยผ่อนคลายจิตใจและเติมความสุขให้กับเราได้ไม่น้อยเลยทีเดียว คลิกเพื่อชมภาพบรรยากาศ




 

Create Date : 23 ธันวาคม 2554    
Last Update : 23 ธันวาคม 2554 9:31:46 น.
Counter : 3452 Pageviews.  

อุทยานแห่งชาติศรีน่าน จ.น่าน

สำหรับใครที่ชื่นชอบสถานที่ท่องเที่ยวที่
มีความหลากหลายของธรรมชาติในที่แห่งเดียว
บางจากขอแนะนำอีกที่หนึ่งส่งท้ายเทศกาลแห่งการท่องเที่ยวฤดูหนาวนั่นก็คือ อุทยานแห่งชาติศรีน่าน จ.น่าน นั่นเอง





อุทยานแห่งชาติศรีน่าน
เป็นเทือกเขาสลับซับซ้อนที่วางตัวในแนวเหนือ-ใต้
ขนานกันทั้งทางทิศตะวันตกและตะวันออกแบ่งพื้นที่ออกเป็นฝั่งตะวันตกและฝั่ง
ตะวันออก สองฝั่งแม่น้ำเป็น ป่าเบญจพรรณ และ ป่าเต็งรัง
ในเดือนกุมภาพันธ์จะเห็นป่าเปลี่ยนสีสวยงามมาก
ในเขตเทือกเขาประกอบด้วยป่าดิบเขา ป่าดิบแล้ง ป่าสนเขา
พบสัตว์ป่าหายากหลายชนิด เช่น นกยูงซึ่งมีอยู่หลายฝูง เสือดาว เสือดำ หมี
กวาง หมาป่า และหมาใน มีสัตว์ป่าหลายชนิดที่สำคัญ คือ ช้างป่า วัวแดง
และกระทิง ซึ่งจะอพยพไปมาระหว่างเขตติดต่อประเทศไทย-ลาว




สถานที่น่าสนใจในอุทยานนี้ ได้แก่ แก่งหลวง
ห่างจากอำเภอนาน้อยประมาณ 35 กิโลเมตร
เส้นทางเข้าถึงแก่งหลวงค่อนข้างลำบาก เป็นเกาะแก่งตามธรรมชาติ
เกิดจากกระแสน้ำแม่น้ำน่านไหลผ่านโขดหินที่กระจายอยู่กลางแม่น้ำ
ในหน้าน้ำจะได้ยินเสียงน้ำกระทบโขดหินดังกึกก้อง
ยามหน้าแล้งจะมองเห็นแนวโขดหิน
และหาดทรายสีขาวเป็นแนวยาวตามริมฝั่งแม่น้ำน่าน
สามารถลงเล่นน้ำได้ช่วงหน้าแล้งระหว่างเดือนเมษายนเท่านั้น
เพราะหน้าฝนน้ำจะเชี่ยวมากและอาจเป็นอันตรายได้




ดอยผาชู้
บริเวณเชิงผาชู้เป็นที่ตั้งที่ทำการอุทยานฯ
มีลักษณะเป็นผาหินขนาดใหญ่ตั้งตระหง่านอยู่ท่ามกลางขุนเขา
ในฤดูหนาวสามารถมองเห็นทะเลหมอกได้จากยอดผาชู้
และเมื่อหมอกจางจะมองเห็นลำน้ำน่านทอดตัวคดเคี้ยวอยู่ที่ปลายผืนป่า
เป็นจุดชมพระอาทิตย์ขึ้น และลำน้ำน่านที่ทอดตัวคดเคี้ยวสวยงามมาก
ระยะทางประมาณ 2 กิโลเมตร ช่วงใกล้ขึ้นถึงยอดผาเป็นหินแหลมคม
บางจากแนะนำให้เตรียมรองเท้าผ้าใบที่ใส่กระชับไปด้วยเพื่อความสะดวกในการปีน
ป่าย ใช้เวลาในการเดินไป-กลับ ประมาณ 1 ชั่วโมง
ผู้ที่ประสงค์จะเดินขึ้นยอดผาชู้ต้องติดต่อเจ้าหน้าที่นำทางที่อุทยานฯด้วย
นะครับ


จุดเด่นของสถานที่แห่งนี้อีกอย่างหนึ่งก็คือ
ที่นี่ยังเป็นสถานที่ตั้งสายธงชาติที่ยาวที่สุดในประเทศไทย
ต้องร้องเพลงชาติประมาณ 12 จบ กว่าจะเชิญธงชาติขึ้นสู่ยอดเสา
สายธงชาตินี้มีความยาวประมาณ 200 เมตร จากพื้นถึงยอดผาชู้
ตามตำนานที่เล่ากันมาเกี่ยวกับผาชู้กล่าวว่า
เจ้าเอื้องผึ้งซึ่งเป็นคู่รักกับเจ้าจันทน์ผา จำใจต้องแต่งงานกับเจ้าจ๋วง
เจ้าเอื้องผึ้งเสียใจที่ไม่ได้แต่งงานกับคนที่ตนเองรักจึงตัดสินใจฆ่าตัวตาย
ด้วยการกระโดดจากหน้าผาเจ้าจันทน์ผาตามมาพบว่าเจ้าเอื้องผึ้งได้กระโดด
หน้าผาไปแล้ว จึงกระโดดหน้าผาฆ่าตัวตายตามคนรักตกไปอยู่ใกล้กัน
และเจ้าจ๋วงได้เห็นหญิงที่ตนรักกระโดดหน้าผาไปจึงรู้สึกเสียใจและตัดสินใจ
กระโดดหน้าผาตามลงไปด้วยแต่กระเด็นห่างออกไป
ด้วยความรักแท้ระหว่างเจ้าเอื้องผึ้งและเจ้าจันทน์ผา
แหม...ความรักช่างมีอนุภาคมากมาย พอๆกับที่บางจากรักแฟนๆทุกท่านนั่นล่ะครับ



บางจากโบกมือลา

ตลอดเดือนธันวาคม 54 นี้
บางจากขอถือโอกาสอวยพรให้แฟนๆ ไกด์บางจาก มีความสุขกับการท่องเที่ยว
และขอให้พบเจอแต่สิ่งดีๆ กลับมาตลอดทริปนี้ และทริปต่อๆไป ส่งท้ายปี 2554
และขอให้สุขภาพแข็งแรง พร้อมลุยไปกับบางจากในทริปต่อๆไปด้วยนะครับ
สวัสดีปีใหม่...แล้วพบกันใหม่ปี 2555 ครับ








 

Create Date : 22 ธันวาคม 2554    
Last Update : 22 ธันวาคม 2554 8:15:11 น.
Counter : 2806 Pageviews.  

อิ่มบุญที่ “วัดห้วยมงคล” แล้วไปเยี่ยมชม “ตลาดน้ำหัวหิน”

ผ่านไปผ่านมาหลายครั้ง ยังไม่มีโอกาสได้เข้าไปเยี่ยมชมและสักการะ "หลวงพ่อทวด วัดห้วยมงคล" สักที วันนี้มีโอกาสดี เราจะพาชาว e-magazine.info ไปเยี่ยมชมพร้อมๆกันครับ




การเดินทาง มาได้หลายเส้นทางนะครับ ถ้าเอารถไปเอง แนะนำเส้นทาง กรุงเทพ -
ปราณบุรี โดยมาถึงถนนเส้น bypass (ซ้ายไปผ่านชะอำ หัวหิน ตรงไปเป็น
bypass) ให้วิ่งเส้น bypass ไปประมาณ 29 กิโลเมตร
จะเจอสี่แยกที่บอกว่าทางซ้ายไปหัวหิน ทางขวาไปน้ำตกป่าละอู
ซึ่งเป็นเส้นทางเดียวกับ วัดห้วยมงคล ก็ให้เลี้ยวขวาเข้าเส้นนี้มาประมาณ 7
กิโลเมตร เจอแยก เลี้ยวซ้าย วิ่งเข้าไปอีกหน่อย ก็จะถึงวัดห้วยมงคลครับ
เมื่อเราขับรถ เส้นทาง จะสังเกตเห็นทั้งสองข้างทาง เต็มไปด้วยไร่อ้อย
สุดลูกหูลูกตา ถนนเล็ก ๆ สองเลน แต่ก็มีรถวิ่งผ่านไปมา ไม่ขาดสาย
แสดงให้เห็นว่ามีนักท่องเที่ยว แวะเข้ามาเยี่ยมชมที่วัดเป็นจำนวนมาก
โดยสังเกตจากรถบัสขนาดใหญ่ ที่จอดเรียงรายกันอยู่หน้าวัด
สำหรับรถยนต์ส่วนบุคคล สามารถเข้าไปจอดในวัดเลย มีที่จอดรองรับเป็นอย่างดี
จากสายตาที่เห็นในวันนี้ ผู้คนจำนวนมาก พร้อมใจกันมาสักการะ หลวงพ่อทวด
กันอย่างคับคั่ง ยิ่งเป็นวันหยุดด้วยแล้ว ยิ่งเยอะเป็นพิเศษ




"วัดห้วยมงคล" เป็นวัดที่ประดิษฐานรูปเหมือนหลวงพ่อทวดองค์ใหญ่ที่สุดในโลก แต่เดิมใช้ชื่อว่า "วัดห้วยคต" ตั้ง
อยู่ในชุมชนบ้านห้วยคต ต.ทับใต้ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์
ต่อมาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
ทรงพระราชทานนามใหม่จากห้วยคตเป็นห้วย"มงคล"ซึ่งปัจจุบัน
ใช้เป็นทั้งชื่อหมู่บ้าน วัด โรงเรียน และอื่นๆ อีกมากมาย
กว่าสี่สิบปีแล้วที่หมู่บ้านห้วยมงคล
เป็นที่ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเสด็จมาเยี่ยมประชาชนด้วยโครงการ
ต่างๆที่เกิดขึ้นในหมู่บ้าน
เพื่อสร้างความมั่นคงให้กับผสกนิกรได้มีฐานะดีขึ้น ประชาชนมีสุขกันทั่วหน้า
ซึ่งโครงการต่างๆ ก็ดำเนินไปได้ด้วยดี เพราะมีส่วนราชการให้การดูแล
รวมทั้งทรงอุปถัมภ์วัดห้วยมงคลไว้ให้เป็นที่พึ่งทางใจสำหรับชาวบ้าน
ต่อมาพระครูปภัสรวรพินิจ หรือพระอาจารย์ไพโรจน์ ปภัสสโร
เจ้าอาวาสวัดห้วยมงคลองค์ปัจจุบัน ซึ่งเป็นพระนักพัฒนา
ที่มีศีลจารวัตที่ดีงามเป็นที่เคารพบูชาของคนในชุมชนบ้านห้วยมงคล
และพลเอกวิเศษ คงอุทัยกุล รองสมุหราชองครักษ์ ได้มีโครงการที่จะสร้าง
"หลวงพ่อทวด"
องค์ใหญ่ที่สุดในโลกเพื่อน้อมเกล้าน้อมกระหม่อมถวายเป็นพระราชกุศล
เนื่องในวันมหามงคลเฉลิมพนะชนมพรรษาครบ ๖ รอบ




ด้วยความที่พุทธศาสนิกชนในภาคใต้ ให้ความเคารพเลื่อมใสมาเป็นเวลานาน
และรู้จักกันเป็นอย่างดี
จึงก่อเกิดการร่วมมือร่วมใจจากหลายองค์กรทั้งทางภาครัฐและเอกชนในการสร้าง
ประติมากรรมองค์จำลองหลวงพ่อทวดองค์ใหญ่ที่สุดในโลก โดย
สมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ ทรงเสด็จพระราชดำเนินทอดพระเนตร
เททองหล่อองค์หลวงพ่อทวด เมื่อวันที่ 27 สิงหาคม 2547
และพระราชทานพระราชานุญาตให้คณะกรรมการจัดสร้างอันเชิญพระนามาภิไธยย่อ ส.ก.
ขึ้นประดิษฐานที่หน้าองค์รูปหล่อองค์หลวงพ่อทวด ภายในวัด
มีส่วนบริการอยู่หลายส่วน ไม่ว่าจะเป็นโรงทานขนาดใหญ่
สามารถเข้าไปรับประทานอาหารได้ฟรี โดยรับบริจาคปัจจัยตามศรัทธา ส่วนของ
พุทธบูชาต่างๆ สำหรับคนที่ต้องการนำไปสักการะที่บ้าน หรือเป็นของฝาก
ก็มีให้บริการอยู่หลายซุ้มเหมือนกัน แต่จุดเด่นที่เป็นสง่า
ท่ามกลางความวุ่นวายของผู้คน คือ องค์หลวงพ่อทวด ขนาดใหญ่
ที่หล่อด้วยโลหะผสม หน้าตักกว้าง 9.9 เมตร สูง 11.5 เมตร บนฐานสูง 3 ชั้น
ชั้นล่างกว้าง 70 เมตร ยาว 70 เมตร ตั้งตระหง่าน ตัดกับขอบฟ้า
สงบนิ่งอยู่ใจกลางของวัด มองขึ้นไปแล้วจะรู้สึกได้ถึงบารมีของท่าน
ที่แผ่ลงมาสู่ประชาชน ที่เลื่อมใสในศรัทธา ในความดี และคำสอนของท่าน
ที่ทิ้งเอาไว้ให้คนรุ่นหลังได้นำปฎิบัติต่อไป


ด้านล่างจะมี " ช้างเอราวัณสามเศียร " ตั้งอยู่สองฝั่ง ซ้าย ขวา
มีคนนำพวงมาลัยไป สักการะจนเต็ม หลายคนพยายามโยนเหรียญ
ให้เข้าปากของช้างเอราวัณ หลายคนเดินลอดท้องช้างเอราวัณกันอยู่ หลายรอบ
ด้วยความเชื่อ ความศรัทธา ที่ตัวช้างเอราวัณ ได้ถูกสร้างจากไม้ 9 ชนิด
ไม้สัก ไม้รัก ไม้พยุง ไม้ขนุน ไม้ประดู่ ไม้แดง ไม้เต็งรัก ไม้ตะเคียน
แล้วก็ไม้จันทร์ชะมด ซึ่งจะช่วยปกป้องคุ้มครองตามลักษณะไม้แต่ละชนิด
นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ คงจะงงกับสิ่งที่เห็น แต่สำหรับชาวไทยแล้ว
คงเป็นสิ่งที่ชาวไทย คุ้นเคยกันมาเป็นอย่างดี
ไม่่ว่าจะเป็นความเชื่อจากสิ่งที่มองไม่เห็น แต่ถ้าเราตั้งจิตที่ดี
และพึ่งปฎิบัติแต่สิ่งดีๆ แล้ว คิดว่าผลที่ดี คงเกิดขึ้นตามมาอย่างแน่นอน




ออกจากวัดห้วยมงคลแล้ว เราออกเดินทางต่อไปยัง "ตลาดน้ำหัวหิน"
สถานที่ท่องเที่ยวแห่งใหม่ของ อ.หัวหิน
โดยการเดินทางจากวัดห้วยมงคลไปก็ไม่ไกล โดยตรงย้อนกลับมาที่เส้น บายพาส
แล้วก็ข้ามไปยังฝั่งตรงข้าม ตรงไปอีกประมาณ 7 กิโลเมตร
ก็จะเห็นตลาดอยู่ทางขวามือ มีที่จอดรถขนาดใหญ่
พร้อมรองรับนักท่องเที่ยวบรรยากาศของ ตลาดน้ำหัวหิน
เนื่องจากเป็นสถานที่เปิดใหม่อยู่ ดังนั้น ตัวอาคารจึงดูสะอาด สวยงาม
โดยการวางฝังของตลาด จะมีบึงขนาดใหญ่ อยู่ตรงกลางของตลาดน้ำ
แล้วก็มีตัวร้านค้า ตั้งล้อมรอบ ตัวบึง และเชื่อมต่อแต่ละโซน
ถึงกันหมดด้วยสะพานไม้ แต่ละโซน จะตั้งชื่อตามชื่อตามอำเภอต่างๆ ของจังหวัด
ประจวบคีรีขันธ์ ทำให้ดูน่าสนใจไปอีกแบบนึง เป็นการโปรโมท อำเภอต่างๆ
ของจังหวัดไปด้วย




สภาพร้านค้าโดยทั่วไป ก็จะมีของที่นำมาขาย หลากหลายประเภท ตั้งแต่
ของกิน ยันของตกแต่งบ้าน ของที่ระลึก ขนมนมเนยต่างๆ
ก็มีให้เลือกกันอย่างมากมาย คนที่เข้ามาเดินส่วนมาก ก้จะเป้นนักท่องเที่ยว
ซะส่วนใหญ่ รวมถึงร้านค้าที่มาเปิด ก็เป็นกรุงเทพซะเยอะเหมือนกัน
บางคนก็เดินถ่ายรูป มีมุมสวยๆ ให้หยุดถ่ายกันอยู่เรื่อยๆ บางคนก็นำ น้องหมา
น้องแมวมาเดินเล่น รับลม และ แสงแดด กันอย่างสนุกสนาน เดินไปเดินมาเหนื่อย
ก็หยุดพักกินอาหาร ขนมาขายอยู่บนเรือพายริมน้ำ (ถ้าไม่มี
เดี้ยวจะดูว่าไม่ใช่ ตลาดน้ำครับ อิอิ ) ไม่ว่าก๋วยเตี๋ยว บะหมี่เกี้ยว
หรือ ผัดไข่ปลาหมึก และอื่นๆ อีกมากมาย ที่จอดเรียงรายกันอยู่ริมน้ำ
จากการที่ได้สัมผัสแล้ว การนำรูปแบบของวัฒนธรรมสมัยก่อน เช่น ตลาดน้ำของไทย
มาประยุกต์เข้ากับรูปแบบของร้านค้าสมัยใหม่ สินค้าสมัยใหม่นั้น
ก็ดูเป็นเทรนใหม่ของแหล่งท่องเที่ยวที่กำลังเกิดขึ้นมากมาย ในประเทศ
มองในแง่ดีแล้ว ก็เป็นการผสมผสานวัฒนธรรม ที่ดี
ซึ่งดีกว่าการที่เรารับวัฒนธรรมใหม่ๆ เข้ามาโดยไม่รู้ตัวหรือหลงลืม
วัฒนธรรมเก่าๆของตัวเองไปเสียหมด




แต่สิ่งที่น่าห่วงของที่ท่องเที่ยวใหม่แบบนี้ คือเรื่องของการจัดการ และ
นิสัยมักง่ายของคนไปเที่ยว เช่น เรื่องของ ถังขยะ
ซึ่งดูแล้วไม่น่าจะเพียงพอกับจำนวนนักท่องเที่ยว รวมไปถึงนิสัยคนไทย คือ
ง่ายๆ กินเสร็จแล้ววางตรงไหนก็ได้ กลับจะเป็นตัวทำลายความสวยงาม และ
ความน่าประทับใจ ของสถานที่เหล่านี้เสียเอง ฝากเพื่อนๆ ที่เข้าไปเที่ยวกัน
ช่วยกันดูแล เพื่อให้สถานที่เหล่านี้ ยังคงน่าท่องเที่ยว
และเป็นที่ต้อนรับนักท่องเที่ยวทั้งคนไทยและต่างชาติได้อย่างภาคภูมิใจ
สมกับจุดประสงค์ ที่ตั้งขึ้นมาครับ smile



สุดท้ายนี้ เพื่อนๆ ชาว
e-magazine.info ที่จะไปเที่ยว ขอให้เที่ยวให้สนุก เก็บภาพสวยๆ
กลับมาเป็นของฝาก เป็นความทรงจำดีๆ ครับ แล้วอย่าลืม ช่วยกัน ซื้อของไทย
เที่ยวเมืองไทย รักเมืองไทยนะครับ



เกร็ดความรู้
เส้นทางการเดินทางไปวัดห้วยมงค
1.รถ
ยนต์ส่วนตัว : ใช้เส้นทางจาก กรุงทพ - หัวหิน เมือถึงหัวหินแลว
ใช้เส้นทางหนองพลับ-ป่าละอู(ทางหลวงหมายเลข 3218) ระยะทางประมาณ 14
กิโลเมตร ถึงตำบล ทับใต้เลี้ยวซ้ายที่สี่แยกหนองตะเภา
แล้วเข้าไปตามทางจนถึงวัดห้วยมงคล
2. รถสาธารณะ :
วัดห้วยมงคลไม่มีรถสาธารณะเข้าถึง ต้องเหมารถสองแถวจากหัวหินไป
หรืออาจจะเช่ารถมอเตอร์ไซต์จากรีสอร์ท ที่พักแล้วขับไปที่นั่นจะคุ้มกว่า
เพราะว่าระยะทางค่อนข้างไกลจากหัวหินพอสมควรครับ
3. เวลาการเข้าเยี่ยมชม : เปิดระหว่างเวลา 05.00-22.00 น.




 

Create Date : 21 ธันวาคม 2554    
Last Update : 21 ธันวาคม 2554 8:06:42 น.
Counter : 2108 Pageviews.  

สัมผัสความโรแมนติกของซากุระเมืองไทย อช. ขุนสถาน จ.น่าน


การท่องเที่ยว
แห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานแพร่ เชิญชวนนักท่องเที่ยว
และผู้สนใจสัมผัสความงามดอกนางพญาเสือโคร่ง
หรือซากุระเมืองไทยบานบนอุทยานแห่งชาติขุนสถาน อำเภอนาน้อย จังหวัดน่าน
ปลายเดือนธันวาคม 2554 ไปจนถึงกลางเดือนมกราคม 2555




นางพญาเสือโคร่ง
(ชื่อทางวิทยาศาสตร์ Prunus Cerasoides) เป็นไม้ยืนต้นผลัดใบ ขนาดเล็ก
มีความสูงประมาณ 10-15 เมตร ดอก สีขาว ชมพู หรือแดง
ออกเป็นช่อกระจุกใกล้ปลายกิ่ง ก้านดอกยาว 0.7-2 เซนติเมตร
ขอบริ้วประดับจักไม่เป็นระเบียบ กลีบเลี้ยงติดกันเป็นรูปกรวย กลีบดอกมี 5
กลีบ เมื่อบานขนาดโตเส้นผ่าศูนย์กลาง 1-2 เซนติเมตร ระยะเวลาออกดอก
ออกดอกระหว่างเดือนธันวาคมจนถึงกุมภาพันธ์ โดยจะทิ้งใบก่อนออกดอก ณ
อุทยานแห่งชาติขุนสถาน นอกจากนักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสกับบรรยากาศโรแมนติก
ด้วยดอกนางพญาเสือโคร่งสีสันสวยงามบานสะพรั่งพร้อมอากาศที่หนาวเย็นแล้ว
ระหว่างการเดินทางไปยังอุทยานนักท่องเที่ยวจะสัมผัสกับวิวทิวทัศน์ที่สวยงาม
วิถีชีวิตหมู่บ้านชาวเขาเผ่าม้ง ชมสวนกะหล่ำปลีสีเขียวหัวโตๆ
ปลูกเป็นแนวไปตามชายเขาราวกับภูเขากะหล่ำปลี แวะสวนสตรอเบอร์รี่
ที่นี่ท่านจะได้พบกับสตรอเบอร์รี่สีแดงสดที่เจ้าของบอกว่าเป็นการปลูกแบบออ
แกนิก ไม่มีการฉีดยาฆ่าแมลง
หากต้องการซื้อสตรอเบอร์รี่ไปชิมนักท่องเที่ยวก็สามารถเลือกเก็บได้เองตาม
ชอบใจ




นอกจากนั้น ที่
อุทยานฯ ช่วงเวลาเย็นจะได้สัมผัสท้องฟ้าสีสันสวยงาม
ตอนกลางคืนสามารถมองเห็นไฟส่องสว่างของหมู่บ้านในตำบลสันทะ ตัวอำเภอนาน้อย
ตัวอำเภอเวียงสา ตัวอำเภอเมืองน่าน

โดยเฉพาะไฟส่องสว่างของหมู่บ้านในตำบลสันทะ
จะมีลักษณะเหมือนดาวที่อยู่บนดิน กลมกลืนกับดาวที่อยู่บนท้องฟ้า
ที่อุทยานฯ มีพื้นที่บริการนักท่องเที่ยวอยู่บริเวณเชิงดอยแม่จอก
(เนินดาวดิน) มีที่พักบรรยากาศดี สำหรับนักท่องเที่ยวจำนวน 4 หลัง
พักได้ประมาณ 50 คน และมีพื้นที่สำหรับกางเต็นท์ได้
ทั้งนี้เพื่อความสะดวกในเรื่องอาหารและเครื่องดื่ม
นักท่องเที่ยวควรจัดเตรียมมาเอง




หากจะเดินทางมาพักสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมหรือจองห้องพักได้ที่ อุทยานแห่งชาติขุนสถาน โทร. 0 5570 1121, 0 5573 1585, 08 7173 9549

นักท่องเที่ยว
ที่สนใจนอกจากการเดินทางสัมผัสความโรแมนติกของซากุระเมืองไทย
และชมธรรมชาติระหว่างทางแล้ว
ยังมีกิจกรรมให้นักท่องเที่ยวได้ออกกำลังกายหน้าหนาว อย่างเช่น
การเดินป่าพิชิตดอยกู่สถาน หรือดอยธง และชมทิวทัศน์ พรรณไม้ ดูดาว
ดูผีเสื้อ สอบถามข้อมูลการเดินทางและการท่องเที่ยวจังหวัดแพร่ น่าน อุตรดิตถ์ ได้ที่ ททท.สำนักงานแพร่ โทรศัพท์ 0 5452 1118, 0 5452 1127




 

Create Date : 20 ธันวาคม 2554    
Last Update : 20 ธันวาคม 2554 7:56:23 น.
Counter : 2090 Pageviews.  

จิม ทอมป์สัน ฟาร์มทัวร์ 2554 สัมผัสงานศิลปะและทุ่งดอกไม้ในสายลมหนาว

หลังจากนอนซุกตัวอยู่ใต้ผ้าห่มอุ่นท่ามกลางลมหนาวที่พัดมาในเมืองหลวงอยู่หลายวัน กลางเดือนธันวาคมที่ผ่านมา สนุก! ท่องเที่ยว
ก็ได้มีโอกาสไปสัมผัสลมหนาวและทุ่งดอกไม้สวยๆ
ในแหล่งท่องเที่ยวและแหล่งเรียนรู้เกษตรเชิงวัฒนธรรมกว่า 600 ไร่
ที่เปิดให้นักท่องเที่ยวได้ไปยลโฉมเพียงปีละครั้งอย่าง " จิม ทอมป์สัน ฟาร์ม" อ. ปักธงชัย จ. นครราชสีมา ซึ่งความตั้งใจจะอนุรักษ์ประเพณีและศิลปวัฒนธรรมอันทรงคุณค่าของชาวไทยอีสานเดิมให้สืบทอดและคงอยู่ต่อไป








สำหรับปีนี้ "จิม ทอมป์สัน ฟาร์ม"

ยังมีความตั้งใจความตั้งใจของความหมายของคำว่าถิ่นอีสานให้มีความหมายและ
ชัดเจนมากยิ่งขึ้นผ่านรูปแบบและกิจกรรมต่างๆ ภายในฟาร์ม
ซึ่งมีเอกลักษณ์แตกต่างไม่เหมือนใครทั้งในด้านศิลปวัฒนธรรม
วิถีชีวิตความเป็นอยู่ งานศิลป์ สถาปัตยกรรมต่างๆ ที่มีอยู่อย่างครบครัน
นักท่องเที่ยวจะได้ตื่นตาตื่นใจและเพลิดเพลินไปกับความสวยงามของสีสันแห่ง
ธรรมชาติท่าสะท้อนผ่านมนต์เสน่ห์แห่งการผลิบานของต้นไม้ พืชผัก
และดอกไม้นานาพันธ์ ผ่านจุดชมวิวที่สวยงามตระการ 4 จุด ซึ่งแต่ละจุดจะมีความโดดเด่นที่น่าสนใจแตกต่างกัน



จุดที่ 1 : ทุ่งปอเทืองและแปลงผักปลอดสารพิษ





ต้อน
รับนักท่องเที่ยวในจุดแรกด้วยทุ่งปอเทืองเหลืองอร่าม
ตัดกับแปลงผักปลอดสารพิษหลากสีที่สามารถเก็บผักสดจากแปลงกลับบ้านได้
หากมองจากมุมสูงจะปรากฏเป็นลวดลายผ้าขิดสามไม้ใหญ่ของอีสานที่แปลง
ผักปลอดสารพิษ ภายใต้ทิวสนที่ทอดร่มเงาเป็นแนวยาวตลอดทาง
พร้อมแวะชมโรงเพาะชำต้นกล้า และ
เก็บภาพสีสันสดใสภายใต้บรรยากาศร่มรื่นเป็นที่ระลึก
ก่อนออกเดินทางสู่จุดต่อไป


จุดที่ 2 : ทุ่งทานตะวันและลานฟักทอง



เพลิดเพลินกับความงดงามของทุ่งดอกทานตะวันและคอสมอส
ที่บานสะพรั่งประชันแสงแดด ในจุดนี้ นักท่องเที่ยว
จะได้ตื่นตากับภูเขาฟักทองยักษ์ และฟักทองนับหมื่นผล
ที่จัดวางเป็นลวดลายผ้าอีสาน อาทิ ลวดลายขิดตา และ ลายขิดเหลือมอ้อ
พร้อมชมทิวทัศน์อ่างเก็บน้ำลำสำลาย ก่อนพักผ่อนคลาย
ในซุ้มเครื่องจักสานยักษ์
ที่มีต้นแบบจากเครื่องใช้ในชีวิตประจำวันของชาวอีสาน อาทิ กระติ๊บข้าว ข่อง
ซุ่ม และ แง่บ



จุดที่ 3 : หมู่บ้านอีสานและหมู่บ้านศิลปิน



เยือนถิ่นอีสานขนานแท้
เรียนรู้วิถีความเป็นอีสานดั้งเดิมผ่านหมู่บ้านอีสาน
นาข้าวอินทรีย์และสวนผัก พื้นบ้านอีสาน แวะชิมอาหารอีสานรสแซ่บหลากหลายเมนู
พร้อมสัมผัสความน่ารักของครอบครัวบุญหลาย ครอบครัวควายแสนรู้ประจำจิม
ทอมป์สัน ฟาร์ม ชมกระบวนการการผลิตผ้าไหมแบบดั้งเดิมของผ้าไหม จิม ทอมป์สัน
และ การสาธิตการพิมพ์ผ้าและทดลองพิมพ์ผ้าด้วยตัวเอง
เพื่อนำกลับบ้านเป็นที่ระลึก นอกจากนี้
ยังอิ่มเอมใจไปกับผลงานศิลปะจากศิลปินมากฝีมือในโครงการ Art on Farm
ที่จัดแสดงทั่วบริเวณ ก่อนแวะชม สิมกลางน้ำ (โบสถ์ในภาคอีสาน)
ที่หาชมได้ยากก่อนเดินทางไปยังจุดสุดท้าย



จุดที่ 4 : สวนดอกไม้ และตลาดจิม ทอมป์สัน



นักท่องเที่ยวสามารถเก็บภาพตระการตา
จากภูเขาดอกไม้หลากสีและสวนดอกไม้นานาพันธุ์ รวมถึง
แปลงปลูกผักไฮโดรโพนิกส์ ที่จัดแสดงเป็นลวดลายผ้าอีสานอาทิ ผ้าขิดไลแมงมุม
และ ขิดดอกสร้อยเต็มพื้นที่ พร้อมกับปิดท้ายการเยี่ยมชม ณ ตลาด จิม
ทอมป์สัน แหล่งรวมผลผลิตจากฟาร์ม ที่จำหน่าย ดอกไม้ ผัก ผลไม้สด และแปรรูป
รวมถึงผลิตภัณฑ์จาก จิม ทอมป์สัน ในราคาสุดพิเศษ


ทริปนี้เหมาะสำหรับการพาครอบครัว คนรู้ใจ
หรือเพื่อนฝูงมาพักผ่อน ชมวิวสัมผัสธรรมชาติ เดินเล่น ถ่ายรูป
ได้อย่างสนุกไม่รู้เบื่อเลย
หรือหากจะมาแวะค้างสัมผัสลมหนาวกันสักคืนก็น่าสนใจไม่น้อยเหมือนกัน




จิม ทอมป์สัน ฟาร์มทัวร์ 2554
พร้อมเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมแล้วตั้งแต่วันนี้ - วันที่ 8 มกราคม 2555
ตั้งแต่เวลา 09.00-17.00 น. ณ จิม ทอมป์สัน ฟาร์ม ต.ตะขบ อ.ปักธงชัย จ.
นครราชสีมา ผู้สนใจสามารถซื้อบัตรเข้าชม ได้ที่ ร้านจิม ทอมป์สัน
สาขาสุรวงศ์, สยามพารากอน, เซ็นทรัลเวิลด์, ดิ เอ็มโพเรียม,
พิพิธภัณฑ์บ้านจิม ทอมป์สัน, ปาลิโอ เขาใหญ่ และหอค้ำคูณ อ.ปักธงชัย จ.
นครราชสีมา ในราคาสุดคุ้ม บัตรผู้ใหญ่ราคา 100 บาท ลดเหลือ 90 บาท
บัตรเด็กผู้ราคา 70 บาท ลดเหลือ 60 บาท
หรือสอบถามรามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ 0 2762 2566, 08 5660 7366 และ 0
4437 3116 หรือ //www.jimthompson.com และ www.facebook.com/JimThompsonFarm


เรื่องและภาพ: ธนปกรณ์ สุขสาลี

//travel.sanook.com/944836/%E0%B8%88%E0%B8%B4%E0%B8%A1-%E0%B8%97%E0%B8%AD%E0%B8%A1%E0%B8%9B%E0%B9%8C%E0%B8%AA%E0%B8%B1%E0%B8%99-%E0%B8%9F%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B9%8C%E0%B8%A1%E0%B8%97%E0%B8%B1%E0%B8%A7%E0%B8%A3%E0%B9%8C-2554-%E0%B8%AA%E0%B8%B1%E0%B8%A1%E0%B8%9C%E0%B8%B1%E0%B8%AA%E0%B8%87%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%A8%E0%B8%B4%E0%B8%A5%E0%B8%9B%E0%B8%B0%E0%B9%81%E0%B8%A5%E0%B8%B0%E0%B8%97%E0%B8%B8%E0%B9%88%E0%B8%87%E0%B8%94%E0%B8%AD%E0%B8%81%E0%B9%84%E0%B8%A1%E0%B9%89%E0%B9%83%E0%B8%99%E0%B8%AA%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B8%A5%E0%B8%A1%E0%B8%AB/




 

Create Date : 19 ธันวาคม 2554    
Last Update : 19 ธันวาคม 2554 8:25:26 น.
Counter : 2742 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  24  25  26  27  28  29  30  31  32  33  34  35  36  37  38  39  40  41  42  43  44  45  46  47  48  49  50  51  52  53  54  55  56  57  58  59  60  61  62  63  64  65  66  67  68  69  70  71  72  73  74  75  76  77  78  79  80  81  82  83  84  85  86  87  88  89  90  91  92  93  94  95  96  97  98  
 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.