ติดตาม twitter ได้ที่ @karnoi กด
ติดตามข้อมูลเว็บทาง FaceBook กด

cartoonthai
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 237 คน [?]




New Comments
Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add cartoonthai's blog to your web]
Links
 

 

มาดูเป๊บซี่แปลกๆทั่วโลกกันจร้า

ประเทศไทยมี PEPSI ถึง 10 ตัวที่เคยวางขาย ด้วยกันคะ

1.Pepsi

เป๊บซี่รสต้นตำหรับที่ยังขายและฮิตติดตลาดคะ

2.Pepsi Max

บางประเทศ เรียก Pepsi Light และในประเทศไทยเรียกว่า Pepsi Max

3.Pepsi Twist

เป็นเป๊บซี่ รสมะนาวคะ ประเทศไทยเป็นขวด/กระป๋องสีเหลืองเรียก Pepsi Twist บางประเทศเป็นขวด/กระป๋องสีเขียวเรียก Pepsi Lemon

4.Pepsi Blue

เป็นเป๊บซี่น้ำสีฟ้า ผลิตในปี 2003 และ 2004 ซึ่งปัจจุบันหยุดจำหน่ายคะ

5. Pepsi Latte

ปัจจุบันหยุดการจำหน่าย (เป็นเป๊บซี่รสที่ดิชั้นชอบที่สุดเลยคะ น่าเสียดายมากๆ)

6.Pepsi Fire

ออกมาคู่กับ Pepsi Ice คะ Pepsi Fire เป็นรสชินนะม่อน (เครื่องเทศชนิดหนึ่ง)คะ มีขายเฉพาะ เกาะกวม เกาะไซแปน ไทย มาเลย์เซีย สิงคโปร์ ฟิลิปปินส์ เม็กซิโก

7.Pepsi Ice

ออกมาคู่กันกับ Pepsi Fire คะ เป็นรสมินต์ น้ำสีฟ้าคล้าย Pepsi Blue

*ปัจจุบันหยุดการจำหน่ายไปแล้วไปแล้วทั้งคู่คะ

8.Pepsu Gold Limited Edition 2006 World Cup

จำหน่ายช่วงการแข่งขันฟุตบอลโลก พ.ศ. 2549 ปัจจุบันหยุดการจำหน่ายแล้วคะ

9.Pepsi Green

มีเฉพาะประเทศไทย ปี 2009 สีของน้ำเป็นสีเขียวคล้ายกับเป๊ปซี่ ไอซ์ คิวคัมเบอร์ แต่มีลักษณะที่เป็นสีสดและไม่ใสเท่ากับไอซ์ คิวคัมเบอร์ เห็นว่าขายตอน เดือนมกราคม 2009 แล้วหายไปเลย


10.Pepsi Cheer

รสชายคล้าย Pepsi Gold ขายเมื่อพฤษพาคม 2553 แต่ดิชั้นไม่เคยเห็นคะ 55555

มาดูผลิตภัณฑ์ Pepsi อื่นมั่งดีกว่าคะ

Crystal Pepsi

มีทั้งแบบไดเอท และธรรมดาคะ เป็นเป๊บซ๊่สูตรน้ำใส รสซิทรัล ขายปี 1992-1993 และหายไป

กลับมาใหม่ในปี 2005 โดยใช้ชื่อว่า Pepsu Clear Soda Pop มีขายแต่ในเม็กซิโกคะ

Pepsi Fresh

สูตรเพิ่มความสดชื่น limited Edition in summer 2007 คะ

Pepsi Blue Hawaii

รายนี้มีขายแต่ที่ญี่ปุ่น เป็น Limited Edition นะคะ รสสัปะรสผสมมะนาว

Pepsi Carnival

ต่อมาเปลี่ยนเป็น Pepsi Summer Mix

Pepsi Ice Cucumber 

รสแตงกวา มีขายแต่ในญี่ปุ่นคะ

Pepsi Raw

มีขายเฉพาะในอังกฤษ ผสมสารสกัดจากแอบเปิล องุ่น ใบกาแฟ ฯลฯ

Pepsi Red

มีขายเฉพาะญี่ปุ่นนะคะ

Pepsi Retro

เป็นเป๊บซี่ฉบับย้อนยุคนั่นเองคะ มีขายแต่ในเม็กซิโก

Pepsi Samba

ขายแต่ในออสเตรเลียคะ

Pepsi Strawberry Burst

น้ำแดงดีๆนี่เองคะ

Pepsi Summer Chill

รสแอปเปิล ขายในโปแลนด์ เช็ก สโลวักเกีย

Pepsi Summer Mix

รสผลไม้เขตร้อน มีขายแต่ที่อเมริกาคะ

Pepsi Tropical Chill & Pepsi Tropical Mix

มีขายแต่ในอเมริกา และญ๊่ปุ่น

Pepsi Vanilla

รสวนิลาคะ ขายในปี 2003

Pepsi White

รสโยเกิร์ตคะ มีขายแต่ในญี่ปุ่น

Pepsi Wild Cherry

รสเชอรี่ มีชายแต่ในเกาะผู้ดีนะคะ

Pepsy X Energy

สูตรเพิ่มพลังงาน คาเฟอีน น้ำตาล

ต่อไปเป็นเป๊บซี่ที่มรในญี่ปุ่นที่เดียวคะ


Pepsi Pink

สตรอเบอรี่+นม

Pepsi BAOBAB

ขายช่วงฟุตบอลโลกแอฟริกาคะ

Pepsi Black

ลดน้ำตาลลงแล้วผสมเลม่อนลงไปคะ

Pepsi Salty Watermelon

รสแตงโม


Pepsi Caribean Gold

Pepsi Dry

ไร้น้ำตาล เพื่อสุขภาพ

Pepsi Mont Blanc

รสขนมหวานฝรั่งเศส

Pepsi Azuki

รสถั่วแดงญี่ปุ่น

Pepsi Shiso

รสคล้ายๆวาซาบิมั้ง

Pepsi Strong Shot

แบบคาเฟอินเข้มข้นมากๆๆๆ

cr.วิกิ อากู๋ และ webboard.edtguide




 

Create Date : 29 เมษายน 2556    
Last Update : 29 เมษายน 2556 23:54:29 น.
Counter : 7516 Pageviews.  

มาทำซุปครีมเห็ด "แบบบ้านๆ"

สำหรับคนที่ชอบทานซุปครีมเห็ด และอยากรู้วิธีทำนะ จะบอกไว้เ่ลยว่าไม่ยาก อย่างที่คิด วันนี้จะมาแนะนำวิธีทำซุปครีมเห็ด แสนอร่อย มาให้ลองหัดทำกันดู

เครื่องปรุง



เห็ดฟางหั่นบางๆ 1 ถ้วยตวง

เนยจืดหรือเค็มก็ได้ และ แป้งสาลีเอนกประสงค์ อย่างละ 2 ช้อนโต๊ะ เอาไว้ทำ roux 

คนอร์รสไก่ 1 ก้อน + น้ำเปล่า 4 ถ้วยตวง ใช้แทนน้ำสต๊อกไก่

วิปปิ้งครีม

เกลือ พริกไทย



เริ่มเลย



ตั้งหม้อใช้ไฟเบาใส่เนยลงไปประมาณ 1 ช้อนกินข้าว ถ้าใช้ไฟแรงเนยมันจะไหม้ พอเนยละลายก็ใส่เห็ดลงไปผัด จนสุกเอาเห็ดออกพักไว้ก่อน กลิ่นเห็ดกับเนยนี่มันหอมจริงๆว่าไหม? เห็ดเอาไว้ใส่ตอนซุปเสร็จแล้ว

ใช้หม้อใบเดิมไม่ต้องล้าง ไฟเบา ใส่เนย 2 ชต. กับแป้ง 2 ชต. คนให้เข้ากันเพื่อทำ roux (อ่านว่า "รู" ถ้าอยากรู้ว่ามันคืออะไรหาเอาจากgoogleได้)

เมื่อเนยกับแป้งผสมกันได้ที่แล้ว ก็เทน้ำสต็อกไก่ลงไป แล้วก็คอยคนตลอดเวลาให้ทั่วทั้งหม้อ เพราะแป้งชอบไปติดตามก้นหม้อแถวขอบๆ คนไปจนแป้งสุก และซุปเริ่มมีความข้น จะเอาข้นแค่ไหนก็แล้วแต่เรา แต่ต้องให้แป้งสุกด้วยนะ

ชิมรสชาติดู รสมันจะออกเค็มๆมันๆ นิดๆ
ชิมขณะซุปร้อน รสชาติจะอ่อนกว่าชิมซุปตอนมันเย็นแล้วนะ แต่ไม่มีปัญหาเพราะยังไงเราก็กินร้อนๆอยู่แล้ว

ชิมก่อนปรุงรส ด้วยเกลือพริกไทย เอารสกลางๆไว้ก่อน เพราะคนกินสามารถเพิ่มเกลือพริกไทยเองได้

รสชาติได้แล้วปิดไฟยกหม้อออกจากเตา เพราะความร้อนที่เตามันยังมีอยู่ ถ้าทิ้งไว้ซุปก้นหม้ออาจจะไหม้ได้

ก่อนเสริฟ เราจะกรองซุปก็ได้เพื่อความเนียนของซุป หรือ จะไม่กรองก็ได้ถ้าเราดูแล้วว่าในซุปไม่มีแป้งจับตัวเป็นเม็ดเล็กๆ อันนี้ก็แล้วแต่เรานะ

ก่อนจะเสริฟใส่วิปปิ้งครีมลงไปในซุปอย่าพึ่งใส่เยอะ ใส่ทีละน้อยก่อนคนให้เข้ากันแล้วลองชิมดู ใส่เยอะเลี่ยนไม่รู้ด้วยนะ

เมื่อใส่วิปปิ้งครีมแล้ว รสชาติมันจะเค็มๆมันๆ อร่อยขึ้นเยอะเพราะวิปปิ้งครีม

เตรียมถ้วยซุปใส่เห็ดที่ผัดเอาไว้ในก้นถ้วย หรือเราจะใส่บนหน้าซุปก็ได้ แล้วเสริฟ


รูปประกอบ  www.bloggang.com/mainblog.php?id=omma

ที่มา: cook-bird.blogspot.com




 

Create Date : 29 เมษายน 2556    
Last Update : 29 เมษายน 2556 23:52:43 น.
Counter : 8059 Pageviews.  

เปิดเมนูพิสดาร อาหารแปลก

10 อันดับ อาหารแปลก สุดยอด เมนูอาหารพื้นเมือง
ในการไปเยือนต่างแดน การได้ไปลิ้มลองอาหารพื้นเมืองของแต่ละชนชาตินั่นๆ เป็นอีกสิ่งที่ไม่ควรพลาดเช่นกัน และเชื่อว่าในแต่ละท้องถิ่นเค้ามักจะมีอาหารเมนูแปลกๆ (แปลก..สำหรับผู้มาเยือน) ซึ่งหาได้ง่ายๆไว้ให้เราได้ลองเปิบพิสดารกันอยู่แล้ว สำหรับผู้ที่กล้าลอง!!

วันนี้เราเลยจะพาเพื่อนๆ ไปเปิบเมนูพิสดาร 10 อาหารพื้นเมือง ที่บางคนเห็นแล้วอาจ ขนลุก ขนพอง กับความแปลกของอาหารเหล่านนั้น บางอย่างถึงขนาดยี้ยวนชวนอาเจียนได้เลย แต่บางอย่างนักท่องเที่ยวต่างแดนอย่างเราก็พอจะลิ้มลองเปิบพิสดารได้สบาย ต้องมาดูกัน

1. ซุปรังนก – ประเทศจีน

1

สำหรับคนเอเชียอย่างเรา การทานรังนกคงเป็นเรื่องธรรมดา แต่พวกฝรั่งตาน้ำข้าว หรือคนต่างชาติ เค้าดันรู้สึกว่ามันแปลก และถือว่ารังนักเป็นอาหารที่แปลกประหลาดสุดๆ กับการกินน้ำลายของนกเข้าไปได้ยังไง

ซึ่งรังนกแท้ๆที่ได้มาจากน้ำลายของนกนางแอ่น ที่สำรอกออกมาแล้วจับตัวแข็งเป็นรูปร่างคล้ายรังนกนั่นเอง และรังนกยังเป็นอาหารชั้นเลิศของหลายประเทศในแถบเอเชีย แถมมีราคาแพงอีกมากๆ อาหารเมนูพิสดารนี้เลยอดทำให้พวกฝรั่งเค้าแปลกใจไม่ได้ว่าทำไมคนเอเชียถึง ชอบกินนำลายของนกจัง

2. ตัวบึ้งทอด – ประเทศกัมพูชา

2

นั่น! โดนจนได้ “ตัวบึ้ง” หรือแมงมุมยักษ์ (Fried tarantulas) ที่เคยเป็นข่าวในบ้านเราว่าต่อยคนตาย แต่ที่เขมร “ตัวบึ้ง” ถูกจับตายให้กลายเป็นอาหาร [แบบว่า..อวัยวะทุกส่วนอยู่ครบ ไม่เว้นเขี้ยว ขา และขน] ที่มีให้เลือกทั้งแบบย่าง อบ ทอด เมนูยอดนิยมของคนเขมร (กัมพูชา) เค้า เต็มทั่วท้องถนนในเมืองสะกุน จ.จำปงจาม ไว้ให้นักท่องเที่ยวได้ลองชิมกัน

3. ปลาปักเป้า – ประเทศญี่ปุ่น

3

“ฟุกุ” หรือเป็นที่รู้กันว่า “ปลาปักเป้า” (Puffer fish) เป็นปลาอีกชนิดหนึ่งที่มีพิษร้ายแรง สารพิษที่ว่านี้คือ เตโตรโดท็อกซิน (Tetrodotoxin) ซึ่งมีอันตรายร้ายแรงกว่าไซยาไนด์ถึง 1,250 เท่าอยู่ในตัว โดยเฉพาะบริเวณหนัง ไข่ เนื้อ ตับ และลำไส้ หากได้รับพิษจากการทานปลาชนิดนี้เพียงเล็กน้อยก็ถึงแก่ความตายได้

แต่เมนูจากปลาชนิดนี้เป็นที่นิยมของคนญี่ปุ่นเป็นอย่างมาก ด้วยเหตุนี้ ประเทศญี่ปุ่นจึงออกกฏหมายให้ เฉพาะพ่อครัวที่มีใบอนุญาตเท่านั้น ที่สามารถชำแหละเนื้อปลาปักเป้าเพื่อนำมาทำเป็นอาหารได้

4.ไข่บาลุต – ประเทศฟิลิปปินส์

4

ไข่บาลุต (Balut) คือ ไข่ต้มที่มีตัวอ่อนของเป็ด หรือไก่ ตายอยู่ภายใน สามารถหาทานได้ทั่วไปตามข้างทาง เมนูแบบนี้บ้านเราเองก็มีขายนะ แต่เป็นแบบปิ้ง เห็นเค้าเรียกกันว่า “ไข่ข้าว” เคยเห็นเค้านำไข่เสียบไม้ปิ้ง แล้วเดินหาบขายกันตามท้องถนน

5.คาสุมาร์ซู-เกาะซาร์ดิเนีย ประเทศอิตาลี

5

คาสุ มาร์ซู (Casu Marzu) หมายถึง “ชีสเน่า” หรือที่ชาวซาร์ดิเนียนเรียกว่า “ชีสหนอน” นั่นเอง คือ ชีสนมแกะที่ภายในมีรูพรุน อันอุดมไปด้วย “หนอนแมลงวัน” ปัจจุบันชีสชนิดนี้ ทางอียูจะกำหนดให้เป็นอาหารที่ผิดกฏหมาย และผิดหลักโภชนาการอย่างแรง แต่ก็ยังคงมีขาย และหาซื้อรับประทานได้จากตลาดมืด

“คาสุ มาร์ซู” ภายในชีสจะมีหนอนตัวขาวใส ความยาวประมาณ 8 ม.ม. ดิ้นดุ๊กดิ๊กอยู่ภายในเป็นจำนวนมาก แถมยังกระโดดได้อีกด้วย หากใครเอามือไปโดน หรือเอาอะไรเขี่ยหนอนที่อยู่ในชีส พวกมันจะกระโดดใส่ทันที (ดีดตัวได้สูงถึง 15 ซ.ม. เชียว) ซึ่งหนอนเหล่านี้ ถือเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยเร่งกระบวนการหมักให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น และทำให้ไขมันแตกตัว

ว่ากันว่าชีสชนิดนี้มีความอ่อนนุ่มมาก เนื่องจากมีของเหลวแทรกซึมอยู่ในเนื้อชีส แต่จะต้องรีบทานในขณะที่หนอนยังมีชีวิตอยู่ [ยี้...!] เพราะถ้ารอให้หนอนตายก่อน ชีสก้อนนั้นจะถือว่าเป็นอาหารมีพิษทันที

6. เซอร์สตอร์มมิง – สวีเดน

6
อีกหนึ่งใน 10 ของอาหารแปลก ต้องยกให้จานนี้ แถมยังมีวางขายทั่วไปในซูเปอร์มาร์เก็ตของสวีเดน นั่นคือเจ้า “เซอร์สตอร์มมิง” หรือ “ปลาเฮอร์ริงเน่า” [อี๋เหม็น] ขนาดปลาร้าบ้านเราที่ว่าแน่ๆ กลิ่นแรงๆ เจอเจ้านี่ทีชิดช้ายไปเลย ก็แน่ละดันเป็น “ปลาเน่า” มักนานเกือบปี

“เซอร์สตอร์มมิง” ผลิตจากปลา เฮอร์ริง ในทะเลบอลติก ปลาเหล่านี้จะถูกหมักอยู่ในถังราว 1-2 เดือน ก่อนนำมาบรรจุลงกระป๋องเพื่อหมักต่อ และรอให้ปลาเน่าสนิทอีกราว 6 เดือน จนกระป๋องเริ่มบวมเป่งเพราะภายในมีแก๊ส (ปลาเน่าได้ที่แล้ว) เป็นอันใช้ได้ จากนั้นจึงเริ่มนำออกขายตามท้องตลาด และมักจะเกิดการระเบิดอยู่บ่อยครั้งจากแรงดันของแก๊สในกระป๋อง ด้วยเหตุนี้เองจึงทำให้ “เซอร์สตอร์มมิง” กลายเป็นวัตถุอันตราย และห้ามไม่ให้นำขึ้นเครื่องโดยเด็ดขาด

คนสวีเดนมักรับประทานปลาเน่าชนิดนี้กับขนมปังแผ่นใหญ่บางๆ หรือกับมันฝรั่งต้ม ขณะที่บางคนนิยมทานร่วมกับนม เบียร์ หรือน้ำเปล่า เพื่อให้ทานง่ายขึ้น

7. ปลาหมึกเป็นๆ-เกาหลีใต้

7

เมนูนี้มีชื่อว่า “Sannakji” กับการเสิร์ฟปลาหมึกสดเป็นๆที่หั่นเป็นชิ้นๆ ที่ราดด้วยน้ำมันงา ดูแล้วก็น่าลิ้มลองดี แถมยังต้องใช้ความพยายามในการกินอีกด้วย กับการต่อสู่กับหนวดปลาหมึกที่ยังคงดิ้นดุ๊กดิ๊กอยู่

ฉะนั้นหากใครอยากลองเมนูนี้จึงต้องใช้ความไวของฟัน และอดทนสูง ในการต่อสู่ฟาดฟันกับปลาหมึก ซึ่งอาจจะดูดติดฟัน เพดานปาก และลิ้นของเรา แถมยังดิ้นดุ๊กดิ๊กไปมาเวลาเวลาเคี้ยว จึงต้องเคี้ยวให้ละเอียดก่อนกลืนลงคอ เพื่อไม่ให้เกิดอันตราย

8. กาแฟ Kopi Luwak – อินโดนีเซีย

8

หากไปได้ใครประเทศอินโดนีเซีย คงต้องไปลิ้มลองขอชิมกาแฟชนิดนี้ เพราะกาแฟ “Kopi Luwak” นั้นเรียกได้ว่าเป็นกาแฟที่หายากและมีราคา “แพงที่สุดในโลก” มาแล้วครั้งหนึ่ง

สำหรับเมล็ดกาแฟที่ว่านี้ ได้มาจากมูล (อึ) ของตัวชะมด ซึ่งชาวอินโดฯ เรียกว่า Luwak สัตว์ชนิดนี้จะกินผลกาแฟสดเข้าไป แล้วขับถ่ายเมล็ดกาแฟออกมา กล่าวกันว่าเมล็ดกาแฟที่ผ่านกระบวนการนี้จะมีกลิ่นหอม และรสชาติดีเป็นพิเศษ

9. หัวใจสดๆ ของนกพัฟฟิน-ไอซ์แลนด์

9

เมนูนี้ช่างโหดร้ายมาก กับการเปิบพิสดารนกพัฟฟิน (Puffin) ที่ถือได้ว่าเป็นการทารุณกรรมสัตว์ แต่สำหรับคนไอซ์แลนด์การจับนกพัฟฟินหักคอ ถลกหนัง ควักหัวใจสดๆมาจกทานกัน ถือว่าเป็นเรื่องปกติ ส่วนเนื้อจะถูกนำไปรมควัน ย่าง ทอด หรือกลายเป็นเมนูอันโอชะตามภัตตาคารหรูต่างๆ

ปัจจุบันนี้ประชากรนกพัฟฟินกำลังลดลงอย่างมาก ด้วยการไล่ล่าของมนุษย์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการจับด้วยวิธี “สกาย ฟิชชิ่ง” หรือใช้ตาข่ายขนาดใหญ่ดักจับนก ยิ่งทำให้ลดลงอย่างรวดเร็ว

10. เหล้าดองงู – เวียดนาม

10

เหล้าดองงู ยาโด้ป! ชั้นเลิศของคนเวียดนาม กับการจับงูดองแช่ลงในขวดเหล่า แม้ว่างูนั่นจะมีพิษก็ตาม แต่คนท้องถื่นเค้าว่า… หากงูถูกแช่เหล่าเป็นเวลานานๆ เหล่าจะทำให้พิษค่อยๆเจือจาง และถูกทำลายไปในที่สุด จึงสามารถดื่มได้โดยไม่เป็นอันตราย

credit : kroobannok.com




 

Create Date : 29 เมษายน 2556    
Last Update : 29 เมษายน 2556 23:43:22 น.
Counter : 2872 Pageviews.  

เมนูอีสาน1 #ก้อยไข่มดแดง


ส่วนผสม
ไข่มดแดง 300 กรัม
หัวหอมซอย 7 - 8 หัว
น้ำปลาร้า 2 ช้อนโต๊ะ
น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ
น้ำมะนาว 1 ช้อนชา
พริกแห้งป่น 1.5 ช้อนโต๊ะ
ข้าวคั่วป่น 2 ช้อนโต๊ะ
ต้นหอมหั่นฝอย 3 ช้อนโต๊ะ
ใบสะระแหน่ 5 - 6 ต้น (เด็ดเป็นใบ)

วิธีทำ
นำไข่มดแดงล้างให้สะอาดใส่กระชอน พักให้สะเด็ดน้ำ ใส่อ่างผสม
นำเครื่องปรุงทั้งหมดใส่คลุกเคล้าให้เข้ากัน
ใส่พริกแห้งป่น ข้าวคั่วป่น หัวหอมซอย ต้นหอมหั่นฝอยชิมรส ตักใส่จาน โรยหน้าด้วย ใบสะระแหน่และพริกชี้ฟ้าสด
เสร็จแล้วตักมากินกับผักกะโดน เม็ก ติ้ว หนอก (บัวบก) มะเขือ ถั่วฝักยาว แตงกวา แซบหลายเด้อพี่น้อง สมกับเป็นอาหารชั้นสูงจริงๆ



//women.postjung.com/674032.html




 

Create Date : 28 เมษายน 2556    
Last Update : 28 เมษายน 2556 23:37:03 น.
Counter : 1600 Pageviews.  

เคยกินข้าวเหนียวมะม่วงแบบนี้ไหม




 

Create Date : 28 เมษายน 2556    
Last Update : 28 เมษายน 2556 19:35:43 น.
Counter : 3140 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  24  25  26  27  28  29  30  31  32  33  34  35  36  37  38  39  40  41  42  43  44  45  46  47  48  49  50  51  52  53  54  55  56  57  58  59  60  61  62  63  64  65  66  67  68  69  70  71  72  73  74  75  76  77  78  79  80  81  82  83  84  85  86  87  88  89  90  91  92  93  94  95  96  97  98  99  100  101  102  103  104  105  106  107  108  109  110  111  112  113  114  115  116  117  118  119  120  121  122  123  124  125  126  127  128  129  130  131  132  133  134  135  136  137  138  139  140  141  142  143  144  145  146  147  148  149  150  151  152  153  154  155  156  157  158  159  160  161  162  163  164  165  166  167  168  169  170  171  172  173  174  175  176  177  178  179  180  181  182  
 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.