ติดตาม twitter ได้ที่ @karnoi กด
ติดตามข้อมูลเว็บทาง FaceBook กด

cartoonthai
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 237 คน [?]




New Comments
Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add cartoonthai's blog to your web]
Links
 

 

นมัสการพระธาตุแห่ง“สัจจะ และไมตรี”



นักท่องเที่ยวที่เคยมาเยือนอำเภอด่านซ้าย จังหวัดเลย คงคุ้นภาพกันดีกับเมืองที่เต็มไปด้วยเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม และประเพณีที่น่าสนใจมากมาย แต่สำหรับใครที่ไม่เคยไปและค่อยๆได้ยินชื่อเสียงที่ดังขึ้นเรื่อยๆของที่นี่ นี้คงอยากรู้จักให้มากขึ้น วันนี้ เดลินิวส์ออนไลน์ จะพาไปรู้จักกับแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมสำหรับผู้มาเยือน พระธาตุศรีสองรัก แล้วทุกคนจะรู้จักด่านซ้ายมากขึ้น

พระธาตุศรีสองรัก อำเภอ ด่านซ้าย จังหวัดเลย สร้างเมื่อ พ.ศ.2103 แล้วเสร็จเมื่อ พ.ศ. 2106 ในสมัยแผ่นดินสมเด็จพระมหาจักรพรรดิ์แห่งกรุงศรีอยุธยาเพื่อเป็นสักขีพยาน แสดงความสัมพันธ์อันดีงามระหว่างกัน กับพระเจ้าไชยเชษฐาธิราชแห่งกรุงศรีสัตนาคนหุต (เวียงจันทร์) ว่าจะไม่มีการสู้รบให้เลือดตกต้องแผ่นดินกันอีกต่อไป และด้วยเจตนารมณ์ของกษัตริย์สองแผ่นดินในครั้งนั้น จึงมีผลให้มีการขอร้องและห้ามมิให้ใช้สีแดง (ซึ่ง ถือว่าเป็นสีเลือด ในพื้นที่บริเวณพระธาตุศรีสองรัก ไม่ว่าจะเป็นดอกไม้ เครื่องประดับ ของใช้ หรือแม้แต่เครื่องแต่งกายของนักท่องเที่ยว)

องค์ พระเจดีย์ตั้งอยู่ในวัดพระธาตุศรีสองรักบนเนินริมน้ำหมัน ซึ่งเป็นวัดที่ไม่มีพระภิกษุพำนักอยู่ในวัดนอกจากองค์พระเจดีย์ ภายในมณฑปบริเวณองค์พระธาตุ ประดิษฐานพระพุทธรูปนาคปรก ที่สร้างขึ้นพร้อมกับพระธาตุศรีสองรัก และนักท่องเที่ยวยังจะได้ชมประวัติการสร้างพระธาตุศรีสองรักที่ถูกบันทึกไว้ บน “ศิลาจารึกศรีสองรัก”(หลักเก่า) ซึ่งเป็นศิลาจารึกรูปใบโพธิ์ ที่อยู่บริเวณวัดพระธาตุศรีสองรัก เพื่อนำมาเป็นความรู้อีกด้วย

โดย ในวันเพ็ญเดือน 6 ของทุกปี จะมีพิธีสมโภช และนมัสการพระธาตุศรีสองรัก เริ่มจากการทำความสะอาดองค์พระธาตุ โดยมีเจ้าพ่อกวน และคณะแสน ขึ้นไปบนพระธาตุ ทำพิธีสรงธาตุ พิธีสู่ขวัญธาตุ พิธีเวียนเทียน พิธีบวชนาค ซึ่งจะต้องจุดบั้งไฟไปพร้อมกันด้วย และสุดท้ายเป็นพิธีคารวะธาตุ เพื่อความเป็นสิริมงคล ให้ประชาชนอยู่เย็นเป็นสุข แคล้วคลาดจากภัยอันตรายทั้งปวง และทำให้ฝนฟ้าตกต้องตามฤดูกาล

เนื่อง จากในปีนี้เป็นวาระฉลองครบรอบ 60ปีความสัมพันธ์ของการทูตไทย-ลาว จังหวัดเลยได้รับเกียรติจากสมาคมไทย-ลาว ลาว-ไทย เพื่อมิตรภาพ นำคณะสมาชิกจากทั้งสองประเทศเดินทาง เข้าร่วมงานดังกล่าว ในวันที่ 14-15 พฤษภาคม 2554 โดยจะได้นำคณะกายสินจากประเทศลาว มาแสดงเพื่อสมโภชองค์พระธาตุ เพื่อให้นักท่องเที่ยวที่แห่แหนเข้ามาชมทั้งชาวไทย ชาวลาว รวมถึงชาวต่างชาติได้สัมผัสความยิ่งใหญ่ของพิธีครั้งนี้

นางอัจฉพรรณ บุญเจริญ ผู้อำนวยการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานเลย กล่าวว่า พระธาตุศรีสองรักเป็นปูชนียสถานที่สำคัญที่สุดของจังหวัดเลย เป็นพระธาตุแห่ง “สัจจะ และไมตรี” ซึ่ง ที่มาของชื่อ พระธาตุศรีสองรัก นี้มาจากชื่อของเมืองทั้งสอง คือ ศรีอยุธยา และศรีสัตนาคนหุต โดยทั้งสองแผ่นดิน ตั้งสัจจะอธิษฐานว่า จะไม่มีการสู้รบกันอีกต่อไป จะมีแต่ความรักใคร่ผูกพันกัน จึงเกิดเป็นชื่อ “ศรีสองรัก” ในดินแดนแห่งสัจจะ และไมตรีขึ้น จึงขอเชิญผู้ที่สนใจร่วมพิธีอันเป็น สิริมงคลยิ่ง ในงานนมัสการพระธาตุศรีสองรัก ประจำปี 2554

งาน นมัสการพระธาตุศรีสองรัก ประจำปี 2554 จัดขึ้นวันที่ 14-17 พฤษภาคม 2554 ณ พระธาตุศรีสองรัก อำเภอด่านซ้าย จังหวัดเลย สอบรายละเอียดเพิ่มเติมโทร 0 4281 2812 0 4281 1405

ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์เดลินิวส์




 

Create Date : 14 พฤษภาคม 2554    
Last Update : 14 พฤษภาคม 2554 11:26:09 น.
Counter : 1249 Pageviews.  

หมู่ผาและวิวดอย ณ วนอุทยานดอยพระบาท

ดอยพระบาททุ่งก่อ คือสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญแห่งหนึ่งของวนอุทยานดอยพระบาท มีพื้นที่อยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ป่าห้วยสัก และป่าแม่กกฝั่งขวา อยู่ในท้องที่ตำบลทุ่งก่อ อำเภอเวียงเชียงรุ้ง จังหวัดเชียงราย


     โดยดอยพระบาททุ่งก่อนั้นมีลักษณะภูมิประเทศเป็นแบบทอดตัวยาวไปทางทิศใต้ มีโขดหินสวยงาม ป่าไม้ค่อนข้างสมบูรณ์ มีความชื้นสูง มี มอส เฟิร์น กล้วยไม้ต่าง ๆ ที่เป็นทั้งสมุนไพรและอาหารของคนในท้องถิ่น

     ดอยพระพุทธบาท เป็นที่ตั้งของโบราณสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ และโบราณทางศาสนา เช่น พระธาตุทุ่งก่อ รอยพระบาทเหนือ รอยพระบาทใต้ ผาเล็งโลก ผาเกิ้ง ผาม้า ผาตัด ขุมทรัพย์ ดอกบัวหินบ่อน้ำติ๊บ เป็นต้น

     พระธาตุทุ่งก่อ คืออีกหนึ่งจุดท่องเที่ยวที่ตั้งอยู่บนดอยพระบาท บ้านเด่นสันทราย หมู่ที่ 14 ตำบลทุ่งก่อ อำเภอเวียงเชียงรุ้ง จังหวัดเชียงราย ผู้คนในท้องถิ่นเชื่อว่าเป็นพระธาตุ ที่บรรจุพระเกศาของพระพุทธเจ้า มีอายุเก่าแก่ เป็นสถานที่เคารพบูชาของชาวตำบลทุ่งก่อ สมัยนั้นมีเพียงตำบลเดียว ปัจจุบันก็คือ ประชาชนอำเภอเวียงเชียงรุ้งทั้งหมด


     สำหรับประวัติของพระธาตุทุ่งก่อนั้น คนเฒ่าคนแก่ในท้องถิ่นเล่าขาน สร้างขึ้นโดยกษัตริย์โยนกนครเชียงแสน เมื่อวันพุธ เดือน ปีพุทธศักราช 1555 ต่อมาปี พ.ศ. 2039 ตรงกับ สมัยพระยาเมืองแก้ว เจ้าครองนครเชียงใหม่ได้ทรงบูรณะพระธาตุ พร้อมกับการสร้างรอยพระพุทธบาทจำลองดอยพระบาท ทางทิศเหนือและทิศใต้

     โดยอยู่บริเวณพระธาตุชาวบ้านเรียกว่า พระบาทเหนือ และทางทิศใต้ได้อีก 1 รอบ ชาวบ้านเรียกว่า พระบาทใต้ ซึ่งมีระยะห่างกันประมาณ 3 กิโลเมตร ต่อมาในปี พ.ศ. 2510 ได้ มีการบูรณะก่อสร้างพระธาตุเจดีย์องค์ใหม่แทนองค์เก่าที่หักไปตามกาลเวลา คือ พระธาตุที่เห็นในปัจจุบัน

     ในทุกปีจะมีประเพณีสักการะ พระพทุธบาท ซึ่งตรงกับวันเพ็ญเดือน 6 (ตรงกับเดือน 8 เหนือ)คือวันวิสาขบูชา ชาวบ้านมีความเชื่อและศรัทธาว่า ใครที่ได้มาสักการะ บูชาพระธาตุ และพระบาท จะทำให้อยู่เย็นเป็นสุขในจะมีพิธีทำบุญตักบาตร สักการะ บูชาพระธาตุ และมีการจุดบั้งไฟภูเขา เพื่อขอฝนตามฤดูกาลก่อทำนาผู้คนในท้องถิ่นและอำเภอใกล้เคียง อำเภอเวียงเชียงรุ้ง มาทำบุญตักบาตรและมีดอกไม้ ธูปเทียน น้ำขมิ้นสมป่อย มาสักการะ พระธาตุและพระบาท เป็นประเพณีที่ปฏิบัติสืบทอดกันมาจนถึงปัจจุบันนี้


     รอยพระพุทธบาทเหนือ เป็นรอยพระพุทธบาทจำลองสลักลงบนหน้าผา ตั้งเอียงประมาณ 70 องศา ต่ำกว่าฐานพระธาตุเจดีย์ ประมาณ 3 เมตร เป็นรอยพระพุทธบาทเบื้องซ้าย หันปลายพระพุทธบาทไปทางทิศตะวันตก พระพุทธบาทเหนือ สร้างขึ้นในสมัยพระยาเมืองแก้ว เจ้าผู้ครองนครเชียงใหม่

     ซึ่งได้ทรงบูรณะพระธาตุพร้อมกับสร้างรอยพระพุทธบาทจำลองทางด้านทิศเหนือ และทิศใต้ ชาวบ้านเรียกว่า พระบาทเหนือ ตั้งอยู่บริเวณพระธาตุทุ่งก่อ และทางทิศใต้ ชาวบ้าน เรียกว่า พระบาทใต้ มีระยะห่างกันประมาณ 3 กิโลเมตร รอยพระพุทธบาทเหนือมีขนาดความกว้าง 59 เซนติเมตร ยาว 150 เซนติเมตร

     รอยพระพุทธบาทเหนือมีความศักดิ์สิทธิ์ เป็นที่เลื่อมใสศรัทธาของพุทธศาสนิกชนที่มาสักการะ และมาตั้งจิตอธิฐานขอความช่วยเหลือตามที่ตนปรารถนา ซึ่งมักจะได้ตามที่ตน ขอไว้แต่จะต้องเป็นเรื่องที่ไม่ผิดด้านศีลธรรม หรือไม่ก็จะมีการบนบานศาลกล่าวด้วยการเสี่ยงทาย ด้วยการยกก้อนหินและการวางไม้

     พระพุทธบาทใต้ ตั้งอยู่ทางด้านใต้สุดของดอยพระบาท มีลักษณะเป็นแท่งหินยื่นออกจากยอดดอยไปทางด้านทิศตะวันตก ประมาณ 5 วา บนพื้นที่ลาดเอียงประมาณ 30 องศา มีรอยพระพุทธบาทจำลองสลักตามแนวเอียงของหน้าผา มีความกว้าง 85 เซนติเมตร ยาว 155 เซนติเมตร สร้างพร้อมกับรอยพระพุทธบาทเหนือ ตรงกับสมัยพระยาเมืองแก้ว เจ้าผู้ครองนครเชียงใหม่ พ.ศ. 2039 มีระยะห่างจากรอยพระพุทธบาทเหนือ ประมาณ 3 กิโลเมตร

     เนื่องจากรอยพระพุทธบาทใต้ มีพื้นที่บริเวณรอบข้างค่อนข้างน้อย คนที่เข้าไปสักการะจำนวนมากไม่ได้ อีกทั้งเป็นระยะทางที่ไกล และการเดินทางไปไม่สะดวกเหมือนรอยพระ พุทธบาทเหนือ จึงเป็นการยากที่คนส่วนมากได้เข้าไปสักการะ บูชา ปัจจุบันในวันวิสาขบูชา ชาวบ้านดวงชัย บ้านป่าห้า ได้นำด้ายสายสิญจน์ไปผูกโยงระหว่างรอยพระพุทธบาท เหนือกับรอยพระพุทธบาทใต้ เพื่อให้คนทั้งหลายที่ได้ไปสักการะ บูชาสรงน้ำรอยพระพุทธบาทเหนือเหมือได้สรงน้ำสักการะ บูชารอยพระพุทธบาทใต้เหมือนกัน โดยใช้ด้ายสาย สิญจน์เป็นสื่อ

     ผาเล็งโลก มีลักษณะเป็นแท่งหิน ผานี้สูงจากยอดดอยประมาณ 20 เซนติเมตรมีก้อนหินใหญ่โตสามารถไปยืนได้อย่างน้อย 10 คน จะมองเห็นตัวเมืองเชียงราย สายน้ำกกอันคดเคี้ยว พื้นที่ทำการเกษตร และหมู่บ้านที่เด่นชัด ดังนั้นผาแห่งนี้จึงเรียกว่า ผาเล็งโลก ( เล็ง แปลว่า ดู ) เป็นจุดชมทิวทัศน์ที่สวยงาม โดยเฉพราะยามเย็นชมพระอาทิตย์ตกจากขอบฟ้า

     ผาตัด มีลักษณะเป็นโขดหินคล้ายกับหินที่ตัดแล้ว นำมาวางเรียงต่อกัน เป็นที่นาอัศจรรย์มาก

     ผาเกิ๋ง มีลักษณะเป็นแงคล้ายเรือขุดขนาดเล็ก ชาวบ้านเล่าขานสืบต่อกันมาว่าเป็นเกิ๋งสำหรับใส่น้ำให้มากิน จุดนี้สามารถมองเห็นหมู่บ้าน ดงชัย บ้านดงป่าสัก บ้านห้วยเคียน และพืช ผลทางการเกษตรอย่างชัดเจน

     ผาม้า มีลักษณะเป็นแท่งหินรูปร่างคล้ายม้า ยื่นคอหันไปตามความยาวของยอดดอยทางทิศใต้ คนเฒ่าคนแก่ได้บอกเล่าให้ลูกหลานสืบต่อกันมาว่า สมัยก่อนได้หลบหนีสงครามขึ้นไป บนดอยพระพุทธบาท และได้ซ่อนสมบัติทรัพย์สินเอาไว้ และไว้ทำลายแทงขุมสมบัติไว้ให้ลูกหลาน สมบัติซ่อนอยู่ที่สายตาม้าตก ซึ่งมาในที่นี้หมายถึง ผาม้านั่นเอง

     ขุมทรัพย์ มีลักษณะเป็นเนินเล็ก ล้อมรอบด้วยหินบริเวณปากหลุม ข้างในขุมทรัพย์ได้มีคนขุดนำออกไปแล้ว

     ดอกบัวหิน มีลักษณะคล้ายดอกบัว มีอยู่ 2 ดอกบัว อยู่ใต้หน้าผา มีพระพุทธรูปให้สักการะ ล้อมรอบด้วยป่าไม้เย็นร่มรื่น

     บ่อน้ำติ๊บ เป็นบ่อน้ำติ๊บกว้างประมาณ 1.50 เมตร ลึกประมาณ 6 เมตร มีก้อนหินล้อมรอบตามธรรมชาติชาวบ้านเชื่อว่าเป็นบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ เมื่อดื่มน้ำจากบ่อนี้จะหายจากโรคภัยไข้เจ็บ มี น้ำใส ๆ ขังอยู่ตลอดปี ซึ่งได้รับการคัดเลือกจากจังหวัดเชียงราย

     โดยกระทรวงมหาดไทยให้เป็นบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์แห่งหนึ่งของประเทศ เพื่อนำน้ำในบ่อไปประกอบพิธีทำน้ำพระพุทธมนต์ศักดิ์สิทธิ์ เพื่อทูลเกล้าถวายเป็นน้ำสรงอภิเษกแด่พระเจ้า อยู่หัวในการเสด็จออกมหาสมาคมรับการถวายพระพรชัยมงคล ในวันที่ 5 ธันวาคม 2542 เนื่องในมหามงคลสมัยที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเจริญพระชนมพรรษาครบ 6 รอบ

ข้อมูลโดย : องค์การบริหารส่วนตำบลทุ่งก่อ ต.ทุ่งก่อ อ.เวียงเชียงรุ้ง จ.เชียงราย
หมายเลขโทรศัพท์ / โทรสาร 053-953418 อีเมล์ admin@thungkor.com






 

Create Date : 13 พฤษภาคม 2554    
Last Update : 13 พฤษภาคม 2554 7:51:12 น.
Counter : 1754 Pageviews.  

เกาะพยาม ระนอง มัลดีฟเมืองไทย



เกาะพยาม ตั้งอยู่ที่หมู่ที่ 1 ตำบลเกาะพยาม ห่างจากปากน้ำระนองประมาณ 33 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางจากท่าเรือ 1-2 ชั่วโมง เกาะพยามเป็นแหล่งปลูกมะม่วงหิมพานต์ หรือกาหยู ที่มีชื่อเสียงมากของจังหวัด บนเกาะมีพื้นที่ประมาณ 35 ตารางกิโลเมตร มีป่าที่สมบูรณ์เป็นที่อยู่อาศัยของนกเงือกที่พบเห็นได้ง่าย

มีชายหาดที่สวยงามขาวสะอาดหลายแห่ง ได้แก่ อ่าวใหญ่ และอ่าวเขาควาย ซึ่งอยู่ทางด้านทิศตะวันตกของเกาะ และเป็นที่ตั้งของรีสอร์ทหลายแห่ง ส่วนอ่าวแม่ม่ายซึ่งอยู่ทางทิศตะวันออก เป็นท่าเทียบเรือ มีร้านค้าต่าง ๆและเกสท์เฮ้าส์มีมอเตอร์ไซค์ให้เช่าและมีเรือเช่าเที่ยวรอบเกาะ ไปดำน้ำเกาะขามซึ่งอยุ่ใกล้กัน

การเดินทาง จากท่าเรือไปเกาะพยาม ตำบลปากน้ำ ใกล้กับสะพานปลา มีบริการเรือโดยสารขนาด 60 คน ไปยังเกาะพยามวันละ 2 เที่ยว

  • เที่ยวเช้าเวลาประมาณ 9.00 น.
  • เที่ยวบ่ายเรือออกเวลา 14.00 น. ค่าเรือโดยสารคนละ 150 บาท
  • เที่ยวกลับเรือออกจากท่าเรืออ่าวแม่ม่ายบนเกาะพยามเวลา 9.30 น.และ 14.30 น. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง
  • นอก จากนี้ยังมีเรือเร็วบริการใช้เวลาประมาณ 40 นาทีค่าโดยสารคนละ 400 บาท จากระนองเรือออกเวลา 10.00 และ 14.00 น. ขากลับจากเกาะพยาม เรือออกเวลา 9.00 และ13.00 น. หรือติดต่อกับรีสอร์ทบนเกาะพยาม

ส่วนการคมนาคมบนเกาะมีเพียงเส้นทางสำหรับมอร์เตอร์ไซค์เท่านั้น นอกจากนี้ ในบริเวณใกล้เคียงกับเกาะพยามยังมีเกาะอีกหลายแห่ง ซึ่งเป็นแหล่งตกปลา เช่น เกาะสินไห เกาะช้าง นักท่องเที่ยวสามารถติดต่อเช่าเหมาเรือจากปากน้ำระนอง ท่าเรือสะพานปลาได้เช่นเดียวกัน

ข้อมูลจาก : mochit.com และ รูปภาพจาก : Google










 

Create Date : 12 พฤษภาคม 2554    
Last Update : 12 พฤษภาคม 2554 8:05:29 น.
Counter : 2616 Pageviews.  

น้ำตกเขาสอยดาว



น้ำตกเขาสอยดาว



อยู่ในเขตรักษา พันธุ์สัตว์ป่าเขาสอยดาว ตั้งอยู่ก่อนถึง อำเภอสอยดาว 2 กิโลเมตร บนทางหลวงหมายเลข 317 สภาพภูมิประเทศโดยรอบเป็นภูเขาสลับซับซ้อน มียอดเขาสูงสุดคือ ยอดเขาสอยดาวใต้ สูง 1,675 เมตร จากระดับน้ำทะเลปานกลาง ปกคลุมด้วยป่าไม้เบญจพรรณและป่าเต็งรังที่มีสมุนไพรหลายชนิดขึ้นกระจายอยู่ ทั่วไป น้ำตกแห่งนี้มีความสูง 16 ชั้น นักท่องเที่ยวสามารถเดินขึ้นน้ำตกด้วยตนเองถึงชั้นที่ 9 ระยะทาง 2.5 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินขึ้นประมาณ 1 ชั่วโมง 30 นาที ส่วนชั้นที่ 10 - 16 ต้องมีเจ้าหน้าที่นำทาง ใช้เวลาเดินอีก 1 ชั่วโมง นอกจากนี้ยังมีเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติและค่ายพักแรม สำหรับเยาวชน และกลุ่มคณะที่สนใจ มีบ้านรับรอง 4 หลัง ขนาด 4 - 60 คน

ที่อยู่ : ตำบลทรายขาว อำเภอสอยดาว จังหวัดจันทบุรี
การเดินทาง : ห่างจากจันทบุรี 70 กิโลเมตร ตามทางหลวงหมายเลข 317 เส้นทางอำเภอเมือง - มะขาม - สอยดาว

เวลาให้บริการ : 08:00-16:00 (ทุกวัน)
ค่าบริการ : คนไทย ผู้ใหญ่ 20 บาท เด็ก 10 บาท
ชาวต่างชาติ ผู้ใหญ่ 200 บาท เด็ก 100 บาท

ติดต่อขอรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
ส่วนอนุรักษ์สัตว์ป่า กรมป่าไม้













 

Create Date : 11 พฤษภาคม 2554    
Last Update : 11 พฤษภาคม 2554 8:37:31 น.
Counter : 1397 Pageviews.  

"น้ำตกแก่งซาง" น้ำตกแสนสวยบนลำน้ำเข็ก

"น้ำตกแก่งซาง" อีกหนึ่งจุดหมายปลายทางด้านการท่องเที่ยวที่สำคัญของตำบลแก่งโสภา อำเภอวังทอง จังหวัดพิษณุโลก โดยน้ำตกนั้นตั้งอยู่บริเวณกิโลเมตรที่ 49 เช่นเดียวกัน แต่เลี้ยวขวาเข้าไปประมาณ 500 เมตร

     น้ำตกแก่งซาง เป็นน้ำตกเล็กๆ บนลำน้ำเข็ก ในฤดูร้อนจะเป็นที่นิยมในการพักผ่อนหย่อนใจของผู้คนที่พักอาศัยในแถบนี้ และในฤดูฝน แก่งซางเป็นหนึ่งในเส้นทางล่องแก่งลำน้ำ เข็ก สำหรับนักท่องเที่ยวที่รักความท้าทายเช่นกัน

ข้อมูลโดย : สถานีตำรวจภูธรแก่งโสภา





 

Create Date : 10 พฤษภาคม 2554    
Last Update : 10 พฤษภาคม 2554 8:15:58 น.
Counter : 1629 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  24  25  26  27  28  29  30  31  32  33  34  35  36  37  38  39  40  41  42  43  44  45  46  47  48  49  50  51  52  53  54  55  56  57  58  59  60  61  62  63  64  65  66  67  68  69  70  71  72  73  74  75  76  77  78  79  80  81  82  83  84  85  86  87  88  89  90  91  92  93  94  95  96  97  98  
 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.