ติดตาม twitter ได้ที่ @karnoi กด
ติดตามข้อมูลเว็บทาง FaceBook กด

cartoonthai
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 237 คน [?]




New Comments
Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add cartoonthai's blog to your web]
Links
 

 

อัมพวา ตลาดน้ำยามเย็น สุดฮิต สมุทรสงคราม



อัมพวา ตลาดน้ำยามเย็น สุดฮิต สมุทรสงคราม

ตลาดน้ำยามเย็น อัมพวา ในเมืองเวนิชตะวันออก จังหวัดสมุทรสงคราม ที่ใครหลายคนได้เคยมาเยี่ยมเยือน แต่บางคนคงจะอดสงสัยไม่ได้ใช่มั๊ยครับว่าทำไมต้อง เวนิชตะวันออก เนื่องด้วยลักษณะของภูมิประเทศ จังหวัดสมุทรสงครามเต็มไปด้วยแม่น้ำ ลำคลองน้อยใหญ่มากมาย และมีการเดินทางกลางสายน้ำเป็นส่วนใหญ่ ทำให้ได้ชื่อว่าเป็นเวนิชตะวันออก

อัมพวา เป็นอำเภอหนึ่งของจังหวัดสมุทรสงคราม ภูมิประเทศและการเดินทางในสมัยก่อนต้องใช้การเดินทางด้วยเรือเช่นกัน ทำให้บริเวณอัมพวาคึกคักไปด้วยการซื้อขาย เพราะตัวตลาดตั้งอยู่บริเวณริมน้ำ อีกส่วนหนึ่งใช้การค้าขายบนเรือ เมื่อระยะเวลาผ่านไป การคมนาคมทางบกดีขึ้น ทำให้การค้าขายทางน้ำเริ่มน้อยลงไปเรื่อยๆ จนกระทั่งได้พัฒนามาเป็นแหล่งท่องเที่ยว ทำให้ อัมพวากลับมาครึกครื้นอีกครั้ง ในนาม ตลาดน้ำยามเย็นอัมพวา

ตลาดน้ำยามเย็นอัมพวา
เป็นตลาด น้ำยามเย็นแห่งแรกของประเทศไทย ท่ามกลางเมืองเวนิชตะวันออก ปัจจุบันเต็มไปด้วยนักท่องเที่ยว โดยเฉพาะวัน ศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ ที่นักท่องเที่ยวหลั่งไหลเข้ามาเป็นจำนวนมาก จากการตอบรับเป็นอย่างดีของนักท่องเที่ยว อาจเป็นเพราะ ค่าใช้จ่าย ค่าครองชีพที่ไม่แพงมากนัก ที่สำคัญไม่ไกลกรุงเทพฯ ที่สำคัญอีกหนึ่งเรื่องคือ ความหลากหลาย ในข้าวของที่ขายในตลาด ไม่ว่าจะเป็นอาหาร นานาชนิด ทั้ง กุ้ง หอย ปู ปลา ผัดไทย ก๋วยเตี๋ยว ขนม ผลไม้ และของฝาก เสื้อผ้าเครื่องประดับ อื่นๆอีกมากมายแบบชนิดที่เรียกว่า รู้ตัวอีกที หิ้วของเต็มมือ





แต่สำหรับเมืองไทย.คอมแล้ว จะเดินเล่นธรรมดาก็กะไรอยู่ จึงพาลงเรือแจว ที่มีอยู่เพียงลำเดียวใน ตลาดน้ำอัมพวา เพื่อเสพบรรยากาศของตลาดน้ำอย่างเต็มอิ่ม เที่ยวแบบไม่เร่งรีบ เปิดมุมมองใหม่สำหรับหลายๆคนที่หลงลืมเสน่ห์ การนั่ง เรือแจว ชมบรรยากาศตลาดน้ำ ที่สำคัญไปกว่านั้น การนั่งเรือแจว ทำให้เราได้สัมผัสกับวิถีชีวิตแบบเต็มๆอีกด้วย ว่าแล้วไปลงเรือกันดีกว่าครับ

ก่อนลงเรือ ลุงคนแจวเรือบอกกับเราว่า นาย นายอยากจอดเรือซื้ออะไรบอกได้เลยนะ เรื่อยๆ ไม่ต้องรีบ ถึง แม้ว่าจะมีเรือเพียงลำเดียว แต่ลุงก็ยังคงเน้นบริการแบบคุณภาพ ไม่เร่งรีบ เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้นั่งชมวิวแบบเต็มๆ เรือค่อยๆแล่นไปตามสายน้ำด้วยแรงของฝีพาย ผ่านบรรยากาศของนักท่องเที่ยวที่เดินอยู่บริเวณสองฝั่ง และการซื้อขายริมน้ำ สิ่งที่เราทำบนเรือมีแค่เพียง กิน กิน แล้วก็กินของที่ซื้อเตรียมไว้ พร้อมกับเสพบรรยากาศของตลาดน้ำแบบสบายๆ ที่หลายคนแอบอิจฉา ถึงขนาดเรียกลุงให้จอดแล้วขอไปด้วยคน

นี่แหละครับคือเสน่ห์ของ ตลาดน้ำยามเย็น อัมพวา ที่หลายคนต่างหลงใหล และกลับมาเยือนเวนิชตะวันออกนี้ หลายต่อหลายครั้ง

สำหรับใครที่อยากมาสัมผัส เสน่ห์ ของตลาดน้ำแห่งนี้ สามารถมาได้ที่ ตลาด น้ำยามเย็น อัมพวา ใกล้อุทยาน ร.๒ ซึ่งถ้าหากเดินทางมาจากกรุงเทพฯ สามารถขึ้นรถตู้ที่อนุเสาวรีย์ชัยสมรภูมิ แล้วต่อรถสองแถวที่ตลาดสมุทรสงคราม ก็จะมาถึงที่ตลาดน้ำอัมพวา หรือจะขึ้นรถที่สถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพฯ(สายใต้)ก็สามารถมาถึงได้เช่น กัน











ขอบคุณ เมืองไทย.คอม




 

Create Date : 06 เมษายน 2554    
Last Update : 6 เมษายน 2554 10:56:01 น.
Counter : 1706 Pageviews.  

สะพานอุตตมานุสรณ์ (สะพานมอญ)



สะพานมอญ เป็นสะพานที่สร้างข้ามลำน้ำซองกาเลีย อยู่ในตัวอำเภอสังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรี สร้างโดยหลวงพ่ออุตตมะและคณะศิษย์ จึงมีอีกชื่อเรียกว่า "สะพานอุตตมานุสรณ์" เป็นสะพานไม้ที่มีชื่อเสียงและเป็นสัญลักษณ์ที่สำคัญของอำเภอสังขละบุรี สะพานไม้นี้มีความยาวถึง 850 เมตร นับเป็นสะพานไม้ที่ยาวที่สุดในประเทศไทยและยาวเป็นลำดับ 2 ของโลก

บริเวณสะพานเป็นจุดชมวิวทะเลสาบเขื่อนวชิราลงกรณที่สวยงาม สามารถมองเห็นลำน้ำสามสาย คือ ซองกาเลีย บีคลี่ และรันตี ที่ไหลมาบรรจบกันเป็นสามประสบ (จุดกำเนิดแม่น้ำแควน้อย)

กิจกรรมสำหรับนักท่องเที่ยว

  • ชมพระอาทิตย์ขึ้นยามเช้า
  • เดินชมวิว ถ่ายรูปที่ระลึกบนสะพานมอญ
  • ล่องเรือ/แพ ชมวิวแม่น้ำ
  • เลือกซื้อของจากร้านค้าที่ตั้งอยู่บริเวณสะพานฝั่งมอญและฝั่งไทย

การเดินทางไปยังสะพานมอญ, สะพานอุตตมานุสรณ์


1.โดยรถยนต์ส่วนตัว

อ.สังขละบุรี อยู่ห่างจากกรุงเทพฯระยะทางประมาณ 360 กิโลเมตร จากกรุงเทพฯ-อ.สังขละบุรีใช้เวลาเดินทางโดยประมาณ 5-6 ชั่วโมง จากตัว อ.เมือง กาญจนบุรี ขับรถไปตามทางหลวงหมายเลข 323 ถึงทางแยกก่อนเข้าตัว อ.ทองผาภูมิให้เลี้ยวขวาแล้วขับรถต่อไปอีก 74ก.ม. ถึง อ.สังขละบุรี การขับรถไป อ.สังขละบุรีผู้ขับจะต้องตรวจสอบสภาพรถให้ดีก่อนการเดินทาง และควรขับรถด้วยความระมัดระวังเป็นพิเศษเนื่องจากเส้นทางที่คดเคี้ยวและลาด ชัน โดยเฉพาะช่วง อ.ทองผาภูมิ มุ่งหน้า อ.สังขละบุรี



2.โดยรถโดยสารประจำทาง

  • 2.1 สถานี ขนส่งสายเหนือ(หมอชิต 2 )เส้นทางกรุงเทพฯ-ด่านเจดีย์สามองค์ ของบริษัทขนส่งจำกัด เป็นเส้นทางที่สะดวกที่สุดเนื่องจากเป็นรถโดยสารปรับอากาศที่เดินทาง จากกรุงเทพฯ-อ.สังขละบุรี โดยที่ท่านไม่ต้องต่อรถอีกใช้เวลาเดินทางโดยประมาณ 6-7 ชั่วโมง มีรถออกวันละ 4 รอบ (05.00น. , 06.00น. ,09.30น. , 12.30น.) รายละเอียดเพิ่มเติมที่บริษัทขนส่งจำกัด
  • 2.2 สถานีขนส่งสายใต้ เส้นทางกรุงเทพฯ-กาญจนบุรี ใช้เวลาประมาณ 2-3ชั่วโมง ลงที่สถานีขนส่งจังหวัดกาญจนบุรี แล้วต่อรถตู้โดยสารปรับอากาศหรือรถบัสโดยสารปรับอากาศเส้นทาง กาญจนบุรี-อ.สังขละบุรี ของบริษัทเอเซียไทรโยคเดินรถจำกัด อยู่ที่ตัวเมืองกาญจนบุรีใกล้กับสถานีขนส่งจังหวัดกาญจนบุรีเวลาเดินรถ 07.30น.-16.30น. รถออกทุกๆ 1ชัวโมง ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3-4 ชัวโมง






ขอบคุณ...teeteawthai.




 

Create Date : 05 เมษายน 2554    
Last Update : 5 เมษายน 2554 8:29:55 น.
Counter : 1524 Pageviews.  

วัดท้ายยอ วัดเก่าอายุกว่า 200 ปี

เกาะยอ อีกจุดหมายปลายทางด้านการท่องเที่ยวที่สำคัญของจังหวัดสงขลา "วัดท้ายยอ" อีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวทางศาสนา และยังเป็นวัดเก่าแก่ของตำบลเกาะยอ อำเภอเมือง จังหวัดสงขลา โดยวัดนั้นตั้งอยู่ทางด้านตะวันตก ค่อนไปทางทิศใต้ของเกาะยอ เป็นวัดที่ได้รับการประกาศให้เป็นวัดเมื่อปี พ.ศ.2311


     วัดท้ายยอ เป็นวัดที่ก่อสร้างด้วยสถาปัตยกรรมล้ำค่า ควรค่าแก่การอนุรักษ์และหวงแหน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง "กุฏิแบบเรือนไทยปั้นหยา" อายุกว่า 200 ปี หลังคา ใช้กระเบื้องดินเผาเกาะยอและกระเบื้องลอนแบบเก่า มีจุดเด่นที่เป็นเอกลักษณ์ คือ เสาเรือนกุฏิจะไม่ฝังลงในดินแต่จะ ตั้งอยู่บนตีนเสา ซึ่งเป็นที่รองรับเสาอันเป็นลักษณะเฉพาะของบ้านชาวไทยในภาคใต้เท่านั้น





     นอกจากนั้นวัดท้ายยอ ยังมีโบราณสถานและโบราณวัตถุควรค่าแก่การศึกษาและเรียนรู้ อาทิ บ่อน้ำโบราณ สระน้ำโบราณ โรงเรือพระ สถูป หอระฆังที่สวยงาม และมีร่องรอยของท่าเรือโบราณ ซึ่งเคยเป็น ศูนย์กลางการคมนาคม ของชาวเกาะยอ ด้านหลังของวัดท้ายยอเป็นที่ตั้งของ เขาเพหารหรือเขาวิหาร ซึ่งประดิษฐานเจดีย์ทรงลังกาที่งดงาม ควรค่า แก่การช่วยกันอนุรักษ์ไว้สืบไป

ข้อมูลโดย : การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานหาดใหญ่(สงขลา-พัทลุง)





 

Create Date : 04 เมษายน 2554    
Last Update : 4 เมษายน 2554 8:47:58 น.
Counter : 2714 Pageviews.  

เที่ยวทะเลรับลมร้อนใกล้กรุงเทพ ฯ "เกาะล้าน" พัทยา



เกาะล้าน เป็นเกาะในอ่าวไทย อยู่ในเขตเมืองพัทยา จังหวัดชลบุรี

อยู่ ห่างชายฝั่งพัทยา 7 กิโลเมตร นั่งเรือโดยสาร 45 นาที หากเดินทางโดยเรือเร็วใช้เวลาเพียง 15 นาที มีพื้นที่ประมาณ 4 ตารางกิโลเมตร มีชายหาดที่สวยงามหลายแห่ง ส่วนใหญ่คึกคักไปด้วยนักท่องเที่ยวที่มาเล่นน้ำ ดูปะการัง เล่นกีฬาทางน้ำ เช่น เรือลากร่มชูชีพ เรือสกี สกู๊ดเตอร์ โดยเฉพาะที่หาดตาแหวน หาดทองหลาง หาดนวล และหาดเทียน ส่วนหาดแสมบรรยากาศเงียบสงบกว่าหาดอื่น บริเวณเกาะล้าน และเกาะเล็ก ๆ ที่อยู่รอบ ๆ เช่น เกาะครก และเกาะสาก เป็นแหล่งตกปลาดำน้ำดูปะการัง ทั้งแบบน้ำลึกและน้ำตื้น และเป็นสถานที่ฝึกหัดเรียนดำน้ำ




สถานที่ท่องเที่ยวบนเกาะล้าน

หาดตาแหวน

อยู่ ทางตอนเหนือของเกาะ เป็นหาดทรายยาวประมาณ 750 เมตร มีความงามทางธรรมชาติมาก เพราะมีหาดทรายที่ขาวสะอาดและน้ำทะเลใสสีคราม ปลายหาดทั้งสองด้านยังมีแนวปะการังในระดับน้ำตื้นที่มีสีสันสวยงาม อีกทั้งมีร้านจำหน่ายสินค้าที่ระลึกตั้งเรียงรายตลอดแนวชายหาด

หาดสังวาลย์

เป็น หาดอีกหาดหนึ่งที่อยู่ติดกับหาดตาแหวนมีความยาว 150 เมตร มีความสงบ จึงเป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวชาวยุโรปที่ชอบนอนอาบแดด หาดสังวาลย์จะสวยงามมากที่สุดในช่วงเดือนธันวาคม - เมษายน

หาดทองหลาง

เป็น ชายหาดขนาดเล็กที่เงียบสงบเหมาะกับนักท่องเที่ยวที่ต้องการพักผ่อนแบบส่วน ตัว กิจกรรมหลักของหาดทองหลางคือการดำน้ำดูปะการัง บริเวณปลายหาดที่เชื่อมต่อกับหาดตาแหวน ทั้ง 2 ด้านนี้ยังมีแนวปะการังน้ำตื้นที่สวยงามและมีบริการเดินชมปะการังใต้น้ำแบบ Sea Walker ที่นักท่องเที่ยวนิยมมาใช้บริการ ส่วนนักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบปะการังแต่ไม่ชอบการดำน้ำที่หาดนี้ยังมีบริการ เรือท้องกระจก ให้สามารถลงไปชมปะการังได้อย่างใกล้ชิด

หาดแสม

อยู่ ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของเกาะ เป็นหาดทรายยาวประมาณ 700 เมตร มีโขดหินและพื้นป่าที่ค่อนข้างสมบูรณ์มีความสวยงาม เงียบสงบ เหมาะสำหรับการพักผ่อนและการเล่นน้ำ มีน้ำทะเลสีครามและหาดทรายที่ขาวสะอาด ปัจจุบันมีการปรับปรุงภูมิทัศน์โดยรวมทั้งปลูกต้นไม้ สร้างลานอเนกประสงค์ อาคารร้านค้าร้านขายอาหารที่ได้มาตรฐาน รวมถึงเส้นทางสัญจรที่สามารถเดินทางไปมาได้อย่างสะดวกจึงเป็นชายหาดอีกแห่ง หนึ่งที่มีนักท่องเที่ยวเข้ามาพักผ่อนเป็นจำนวนมากโดยเฉพาะชาวต่างชาติแถบ ยุโรป อีกทั้งยังเป็นสถานที่ตั้งของอาคารปลากระเบนสำหรับควบคุมการผลิตไฟฟ้าด้วย กังหันลมและโซล่าเซลล์ ทำให้มีหน่วยงานทั้งภาครัฐ เอกชนและประชาชนทั่วไปให้ความสนใจเข้ามาศึกษาดูงานการใช้พลังงานทดแทนในสถาน ที่ดังกล่าวอยู่เป็นประจำ

หาดเทียน

เป็น หาดที่สวยงามแห่งที่สองมีความยาวของหาดประมาณ 500 เมตร อยู่ทางทิศตะวันตกของเกาะ หาดทรายแห่งนี้มีความสวยงามไม่แพ้หาดตาแหวนแต่มีขนาดเล็กและเงียบสงบจึง เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการความเป็นส่วนตัว

หาดนวล

อยู่ ทางตอนใต้ของเกาะล้าน เป็นหาดขนาดเล็กยาวประมาณ 250 เมตร เป็นพื้นที่ที่มีกรรมสิทธิ์เป็นของเอกชน สภาพสิ่งแวดล้อมชายหาดเป็นปะการังอยู่ในสภาพสมบูรณ์ เนื่องจากไม่ค่อยมีนักท่องเที่ยวนิยมมาเที่ยวมากนัก

จุดชมวิวเขานม

เป็น จุดชมวิวที่สวยงามที่สุดของเกาะล้านตั้งอยู่บริเวณเขานมใกล้ ๆ กับหาดแสมที่นักท่องเที่ยวสามารถเดิน หรือใช้บริการรถมอเตอร์ไซค์รับจ้างขึ้นไปชมความสวยงามของท้องทะเลสีครามกับ ตัวเมืองพัทยา ที่ธรรมชาติช่างสร้างสรรค์ได้งดงามกลมกลืนดุจภาพวาด ที่ทุกคนต้องประทับใจ และบริเวณนี้ยังเป็นสถานที่สำหรับนักปั่นจักรยานเสือภูเขาที่ชื่นชอบ ธรรมชาติ




การเดินทาง มีเรือโดยสารออกจากท่าเรือแหลมบาลีฮาย

พัทยาใต้ไปเกาะล้านทุกวัน พัทยา-เกาะล้าน (ท่าหน้าบ้าน)

เที่ยว ไปเวลา 07.00, 10.00, 12.00, 14.00, 15.30, 17.00, 18.30 น. เที่ยวกลับเวลา 06.30, 07.30, 09.30, 12.00, 14.00, 17.00, 18.00 น.

อัตราค่าเรือโดยสาร คนละ 30 บาท
เรือ จอดที่ท่าหน้าบ้าน เรือพัทยา-เกาะล้าน (หาดตาแหวน) เที่ยวไปเวลา 08.00, 09.00, 11.00, 13.00 น. เที่ยวกลับเวลา 13.00, 14.00, 15.00, 16.00 น.

หากจะเดินทางต่อไปชายหาดอื่นสามารถเช่าเรือหางยาว หรือรถรับจ้าง

นอก จากนี้ยังมีบริการเรือเร็วให้เช่าอยู่ทั่วไปตามชายหาดพัทยา อัตราค่าเช่าประมาณ 3,000 บาท สามารถแวะเที่ยวได้หลายหาดแล้วแต่จะตกลงกัน









ททท. และwikipedia




 

Create Date : 03 เมษายน 2554    
Last Update : 3 เมษายน 2554 19:23:50 น.
Counter : 3652 Pageviews.  

แวะคลายอารมณ์ ที่ดอนหอยหลอด




เป็น สันดอนที่เกิดขั้นบริเวณปากแม่น้ำแม่กลองชายฝั่งทะเลของจังหวัดสมุทรสงคราม มีลักษณะเป็นสันดอนใหญ่ตลอดชายฝั่งทะเล อยู่ห่างจากชายฝั่งประมาณ 50 เมตร 2,000 เมตรมีเนื้อที่ทั้งหมดประมาณ 22,000 ไร่ จำนวนดอนที่เกิดขึ้นในขณะนี้มีทั้งหมด 7 ดอน แต่ละดอนแยกจากกันด้วยร่องน้ำเล็ก ๆ ลึกบ้าง ตื้นบ้างดอนที่มีหอยหลอดชุกชุมมากมีจำนวน 5 ดอน ซึ่งเป็นดอนที่เกิดขึ้นนานแล้ว ความหนาแน่นของหอยหลอดบนพื้นที่ประมาณ 15,056.25 ไร่ลักษณะพื้นที่ของดอนหอยหลอดเป็น ลักษณะดินปนทราย ชาวบ้านเรียกว่า "ทรายขี้เป็ด" ซึ่งอาจนำไปใช้ถมที่ได้ แต่ใช้ประโยชน์ในการก่อสร้างไม่ได้หอยหลอดจะอยู่หนาแน่นบริเวณที่มีทราย ประมาณ 60 เปอร์เซ็นต์ขึ้นไป ความหนาแน่นของหอยหลอดขึ้นอยู่กับ สภาพแวดล้อมในแต่ละปีที่เปลี่ยนแปลงไป

หอย หลอดเป็นสัตว์ น้ำทะเลชนิหนึ่ง มีชื่อสามัญว่า Rozor clam และมีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Solen Strictus Gould 1861จัดเป็นหอยสองฝาที่มีตัวอาศัยอยู่ในฝาที่ประกบทั้งสองข้าง มีลักษณะคล้ายหลอดกาแฟ กลมยาวประมาณ 7-8 เซนติเมตร สีน้ำตาลอ่อน ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 1เซนติเมตร เป็น ขนาดของหอยที่โตเต็มที่ มีสภาพความเป็นอยู่โดยการฝังตัวตั้งเป็นแนวดิ่งอยู่ใต้พื้นทราย ยามน้ำแห้งซึ่งเป็นช่วงโอกาสที่ชาวประมงจะทำการจับหอยหลอดได้หอยจะเปิดฝา อยู่เรี่ยพื้น และยึดตัวยื่นออกมาจับแพลงตอนเป็นอาหารหรือการเคลื่อนตัวออกไปหาพื้นที่อยู่ ใหม่

สิ่งที่น่าสนใจ

  • ดอนหอยหลอด
    เนื่อง จากดอนหอยหลอดมีหอยหลอดชุกชุมมาก และมีทัศนียภาพที่สวยงาม แปลก และมีเอกลักษณ์ ยามปกติเวลาน้ำขึ้นน้ำทะเลจะท่วม ดอนจะจมหายไปในน้ำไม่มีร่องรอยของดอนหอยหลอดอยู่เลยแต่พอน้ำลงจะปรากฏ พื้นที่ดอนหอยหลอดค่อย ๆ โผล่ขึ้นทีละน้อย เป็นพื้นที่กล้างไกลหลายร้อยไร่ จึงทำให้ดอนหอยหลอดเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่ง สิ่งที่ดึงดูดใจนักท่องเที่ยว คือ หอยหลอด กล่าวกันว่าเป็นแหล่งที่มีหอยหลอดชุกชุมมากที่สุดแห่งเดียวในประเทศไทย หรือแห่งเดียวในโลก นักท่องเที่ยวนิยมลงไปจับหอยหลอดกันอย่างสนุกสนาน วิธีจับก็ใช้มือกดบงบนพื้นทราย จะปรากฏฟองอากาศ และเห็นรูปรากฏเอาไม้จิ้มปูนขาวแหย่ลงไป หอยหลอดจะโผล่ขึ้นมาให้จับ ต้องรีบเก็บใส่ภาชนะไว้มิฉะนั้นจะมุดดินหนีอยู่ลึกลงไปกว่าเดิมอีก

    ไม่ควรสาดปูนขาวลงบนสันดอน เพราะจะทำให้หอยที่อาศัยอยู่ในบริเวณนั้นตายหมด ช่วงเวลาเหมาะสมที่จะท่องเที่ยวดอนหอยหลอด คือ ประมาณเดือนมีนาคม - พฤษภาคมเพราะน้ำทะเลจะลดลงนานกว่าช่วงเวลาอื่น และสามารถมองเห็นสันดอนโผล่ขึ้นมา นักท่องเที่ยวสามารถเช่าเรือบริเวณศาลาอาภร (ใกล้ศาลกรมหลวงชุมพรเขตตอุดมศักดิ์) เพื่อนั่งเรือไปชมดอนหอยหลอด นักท่องเที่ยวสามารถสอบถามรายละเอียดเวลาน้ำขึ้น - น้ำลง ได้ที่ อบต. บางจะเกร็งโทร 034-723749

    หลาย คนเข้าใจว่า "หอยหลอด" มีเพียงที่ดอนหอยหลอดที่เดียวในโลก แต่ความจริงแล้วยังมีหอยหลอดในบริเวณอื่นอีก เช่น จ.สมุทรปราการ และ จ.ตราด และในต่างประเทศ เช่น อินโดนีเซีย และออสเตรเลีย แต่มีในปริมาณน้อย ไม่มากพอที่จะจัดเป็นแหล่งท่องเที่ยวได้ ทำให้คณะรัฐมนตรีมีมติให้ดอนหอยหลอดเป็นแหล่งท่องเที่ยวอีกแห่งหนึ่งของ ประเทศไทยเมื่อวันที่ 20 มีนาคม 2543
  • ศาลกรมหลวชุมพรเขตอุดมศักดิ์
    บริเวณ ดอนหอยหลอดยังเป็นที่ประดิษฐานศาลกรมหลวงชุมพรเขตตอุดมศักดิ์ มีการแสดงดนตรีไทยทุกวันอาทิตย์ที่ 1 และ 3 ของเดือน เวลา 17.00-18.30 น. ณ บริเวณสนามหญ้าหน้าศาลกรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์

  • แหล่งรวมร้านอาหารทะเล และสินค้าต่างๆ มากมาย
    ตลอด เส้นทางการเดินไปที่ดอนหอยหลอดจะมีร้านอาหารทะเลมากมาย เรียงรายทั้งสองด้านของถนนจนถึงดอนหอยหลอด จะเรียกว่าเป็นแหล่งรวมร้านอาหารทะเลของสมุทรสงครามก็ว่าได้ นอกจากนี้ยังมีร้านขายสินค้าของที่ระลึก ประเภทต่าง ๆ รวมทั้งอาหารทะเลสด-แห้ง กะปิคลองโคน น้ำตาลสด ฯลฯ

การเดินทาง
  • รถยนต์
    1. ไปยังหมู่บ้านบางบ่อ ตำบลบางแก้ว ไปตามถนนธนบุรี-ปากท่อ (พระราม2) ก่อนถึงหลักกิโลเมตรที่ 62 มีป้ายซ้ายบอกทางเข้าดอนหอยหลอด ระยะทางประมาณ 7 กิโลเมตร
    2. ไปยังหมู่บ้านฉู่ฉี่ ตำบลบางจะเกร็ง ไปตามถนนธนบุรี-ปากท่อ (พระราม2) ประมาณกิโลเมตรที่ 64 ก่อนข้ามสะพานพุทธเลิศหล้านภาลัย เชิงสะพานมีป้ายบอกทางเข้าดอนหอยหลอดระยะ
    ทางประมาณ 5 กิโลเมตร
  • รถโดยสาร
    สามารถเดินทางโดยรถสองแถว มีรถออกตลอดทั้งวันจากตัวตลาดในอำเภอเมืองสมุทรสงคราม ไป ยังบ้านฉู่ฉี่ ดอนหอยหลอด
  • เรือ
    การ เดินทางไปยังดอนหอยหลอดนอก จากมีเรือขนาดต่าง ๆ บริการที่ท่าริมน้ำแม่กลอง ถ้าเป็นหมู่คณะใหญ่ประมาณ 40 คนขึ้นไป ติดต่อสอบถามล่วงหน้า ที่โรงเลื่อยจักรซุ่นฮวดเฮง คุณพรทิพย์ แสงวณิชโทร. 034-711466, 034-712558, 034-712451, 01-3785858 (มีบริการสั่งอาหารไปทานบนเรือ) หรือ ติดต่อที่ห้องขายตั๋วเรือข้ามฟากริมแม่น้ำแม่กลอง จังหวัดสมุทรสงคราม




ขอบคุณภาพจากหมูหิน















 

Create Date : 02 เมษายน 2554    
Last Update : 2 เมษายน 2554 9:56:18 น.
Counter : 1736 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  24  25  26  27  28  29  30  31  32  33  34  35  36  37  38  39  40  41  42  43  44  45  46  47  48  49  50  51  52  53  54  55  56  57  58  59  60  61  62  63  64  65  66  67  68  69  70  71  72  73  74  75  76  77  78  79  80  81  82  83  84  85  86  87  88  89  90  91  92  93  94  95  96  97  98  
 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.