ติดตาม twitter ได้ที่ @karnoi กด
ติดตามข้อมูลเว็บทาง FaceBook กด

cartoonthai
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 237 คน [?]




New Comments
Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add cartoonthai's blog to your web]
Links
 

 

นมัสการเจดีย์พระบรมธาตุ ณ วัดเขาสุวรรณประดิษฐ์



วัดเขาสุวรรณประดิษฐ์เดิมชาวบ้านเรียกว่า"วัดเขาล้าน"ซึ่งอยู่เนินบ้านท้องไม ซึ่งเป็นเนินโล่งเตียนจึงเรียกว่า"เขาล้าน"เขาล้านชาวบ้านมีความเชื่อว่าเป็นที่สถิตของพ่อท่านยอดเขาซึ่งเป็นเทพยดารักษาเขาล้านและดินแดนโดยรอบ

     ซึ่งประชาชนมีความเคารพนับถือมาเมื่อจะทำกิจการใดให้สำเร็จต้องบนบาน พ่อท่านยอดเขา วัดเขาล้านได้ดำเนินการสร้างโดยอาจารย์ทอง ท่านเป็นคนจังหวัดสงขลาและได้ตั้งชื่อ ว่า"วัดเขาล้าน"และอาจารย์ทองเป็นเจ้าอาวาสเป็นเจ้าอาวาสองค์แรก และมรณภาพเมือปี พ.ศ.2500

     ต่อมาพระเดชพระคุณพระราชรัตนกวี อดีตเจ้าคณะจังหวัดสุราษฎร์ธานีได้เปลี่ยนชื่อ"วัดเขาล้าน" เป็น วัดเขาสุวรรณประดิษฐ์ เพื่อเป็นศิริมงคลนามเมื่อแปลได้ความว่า วัดที่อาจารย์ทองสร้างขึ้นที่ภูเขา

     วัดเขาสุวรรณประดิษฐ์ ตั้งอยู่เลขที่ 27 หมู่ที่ 8 ตำบลดอนสัก อำเภอดอนสัก จังหวัดสุราษฎร์ธานี สังกัดคณะ มหานิกาย ตั้งวัดเมื่อพุทธศักราช 2460 ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมา เมื่อวันที่ 31 กรกฎาคม 2596 และได้รับการผูกพัทธสีมาเมื่อพุทธศักราช 2500 เนื่อที่ 99 ไร่ 2 งาน 70 ตารางวา มีเนื้อที่ธรณีสงฆ์ จำนวน 3 แปลง 82 ไร่ 3งาน 60 ตารางวา ตั้งอยู่ตำบลปากแพรก

     นอกจากนี้แล้ววัดเขาสุวรรณประดิษฐ์ยังมีปูชนียวัตถุสำคัญที่น่าสนใจ เช่นพระประธานเนื้อโลหะสมัยอยุธยา พระพุทธรูปทรงเครื่อง (สำหรับใช้ประจำเรือพระ ) พระบรมสารีริกธาตุ บรรจุในพระเจดีย์จตุรมุข พระพุทธบาทจำลองอนุสาวรีย์พระวรวงศ์เธอพระองค์เจ้า วิภาวดีรังสิต โดยมีเจ้าอาวาสปกครอง 3 องค์ คือ พระอธิการทอง อินทสุวณโณ พ.ศ.2460 - 2500 พระกิตติมงคลพิพัฒน์ (หลวงพ่อจ้อย) 2500-2536 และปัจจุบันพระครูสุวรรณพิพัฒน์ เป็นเจ้าอาวาส และดำรงตำแหน่งเจ้าคณะตำบลดอนสัก

     วัดเขาสุวรรณประดิษฐ์ เป็นวัดที่มีความร่มรื่นสวยงามบนเจดีย์พระบรมธาตุ นับเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญแห่งหนึ่งของอำเภอดอนสัก และเป็นศูนย์รวมในการประ กอบพิธีกรรมต่างๆ ตลอดทั้งประเพณีของชาวดอนสัก

ข้อมูลโดย ห้องสมุดประชาชนอำเภอดอนสัก
หมู่ที่ 5 ถนนบ้านใน - ขนอม ตำบลดอนสัก อำเภอดอนสัก
จ.สุราษฎร์ธานี 84220 โทร. 0-7737-2171 โทรสาร.0-7737-2171






 

Create Date : 25 พฤษภาคม 2554    
Last Update : 25 พฤษภาคม 2554 9:28:21 น.
Counter : 1831 Pageviews.  

แมกไม้และขุนเขา ณ สวนผึ้ง ราชบุรี



สถานที่ท่องเที่ยว สวนผึ้ง

โป่งยุบ ตั้ง อยู่ที่บ้านท่าเคย ก่อนถึงตัวอำเภอสวยผึ้ง 5 กม. มีทางแยกซ้ายไปอีกประมาณ 5 กม. เกิดจากยุบตัวของแผ่นดิน ทำให้เกิดลักษณะหน้าผาสูงชัน มีลักษณะคล้ายกับแพะเมืองผีที่จังหวัดแพร่ หรือ ฮ่อมจ๊อม อำเภอนาน้อย จังหวัดน่าน โป่งยุบนี้มีอาณาบริเวณกว้างกว่า 10 ไร่ ซึ่งแต่เดิมท้องที่นี้เคยเป็นไร่นามาก่อน นับเป็นสถานที่น่าสนใจอีกแห่งหนึ่ง

ธารน้ำร้อนบ่อคลึง เลย อำเภอสวนผึ้งไปประมาณ 15 กม. เป็นธารน้ำร้อนที่มีต้นกำเนิดจากเทือกเขาตะนาวศรี ซึ่งจะมีน้ำไหลอยู่ตลอดปีเป็นน้ำร้อนบริสุทธิ์ ในบางวันน้ำร้อนจะมีอุณหภูมิอยู่ในระดับประมาณ 136 องศาฟาเรนไฮต์ และในบางวันก็ลดลงมาประมาณ 120 องศา ฟาเรนไฮต์ ธารน้ำร้อนบ่อคลึงนี้ นับเป็นธารน้ำร้อนที่อยู่ใกล้กรุงเทพฯ มากที่สุด




ฟาร์มกล้วยไม้-ลันดา อยู่ถัดจากอุทยานธรรมชาติวิทยาไปไม่ถึง 1 กม. เป็นสวนกล้วนไม้เอกชน มีพันธุ์กล้วยไม้จำพวก แวนด้า ไว้จำหน่าย

น้ำตกเก้าโจนหรือน้ำตกเก้าชั้น ตั้งอยู่ที่บ้านผาปก อยู่ถัดจากธารน้ำร้อนบ่อคลึงไปประมาณ 3 กม. จากลานจอดรถซึ่งอยู่
ด้านล่างให้เดินทางด้วยเท้าต่อไปอีกประมาณ 500 เมตร ถึงบริเวณตัวน้ำตก ตอนล่างของลำห้วยบ่อคลึงบริเวณเทือกเขาตะนาวศรี
มีน้ำตกเก้าโจนหรือน้ำตกเก้าชั้น เป็นน้ำตกขนาดใหญ่ สูง 9 ชั้น ตั้งอยู่ในหุบเขาที่สมบูรณ์ล้อมรอบด้วยธรรมชาติระยะทางเดินจาก
ชั้นล่างถึงชั้นบนประมาณ 2 กม. ใช้เวลาประมาณ 2 ชม.

ไร่กุหลาบอุษาวดี ห่าง จากตัวอำเภอสวนผึ้งไปประมาณ 16 กม. แยกเข้าไปบ้านห้วยน้ำใส อีกประมาณ 5 กม. เป็นไร่เอกชนซึ่งปลูกกุหลาบพันธุ์ฮอลแลนด์ และพันธุ์ต่าง ๆ พื้นที่ไร่อยู่บนพื้นที่สูง ในหุบเขา ช่วงฤดูหนาวนจะมีอากาศหนาวจัด

น้ำตกบ้านบ่อหวี เป็นน้ำตกขนาดกลางเพิ่งพบใหม่มี 7 ฃั้น มีความเป็นธรรมชาติอยู่มาก ทางเข้าผ่านหมู่บ้าน และวัดบ้านบ่อหวี
ไปอีก ประมาณ 2 กม. มีถนนลาดยางตลอดถึงทางเข้าตัวน้ำตก จากนั้นเดินเท้าประมาณ 150 เมตร จะถึงน้ำตกชั้นที่ 1 สายน้ำมี
ความ ใสมากกว่าน้ำตกเก้าโจน เหนือขึ้นไปบนน้ำตกจะเป็นชายแดนไทย-พม่า มีฐานทหารรักษาการอยู่ นายทหารผู้หนึ่งเล่าให้ thai-tour ฟังว่าบนตะเข็บชายแดนนี้สามารถเดินเชื่อมไปถึงเขากระโจมได้
ขึ้นถึงน้ำตกชั้นที่ 7 ใช้เวลาเดินเท้าประมาณ 40 นาที

แก่งส้มแมว (สวนป่าสิริกิต์) ห่าง จาก อ.สวนผึ้ง 25 กม. เป็นลำธาร มีเกาะแก่งกลางน้ำภาชี เหมาะสำหรับเล่นน้ำเป็นอย่างยิ่ง อยู่ในพื้นที่สวนป่าสิริกิต์ ภายในสวนป่ามีสวนหย่อม ศูนย์จำหน่ายเครื่องเซรามิคจากคนในบริเวณหมู่บ้าน สวน ป่าแห่งนี้สร้างขึ้นเพื่อเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ เนื่องในวโรกาสเจริญพระชนมพรรษา 5 รอบ เป็นศูนย์รวมพันธุ์ไม้
นานาชนิดอันมีค่าทางเศษฐกิจและเป็นแหล่งศึกษาทางธรรมชาติที่ดีเยี่ยม




พิพิธภัณฑ์ภโวทัย หรือ สวนภูมิปัญญาชาวบ้าน เป็น เรือนไทยประยุกต์จากหน้านสถานีตำรวจสวนผึ้งแยกไปประมาณ 2 กม. ผ่านวัดสวนผึ้งแล้วแยกขวาไปอีกจนข้ามสะพานก็จะถึงพิพิธภัณฑ์ที่อยู่ทางซ้าย มือมีพื้นที่ประมาณ 20 ไร่ รวบรวมวัตถุโบราณสยามในอดีต รวมทั้งมีรถม้า พันธุ์ไม้ดอก ไม้ประดับของไทยชนิดต่าง ๆ เช่น ดอกมณโฑ พิพิธภัณฑ์เปิดให้เข้าชมทุกวัน เสาร์-อาทิตย์ วันหยุดราชการ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ ค่าเข้าชม ผู้ใหญ่ 20 บาท เด็ก 10 บาท นักเรียน นิสิต นักศึกษา ในเครื่องแบบให้ทำจดหมายก่อนล่วงหน้า นอกจากนี้ยังมีบ้านพักไว้บริการนักท่องเที่ยว
ติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ โทร(032) 221189, (01) 486-9804

น้ำพุร้อนโป่งกระทิง อยู่ บนนถนนสายชัฏป่าหวาย-โป่งกระทิง-ปากท่อ เป็นบ่อน้ำร้อน แบบบ่อธรรมดา ขนาดเล็ก เส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 5 เมตร เมื่อมีคนจำนวนมากมายืนล้อมรอบบ่อและช่วยกันปรบมือ หรือ เคาะทำเสียงดัง น้ำในบ่อจะเริ่มเดือดจนมีพรายน้ำพุพุ่งมาเหนื่อผิวน้ำ

สำนักสงฆ์หินสูง ตั้ง อยู่หมู่ที่ 13 ตำบลตะนาวศรี เลยโป่งยุบไปอีกประมาณ 2 กม. เป็นสถานที่เหมาะสำหรับ ผู้ที่รักความสงบและเหมาะแก่การไปเที่ยวชม เพราะมีสวนเสาหินและหมู่หินรูปร่างต่างๆ มากมายที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ



ขอบคุณ
//suanphueng.sadoodta.com/










 

Create Date : 24 พฤษภาคม 2554    
Last Update : 24 พฤษภาคม 2554 8:18:07 น.
Counter : 1756 Pageviews.  

เขาช้างเผือก กาญจนบุรี ดินแดนแห่งธรรมชาติ

เขาช้างเผือก

เขาช้างเผือก

เกริ่นนำโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก ททท.

กาญจนบุรี…จังหวัด ชายแดนตะวันตกของประเทศ ที่ยังคงอุดมสมบูรณ์ไปด้วยทรัพยากรป่าไม้ พรรณไม้ โถงถ้ำ น้ำตก การันตีได้จากอุทยานแห่งชาติ 6 แห่ง ที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ และด้วยสภาพความสมบูรณ์และธรรมชาติที่สวยงาม แถมระยะทางเพียงแค่ 129 กิโลเมตร จากกรุงเทพมหานคร จึงไม่แปลกเลยที่จะมีนักท่องเที่ยวผู้ชอบดื่มด่ำบรรยากาศธรรมชาติ มักแห่แหนไปเยือนอย่างไม่ขาดสาย เพราะฉะนั้น วันนี้เราจะพาเพื่อน ๆ ไปสัมผัสกับสถานที่ท่องเที่ยวอีกแห่งหนึ่งที่ขึ้นชื่อของ กาญจนบุรี แต่ต้องอาศัยความอึดพอสมควร นั่นก็คือ "เขาช้างเผือก" ที่ตั้งตระหง่านอยู่ ณ "อุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ"

เส้นทางสาย 3272 คือถนนลาดยางกลางเก่ากลางใหม่ ที่ลัดเลาะผืนป่าขึ้นสู่เทือกเขาสูง ปลายทางของมันนั้นอยู่ที่ บ้านอีต่อง จุดบรรจบของเขตชายแดนไทย-พม่า ที่จะนำไปสู่จุดเริ่มต้นของการเดินทางสู่ เขาช้างเผือก ด้วยระยะทางประมาณ 60 กิโลเมตร จากเขื่อนวชิราลงกรณ์ถึงด้านบนนั้น แบ่งเป็นทางชันคดเคี้ยวซะ 24 กิโลเมตร ซึ่งก็เป็นเส้นทางที่น่าหวาดเสียวพอสมควร เนื่องด้วยถนนที่ค่อนข้างจะเแคบ (มาก) แค่พอรถวิ่งสวนกันเท่านั้น สำหรับผู้ที่เดินทางมาครั้งแรกควรระมัดระวังการใช้เส้นทางให้มาก อีกอย่างหนึ่งที่ควรทราบไว้ก็คือ เส้นทางสายนี้มีฝูงช้างออกหากินด้วย ถ้าพบเขาเหล่านั้น ก็รักษาระยะห่างไว้ อย่าเข้าใกล้เป็นดีที่สุด

เขาช้างเผือก

เขาช้างเผือก

ก่อนถึงบ้านอิต่อง 8 กิโลเมตร เป็นที่ตั้งของที่ทำการอุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ ที่ทำการแห่งนี้มีบริการบ้านพัก และที่ตั้งเต๊นท์ให้กับนักท่องเที่ยว ด้วยพื้นที่กว้างขวางจึงสามารถรองรับปริมาณนักท่องเที่ยว ในช่วงเทศกาลได้พอเพียง อีกทั้งห้องน้ำก็ยังสะดวกสบาย มีให้บริการหลายห้อง ไม่ต้องกลัวว่าจะไม่พอ และที่อุทยานแห่งชาติทองผาภูมินี้ สามารถชมวิวทะเลหมอกได้ที่จุดชมวิว "เนินกูดดอย" อีกทั้งจากจุดชมวิวนี้สามารถมองเห็น เขาช้างเผือก ได้ด้วย

เขาช้างเผือก เป็นยอดเขาที่สูงที่สุดในอุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ โดยมีความสูงถึง 1,249 จากระดับน้ำทะเล การเดินทางขึ้นสู่ยอด เขาช้างเผือก นั้น ใช้การเดินเท้าในระยะทางประมาณ 8-9 กิโลเมตร ซึ่งเส้นทางนั้นจะเป็นเส้นทางที่ลัดเลาะยอดเขาต่าง ๆ ต้องข้ามยอดเขากว่า 3-4 ยอดเขาจึงจะถึงจุดตั้งเต๊นท์ที่เรียกว่า "กิ่วลม"

เขาช้างเผือก

เขาช้างเผือก

ส่วนมากแล้วนักท่องเที่ยวจะนิยมนอนพักที่กิ่วลมก่อน 1 คืน จากนั้นจึงเดินเท้าขึ้นสู่ยอด เขาช้างเผือก ในวันรุ่งขึ้น เพื่อชมพระอาทิตย์ขึ้น ระยะทางจากกิ่วลมสู่ยอดเขานั้นไม่ไกลมากเท่าไร แต่เป็นทางเดินลาดชัน ที่ต้องปีนป่าย และทรงตัวไปตามทางเดินเล็ก ๆ และลื่นพอสมควร จุดวัดใจในการขึ้นสู่ยอดเขานั่นก็คือ "สันคมมีด" ที่เป็นสันหินแคบ กว้างไม่เกิน 1 เมตร สองข้างทางเป็นเหวลาดลงไป ใครจะขึ้นถึงยอดหรือไม่ ก็วัดใจกันตรงนี้นี่แหล่ะ

ถ้าหากผ่านสันคมมีดมาได้ รางวัลที่รออยู่บนยอดเขาช้างเผือกนั้น สามารถทำให้หายเหนื่อยได้ไม่ยาก ไม่ว่าจะเป็นวิวกว้างไกลสุดลูกหูลูกตาแบบ 360 องศา ที่สามารถมองเห็นเขื่อนวชิราลงกรณ์ด้านล่าง และในวันที่ปราศจากเมฆหมอก ทัศนวิสัยดีเยี่ยมจะสามารถมองข้ามไปทางฝั่งประเทศพม่า และมองเห็นทะเลอันดามันได้ด้วย...ว้าว!

เขาช้างเผือก

เขาช้างเผือก

ทั้งนี้ ก่อนเดินทางขึ้นสู่ เขาช้างเผือก จะต้องทำการติดต่อเจ้าหน้าที่อุทยานฯ ก่อนเพื่อเจ้าหน้าที่ดูแลเรื่องการนำทางและความปลอดภัย จากนั้นเจ้าหน้าที่จะติดต่อลูกหาบให้ โดยลูกหาบจะมีหน้าที่ในการหาบสัมภาระให้แก่นักท่องเที่ยว ซึ่งส่วนมากแล้วเป็นชาวบ้านในบ้านอิต่อง จุดเริ่มต้นในการขึ้นสู่ยอดเขานี่เอง

อย่างไรก็ตาม เขาช้างเผือก ยังคงรอให้ทุกท่านไปสัมผัสอยู่เสมอ ยกเว้นในช่วงฤดูแล้ง เพราะจะเกิดไฟป่าขึ้น ฤดูฝนและฤดูหนาวเท่านั้นที่สามารถมาเที่ยวได้ ที่สำคัญบอกให้รู้ไว้ว่าด้านบนกิ่วลมนั้น มีสัญญาณโทรศัพท์ให้ใช้งานได้ด้วย (AIS & DTAC) เลิกกังวลเรื่องการติดต่อสื่อสารไปได้เลย สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ อุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ โทรศัพท์ 0 3453 2114




ขอขอบคุณข้อมูลจาก




 

Create Date : 23 พฤษภาคม 2554    
Last Update : 23 พฤษภาคม 2554 8:51:59 น.
Counter : 2426 Pageviews.  

สัมผัสเสน่ห์สะดือแม่น้ำโขงที่ "แก่งอาฮง"

"แก่งอาฮง" เป็นแก่งหินกลางลำน้ำโขงบริเวณหน้าวัดอาฮงศิลาวาส ปัจจุบันแก่งแห่งนี้ได้กลายเป็นอีกหนึ่งแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียง ซึ่งตั้งอยู่ในเขตพื้นที่ของอำเภอปากคาด จังหวัดบึงกาฬ


     แก่งอาฮง เป็นแก่งหินที่มีความสวยงามมากแห่งหนึ่ง นักท่องเที่ยวที่มาเยือน จะสามารถมองเห็นแก่งได้ในช่วงหน้าแล้งราวเดือนมีนาคม – พฤษภาคมของทุกปี แต่ในช่วงฤดูน้ำหลากกระแสน้ำจะไหลวนเป็นรูปกรวยขนาดใหญ่


     นอกจากนี้แล้ว แก่งอาฮง ยังถือว่าเป็นจุดที่แม่น้ำโขงมีความลึกที่สุดไม่สามารถวัดความลึกได้ ชาวบ้านเชื่อกันว่าเป็น "สะดือแม่น้ำโขง" ภายในแก่งยังมีกลุ่มหินมากมาย ซึ่งมีชื่อเรียกตามลักษณะของหิน เช่น หินลิ้น นาค หินปลาเข้ ถ้ำปลาสวาย นอกจากเป็นแหล่งพักผ่อนและสถานที่ท่องเที่ยวแล้ว ชาวบ้านโดยรอบยัง อาศัยทำการประมงอีกด้วย

ข้อมูลโดย : องค์การบริหารส่วนตำบลนากั้ง อำเภอปากคาด จังหวัดบึงกาฬ





 

Create Date : 22 พฤษภาคม 2554    
Last Update : 22 พฤษภาคม 2554 11:05:38 น.
Counter : 2541 Pageviews.  

เชียงใหม่ จัดงานพืชสวนโลก 9 พ.ย.-15 ก.พ.

เชียงใหม่ จัดงานพืชสวนโลก 9 พ.ย.-15 ก.พ.



เชียงใหม่ จัดงานพืชสวนโลก 9 พ.ย.-15 ก.พ. (ไอเอ็นเอ็น)


จ.เชียงใหม่ และกรมวิชาการเกษตร ร่วมแถลงความคืบหน้า การจัดงานมหกรรมพืชสวนโลก เฉลิมพระเกียรติราชพฤกษ์ ระหว่าง 9 พ.ย.-15 ก.พ. นี้

จังหวัดเชียงใหม่และกรมวิชาการเกษตร ร่วมกันแถลงความคืบหน้า การจัดงานมหกรรมพืชสวนโลก เฉลิมพระเกียรติ ราชประพฤกษ์ 9 พ.ย.-15 ก.พ. โดยหม่อมหลวงปนัดดา ดิศกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ยืนยันว่า เชียงใหม่พร้อมเป็นเจ้าภาพต้อนรับแขกบ้านแขกเมือง ด้วยน้ำใจไมตรี และเพื่อเป็นการเฉลิมฉลอง 3 วโรกาส สำคัญของไทย ภายในงานจะมีกิจกรรมยิ่งใหญ่ รวมทั้งการแสดงนิทรรศการเผยแพร่พระราชกรณียกิจ และพระอัจฉริยะภาพ ที่เกี่ยวข้องกับการเกษตร ซึ่ง การจัดงานครั้งนี้ จะมีนักท่องเที่ยวไม่ต่ำกว่า 2 ล้านคน และคาดว่าจะสามารถกระตุ้นเศรษฐกิจไทย และสร้างรายได้หมุนเวียนให้กับเชียงใหม่ และใกล้เคียงนับหมื่นล้านบาท จากธุรกิจการท่องเที่ยว โรงแรม และธุรกิจบริการ

จังหวัดเชียงใหม่และกรมวิชาการเกษตร ร่วมกันแถลงความคืบหน้า การจัดงานมหกรรมพืชสวนโลก เฉลิมพระเกียรติ ราชประพฤกษ์ 9 พ.ย.-15 ก.พ. โดยหม่อมหลวงปนัดดา ดิศกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ยืนยันว่า ภายในงานจะมีกิจกรรมยิ่งใหญ่ รวมทั้งการแสดงนิทรรศการเผยแพร่พระราชกรณียกิจ และพระอัจฉริยะภาพ ที่เกี่ยวข้องกับการเกษตร


เชียงใหม่ จัดงานพืชสวนโลก 9 พ.ย.-15 ก.พ.

เชียงใหม่ จัดงานพืชสวนโลก 9 พ.ย.-15 ก.พ.


ด้านนายจิรากร โกศัยเสวี อธิบดีกรมวิชาการเกษตร กล่าวว่า ขณะนี้ได้รับการตอบรับจาก 20 กว่าประเทศทั่วโลก เข้าร่วมจัดสวนนานาชาติแล้ว จากเป้าหมาย 30 ประเทศ ส่วนสวนในประเทศมี 39 แห่ง และจะมีการจัดการประชุมวิชาการนานาชาติและระดับชาติรวม 11 การประชุมขณะที่จุดเด่นของงานคือกระเช้าราชพฤกษ์ลอยฟ้าสูงกว่า 40 เมตร เพื่อชมทิวทัศน์ภายในงานเชื่อว่า จะเป็นงานที่ยิ่งใหญ่ไม่แพ้กับการจัดงานครั้งแรก




ขอขอบคุณภาพประกอบจาก โรงงานยาสูบ กระทรวงการคลัง




 

Create Date : 21 พฤษภาคม 2554    
Last Update : 21 พฤษภาคม 2554 10:20:45 น.
Counter : 2007 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  24  25  26  27  28  29  30  31  32  33  34  35  36  37  38  39  40  41  42  43  44  45  46  47  48  49  50  51  52  53  54  55  56  57  58  59  60  61  62  63  64  65  66  67  68  69  70  71  72  73  74  75  76  77  78  79  80  81  82  83  84  85  86  87  88  89  90  91  92  93  94  95  96  97  98  
 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.