|
๒๙๙ - ความชอบ ความชัง
เป็นธรรมของชีวิตมนุษย์ทั้งหลาย ที่ต้องประสบกับทั้งความชอบและความชัง ซึ่งติดตัวเรามาตั่งแต่เราจำความได้หรือ อย่างมากกว่านั้นก็ติดตัวเรามาตั่งแต่ที่เรายังไม่มาเกิดเป็นมนุษย์ ยังเป็นวิญญาณเร่ร่อน เป็นสัตว์นรก เปรต เป็นเทวดาเสียด้วยซ้ำ มีมากอยู่ที่เราชอบรูปสวย ๆ งาม เกลียดรูปอัปลักษณ์หดหู่ ยกตัวอย่างเช่น คนที่เคยรักกันแทบตายวันหนึ่งคนที่เรารักมีรูปร่างเปลี่ยนไป เช่น ถูกไฟคลอก หรือ ด้วยกาลเวลารูปร่าง สัดส่วนก็บวมขึ้น อ้วนขึ้น ส่วนใหญ่คนที่รักชอบด้วยน่าตา ก็คงมีความรู้สึกไม่เหมือนเดิมตอนที่เคยจีบ เคยชอบ เพราะเหตุของรูปร่างใหม่ ๆ แต่นั่นก็ไม่ได้ว่าทุกคนจะเป็นอย่างนั้น เพียงแต่คนที่ไม่ใช่คู่แท้คู่ชีวิตกัน หรือ ไม่เคยเกื้อกูลกันมาก่อนในอดีตชาติ หรือคนที่ฝักใฝ่ในทางกามราคะ มีโอกาสสูงที่จะต้องเลิกล้างกันไป ยิ่งในสังคมปัจจุบัน ซึ่งมีการยั่วยุอารมณ์ทางสื่อได้มากมายเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว
หากเราลองหมั่นพิจารณาดูเป็นประจำในความสวยงามนั้นมีอะไร ข้าพเจ้าเองก็เป็นคนที่ติดในความงามเช่นกัน มันคงเป็นสันดานที่ติดตัวมามากมายหลายภพ ชาติ ซึ่งไม่สามารถแก้ไขได้ในเวลาอันรวดเร็ว แต่ก็พยายามที่จะแก้ไขอยู่เป็นประจำ ถึงแม้บางครั้งอาจจะพลั้งเผลอต่อกิเลสไปบ้าง แต่เราลองมาพิจารณาในความสวยอีกด้านดูบ้าง สมมติว่าเราเดินผ่านไปแล้วพบคนที่สวยหรือ หล่อมาก เราย่อมเกิดความยินดี ตามประสาสัตว์โลกที่ชุ่มไปด้วยกาม ในขณะนั้นสติของนักปฏิบัติก็พึงระลึกว่าคนที่สวย ที่หล่อที่อยู่ตรงหน้าเรา หากตายไปแล้วจะมีลักษณะอย่างไร แก้มที่ขาว แขนที่ขาว คงมีรอยเขียวจ้ำ หน้าตาคล้ำซีดปนเขียว มีน้ำเลือดหนองปนออกมา คนที่สวยหรือหล่อมากเท่าไหร่ก็สามารถนึกน้อมใจถึงตอนที่คน ๆ นั้นตาย เขาจะยิ่งมีความน่ากลัวมากเป็นทวีคูณ
แต่อนิจจา มนุษย์โดยยทั่วไปย่อมไม่มีความนึกคิดน้อมไปทางอสุภะกันนัก นอกเสียจากนักปฏิบัติธรรมทางสายวิปัสสนากรรมฐาน ที่ได้อบรมมาแล้วเท่านั้น ทั้งนี้ก็ไม่ได้หมายว่าข้าพเจ้าเป็นผู้เชี่ยวชาญอันใด หากแต่เป็นผู้ที่กำลังอยู่ในช่วงฝึกฝนเช่นกัน จึงนำเรื่องมาเขียนเล่าบรรยาสู่กันฟัง เผื่อพบเจอนักปฏิบัติที่มีปฏิปทาคล้ายคลึงกัน จะได้สามารถแนะนำกันได้
สุดท้ายปลายทางของคนที่สามารถวางใจ ไม่ติดยึดในความสวยความงาม เป็นผู้ที่สามารถวางจิตให้เป็นกลางได้มากที่สุด คือคนที่พบรูปที่สวยงามทั้งที่น่าปรารถนายินดีของคนทั้งหลาย คน ๆ นั้นก็ไม่ได้ยินดี หรือ พบเจอรูปที่น่ารังเกียจเป็นที่น่าขยะแขยงของคนทั่วไป คน ๆ นั้นก็สามารถวางใจรับได้ โดยการทำจิตที่อยู่ตรงกลางระหว่างความรักกับความชัง ความพอใจกับความไม่พอใจ มีจิตที่ไม่หวั่นไหวในการประทบกระทั่งทางอารมณ์ ซึ่งคนประเภทที่สามารถละสิ่งเหล่านี้ได้เด็ดขาด ก็มีเพียงพระอนาคามี และพระอรหันต์เพียงเท่านั้นกระมัง...
ขอขอบคุณ รูปภาพงาม ๆ จาก //4.bp.blogspot.comมากมาย ครับ
Create Date : 23 พฤษภาคม 2554 |
Last Update : 27 มีนาคม 2555 15:57:52 น. |
|
12 comments
|
Counter : 895 Pageviews. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 23 พฤษภาคม 2554 เวลา:9:10:19 น. |
|
|
|
โดย: Nissan_n วันที่: 23 พฤษภาคม 2554 เวลา:11:03:08 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 24 พฤษภาคม 2554 เวลา:6:06:21 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 24 พฤษภาคม 2554 เวลา:9:05:41 น. |
|
|
|
โดย: Nissan_n วันที่: 24 พฤษภาคม 2554 เวลา:10:41:44 น. |
|
|
|
โดย: แม่มณี IP: 182.53.70.190 วันที่: 24 พฤษภาคม 2554 เวลา:15:33:37 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 25 พฤษภาคม 2554 เวลา:6:03:04 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 26 พฤษภาคม 2554 เวลา:5:37:37 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 27 พฤษภาคม 2554 เวลา:5:43:21 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 28 พฤษภาคม 2554 เวลา:5:27:53 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 31 พฤษภาคม 2554 เวลา:6:12:15 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 1 มิถุนายน 2554 เวลา:6:21:03 น. |
|
|
|
| |
|
|
พี่ก๋าเคยนั่งมองภาพร่างกายของมนุษย์ในความตายรูปแบบต่างๆ
แต่หลายคนคงไม่เหมาะที่จะดูนะครับ
ภาพดูโหดร้าย น่ากลัวเกินไป