ภัยแห่งสังสารวัฏนั้น น่ากลัวยิ่งกว่าภัยอื่นใด - อัสติสะ
Group Blog
 
All blogs
 
๒๙๖ - กระดาษทรายกับพระอริยะ




ความชื้นของอากาศเป็นองค์ประกอบส่วนหนึ่งที่ทำให้โลหะเหล็ก ซึ่งเป็นโลหะแข็งตามธรรมชาติเกิดสิ่งที่เรียกว่าสนิมขึ้นมา ธรรมชาติได้สร้างโลหะเหล็กให้มีคุณสมบัติแข็งทนต่อการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศ แต่ทุกอย่างไม่ว่าจะมั่นคงเพียงใด ก็ต้องถูกย่อยสลาย แปรสภาพไปอยู่ดี

เรื่องของสนิมกับเหล็กกล้านี้ ผุดขึ้นมาในความคิดของข้าพเจ้า เมื่อช่วงหลายปีที่ผ่านมา ช่วงนั้นคงได้รับอิทธิพลจากหนังสือธรรมเล่มใดเล่มหนึ่งในตอนนั้น แต่หนังสือไม่ได้พูดถึงเรื่องสนิมกับเหล็กกล้าโดยตรง เพียงแต่ข้าพเจ้านำกลับมาขยายความ และประยุกต์ใช้ต่ออีกที แต่ถ้าหากมันบังเอิญไปตรงกับเรื่องที่ใครคนใดคนหนึ่งเคยอ่านเจอมาแล้วข้าพเจ้าคงหน้าแตกก็เป็นไปได้
โจทย์มีอยู่ว่า

“ถ้าเปรียบเหล็กกล้ากับความบริสุทธิ์หมดจรดของพระอริยบุคคลในแต่ละชั้นนั้น เราจะสามารถเปรียบเทียบได้อย่างไร...”

ตอนนั้นก็มีคำตอบอยู่ภายในหัวพุ่งออกมาแล้ว ซึ่งแน่นอนว่า พระอรหันต์จะต้องเป็นเหล็กกล้าที่ขัดเกลาอย่างดีแล้ว ไม่สามารถมีสนิมได้อีกต่อไป หมายถึงไม่สามารถมีกิเลสมาลุมเกาะได้อีกต่อไป
พระอนาคามี ก็ต้องเป็นเหล็กที่ยังมีสนิมเกาะอยู่เล็กน้อย อาศัยกระดาษทรายเบอร์ละเอียดขัดเกลา อีกไม่นานก็จะถึงความสะอาดหมดจรด
พระสกทาคามี ก็เป็นเหล็กที่สนิมอยู่พอสมควร และต้องใช้เวลาขัดเกลาอีกมาก
พระโสดาบัน ก็เป็นเหล็กที่มีสนิมเกาะมากกว่าพระสกทาคามี และต้องใช้เวลาและกระดาษทรายเบอร์ที่หยาบกว่าความในการขัดเกลา

ส่วนปุถุชนคนธรรมนั้นไม่ต้องพูดถึง เพราะไม่อาจจะเปรียบเทียบใด ๆ ได้เลย (คงไม่แรงไปนะครับ เพราะไม่รู้จะเปรียบยังไงจริงๆ )

ซึ่งคำตอบในหัวก็มีประมาณที่อย่างที่อธิบายมาข้างต้น ตอนนั้นเกิดความพองฟูในความรู้ขึ้นมาพอสมควร และคิดอยู่ในใจว่า ข้าพเจ้าจะเอาโจทย์นี้ไปถามใครดี ที่พอจะตอบคำถามประเภทนี้ได้บ้าง มันเป็นตวามที่ต้องการลองเชิง หรือต้องการหยั่งเชิงความรู้กับผู้อื่นดูบ้าง ซึ่งตอนนั้นก็ไม่ได้ใส่ใจอะไรมากไปกว่าต้องการมีคนทดสอบความรู้นี้

ข้าพเจ้าเลือกที่จะทดสอบกับพระมากกว่าฆราวาสทั่วไป เพราะสะดวกกว่าที่จะถามคำถามประเภทนี้ เพราะหากสุ่มสี่สุ่มห้าไปถามคำถามนี้กับคนทั่วไป ที่ไม่ได้อยู่ในวงการศาสนาหรือนักปฏิบัติธรรม ก็คงจะไม่ค่อยมีประโยชน์อะไร

ในวันหยุดปลายเดือนตุลามคม ปี ๒๕๕๐ ข้าพเจ้าเลือกที่จะนั่งรถทัวร์ไปเดินทางเป็นระยะกว่า ๗๐๐ กิโลเมตร เพื่อที่จะเดินทางไปถามปัญหานี้กับพระ ที่วัดที่มีชื่อเสียงในจังหวัดอุบลราชธานี การเดินทางไปจังหวัดอุบลราชธานีในครั้งนั้น ต้องยอมรับว่าเป็นครั้งแรกในชีวิต และต้องการที่จะเดินทางแบบไปกลับ ไม่เลือกที่จะค้างคืน
การไปในครั้งนั้น ก็ไม่ได้ไปเปล่า ข้าพเจ้าอธิษฐานไว้ในใจว่า



"หากข้าพเจ้ามีวาสนาโชคชะตาผูกพันที่จะได้บวชยังวัดแห่งนี้ หรือมีความผูกพันกับบุคคลในวัดแห่งนี้มาก่อนในอดีตชาติ ขอให้คนที่ข้าพเจ้าเดินทางไปถามคำถามนี้ เป็นคนแรกได้ตอบคำถามนี้ถูกต้อง และต้องกลับความคิดของข้าพเจ้าด้วยเถิด แต่ถ้าหากว่าท่านตอบไม่ได้ หรือตอบคำถามเป็นอย่างอื่น ก็หมายรู้ได้ว่าข้าพเจ้าคงไม่ได้มีความผูกพัน หรือต้องชะตากับสถานที่แห่งนี้"

เมื่ออธิษฐานเสร็จก็เตรียมตัว เดินทางไปยังวัดแห่งนั้นทันที

เมื่อไปถึงก็เข้าไปกราบพระภิกษุรูปหนึ่ง ซึ่งคาดว่ามีหน้าที่ต้อนรับญาติโยม อยู่ภายในอาคารรับรอง ซึ่งข้าพเจ้าสังเกตุเห็นว่ามีคนอยู่ภายในประมาณ ๔ - ๕ คนจึงค่อย ๆ คลานเข้าไปนั่งอยู่ในมุมหนึ่งของห้อง

พอได้จังหวะเหมาะสม ข้าพเจ้าก็เข้าไปกราบพระหนุ่มรูปนั้น ซึ่งดูจากรูปร่างของท่าน น่าจะมีอายุประมาณ ๓๐ กว่า ๆ เมื่อกราบเสร็จก็แจ้งความจำนงตามที่ตั้งใจไว้
ตอนนั้นก็ได้สังเกตุว่าญาติโยม ที่อยู่ภายในห้องคงจะได้ยินที่ข้าพเจ้าถาม ต่างก็ค่อย ๆ ถอยห่างหลีกหนีหายออกไปจากห้อง จึงเหลือเพียงพระภิกษุรูปนั้นกับกับข้าพเจ้าเพียงสองคน
เหตุการณ์นี้หากย้อนเวลากลับไปยังสมัยพุทธกาล น่าจะมาคนมารุมฟังการสนทนาธรรมกันเยอะ แต่สมัยนี้พอพูดเรื่องธรรมะ ที่ต้องอาศัยปัญญาในการคิดวิเคราะห์ก็ไม่ค่อยใส่ใจนัก ส่วนใหญ่จะเน้นแต่เรื่อง ทาน ศีล เสียมากกว่า
พระภิกษุหนุ่มรูปนั้นก็ดูท่าทางอึ้ง กับคำถามของข้าพเจ้าเล็กน้อย พร้อม ๆ กับการรอคำตอบของข้าพเจ้า
“โยมไปอ่านมาจากหนังสือเล่มไหนมา หรือ ” ท่านตอบ
“ผมคิดเอง ขอรับ” ข้าพเจ้าตอบ
จากนั้นท่านก็มีท่าทีที่จะไม่ตอบคำถาม ซึ่งข้าพเจ้า ก็ไม่ได้คะยั้นคะยอให้ตอบ ซึ่งก็รู้สึกผิดหวังเล็กน้อย คิดเอาว่านี่อาจจะไม่ใช่สถานที่ ที่เราผูกพันตามคำอธิษฐานเสี่ยงทาย แม้จะชอบบรรยากาศร่มรื่นและเต็มไปด้วยต้นไม้ ตามรูปแบบของวัดป่าที่ถูกสร้างมาอย่างเหมาะสมและลงตัว

ข้าพเจ้าสนทนากับพระภิกษุต่อ อีกประมาณสิบห้านาที สอบถามเรื่องเกี่ยวกับวัด และชวนสนทนาเรื่องพุทธประวัติทั่วไป หลังจากนั้นก็ขอตัวเดินไปสำรวจดูบริเวณรอบ ๆ วัด เพราะเกรงว่าท่านอาจจะรำคาญ หรือท่านคงมีธุระที่สำคัญอย่างอื่นต้องทำอีก

ชีวิตที่ของเรานั้นต่างก็ประสบเรื่องราว ที่แตกต่างกันมากมาย ทั้งมีความผูกพันข้องเกี่ยวกับสถานที่บุคคลอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ การอธิษฐานครั้งนี้ก็ไม่ได้ทำเพื่อตัดโอกาสของตัวเอง แต่เพิ่มโอกาสให้สามารถได้พบได้เจอสถานที่อื่น ๆ อีกมาก ที่เรายังไม่ได้ไปพบและเหมาะสมกับเรามากที่สุด ข้าพเจ้าเดินทางกลับออกจากวัดและต่อรถกลับเข้ากรุงเทพ ด้วยอาการสงบเพราะเชื่อว่าได้ทำในสิ่งที่ต้องการทำแล้ว แม้จะไม่ได้คำตอบที่ต้องการ แต่อย่างน้อยคำตอบที่ดีที่สุดมันน่าจะอยู่ในตัวเราอยู่แล้ว ข้าพเจ้าเชื่ออีกว่า หากเรายังคงมุ่งมั่นที่จะค้นหาคำตอบอะไรก็ตาม เราก็จะต้องค้นพบคำตอบที่ถูกต้อง ในวันใดวันหนึ่งข้างหน้าอย่างแน่นอน...




Create Date : 25 เมษายน 2554
Last Update : 25 เมษายน 2554 8:04:10 น. 16 comments
Counter : 753 Pageviews.

 
เป็นประสบการณ์ทางธรรมที่น่าสนใจมกาเลยนะครับน้องอัส


พี่ก๋าเคยอฐิษฐานเช่นนี้เหมือนกันที่อินเดีย
แม้คำตอบจะเป็นเพียงสายลม
แต่ก็ทำให้รู้สึกดีมากจริงๆครับ





โดย: กะว่าก๋า วันที่: 25 เมษายน 2554 เวลา:8:27:13 น.  

 
ขออนุโมทนาสาธุครับ


โดย: shadee829 วันที่: 25 เมษายน 2554 เวลา:11:50:33 น.  

 
คำถามแบบนี้ ต้องหาคำตอบเองครับ ให้ใจที่รู้แจ้งจริง


โดย: ต้นกล้า อาราดิน วันที่: 25 เมษายน 2554 เวลา:19:31:45 น.  

 
เข้ามาฟังค่ะ
บางที การจะก้าวหน้าทางธรรม ใช่ว่าจะเป็นเพราะเราอยู่ใกล้พระอริยะ ทั้งนี้ทั้งนั้น เป็นที่ตัวเราเองมากกว่า ว่าจะมีความเพียร พยายามเพียงใด เพราะเราต้องทำด้วยตัวเอง ไม่ใช่ผู้อื่นทำให้ แต่การที่เราได้เรียนรู้ธรรมจากครูบาอาจารย์ก็เป็นเรื่องดี ที่อาจทำให้เราไปถูกทาง เร็วขึ้น


โดย: กิ่งไม้ไทย วันที่: 26 เมษายน 2554 เวลา:21:55:40 น.  

 
อรุณสวัสดิ์ครับ







โดย: กะว่าก๋า วันที่: 2 พฤษภาคม 2554 เวลา:5:40:18 น.  

 
หนังสือสงสัยมั้ยธรรมะมีวางขายที่ซีเอ็ดทุกสาขาแล้วล่ะครับ




โดย: กะว่าก๋า วันที่: 2 พฤษภาคม 2554 เวลา:16:01:47 น.  

 
อรุณสวัสดิ์ครับ









โดย: กะว่าก๋า วันที่: 3 พฤษภาคม 2554 เวลา:6:16:52 น.  

 
ขอบคุณนะค่ะ ที่นำประการณ์ทางธรรมมาเล่าให้ฟัง ขอให้ความมุ่งมั่นของคุณอัสติสะประสบผลในเร็ววันนะจ๊ะ


โดย: แม่มณี IP: 182.53.71.119 วันที่: 4 พฤษภาคม 2554 เวลา:10:23:16 น.  

 
อรุณสวัสดิ์ครับ








โดย: กะว่าก๋า วันที่: 5 พฤษภาคม 2554 เวลา:6:53:10 น.  

 
อรุณสวัสดิ์ครับ








โดย: กะว่าก๋า วันที่: 6 พฤษภาคม 2554 เวลา:5:51:06 น.  

 
อรุณสวัสดิ์ครับ









โดย: กะว่าก๋า วันที่: 7 พฤษภาคม 2554 เวลา:6:07:21 น.  

 
อรุณสวัสดิ์ครับ








โดย: กะว่าก๋า วันที่: 8 พฤษภาคม 2554 เวลา:5:41:53 น.  

 




สวัสดีวันอาทิตย์ค่ะคุณอัส
สบายดี มีความสุขมาก ๆ นะคะ


โดย: มินทิวา วันที่: 8 พฤษภาคม 2554 เวลา:10:20:00 น.  

 
อรุณสวัสดิ์ครับ









โดย: กะว่าก๋า วันที่: 9 พฤษภาคม 2554 เวลา:6:35:41 น.  

 
อรุณสวัสดิ์ครับ









โดย: กะว่าก๋า วันที่: 10 พฤษภาคม 2554 เวลา:6:04:21 น.  

 
บล็อกล่า่สุด
พี่ก๋าว่าหน้าตาบล็อกแปลกๆครับน้องอัส
เม้นท์ไม่ไ่ด้ด้วยครับ แหะๆๆๆ




โดย: กะว่าก๋า วันที่: 10 พฤษภาคม 2554 เวลา:8:35:47 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

อัสติสะ
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 10 คน [?]




ทุกข์ใดจะทุกข์เท่า การเกิด
ดับทุกข์สิ่งประเสริฐ แน่แท้
ทางสู่นิพพานเลิศ เที่ยงแท้ แน่นา
คือมรรคมีองค์แก้ ดับสิ้นทุกข์ทน






Google



New Comments
Friends' blogs
[Add อัสติสะ's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.