
ดินแดนที่ไม่ไกล…
บินไปได้ไม่ยากเย็น…
เคยรุ่งเรืองมองเห็น…
สมที่เป็นมรดกโลก…

คราวนี้ลองนั่ง Business Class ของ Phillippines Airline ไปแวะฟิลิปปินส์ทริปสั้นๆ ดูบ้าง ราคาไม่แพง และหลังทริปต้องกลับไทยไปหาหมอเป็นเพื่อนคุณแม่ต่อ เลยกะจะนอนให้สบายหน่อย ที่นั่งปรับนอนได้ 180 องศา อาหารพอใช้ แต่ระบบเช็คอิน อะไรยังเฉยๆ ข้อเสียคือที่สนามบินฟิลิปปินส์นี่ งง มาก / บรรยายภาพข้างบน: คุณแอร์มากางโต๊ะ ปูผ้าแล้วก็เสริฟเครื่องดื่มตามสั่ง และ ขนมกินเล่น (เดี๋ยวลงภาพอาหารตอนไฟลท์กลับอีกทีข้างล่างนะคะ) / ส่วนภาพแรกเปิด Blog เป็นมหาวิหารมรดกโลก San Agustin เดี๋ยวจะบรรยายข้างล่างเพิ่มเติมพร้อมภาพด้านในอีกที

ท่องเที่ยวลุยคนเดียว…
เลาะลดเลี้ยวผจญภัย…
จ้าง Taxi ช่วยให้…
เดินทางได้ ง่ายดายดี…

ทริปลุยเดี่ยวเที่ยวมะนิลา แบบอ่านรีวิวแล้วเค้าบอกว่าติดอันดับ top 5 ประเทศอันตรายที่ผู้หญิงไปเที่ยวคนเดียวต้องระวัง เลยค้นข้อมูลเตรียมตัวเยอะหน่อยบวกกับคุยกะเพื่อนฟิลิปปินส์แล้วได้ข้อมูลแนะนำโน่นนี่มาเพียบๆ
สรุปคือทริปราบรื่น ไม่น่ากลัวแบบตอนอ่านเจอในรีวิว ผู้คนเป็นมิตร ย่านเมืองเก่า Intramuros ที่คนบอกว่ามีชุมชนแออัดน่ากลัว ไปเล็งห่างๆ พร้อมคุณ Taxi พาเที่ยวก็ดูพอๆ กะสลัมเมืองไทย ส่วนนึงที่เที่ยวง่ายเพราะโชคดีได้คุณ Taxi มิเตอร์พาเที่ยวแบบกดมิเตอร์เป๊ะๆ เป็น Taxi Airport เรทแพงกว่า Taxi ปกติ แต่มีข้อดีคือเค้าลงทะเบียนกะสนามบิน ทำให้อุ่นใจ ลองคุยกะคุณตำรวจท่องเที่ยวก็แนะนำทั้งคู่ (ไม่ Grab ก็ Taxi สนามบิน)
ตอนแรกจะเรียก Grab ตามเพื่อนๆ แนะนำว่าถูกกว่าและปลอดภัย แต่บางจุดเวลา rush hour ลองเช็คดูพบว่าหา Grab ยาก และคุยไปคุยมากะ Taxi สนามบิน add what‘s app กัน ให้เค้ารับตรงนั้น รอตรงนี้ สะดวกเลย แล้วก็กด meter รวมๆ ถูกกว่า Taxi ในยุโรปกะญี่ปุ่นเยอะคือโอเช

เดินเที่ยวโซนเมืองเก่า…
เจอคนเค้า ยิ้มแย้มดี…
ต้อนรับ กันเต็มที่…
ไม่ได้มี เรื่องน่ากลัว…

ที่ฟิลิปปินส์มีศาสนสถานสไตล์ Baroque อยู่ 4 แห่งที่ได้มรดกโลกร่วมกัน แห่งหนึ่งอยู่ในย่าน Intramuros ของมะนิลา คือ San Agustin Church (ภาพแถวๆ นี้คือภาพด้านในของ San Agustin) ประวัติโดยรวมของ Churches เหล่านี้ คือสร้างขึ้นโดยสเปนในสมัยยุคล่าอาณานิคม มีลักษณะพิเศษคือเป็นโครงสร้างแบบผสมกับป้อมปราการเพราะมี 2 ฟังก์ชั่นคือทั้งเป็นศาสนสถาน และ ทั้งเป็นฐานที่มั่นในการรบเพราะเป็นพื้นที่ที่ถูกโจมตีบ่อยๆ โดยโครงสร้างหลักจะเป็นหินผสมผสานกับวัตถุดิบท้องถิ่นจึงมีเอกลักษณ์พิเศษที่แตกต่างจาก Baroque Churches ในยุโรป

งามงด ตระการตา…
สะท้อนว่า เคยรุ่งเรือง…
ยุคเก่า ที่ฟูเฟื่อง…
เป็นฟันเฟือง เคลื่อนชีวิต…

พอเดินทางสะดวกสบายก็ได้เที่ยวเยอะกว่าที่วางแผน และ เจอคนใจดีหลายจุด ทั้งมีแจกแผนที่ให้ฟรีเพราะเดิน งงๆ ในโซนเมืองเก่า ตอนแรกนึกว่าเค้าจะขายก็บอกไม่ซื้อ เค้าก็บอก Free Gift โอ้ว และให้มาจริงๆ ยิ้มแย้มแจ่มใส พวกรีวิวนี่บางทีก็ทำเราเกร็งเกินไป
เที่ยวที่นี่คือส่วนตัวเดินคนเดียวตรงโน้นตรงนี้ ก็ไม่เจอคนมาขอเงินเลย แถมเจอคนมาแจกของฟรีให้อีก งง สุดๆ ดีกว่าที่อ่านรีวิวเยอะเลย บางที่ต้องมาดูเองจริงๆ (ป.ล. ฟิลิปปินส์เที่ยวง่ายไม่ต้องมีวีซ่า คนไทยกรอกข้อมูลทำ QR Code ตอน immigration ผ่านง่าย มีวุ่นวายคือสนามบินคนเยอะ ระบบไม่ค่อยดี แต่ที่เที่ยวโอเค) เปิดแผนที่ฟรีที่ได้มาพบว่า Fort Santiago อยู่ไม่ไกลและค่าเข้าก็ไม่แพง เลยแวะมาดู (ภาพตามข้างบนและข้างล่าง)

ปราการ ยุคสงคราม…
สะท้อนความวุ่นวายเก่า…
เรียนรู้ และ ดูเอา…
เป็นเรื่องเศร้า ที่เข้าใจ…

ที่นี่เป็นป้อมปราการ เริ่มตั้งแต่เป็นยุทธภูมิสำคัญตั้งแต่ชาว Tagalog แล้วพอถูกสเปนยึด ก็ขึ้นโครงสร้างอลังการเริ่มโดยสเปน แล้วโดนยึดและสร้างต่อด้วยจีน แล้วสเปนมายึดกลับ แล้วก็โดนยึดและสร้างต่อด้วยอังกฤษ และโดนยึดและสร้างต่อด้วยอเมริกา และโดนยึดด้วยญี่ปุ่น (ตอนสงครามโลกครั้งที่ 2) ก่อนจะคืนให้ฟิลิปปินส์หลังสงคราม

ยุคนี้ เปิดให้ชม…
คนนิยม เรียนรู้ไว้…
ศึกษา เรื่องเก่าให้…
พร้อมเริ่มใหม่ ดีกว่าเดิม…

ภาพข้างบนคือพวกงานแสดงส่วนต่างๆ ใน Fort Santiago ส่วนนี้ชอบมากๆ คือโซนที่เอา Lego มาต่อเป็นสถาปัตยกรรมต่างๆ ของฟิลิปปินส์ เดินดูตรงนี้เพลินๆ อยู่นานเลย / ส่วนภาพข้างล่างคือ Manila Cathedral แต่ว่ามาที่นี่ตอนเช้า พบว่าเค้ากำลังทำพิธีทางศาสนากันอยู่พอดีเลยได้แต่แอบถ่ายรูปเงียบๆ ไม่กล้าเดินเยอะกลัวรบกวนพิธีเค้า

สงบเงียบ กลางงานศิลป์…
ส่งจิตจินต์ ให้ริเริ่ม…
ตรึกตรอง สิ่งดั้งเดิม…
เพื่อรู้เติม เพิ่มปัญญา…

จบทริปบินกลับไทยระยะทางสั้นๆ สองชั่วโมงกว่าๆ ทานอาหารได้หนึ่งมื้อ ขากลับนี้สั่งอาหารฝรั่ง เค้าค่อยๆ มาเสริฟทีละอย่าง แม้จะแป๊บเดียว อันนี้ชุดแรก พบว่าอาหารฝรั่งสายการบินนี้ก็อร่อยอยู่ (กุ้งสด ครีม/ชีส เข้มข้น) โดยรวมเมืองเค้าเหมือน กทม. ยุคก่อนตอนสมัยเด็กๆ ตอนเที่ยวก็ไปอ่านประวัติโน่นนี่ รวมๆ ได้ความว่ามะนิลาเคยเจริญกว่า กทม. มากๆ ยุคนึง (ยุคอเมริกาเข้ามาพัฒนา) แต่พอเจอสงครามโลกครั้งที่ 2 แล้วถูกญี่ปุ่นโจมตีหนัก ก็เลยเสียหายเยอะมากเพราะเป็นฐานของกองทัพอเมริกา เลยพัฒนาช้าลง สรุปคือสงครามทำให้เสียหายมากมายเลย

เรียนรู้ เรื่องต่างแดน…
เดินทางแทน อ่านหนังสือ…
ท่องเที่ยว เกินคู่มือ…
ที่รู้คือ โลกกว้างไกล…
