Florence
เมืองเก่าบุราณกาล เปี่ยมตำนานหลายเรื่องราว ยลเยี่ยมยามลมหนาว เพื่อจะก้าวไปตามฝัน
อิตาลีเป็นประเทศที่ฉันอยากไปเยี่ยมชมสักครั้งมานานแล้วเป็นเพราะเป็นประเทศที่มีมรดกโลกเยอะที่สุดในโลก แต่ก็ไม่ได้มีโอกาสมาซักที ครั้งนี้เป็นครั้งที่ตั้งใจและในที่สุดก็ได้มา...
ตามรอยอารยะ เพื่อรู้ละไม่นิรันดร์ ยิ่งใหญ่เท่าใดกัน ก็เพียงฝันในวันวาน
เมืองแรกที่จะขอพาเพื่อนๆ มาเที่ยวด้วยกันคือเมืองฟลอเรนซ์ หรือที่คนที่นี่เรียกประมาณว่าฟิเรนเซ่ เป็นอดีตเมืองหลวงสมัยที่อิตาลีเคยรุ่งเรือง ภาพด้านบนๆ เป็นภาพเมืองมองมาจากบนภูเขา ภาพด้านล่างๆ จะเป็นภาพที่พาเที่ยวชมเมืองเก่าซึ่งเป็นมรดกโลกที่อนุรักษ์มาได้เป็นอย่างดี
วิหารสร้างเลิศล้ำ ไร้เหล็กค้ำวิทยากาล ต่ออิฐเรียงประสาน สร้างตำนานบนแดนดิน
ภาพด้านบนเป็นดูโอโม่ของเมืองฟลอเรนซ์ Santa Maria del Fiore โดมที่นี่เคยเป็นโดมที่ใหญ่ที่สุดในโลก (ใหญ่จริงๆ) งานวิศวกรรมที่นี่อลังการมาก สร้างได้โดยไม่มีเหล็กค้ำ ศิลปะของโบสถ์เป็นแบบอย่างของยุคเรอเนซองส์ (แต่ปัจจุบันโดมนี้ใหญ่เป็นอันดับสี่ของโลก)
จิตรกรรมใดใดเอย ยากจะเอ่ยงามเกินจินต์ เสียงล่ำเสียงลือยิน สรวงบนดินก็เปรียบปาน เมืองนี้มีของมีค่าหลายอย่างเช่นประตูทองคำ (มีลูกกรงล้อมประตูไว้ด้วย) ทีมีภาพนูนต่ำสวยงามเรียกว่า Gates of Paradise หรือภาพข้างล่างคือรูปปั้นของเดวิด(จำลอง)ตั้งในสถานที่จริง จัตุรัสจริงที่รูปปั้นเดวิดเคยตั้งอยู่ (มุมกล้องถ่ายจากด้านในพิพิธภัณฑ์ออกไป)
ดินแดนแห่งงานศิลป์ นี่คือถิ่นที่เล่าขาน เรื่องราวแต่ก่อนกาล เปี่ยมตำนานให้ได้ชม
เข้ามาด้านในของ Galleria dell'Accademia บ้าง แต่สถานที่กำลังถูกบูรณะอยู่ บางจุดใช้ผ้า (ลายเดียวกับงานเขียนเดิมบ้าง หรือผ้าขาวๆ ล้วนๆ บ้าง) ปิดอยู่ด้านข้างกำแพง แต่ก็ดีใจที่เห็นเค้าบูรณะจะได้อยู่สวยๆ ไปให้คนได้ชมไปอีกนานๆ
ฝนเอยฝนพร่างพรู เมื่อยลดูคลาสสิกสม เงาน้ำสะท้อนชม ให้นิยมในความงาม
เที่ยวเมืองนี้ซักพักเจอฝนตก (อากาศก็หนาว) รถม้าเริ่มกางร่ม และรถม้าบางคันในเมืองก็เริ่มมีผ้าห่ม หรือผ้ามาห่อจมูกให้น้องม้า (คงจะดูแลน้องม้าไม่ให้ป่วยกระมัง - ท่าทางเหมือนดูแลดี)
ทุกสิ่งมีสองชั้น แบ่งกฏคั่นไร้คำถาม ผู้คนเคารพตาม เพราะนิยามได้ลงตัว
เมืองฟลอเรนซ์เคยมีตระกูลใหญ่คือตระกูลเมดิซี่คอยดูแล หลายๆ แห่งเลยสร้างเป็นสองชั้นเพื่อให้คนในตระกูลเมดิซี่เดินชั้นบนไม่ปะปนกับคนชั้นล่าง (แต่ว่าเค้าก็ดูแลดี คนในเมืองก็ดูชื่นชม และก็สุดท้ายก็บริจาคสมบัติทั้งหมดของตระกูลให้เมือง) ภาพด้านบนและด้านล่างเป็นสะพานปอนเต เวชชิโอด้านในและด้านนอกสะพานที่มีหลายชั้นดูแล้วสวยดี
รถเอยรถคันเล็ก เหมือนเป็นเด็กพอดีตัว จอดไหนได้ที่ชัวร์ เห็นไปทั่วจนชื่นชม
Create Date : 14 มกราคม 2556 |
Last Update : 14 มกราคม 2556 21:23:33 น. |
|
0 comments
|
Counter : 1802 Pageviews. |
|
|