|
| 1 | 2 | 3 |
4 | 5 | 6 | 7 | 8 | 9 | 10 |
11 | 12 | 13 | 14 | 15 | 16 | 17 |
18 | 19 | 20 | 21 | 22 | 23 | 24 |
25 | 26 | 27 | 28 | 29 | 30 | 31 |
|
|
|
|
|
|
|
พาเที่ยวพิพิธภัณฑ์กองทัพอากาศสิงคโปร์ (Republic of Singapore Air Force Museum)
ผมเคยมีโอกาสไปเที่ยวสิงคโปร์เมื่อสักปีกว่า ๆ ที่แล้ว ตามประสาคนบ้าสงคราม...เอ้ย บ้าเครื่องบินอย่างผม เมื่อข้ามน้ำข้ามทะเลมากว่า 2,000 กิโลแล้ว ย่อมไม่พลาดในการไปเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์กองทัพอากาศสิงคโปร์แน่นอน
มาวันนี้ ผมจึงขอเชิญทุกท่านไปเที่ยวพิพิธภัณฑ์กองทัพอากาศสิงคโปร์พร้อมเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยเกี่ยวกับทอ.สิงคโปร์ครับ
การไปไม่ได้ยากครับ เพราะที่ตั้งของพิพิธภัณฑ์อยู่ติดกับโรงเรียนนายเรืออากาศสิงคโปร์ ถ้าจำไม่ผิดก็คือรถเมลล์สาย 90 วิ่งผ่านข้างหน้าเลยครับ

ลองมองตู้โชว์ตรงทางเข้า ก็จะพบกับของที่ระลึกจากทอ.บ้านเรา ซึ่งมีความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นกันมานานมาก

ลองมาดูเครื่องบินกันบ้างครับ อันนี้ SA316B Alouete III เป้นเครื่องที่ใช้ในช่วงปี 70 - 80 ครับ ภารกิจคือลาดตระเวน และ ค้นหาและกู้ภัย

UH-1B ครับ ภารกิจคล้าย ๆ ของไทยคือ อเนกประสงค์ ทำได้ทุกอย่าง

T-33 ครับ เครื่องบินฝึกไอพ่น ไทยเราก็เคยมีประจำการเช่นกัน

Hawker Hunter F.74S ครับ เป็นเครื่องบินขับไล่แบบแรกที่ประจำการในกองทัพอากาศสิงคโปร์ในช่วงปี 70 มีทั้งรุ่นขับไล่ รุ่นลาดตระเวน และรุ่นฝึก 2 ที่นั่งครับ

Strikemaster Mk.84 ครับ ภารกิจคือฝึกนักบินขั้นปลายและโจมตีเบา ประจำการในช่วงปี 70 และปลดประจำการในปี 1986

A-4 Skyhawk ครับ เครื่องบินโจมตีแบบนี้กำลังจะถูกปลดประจำการทั้งหมด และแทนที่ด้วย F-15SG ที่กำลังจะสร้างครับ

สุดท้ายสำหรับเครื่องบินคือเครื่องฝึกขั้นต้นแบบ SF 260MS ครับ

ลองมาเดินชั้นสองดูครับ พิพิธภัณฑ์เค้าสะอาดสะอ้านน่าเดินมากตามกำลังทรัพย์ที่มี ข้างบนมีนิทรรศการสวย ๆ เกี่ยวกับกองทัพอากาศครับ
อย่างแผนป้ายนี้ เค้าเขียนว่า
"ภารกิจของ RSAF คือป้องกันน่านฟ้าของประเทศสิงคโปร์ ครองอากาศ และร่วมกับกำลังทางบกและทางทะเลเพื่อผลสัมฤทธิ์ของภารกิจของกองทัพสิงคโปร์ (SAF)"

อันนี้คือเครื่องหมายของกองทัพสิงคโปร์ตั้งแต่อดีตสมัยเมื่อครั้งอยู่กับกองทัพอากาศหลวงอังกฤษจนถึงปัจจุบันครับ

อันนี้เป็นตู้แสดงโมเดลของเครื่องบินทุกแบบที่เคยประจำการในทอ.สิงคโปร์ครับ โมเดลกับตัวนิทรรศการสวยมาก

ภาพนี้คือกลุ่มนักบินกลุ่มแรกของกองทัพอากาศสิงคโปร์ครับ ในป้ายเขียนว่า
"ด้วยตระหนักถึงการถอนตัวของกองทัพอังกฤษ สิงคโปร์จึงวางแผนที่จะสร้างกองทัพอากาศของตนขึ้น จึงได้ส่งนักบินไปฝึกที่ประเทศอังกฤษเพื่อบินกับเครื่อง Hunter Mk.9 ซึ่งแต่ละคนถูกเลือกมาจากการคัดกรองทางการแพทย์และทางจิตใจอย่างเข้มข้นก่อนที่จะถูกส่งไปที่โรงเรียนนายทหารอากาศ, โรงเรียนการบินขั้นต้น และโรงเรียนการบินขั้นปลาย ซึ่งแต่ละคนต้องทำชั่วโมงบินให้ได้ 240 ชั่วโมงจึงจะได้รับการติดปีก"

ภาพนี้คือเอกสารการเปิด Technical Training School ของกองทัพสิงคโปร์ครับ

เครื่องแบบในอดีต

ภาพห้องทำงานของทอ.ในยุค 70 ครับ กดปุ่มสีน้ำเงินก็จะได้ยินคำอธิบายว่าอะไรเป็นอะไร

เครื่องหมายของชั้นยศต่าง ๆ ของทอ.ครับ

ส่วนอันนี้เป็นปีกแสดงความสามารถต่าง ๆ
ดูแล้วเค้าตั้งใจทำพิพิธภัณธ์มากเลยครับ แต่คนไปเที่ยวค่อนข้างน้อย ผมได้คุยกับนายทหารที่นั่นเค้าบอกว่าเพราะไม่ได้โฆษณา เค้ายังงง ๆ นิด ๆ เลยว่าผมหาพิพิธภัณฑ์เค้าเจอได้ยังไง (หารู้ไม่....ว่าผมบ้าเครื่องบินขนาดไหน เรื่องแค่นี้สบายมาก เหอ ๆ )

ส่วนอันนี้เป็นชุดในปัจจุบันครับ

ห้องนี้จะจำลองการ Brief หรือการบรรยายสรุปก่อนปฏิบัติภารกิจที่นักบินทุกคนต้องทำก่อนบินครับ กดปุ่มที่กำแพงแล้วจะมี VDO อธิบายขั้นตอนของการ Brief และจำลองการ Biref เหมือนเราถูก Brief จริง ๆ
ภาษาที่ใช้ทั้งในป้ายต่าง ๆ และใน VDO เป็นภาษาอังกฤษที่ฟังและอ่านง่ายทั้งสิ้นครับ

อันนี้อธิบายส่วนประกอบของเครื่องบินรบครับ

นิทรรศการส่วนนี้มีที่มาที่ไปครับ เพราะมันคือรายละเอียดของการปฏิบัติภารกิจจริง ๆ ครั้งเดียวของกองทัพอากาศสิงคโปร์
อย่างที่รู้ ๆ กันก็คือทอ.สิงคโปร์ไม่เคยรบกับใคร ฉะนั้นภารกิจจริง ๆ ที่พวกเขาภูมิใจ (และมันก็น่าภูมิใจมากกว่าภารกิจฆ่าคนมากนัก) นั้นก็คือภารกิจค้นหาและกู้ภัยครับ
เรื่องมีอยู่ว่า....เกาะสิงคโปร์สร้างเคเบิลคาร์เชื่อมกับเกาะเซ็นโตซ่าครับ ความสูงเท่ากับตึกระฟ้าดี ๆ นี่เอง แต่วันหนึ่งเคเบิลมันเกิดขาดขึ้นมา ทำให้รถตกลงไปในทะเล มีผู้เสียชีวิตไป 7 คน ซึ่งทอ.สิงคโปร์ก็ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้รอดชีวิตครับ และรัฐบาลก็เอาเรือที่ติดเครนไปค้ำตรงกลางตามภาพ

นี่ครับคือเคเบิลคาร์ที่ว่า สูงมากครับ
ตอนแรกครอบครัวผมก็กะจะนั่ง แต่คุณแม่เปลี่ยนใจไม่เอา เพราะกลัวความสูง...น่าเสียดายเหมือนกัน เพราะไม่งั้นจะได้เล่าเรื่องเคเบิลขาดตอนกำลังลอยอยู่บนฟ้า คงได้ feeling ดีพิลึก (ขาดไม่ต้องกลัว มีฮ.มาช่วยแน่นอน หุหุ)

ชาร์ตนี้แสดงถึงหน่วยแยกหรือ detachment ในต่างประเทศของทอ.สิงคโปร์ครับ ซึ่งทั้งหมดใช้ในภารกิจการฝึกที่เครื่องฝึก simulator ไม่สามารถให้ได้ หรือให้ได้แต่จำเป็นต้องฝึกในพื้นที่การฝึกจริง ๆ
หน่วยแยกที่ประเทศต่าง ๆ มีดังนี้ครับ
บรูไน 1 หน่วย ออสเตรเลีย 3 หน่วย ไทย 2 หน่วย อินโดนิเซีย 1 หน่วย ฝรั่งเศส และ สหรัฐ 5 หน่วย

ชั้นสองจะมีระเบียงมองลงไปยังส่วนจัดแสดงการบินข้างล่างได้ครับ
ก่อนกลับ อย่าลืมแวะซื้อของที่ระลึกที่ร้านขายของทีระลึกนะครับ มีหลายอย่างน่าสนใจ ตัวผมได้ patch ของเครื่อง Hawkeyes มาอันถึง ราคา 10 เหรียญ หรือประมาณ 300 บาท แพงกว่าของไทยนิดนึง
ผมยังนั่ง ๆ คุยกับนายทหารที่เค้าดูแลพิพิธภัณธ์ เค้าถามผมว่าทำไมถึงไม่ไปเป็นนักบินรบล่ะในเมื่อชอบเครื่องบินอย่างนี้
ผม: ไม่ไหวหรอกครับ ประเทศผมจะสอบทียากมาก คนแย่งกันสอบจะตาย สอบไปก็ไม่ติด สุขภาพผมก็ไม่แข็งแรงขนาดจะเป็นนักบิน
เค้า: อืม เหรอ ความจริงถ้าคุณอยากบินจริง ๆ ล่ะก็ คุณมาเป็นนักบินทอ.สิงคโปร์ก็ได้นะ ... ว่าแล้วเค้าก็หยิบโปรชัวร์ให้ดู ... นี่ไง อนุญาติให้สายตาสั้นได้นิดหน่อย คุณน่าจะผ่าน เงินเดือนเริ่มต้นราว ๆ 3 พันเหรียญสิงคโปร์
ผม: อืม มากกว่านักบินบ้านผมอีกนะครับ เทียบกับค่าครองชีพ
เค้า: ใช่ ตอนผมไปฝึกที่โคราช (น่าจะเป็น Cope Tiger สักปี) เจอนักบินไทยบางคนบอกว่าว่าง ๆ เขาต้องขับแท๊กซี่ไปด้วย ไม่งั้นเงินไม่พอ
ผม: เหอ ๆ นั่นสิครับ ธรรมดาของข้าราชการบ้านผม ผมรู้ดี เพราะพ่อและแม่ก็เป็นข้าราชการ
เค้า: อืมนั่นสิ ... คุณลองกลับไปคิดดูก็ได้นะถ้าสนใจ เรารับคุณได้ แต่ถ้าคุณจะเอาจริง คุณก็ต้องเตรียมตัวโอนสัญชาติแล้วล่ะ
แล้วผมก็ขอโปรชัวร์เค้ามาปึกใหญ่ (เพราะสวยงามน่าสะสม) ซึ่งก็น่าเห็นใจเหมือนกันนะครับ เพราะประเทศเขาคนน้อยจริง ๆ ยิ่งคนเป็นทหารนี่ยิ่งน้อยใหญ่
ผมก็ไม่ได้บอกเค้า แต่ผมไม่เอาแน่นอนครับ เรื่องอะไรไปขับเครื่องบินรบให้ประเทศอื่น....

กลับจากพิพิธภัณฑ์ อย่าลืมมองดูป้ายนี้สักครู่ก็จะดีมิใช่น้อย
"พิพิธภัณฑ์กองทัพอากาศอุทิศให้กับเจ้าหน้าที่ของกองทัพอากาศแห่งสาธารณรัฐสิงคโปร์ในการอุทิศตนและเสียสละเพื่อปกป้องประเทศชาติ"

แถมท้ายให้ครับ
ประเทศสิงคโปร์มีขนาดเล็ก และมีเครื่องบินบินคุ้มกันและลาดตระเวนน่านฟ้าตลอดเวลา ทำให้เดินไปทางไหนก็เจอ (เห็นบินผ่านเรี่ยน้ำตรง Merlion ด้วย เสียดายถ่ายไม่ทัน) อีกทั้งโรงแรมที่ผมพักก็เป็น route ที่เครื่องบินเหล่านี้ผ่านด้วย...เสร็จผมสิครับ...เพราะว่าง ๆ ผมก็จะออกไปยืนหน้าโรงแรมคอยมองท้องฟ้า สัก 10 นาทีก็จะเป็น F-5 S/T บินผ่านมาก ฟิต ๆ หน่อยก็เป็นเครื่องลาดตระเวนซึ่งอาจจะเป็นเครื่อง MPA (Maritime Patrol Aircraft) ส่วนรูป C-130 ผมถ่ายได้ตอนไปเที่ยวพิพิธภัณฑ์ เพราะตรงนั้นเป็นที่อยู่ของฐานทัพอากาศ ปายาร์ เลบาร์ พอดี ส่วนฮ.ทั้งสองรูปซึ่งหนึ่งในนั้นอาจจะเป็น AH-64D ผมถ่ายได้ที่สวนนกตรงอีกฝากนึงของเกาะ (เพราะฐานบินของเฮลิคอปเตอร์อยู่ที่นั่น) ท่านใดบ้าเครื่องบินก็อย่าลืมแหงนหน้ามองฟ้าแล้วกันครับ

สำหรับวันนี้ จบเพียงเท่านี้ สวัสดีครับ
ผนวก สำหรับท่านที่สนใจเพิ่มเติม ลองอ่านบทความเกี่ยวกับกองทัพอากาศสิงคโปร์ได้ที่นี่ครับ
ข้อมูล ฐานบินนอกประเทศสิงคโปร์ทั่วโลก
แสนยานุภาพกองทัพอากาศสิงคโปร์+รายละเอียดการฝึกในไทย
Create Date : 13 มีนาคม 2550 |
Last Update : 14 ธันวาคม 2550 13:36:16 น. |
|
1 comments
|
Counter : 9698 Pageviews. |
 |
|
|
โดย: ~(@_๑)seekmen IP: 203.188.24.178 วันที่: 13 มีนาคม 2550 เวลา:16:32:33 น. |
|
|
|
|
|
|
@ จ่อยน้องลิง @
@ จ่อยหัวหอม @

|
|
|
|
| |
|
|
วันนี้ก็ยอดเยี่ยมเหมือนเดิม