|
วิธีขับไล่ความโกรธเกรี้ยว
แม้ว่าอารมณ์โกรธจะเกิดขึ้นกับใครก็ได้ แถมสาวซิตี้เกิร์ลอย่างเราๆยังต้องพบเจอกับมันบ่อยๆ จนเกือบจะกลายเป็นเพื่อนสนิทอีกต่างหาก ก็จะไม่ให้เจอได้ยังไงเล่าคะ ทั้งสภาวะรอบตัวก็แสน จะกดดัน ผู้คนก็ใจร้ายขึ้นทุกทีๆ หลายๆสาวเลยมีริ้วรอยแห่งความโกรธขึ้งปรากฏอยู่บนใบหน้า ไม่เคยจาง อย่างนี้หนุ่มๆ เห็นเข้าคงรีบกระโดดหนี ไม่กล้าเข้าใกล้แหงๆ เพราะกลัวแม่เสือสาว จะออกอาละวาดน่ะสิ ฉะนั้น ถ้าไม่อยากให้ลุคนางฟ้าแสนดีที่สั่งสมมานานนั้นต้องสูญเสียไป กลายเป็นสาวคราบนางมารร้ายละก็ มาหาวิธีการดับอารมณ์โกรธให้มอดไปจากใจกันดีกว่าค่ะ
ผลกระทบจากอารมณ์ร้ายในใจคุณ นอกจากที่ใบหน้าจะไม่รับแขก ไม่สนฝรั่งหรือเมินไทยที่ เด่นชัดบนใบหน้าในเวลาที่คุณโกรธไฟลุกแล้วนั้น อารมณ์โกรธที่สะสมอยู่ภายในจิตใจนานๆ ก็ยังจะก่อให้เกิดผลร้ายต่อสุขภาพร่างกายได้มากมาย เสมือนลูกไฟแห่งความโกรธที่ค่อยๆ สะสมขึ้นทุกทีๆ จนเผาไหม้ทั้งกายและใจคุณให้ร้อนรุ่มได้ ซึ่งผลกระทบที่มีต่อร่างกาย อาจก่อให้เกิดโรคภัยไข้เจ็บได้ดังต่อไปนี้ - โรคหัวใจ เนื่องจากอารมณ์โกรธจะกระตุ้นให้หัวใจคุณบีบตัวเร็วและแรงขึ้น - โรคซึมเศร้า ขาดชีวิตชีวา - โรคความดันโลหิตสูง ฮอร์โมนต่างๆในร่างกายเกิดการเปลี่ยนแปลง ทำให้ร่างกายไม่สามารถทำงานได้อย่างเป็นปกติ
นอกจากนี้ยังเคยมีผลการศึกษาวิจัยพบว่า หากสาวไหนที่เครียดสะสมตั้งแต่ในวัยทำงาน จะมีแนวโน้มที่จะป่วยเป็นโรคหัวใจในวัยกลางคนได้สูงกว่าคนปกติถึง 50 % อีกด้วยละ รู้อย่างนี้แล้วต้องรีบหาทางขจัดอารมณ์โกรธด่วนเลย
ดับไฟโกรธให้มอดสิ้นด้วย 4 วิธีทรงประสิทธิภาพ
วิธีการที่จะช่วยให้คุณสามารถขจัดอารมณ์โกรธได้ดีที่สุดก็คือ การไม่โกรธ อ๊ะๆ อย่าเพิ่งงง ไปค่ะว่า ทำไมทางแก้ถึงได้ขวานผ่าซากเสียขนาดนี้ แต่ที่บอกไปนั่นน่ะ เป็นวิธีที่ผู้เชี่ยวชาญ หรือแม้แต่พระพุทธเจ้าของเราเองก็อบรมสั่งสอน บอกกล่าวกันมาตั้งแต่สมัยพุทธกาลนู่นแล้ว นั่นก็คือการระงับความโกรธ ด้วยความไม่โกรธไงล่ะ แต่ถ้าสาวๆ สมัยใหม่ยังไม่สามารถบรรลุ สัจธรรมข้อนี้ได้ ก็ลองใช้วิธีการเหล่านี้ไปก่อน เพราะว่าใช้ได้ผลดีใกล้เคียงกันเชียวค่ะ
1. เข้าใจความต้องการของตัวเอง คุณควรแสดงออกซึ่งอารมณ์โกรธไม่พอใจในวิถีทางที่ถูกต้องเหมาะสม มากกว่าการระบาย อารมณ์ด้วยความก้าวร้าวรุนแรง โดยคุณอาจจัดการง่ายๆ ด้วยการเข้าอกเข้าใจความต้องการ ของตัวเองเสียก่อน ว่าสิ่งที่คุณต้องการคืออะไรกันแน่ จากนั้นจึงหาวิธีที่จะได้สิ่งที่ต้องการมา ด้วยสันติวิธี ที่ไม่ทำร้ายทั้งความรู้สึกของตัวเองแล้วก็ผู้อื่นด้วย
2. ระงับอารมณ์โกรธ หากอารมณ์คุณค่อยๆ ลุกลาม พลุ่งพล่านขึ้นเรื่อยๆ แล้วละก็ คุณก็ต้องรีบระงับอารมณ์นั้นๆ ไว้ให้เร็วที่สุด ด้วยการหยุดยั้งความคิดที่รบกวนจิตใจคุณทันที และพยายามมองไปในสิ่งที่จะ ช่วยให้อารมณ์ของคุณรู้สึกสดชื่นแจ่มใสมากขึ้นได้ในขณะนั้น เช่น หากคุณมีปัญหากับเพื่อน ร่วมงาน คุณอาจหันเหความสนใจไปคิดถึงเรื่องเดทกับหนุ่มฮอตเย็นนี้แทนก็ได้ เพื่อลบความขุ่นข้องหมองใจที่มีอยู่ให้หมดโดยเร็ว แล้วก็แทนที่ด้วยความสดใสซาบซ่าไงล่ะคะ
3. สงบผ่อนคลาย ในเมื่อต้องการจะดับไฟให้มอด ก็ต้องใช้วิธีการรดน้ำลงไป เพราะฉะนั้นวิธีการที่จะดับไฟ อารมณ์ที่รุ่มร้อนภายในจิตใจของคุณ ก็ต้องเป็นการดับอารมณ์ด้วยการเอาน้ำเย็นเข้าลูบ เอาความสงบนิ่งเข้าแทนที่ภายในใจ ซึ่งคุณอาจใช้วิธีการตั้งสมาธิ หรือใช้เทคนิคการผ่อนคลาย อารมณ์โกรธช่วยก็ได้ ไม่ว่าจะเป็นการฝึกโยคะ เพื่อผ่อนคลายกล้ามเนื้อที่ตึงปวดจากความรู้สึก โกรธ การตั้งสมาธิด้วยการกำหนดลมหายใจเข้าออก เพื่อช่วยให้อารมณ์สงบเย็นลง หรือการมองไปที่ทัศนียภาพภายนอกที่สวยงามเขียวขจีในสวนสาธารณะที่เต็มไปด้วยเหล่า แมกไม้ และสายน้ำที่สงบนิ่งก็ได้
4. ออกจากสภาวการณ์ที่ตึงเครียด หากคุณไม่สามารถระงับอารมณ์โกรธขึ้งในขณะนั้นลงได้จริงๆ แทนที่คุณจะฝืนทนกดดันอยู่ ภายใต้บรรยากาศและสภาวะที่ตึงเครียดเหล่านั้น จนต้องระเบิดอารมณ์ร้ายแรงออกมาในที่สุด คุณควรหลีกเลี่ยงออกมาจากสถานการณ์ตรงนั้นก่อน เพื่อที่จะช่วยให้อารมณ์ที่ขุ่นเคืองของคุณ ค่อยๆ บรรเทาลง ก่อนที่จะกลับเข้าไปแก้ไขปัญหาด้วยความสงบ และสันติอีกครั้ง
ที่มา pooyingnaka.com
Create Date : 18 กุมภาพันธ์ 2552 |
Last Update : 18 กุมภาพันธ์ 2552 20:51:32 น. |
|
0 comments
|
Counter : 764 Pageviews. |
|
|
|
|
|
|
|