Group Blog
 
<<
กุมภาพันธ์ 2552
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
 
18 กุมภาพันธ์ 2552
 
All Blogs
 
วิธีขับไล่ความโกรธเกรี้ยว



แม้ว่าอารมณ์โกรธจะเกิดขึ้นกับใครก็ได้ แถมสาวซิตี้เกิร์ลอย่างเราๆยังต้องพบเจอกับมันบ่อยๆ
จนเกือบจะกลายเป็นเพื่อนสนิทอีกต่างหาก ก็จะไม่ให้เจอได้ยังไงเล่าคะ ทั้งสภาวะรอบตัวก็แสน
จะกดดัน ผู้คนก็ใจร้ายขึ้นทุกทีๆ หลายๆสาวเลยมีริ้วรอยแห่งความโกรธขึ้งปรากฏอยู่บนใบหน้า
ไม่เคยจาง อย่างนี้หนุ่มๆ เห็นเข้าคงรีบกระโดดหนี ไม่กล้าเข้าใกล้แหงๆ เพราะกลัวแม่เสือสาว
จะออกอาละวาดน่ะสิ ฉะนั้น ถ้าไม่อยากให้ลุคนางฟ้าแสนดีที่สั่งสมมานานนั้นต้องสูญเสียไป
กลายเป็นสาวคราบนางมารร้ายละก็ มาหาวิธีการดับอารมณ์โกรธให้มอดไปจากใจกันดีกว่าค่ะ

ผลกระทบจากอารมณ์ร้ายในใจคุณ นอกจากที่ใบหน้าจะไม่รับแขก ไม่สนฝรั่งหรือเมินไทยที่
เด่นชัดบนใบหน้าในเวลาที่คุณโกรธไฟลุกแล้วนั้น อารมณ์โกรธที่สะสมอยู่ภายในจิตใจนานๆ
ก็ยังจะก่อให้เกิดผลร้ายต่อสุขภาพร่างกายได้มากมาย เสมือนลูกไฟแห่งความโกรธที่ค่อยๆ
สะสมขึ้นทุกทีๆ จนเผาไหม้ทั้งกายและใจคุณให้ร้อนรุ่มได้ ซึ่งผลกระทบที่มีต่อร่างกาย
อาจก่อให้เกิดโรคภัยไข้เจ็บได้ดังต่อไปนี้
- โรคหัวใจ เนื่องจากอารมณ์โกรธจะกระตุ้นให้หัวใจคุณบีบตัวเร็วและแรงขึ้น
- โรคซึมเศร้า ขาดชีวิตชีวา
- โรคความดันโลหิตสูง
ฮอร์โมนต่างๆในร่างกายเกิดการเปลี่ยนแปลง ทำให้ร่างกายไม่สามารถทำงานได้อย่างเป็นปกติ

นอกจากนี้ยังเคยมีผลการศึกษาวิจัยพบว่า หากสาวไหนที่เครียดสะสมตั้งแต่ในวัยทำงาน
จะมีแนวโน้มที่จะป่วยเป็นโรคหัวใจในวัยกลางคนได้สูงกว่าคนปกติถึง 50 % อีกด้วยละ
รู้อย่างนี้แล้วต้องรีบหาทางขจัดอารมณ์โกรธด่วนเลย


ดับไฟโกรธให้มอดสิ้นด้วย 4 วิธีทรงประสิทธิภาพ

วิธีการที่จะช่วยให้คุณสามารถขจัดอารมณ์โกรธได้ดีที่สุดก็คือ การไม่โกรธ อ๊ะๆ อย่าเพิ่งงง
ไปค่ะว่า ทำไมทางแก้ถึงได้ขวานผ่าซากเสียขนาดนี้ แต่ที่บอกไปนั่นน่ะ เป็นวิธีที่ผู้เชี่ยวชาญ
หรือแม้แต่พระพุทธเจ้าของเราเองก็อบรมสั่งสอน บอกกล่าวกันมาตั้งแต่สมัยพุทธกาลนู่นแล้ว
นั่นก็คือการระงับความโกรธ ด้วยความไม่โกรธไงล่ะ แต่ถ้าสาวๆ สมัยใหม่ยังไม่สามารถบรรลุ
สัจธรรมข้อนี้ได้ ก็ลองใช้วิธีการเหล่านี้ไปก่อน เพราะว่าใช้ได้ผลดีใกล้เคียงกันเชียวค่ะ

1. เข้าใจความต้องการของตัวเอง
คุณควรแสดงออกซึ่งอารมณ์โกรธไม่พอใจในวิถีทางที่ถูกต้องเหมาะสม มากกว่าการระบาย
อารมณ์ด้วยความก้าวร้าวรุนแรง โดยคุณอาจจัดการง่ายๆ ด้วยการเข้าอกเข้าใจความต้องการ
ของตัวเองเสียก่อน ว่าสิ่งที่คุณต้องการคืออะไรกันแน่ จากนั้นจึงหาวิธีที่จะได้สิ่งที่ต้องการมา
ด้วยสันติวิธี ที่ไม่ทำร้ายทั้งความรู้สึกของตัวเองแล้วก็ผู้อื่นด้วย

2. ระงับอารมณ์โกรธ
หากอารมณ์คุณค่อยๆ ลุกลาม พลุ่งพล่านขึ้นเรื่อยๆ แล้วละก็ คุณก็ต้องรีบระงับอารมณ์นั้นๆ
ไว้ให้เร็วที่สุด ด้วยการหยุดยั้งความคิดที่รบกวนจิตใจคุณทันที และพยายามมองไปในสิ่งที่จะ
ช่วยให้อารมณ์ของคุณรู้สึกสดชื่นแจ่มใสมากขึ้นได้ในขณะนั้น เช่น หากคุณมีปัญหากับเพื่อน
ร่วมงาน คุณอาจหันเหความสนใจไปคิดถึงเรื่องเดทกับหนุ่มฮอตเย็นนี้แทนก็ได้
เพื่อลบความขุ่นข้องหมองใจที่มีอยู่ให้หมดโดยเร็ว แล้วก็แทนที่ด้วยความสดใสซาบซ่าไงล่ะคะ

3. สงบผ่อนคลาย
ในเมื่อต้องการจะดับไฟให้มอด ก็ต้องใช้วิธีการรดน้ำลงไป เพราะฉะนั้นวิธีการที่จะดับไฟ
อารมณ์ที่รุ่มร้อนภายในจิตใจของคุณ ก็ต้องเป็นการดับอารมณ์ด้วยการเอาน้ำเย็นเข้าลูบ
เอาความสงบนิ่งเข้าแทนที่ภายในใจ ซึ่งคุณอาจใช้วิธีการตั้งสมาธิ หรือใช้เทคนิคการผ่อนคลาย
อารมณ์โกรธช่วยก็ได้ ไม่ว่าจะเป็นการฝึกโยคะ เพื่อผ่อนคลายกล้ามเนื้อที่ตึงปวดจากความรู้สึก
โกรธ การตั้งสมาธิด้วยการกำหนดลมหายใจเข้าออก เพื่อช่วยให้อารมณ์สงบเย็นลง
หรือการมองไปที่ทัศนียภาพภายนอกที่สวยงามเขียวขจีในสวนสาธารณะที่เต็มไปด้วยเหล่า
แมกไม้ และสายน้ำที่สงบนิ่งก็ได้

4. ออกจากสภาวการณ์ที่ตึงเครียด
หากคุณไม่สามารถระงับอารมณ์โกรธขึ้งในขณะนั้นลงได้จริงๆ แทนที่คุณจะฝืนทนกดดันอยู่
ภายใต้บรรยากาศและสภาวะที่ตึงเครียดเหล่านั้น จนต้องระเบิดอารมณ์ร้ายแรงออกมาในที่สุด
คุณควรหลีกเลี่ยงออกมาจากสถานการณ์ตรงนั้นก่อน เพื่อที่จะช่วยให้อารมณ์ที่ขุ่นเคืองของคุณ
ค่อยๆ บรรเทาลง ก่อนที่จะกลับเข้าไปแก้ไขปัญหาด้วยความสงบ และสันติอีกครั้ง

ที่มา pooyingnaka.com


Create Date : 18 กุมภาพันธ์ 2552
Last Update : 18 กุมภาพันธ์ 2552 20:51:32 น. 0 comments
Counter : 764 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ทุกคนไม่ได้รู้ทุกสิ่ง
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 200 คน [?]




Friends' blogs
[Add ทุกคนไม่ได้รู้ทุกสิ่ง's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.