อยู่ฟุกุโอกะ ออกสายมาก สิ่งแรกที่ทำคือ - หาที่กิน ที่เที่ยว 555 แล้วที่ทำมา คืออัลไร ล้มค่ะ ตื่นตี 5 อาบน้ำแต่งตัว ลงครีม แล้วมานั่งไถหา-เราลองเชื่อมบัตร suica กับ apple wallet เย้ ทำได้แล้ว แต่เติมเงินผ่าน Krungthai travel debit ไม่ได้ search google เขาบอกว่าเติมผ่านบัตร scb planet ได้ แต่ไม่ได้ลอง อ๊ะ เดินไปเติมที่ตู้ที่สถานีรถบัส(เดี๋ยวมาเล่าว่าคุณลุงที่สถานีรถบัสเก่งมาก 555 คุยกับเราภาษาญี่ปุ่น เราคุยกับเป็น Eng แต่คุยกันรู้เรื่องค่า)-ทำไมต้องลิงค์บัตรกับ ทรศ. เพราะใช้งานง่ายมาก เราเห็น นทท เขาใช้กันตอนขึ้นรถบัสไปเที่ยวจังหวัดอื่นๆ ที่ไปมา ก็เลยอยากลองบ้าง -พอลิงค์แล้ว โอเคมากๆ ขึ้นรถบัสไปวัด Dazaifu ก็เปิด wallet หน้า suica ก็ตัดเงินในบัตรเลย แต่ ทรศ.ของคุณลูกชายเป็น android นางทำไม่ได้ ก็เลยใช้บัตร Kita ไปเติมเงินเอาลงมากินอาหารเช้าน่าจะเกือบสุดท้ายแล้วค่ะ 555 สายมากที่แรกไปวัด Dazaifu กัน วัดนี้ hot hit อยู่แล้ว ไม่น่าจะต้องรีวิวแล้ว แต่ก็อยากเล่าเขียนไว้เป็นบันทึก ทำไมต้องไป-อยากพาคุณลูกไปลูบหัวรูปปั้นวัว/พระโค เพราะปีนี้เขาสอบเข้ามหาวิทยาลัย 55 ก็นะ ไหนๆ ก็มาอยู่ Fukuoka แล้วก็เอาซะหน่อย เดี๋ยวมาเล่านะคะ : ความตั้งใจเรามีแค่นี้จริงๆ ค่ะ 555เดินทาง-เช็คจาก google แล้วไปรถบัสง่ายสุด เดินไปขึ้นรถที่สถานีรถบัสที่อยู่ติดกับสถานีรถไฟได้เลย -ถาม จนท ให้ไป terminal ที่ 11 หรือ 12 นี่แหละ แต่เอาเป็นว่าแถวยาวที่สุด มี จนท ยืนกำกับอยู่ คนที่มายืนแถวนี้จะมีไป 2 จุดใหญ่ๆ คือ สนามบิน Fukuoka international airport และวัด Dazaifu ค่ะ-ยืนต่อแถวไป รถออกทุก 20 นาที เราไปไม่ทันรอบที่ตั้งใจไว้ เพราะคนเต็ม เขาก็ไม่อยากให้ยืนไปด้วย นอกจากรีบจริงๆ ต้องไปจริงๆ และระหว่างทางอาจจะมีคนขึ้นรถมาอีก มีคนยืนแน่ๆนั่งรถไปสักพักก็ถึงหน้าทางเข้าวัด เอาจริงๆ เราไม่ถ่ายรูปทางเดินมากนัก นอกจาก รูปนี้ 555 จุดเช็คอินสำคัญ แต่เราไม่ได้เดินเข้าไปข้างในนะคนยืนถ่ายรูปเยอะมาก คุณพี่ท่านนี้ก็นั่งแหมะ เป็นนายแบบจำเป็นให้ด้วย 555ระหว่างทางเข้ามีร้านค้ามากมาย ร้านขนมที่ต้องกิน เราก็ไม่ได้กินนะ 555 มันร้อนมากๆ ค่า อยากเดินไปเรื่อยๆ ไม่อยากหยุด เดินไปถึงหน้าวัด จะพบคุณวัวที่ต้องไปลูบหัว คนยืนต่อแถวยาวเลย แต่จริงๆ แล้วเราอ่านมา คุณวัวมีหลายจุดอยู่นะ เราก็ลองเข้าไปข้างในก็พบ 2 จุด ปิดซ่อมนะคะ ไหว้ได้ตามปกติ ตายละ เหมือนที่เกียวโตเลยค่ะ พอเจอแบบนี้ เราจะอยากกลับไปดูว่าหลังจากทำเสร็จแล้วเป็นยังไงบ้าง 555เดินไปเรื่อยๆ จะเป็นศาลเจ้านี้ค่ะก็เลยเดินไปเรื่อยๆ เจอตรงนี้ มุดเข้าไปค่ะเราเดินแค่นี้ แล้วก็ลงกันมาแล้วต้นซากุระยังมีนะ คนถ่ายรูปเต็มเลยเล่าไปหรือยัง ไม่แน่ใจ คือ ตอนแรกเช็คจากตารางการบานของซากุระ ช่วงเวลาที่เราไป Fukuoka และทางตอน North หมดไปแล้ว มีแต่ที่ Kagoshima ที่เป็นช่วง bloom เราก็คิด เออ จะเอายังไงดี มีเวลาหลายวัน หรือจะไป Kagoshima ด้วย แต่ก็เสียดายค่า Pass มาคิดๆ ดู เอาน่า ยังไงที่ Fukuoka ก็ยังต้องมีหลงเหลือบ้างแหละน่า อาจจะไม่ใช้แบบยาวทั้งแถบพร้อมๆ กัน แต่อย่างน้อยต้องมีบ้างแหละ ต้นสองต้น ต้องเจอ เหมือนตอนเราไปโอซาก้าช่วงปลายๆ ปี ก็ยังเคยเจอใบไม้เปลี่ยนสีมาแล้ว ทั้งเหลือง ทั้งแดง หรือเคยไปโตเกียว กับเมืองอื่นๆ ก็ยังเคยเจอซากุระที่บานก่อนก็เคยมี มีต้นเดียวก็ถือว่าได้เจอแล้วก็เลยตัดสินใจ เอานะ ไม่ไป Kagoshima อยู่ตามแพลนเดิมแหละ ซึ่งเราก็เจอจริงๆ นะ ทางเดินไป Prince Smart Inn Hakata รร. ที่เราพัก ก็เจอ 2 ต้น วันที่เราไป นางกำลังบานแบบ full blossom เลย พอวันเราจะกลับ นางก็เริ่มมีใบเขียวมาแซมๆ ที่ต้น ดอกก็ร่วงโรยไปมาก แต่ก็ยังหลงเหลืออยู่ แม้แต่ไปเมือง beppu เราก็ยังเจอที่บ่อ 1 เลย และน่าจะเจอที่อื่นๆ ด้วย ถ้าผู้อ่านคิดเหมือนเรา ก็แบบนี้ก็ได้นะ ประหยัดเวลาในการเดินทางไปเยอะเลย คือ พอใจกับการเจอ 1 ต้น 2 ต้นก็โอเคแล้ว 555 ซึ่งต้นที่เราเจอ ก็จะมีคนมาถ่ายรูปเยอะมากๆ เขาก็สวย น่ารัก แบบต้นเดี่ยวๆ หรือ 2 ต้นของเขานะกลับมาเข้าเรื่องเดินมาเจอน้องวัวอีกจุด ตรงนี้ คนถ่ายรูปเยอะมาก (คนทำการบ้านน้อยอย่างเรา ก็งงๆ 555 แต่ก็ถ่ายมาด้วย)กับจุดนี้ คนถ่ายรูปเยอะมาก และแน่นอนคนทำการบ้านน้อยอย่างไร คืออะไร (เดี๋ยวเราขอหาข้อมูลก่อนนะ ถ้ามีเพิ่มเติมจะมาเขียนเพิ่มให้)ถ้ามีเวลา เราว่าอยู่ประมาณ 3-4 ชม. น่าจะเดินได้รอบๆ นะ วัดนี้สวย และมีจุดให้เดินดูอะไรเยอะ ของกินก็เยอะ แดดแรง อากาศก็เลยร้อน แต่งตัวแบบบางๆ ได้นะ เพราะแดดแรงมากจ้า แต่เตรียมเสื้อโค้ทหรือเสื้อหนาๆ ใส่เป๋า หรือผูกเอวไว้ เพราะถ้าหลุดจากวัดนี้แล้ว ก็จะเย็นๆ ค่ะมาเขียนต่อแล้วค่ะก็เดินกลับมาที่จุดขึ้นรถบัส คนต่อแถวยาวมาก โชคดีที่เราได้รถรอบนี้ คือ เช็คเส้นทางแล้ว ถ้าจะไปวัด nanzoin หรือสถานที่เราอยากจะไป ยังไงก็ต้องกลับมาสถานี Hakata เอานะ ตามนั้น ก็เลยนั่งรถกลับมามาถึงสถานีรถบัส หาที่เติมเงินเข้าบัตร เราก็ไปถามคุณลุงๆ ให้มาอีกจุด เป็นแบบเครื่องเล็กๆ สำหรับเติมเงินโดยเฉพาะความพีค คือ คุณลุงพูดภาษา ญป เราพูด Eng แต่รู้เรื่องกันค่า 555 น่ารักเนอะ แล้วเติมเงินสำเร็จมั๊ย สำเร็จค่า ไม่มีปัญหาใดๆ เลยเจ้าเครื่องเล็กนี้ๆ สามารถเติมเข้าบัตรจริงๆ ก็ได้ และเติมเข้า wallet ในมือถือไอโฟนก็ได้ด้วยค่ะ Amazing มากๆ ตรงจุดนี้คุณลุงจะประจำอยู่ตรงนี้ เพื่อให้คำแนะนำในการซื้อตั๋วรถ และเติมเงินค่า น่ารักมาก ตู้เติมรถในรถบัสอยู่ติดกับ information (ชั้นไหนจำไม่ได้ค่า 555 ลองดูแผนผังในสถานีรถบัสนะคะ)ต่อไปพาลูกกินข้าวกลางวัน เมื่อเช้าที่ตื่นตี 5 เราเจอรีวิวคุณมะม่วง และอีกคนหนึ่งเขาพูดถึงร้านไข่ปลา และอีก 2 ร้านนี้ค่าhttps://www.youtube.com/watch?v=EhqSZb0_jS4เราไป 2 ร้าน คือ กลางวัน กินข้าวไข่ปลา เย็นกินราเมง ส่วนอีกร้านอยู่ใกล้ๆ กับสถานี Hakata อีกฝั่ง คนก็เยอะเหมือนกัน แต่เรากับลูกกินไม่ไหวแล้ว ตั้งใจไว้แค่ 2 ร้านเท่านั้นพิกัดร้านอยู่ในลิงค์ Youtube แล้วนะคะ สามารถกดเข้าไปได้เลยค่า (ในคลิปมี 3 ร้าน คือ Ganso Hakata Mentaiju ไข่ปลา, Isso ราเมง และ Rakutenshi 2 ร้านหลัง เดินถึงกันได้ห่างๆ แต่เดินไหวนะ) ร้าน Ganso Hakata Mentaiju เราว่าร้านนี้ถ้าเดินจากสถานี Tenjin จะไกลมาก ลองหาทางที่ออกจากอีกสถานีที่ใกล้ๆ กับร้านราเมงข้อสอบ จะเดินสวนสาธารณะ เราว่าน่าจะเดินใกล้กว่าค่ะ เจอแล้วค่ะ- จาก Haktata staion มาลงสถานี Nakasukawabata เดินออกประตูหมายเลข 2 แต่อย่าเพิ่งไปร้านราเมงข้อสอบนี้นะคะ เพราะมีราเมงอีกร้าน Isso ที่น่าไปลองมากกว่านะถ้ามาจากสถานี Nakasukawabata ก็เดินทะลุๆ สวนสาธารณะ (ฝั่งตรงข้ามร้านราเมงข้อสอบ) ไปก่อนค่า เดินออกจากสวนสาธารณะแล้ว ให้เลี้ยวซ้าย จะเห็นร้านเลยค่ะ คนต่อคิวเยอะๆ ก็ใช่เลย ขนาดเราไปตอนบ่ายกว่าๆ แล้ว วันธรรมดาด้วย คนยังเยอะอยู่เลย เรายืนอยู่แป้บนุง แดดร้อนนะคะ ลงกันแดดเยอะๆ เลยค่ะเซ็ทนี้ของคุณลูกชาย: จัดเต็มไม่เกรงใจ 555 กินหมดนะอันนี้ของเราเอาแบบเห็นชัดๆ เนอะวิวตอนนั่งกินชั้น 2 วิวดีมากมายวิวดีมาก ต้นซากุระ 1 ต้นกำลังบานเลย ใช่ม๊ย นางคือซากุระใช่มั๊ย 555ค่าเสียหาย 5 พันกว่าเยน ถือว่าเป็นมื้ออาหารที่แพงที่สุด แต่ก็โอเคนะ (เราจะตั้งงบแต่ละมื้อไม่เกิน 5 พันเยน ซึ่งก่อนหน้านี้ ใช้ไม่เคยถึงเลยค่ะ เงินเหลือมากๆ)รสชาติอาหาร เราว่าดี ข้าวดี สาหร่ายดี ไข่ปลาดี ไม่คาว กินกับข้าวแล้วเข้ากัน ซุปมีไข่ปลาด้วย อร่อยด้วยตอนนี้ร้านมาเปิดที่ Hakata station ฝั่ง west นะคะ ตามนี้ เป็นกล่องแบบนี้ค่ะ แต่ไปร้านฟินกว่านะคะ 555 เอา Iphone ส่องจากกล้องถ่ายรูป แล้วกด translate ได้เลยค่ะที่สถานีหน้าตาแบบนี้นะคะ พอดีเราเดินผ่านเจอ ไม่กล้าซื้อกลับมาไทย เพราะกลัวเขาเสีย ต้องโหลดใต้ท้องเครื่องก็เลยไม่เสี่ยงใกล้ๆ กันมีร้าน toffee กับร้าน coffee county แต่วันที่เราไป คือ "ปิด" แง้ว 55 อดเลย อยู่ในสวนสาธารณะที่เดินได้จากร้านไข่ปลาเลย ออกจากร้านไข่ปลา เลี้ยวขวา เจอร้าน coffee county ก่อน ส่วนร้าน toffee เดินขึ้นไปด้านบน นิดเดียวค่ะเราเจอจากรีวิวนี้ค่าhttps://dsignsomething.com/2019/11/06/fukuoka-architecture-from-meiji-to-reiwa-จุดร่วมคือคุณค่าข/https://www.surferholiday.com/airasia-fukuoka-2022ร้านอยู่ภายในสวนสาธารณะเลยค่ะจุดสังเกต อาคารนี้เลยค่ะถ้าสองร้านนี้เปิด เราคงไม่ได้มาวัด Nanzoin นะ เพราะวัดปิด 16.30 น. มาเล่าต่อแล้วค่ะ เดินไปสถานี Nakasukawabata ไปสถานี Kido-nanzoin mae น่าจะไปที่ hakata ก่อน แล้วเดินไปอีก platform ซึ่งแน่นอน เดินไม่ทันรถรอบที่ตั้งใจไว้ 555 ก็ตุ้มๆ ต่อมๆ จะไปทัน 16.30 น.มั๊ยก็ไปทันนะคะ เดินออกจากสถานีเล็กๆ เล็กมาก เลี้ยวซ้ายไปตามถนน ข้ามสะพานเล็ก เลี้ยวขวาก็ถึงวัดค่ะ เดินไปตามเส้นทาง แต่จริงๆ แล้ว เราไม่แน่ใจว่าถ้าไม่อยากแวะจุดอื่นๆ จะสามารถเดินไปพระนอนได้เลยหรือเปล่า ถ้าจะเดินไปพระนอนเลย ไม่แวะที่จุดอื่นๆ ให้ลองเดินเอียงขวาไปเรื่อยๆ ค่ะ 555 จะเจอแผนที่ เอียงขวาไปเรื่อยๆ หากมีเวลาสัก 2 ชั่วโมง น่าจะเก็บทุกจุดได้ครบ ค่อยๆ เดินไปทีละจุดได้เลยค่ะ มีอะไรให้ดูเยอะแยะเลยเราอะรีบสุดๆ กลัววัดปิดมาก 55 รีบเดิน ไม่ค่อยได้ถ่ายรูปมากนัก ได้มาเท่านี้แดดแรงมาก แต่มีที่ให้นั่งหลบแดด กิน soft cream ได้ จากนั้นก็เดินลง พบจุดทำบุญ ไหว้พระต่างๆ แต่เงียบๆ แล้ว เราก็ไม่ได้แวะ เพราะใกล้เวลาวัดปิด หน้าทางเข้ามีร้านขายของ ได้มา 2 สิ่ง คือ กังหันลม มาติดที่บ้าน แล้วก็แมวกวัก ระหว่างนั่งเขียน นางก็กวัก (เบาๆ) อยู่ เป็นแรงกวักจากพลังแสงอาทิตย์นะ ไม่ต้องใส่ถ่าน ให้คุณลูกเลือกว่าชอบแบบไหน เขามีหลายแบบค่ะเราเคยได้มาอันนึง จากวัด Sensoji ที่โตเกียว ได้อันใหม่ไปเปลี่ยนแล้ว เพราะอันเดิม พังไปแล้วกลับไป hakata station เปิด google ไปร้านราเมง Isso ชามละ 1,000 เยน เกี๊ยวซ่า 430 เยนกดสั่งผ่านตู้ข้างในร้าน เมนูไม่มี eng นะ แต่มีรูปเมนู เราก็จิ้มเลือกเลย จะมี พนง. มาช่วยกดที่ตู้ให้ แน่นอน เขาพูดภาษา ญป ค่า 555 แต่ก็ได้กินนะ สื่อสารด้วยรูป พอกดจ่ายเงินแล้ว จะมีตั๋วเล็กๆ มา ต้องให้ พนง. ไปทำอาหารตามเมนูที่กดสั่งไป รอไม่นานก็มาแล้ว น่ากินมากเราสั่งเหมือนคุณลูก มีเครื่องปรุงต่างๆ แต่เราไม่ได้ใส่อะไรเลย รสชาติ น้ำซุปดี เส้นเล็กเหนียวนุ่มดี เนื้อหมูดี โดยรวมอร่อยเกี๊ยวซ่า มีให้เลือก 5 ชิ้นกับ 10 ชิ้น ลูกเราเลือก 10 เราแอบจิ๊กกินได้เพียง 1 ชิ้น นอกนั้น คุณลูกกินหมดคนเดียวเลย แสดงว่าอร่อยจริงเราไปตอนโล่งๆ แต่ก็มีคน ญป ใส่สูทมาเรื่อยๆ อ่านจากรีวิวร้านนี้คนเยอะเหมือนกัน ต้องต่อคิวรอกันเลยบรรยากาศในร้าน ญป มากๆ กินเสร็จก็ปักหมุดจะไปซื้อของ แต่ก็ไม่ได้อะไร ซื้อขนมที่ family mart กับ lawson เข้าที่พัก เก็บของ ซักผ้า เตรียมตื่นเช้าไปสนามบินรีวิวการไปสนามบิน และอะไรต่างๆ ในสนามบิน เขียนเล่าไปแล้วนะคะ https://www.bloggang.com/mainblog.php?id=tonkao20&month=13-04-2023&group=1&gblog=177สรุปให้อีกทีว่าไปสนามบินด้วย taxi ไม่ไกล พันกว่าเยน ไม่เกิน 1500 เยน ไปถึงแล้ว หาเคาน์เตอร์ ไปยืนต่อคิวรอได้เลย เช็คอิน โหลดกระเป๋าเสร็จแล้ว รอเข้า ตม. จะเปิด 7 โมง พอเข้าไปด้านใน ร้านค้าจะเปิด 7.30 น. สนามบินเล็กๆ นะคะ พอซื้อของ duty free ทันอยู่ แต่ต้องกะเวลาดีๆ เพราะคนต่อแถวเยอะมากๆจบทริปแล้ว ชะโงกๆ ทัวร์ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามอ่านนะคะ