ทัลคัม หรือ TALC เป็นสารอนินทรีย์ จึงไม่สามารถ ย่อยสลายได้ด้วยจุลินทรีย์ในธรรมชาติ ถ้าใช้โดยไม่ระมัดระวัง เมื่อสูดเข้าไปทีละน้อย ๆ เป็นเวลานาน จะเกิดการสะสมอยู่ในปอด โดยที่เซลล์บุผิวปอดจะดักจับแป้งไว้เป็นก้อน ทำให้การหายใจมีปัญหา มีอาการไอ ระบบทางเดินหายใจติดขัดรุนแรง ถ้าเป็นเด็กทารกก็อาจทำให้ปอดอักเสบ เกิดเป็นโรคเนื้องอกในปอด และเสียชีวิตได้

 ทั้งนี้ นอกจากเด็กที่นิยมใช้แป้งทาตัวแล้ว คุณผู้หญิงทั้งหลายก็ต้องระวังการใช้แป้งฝุ่นที่บริเวณจุดซ่อนเร้นด้วยเช่นกัน เพราะมีงานวิจัยพบว่า ผู้หญิงที่ใช้แป้งลดความอับชื้นที่อวัยวะเพศ มีความเสี่ยงที่จะเป็นมะเร็งรังไข่เพิ่มขึ้นถึง 3 เท่า นั่นเพราะอาจเป็นไปได้ที่แป้งจะหลงเข้าไปในร่างกายผ่านช่องคลอด มดลูก และท่อนำไข่ จนเข้าไปสู่ช่องท้อง

เมื่อเป็นเช่นนี้ แพทย์จึงเตือนผู้หญิงไม่ให้ใช้แป้งตรงจุดซ่อนเร้น อย่างไรก็ตาม ผลกระทบต่อสุขภาพเหล่านี้ จะเกิดขึ้นเมื่อใช้แป้งที่มีส่วนผสมของสารทัลคัม ซึ่งเราเองก็ไม่อาจทราบได้ว่าแป้งโรยตัวที่ใช้อยู่มีส่วนผสมของสารทัลคัมหรือไม่ ดังนั้น หากเลี่ยงการใช้แป้งกับระบบสืบพันธุ์ได้ก็น่าจะดีที่สุด

หลายคนคงรู้สึกกังวลขึ้นมาว่า เราควรจะใช้แป้งอะไรดีเพื่อความปลอดภัย เรื่องนี้ทางนักวิทยาศาสตร์หลาย ๆ ประเทศ ก็ได้หาคำตอบให้แล้ว จากการผลิตแป้งที่ทำจากวัตถุดิบธรรมชาติ เช่น แป้งข้าวโพด ซึ่งเป็นสารอินทรีย์ที่สามารถย่อยสลายได้ตามธรรมชาติ รวมทั้งแป้งข้าวเจ้าบริสุทธิ์ (Rice Starch) ที่นักวิทยาศาสตร์ของไทยได้ค้นคว้าวิจัยและผลิตขึ้นมาได้สำเร็จ ภายใต้ชื่อแบรนด์ "ไรซ์แคร์" จึงมั่นใจได้ว่า แป้งชนิดนี้จะปลอดภัย ไม่เกิดการสะสมที่ปอด ไม่ก่อให้เกิดอาการแพ้ ไม่สะสมใต้ร่มผ้า จึงลดความเสี่ยงที่จะก่อให้เกิดมะเร็งรังไข่ นอกจากนี้ยังปกป้องลูกน้อยจากผื่นคันได้ด้วย เพราะแป้งข้าวเจ้าบริสุทธิ์มีคุณสมบัติป้องกันความเปียกชื้นและการดูดซับไขมันสูงกว่าทัลคัม

หวังให้ทุกท่านมีสุขภาพแข็งแรง

เนื่องจากมีเวลาน้อย

ต้องขอโทษเพื่อนๆหากทักทายช้านะคะ