ทำสวนคร้ว เกือบไม่รอด ฝูงแจ้คเก็ดสีเหลือง รุมต่อย ....

 

ทำสวนคร้ว เกือบไม่รอด
ฝูง Yellow Jacket รุมต่อย ....
 

ต้นดอก Red Campion
ปลูกไว้ไม่นาน ตอนนี้ลุกลามเต็มไปหมด แต่ก็สวยดี เลยปล่อยให้มีดอก
พอดอกเริ่มหมดก็ถอนทิ้ง

วันนี้ไปถอนผิดที่ ต้นอยู่ตรงดินร่วนๆ พอถอน
ฝูงแจ้คเก็ดบินตามว่อน
วิ่งหนีแทบไม่ทัน
แถมโดนต่อย สามแห่งด้วย ...
โชคดีไม่แพ้ผึ้ง เพิ่งรู้ว่าต่อยได้หลายครั้ง
ไม่เหมือนผึ้งต่อยครั้งเดียวก็เลิก



ต้น Red Campion








ดอกหมดแล้ว ต้นเริ่มแห้ง




ถอนต้นนี้ออก พอต้นหลุดมา ฝูงผี้งก็บินมาเต็มต้วไปหมด




ปกติก็กลัวเวลาออกไปทำสวน ใส่เสื้อเต็มที่ร้อน แต่ก็ทน เพราะกลัวแมลงต่างๆ
เสื้อตัวนี้ซื้อตอนไปเวียตนาม เป็นสองชั้น ใส่ดีมีทั้งคลุมทั้งหัว 




ที่นิ้วมือโดนผึ้งต่อย แต่คงผ่านๆ ปวดเหมือนกันแต่วันรุ่งขี้นดีขี้นมาก


รอยแผลที่ถูกแจ้คเก็ดสีเหลืองต่อยที่ต้นเข่า เกาะติดไม่บินออกไปเลย ตกใจ
ก็ไม่ได้ปัดด้วย มัวแต่วิ่งหนี มาดูแผลกลายเป็นโดนต่อยหลายครั้ง





แจ้คเก็ดตามเต็มไปหมด ไม่รู้จะทำอย่างไร เลยถอดเสื้อทิ้ง
ก็บินตามมาต่อยที่ต้นแขนอีกข้าง เฮ้อ


กำลังคิดว่าจะทำไงดี เพื่อนบอกให้เอาควันมารม จะได้หนีไป
หรือไม่เดินไปตรงนั้น หน้าหนาวจะหายไปเอง หรือจ้างคนมาไล่ไป
เขาก็คงลมควัน แต่จากที่รู้มาบอกว่ารังอยู่ในโพรงใต้ดินยาวเป็นฟุต
ที่ร้านขาย Home Depo มีผงมาโรยที่รัง แต่ก็ยังไม่กล้าทำ
คิดว่าจะไม่เดินไปแถวนั้น รอให้หนาวคงไปเอง เราจะรอดไหมเนีย
เอาเป็นว่าถ้าระวังแล้วโดนต่อยอีกคงต้องหาทางกำจัดทำไงได้





วิ่งเข้าบ้านเอาเทปเหนียว แบบ scot tape มาทาบกับที่โดนต่อย จะได้เอาเหล็กในออก แต่ไม่ได้ดูหรอก ไม่กล้าดูด้วย แต่มาอ่านข้อมูลต่างๆ แนะนำว่าให้ใช้มีดด้านไม่คม
กดตรงรอยดำๆแล้วปาดย้อนทาง หนามจะได้ออก หรือใช้ Card แบบบัตรเครดิต
มากดแถวที่ถูกต่อยแล้วปาดตรงข้ามจะได้เอาเหล็กในออกได้

ล้างแผลก่อนแล้วก็ทาครีม    กินยา Benadyl หนี่งเม็ดทันที่ 25 mg  
เริ่มปวด เริ่มบวม แต่ก็พอทนได้ วันรุ่งขี้นดีขี้นหน่อย แต่ยังมีขอบแดงๆระบมรอบๆกว้างๆด้วย


******



 Yellowjacket นี้  คือชื่อสามัญของตัวต่อเสื้อคลุมเหลือง  มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า
Vespula  หรือ  Dolichovespula  พบได้ทางอเมริกาเหนือ  ลำตัวโดดเด่นด้วยสีเหลืองสลับดำ
มีความยาวประมาณ 1.2 เซนติเมตร  ตัวเมียมีเหล็กใน  





เหล็กในของ Yellow Jacket

ขอบคุณข้อมูลจาก

https://pantip.com/topic/36302863

****

Yellowjackets อาจจะสับสนกับตัวต่ออื่น ๆ เช่นฮอร์เน็ตและแตนกระดาษเช่นPolistes dominula คนงานเสื้อเหลืองโดยทั่วไปจะมีความยาวประมาณ 12 มม. (0.47 นิ้ว) โดยมีแถบคาดที่หน้าท้อง พระราชินีมีขนาดใหญ่กว่า ยาวประมาณ 19 มม. (0.75 นิ้ว) (ลวดลายต่างๆ บนหน้าท้องช่วยแยกสายพันธุ์ต่างๆ)

แจ็กเก็ตเหลืองบางครั้งเรียกผิดพลาดว่า " ผึ้ง " (เช่นเดียวกับใน "ผึ้งเนื้อ") เนื่องจากพวกมันมีขนาดและสีที่ใกล้เคียงกันกับผึ้งแต่ที่จริงแจ็กเก็ตเหลืองคือตัวต่อ ในทางตรงกันข้ามกับผึ้ง แจ็กเก็ตสีเหลืองมีจุดสีเหลืองหรือสีขาว ไม่มีขนหนาแน่นสีน้ำตาลแทนบนร่างกาย และไม่มีขาหลังที่แบนและมีขนเป็นขนของผึ้ง (แม้ว่าจะสามารถผสมเกสรได้ก็ตาม) ). [2]

Yellowjackets มีเหล็กในคล้ายหอกที่มีหนามเล็ก ๆ และโดยทั่วไปแล้วจะต่อยซ้ำ ๆ[1]แม้ว่าบางครั้งเหล็กในจะติดอยู่และดึงออกจากร่างของตัวต่อ พิษเช่นเดียวกับพิษของผึ้งและตัวต่อส่วนใหญ่เป็นอันตรายต่อมนุษย์ที่แพ้หรือถูกต่อยหลายครั้งเท่านั้น ทุกชนิดมีสีเหลืองหรือสีขาวบนใบหน้า ปากของพวกมันได้รับการพัฒนามาอย่างดีด้วยขากรรไกรที่แข็งแรงสำหรับจับและเคี้ยวแมลง โดยมีงวงสำหรับดูดน้ำหวาน ผลไม้ และน้ำผลไม้อื่นๆ เสื้อเหลืองสร้างรังบนต้นไม้ พุ่มไม้ หรือในที่คุ้มครอง เช่น ภายในโครงสร้างที่มนุษย์สร้างขึ้น หรือในโพรงดิน ตอไม้ โพรงหนู ฯลฯ พวกมันสร้างจากใยไม้ที่พวกมันเคี้ยวเป็นเยื่อกระดาษ แมลงอื่น ๆ อีกหลายชนิดแสดงการล้อเลียนของเสื้อเหลืองที่ดุร้ายและกัดกิน นอกเหนือไปจากหลายผึ้งและตัวต่อ ( ล้อเลียนMüllerian ) รายการรวมถึงบางส่วนแมลงวัน , แมลงเม่าและแมลง ( ล้อเลียน Batesian )

รังของ Yellowjacket มักอยู่ได้เพียงฤดูกาลเดียวและตายในฤดูหนาว รังเริ่มต้นโดยราชินีเดี่ยวที่เรียกว่า "ผู้ก่อตั้ง" โดยปกติรังจะมีขนาดเท่าลูกบาสเก็ตบอลเมื่อสิ้นสุดฤดูกาล ในส่วนของออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ หมู่เกาะแปซิฟิก และพื้นที่ชายฝั่งตะวันตกเฉียงใต้ของสหรัฐอเมริกา ฤดูหนาวนั้นอบอุ่นค่อนข้างเบาพอที่จะทำให้รังอยู่เหนือฤดูหนาวได้ รังที่อยู่รอดได้หลายฤดูกาลจะมีขนาดใหญ่และมักจะมีราชินีวางไข่หลายตัว

ขอบคุณข้อมูลจาก
https://wikipang.com/wiki/Yellow_Jackets




*****

ผึ้งต่อย (Bee Sting) คือ อาการที่ผู้ป่วยถูกผึ้งซึ่งเป็นแมลงที่มีเหล็กในต่อย หรืออาจฝังเหล็กในลงบนผิวหนังด้วย จนทำให้เกิดความรู้สึกคล้ายถูกเข็มแทง รู้สึกปวด ร้อน หรือคันบริเวณที่เกิดเป็นตุ่มบวมขึ้นมา ซึ่งมีจุดสีแดงอยู่ตรงกลางและมีผิวหนังสีขาวอยู่โดยรอบ



โดยทั่วไป ความเจ็บปวดและตุ่มบวมจากการโดนผึ้งต่อยจะค่อย ๆ ดีขึ้น และค่อย ๆ หายไปภายในเวลาไม่กี่ชั่วโมง โดยไม่ต้องไปพบแพทย์ แต่ผู้ป่วยบางรายอาจมีอาการรุนแรงกว่านั้น เนื่องจากแพ้พิษของเหล็กใน หรืออาจถูกผึ้งต่อยหลายจุด ทำให้มีอาการยาวนานเป็นสัปดาห์ หรือมีปฏิกิริยาของอาการแพ้ต่าง ๆ ที่รุนแรงและลุกลามออกไปเป็นบริเวณกว้าง

แม้มีโอกาสเกิดขึ้นได้น้อยมาก แต่ผู้ป่วยบางรายอาจเผชิญกับอาการแพ้ที่รุนแรงจนเสี่ยงต่อการเสียชีวิต (Anaphylaxis) ดังนั้น เมื่อถูกผึ้งต่อย ผู้ป่วยควรปฐมพยาบาลเบื้องต้นด้วยวิธีที่เหมาะสม พร้อมทั้งสังเกตอาการที่เป็นสัญญาณสำคัญของอาการแพ้ เพื่อหาทางรักษาและไปพบแพทย์ได้ทันท่วงที

อาการของผึ้งต่อย

หลังโดนผึ้งต่อย อาการที่พบได้ทั่วไป คือ

รู้สึกคล้ายถูกเข็มแทง รู้สึกปวด ร้อน หรือคันบริเวณที่โดนต่อย
เกิดเป็นตุ่มบวมขึ้นมา ซึ่งมีจุดสีแดงอยู่ตรงกลางและมีผิวหนังสีขาวอยู่โดยรอบ
ความเจ็บปวดและตุ่มบวมจากการโดนผึ้งต่อยจะค่อย ๆ ดีขึ้นและหายไปในเวลาไม่กี่ชั่วโมง
แต่ในบางรายอาจมีอาการรุนแรงขึ้น ผู้ป่วยควรปรึกษาแพทย์หากอาการรุนแรงขึ้น หรือมีอาการเรื้อรังยาวนานและอาการไม่หายไป เช่น

ตุ่มบวมแดงอย่างเห็นได้ชัด
บริเวณที่โดนผึ้งต่อยขยายบวมโตขึ้นในวันถัดมา
อาการต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นใช้เวลานานกว่าจะหายดี อาจยาวนานเป็นสัปดาห์หรือเกินกว่านั้น
ส่วนอาการแพ้ที่เป็นปฏิกิริยารุนแรงหลังถูกผึ้งต่อย ซึ่งผู้ป่วยควรขอความช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน หรือไปพบแพทย์ทันที ได้แก่

มีอาการแพ้ปรากฏบนผิวหนัง อย่างผดผื่นคันสีแดงหรือสีซีดขาว
อ่อนเพลีย หมดแรง
แน่นหน้าอก หายใจลำบาก หายใจไม่ออก หรือหายใจมีเสียงหวีด
เสียงแหบ พูดจาติดขัด
ลิ้นบวม คอบวม
หัวใจเต้นแรง ชีพจรเต้นเร็ว
คลื่นไส้ อาเจียน หรือท้องร่วง
วิงเวียนศีรษะ หน้ามืด เป็นลม
กระวนกระวาย ไม่รู้สึกตัว หมดสติ
นอกจากนี้ ในกรณีที่ผู้ป่วยถูกผึ้งต่อยมากกว่า 1 จุด อาจเกิดการสะสมพิษจนทำให้มีอาการป่วยที่รุนแรงขึ้นได้ โดยเฉพาะในผู้ป่วยที่เป็นเด็ก ผู้สูงอายุ ผู้ที่ป่วยด้วยโรคหัวใจ หรือมีปัญหาการหายใจ โดยอาการป่วยที่อาจเกิดขึ้นได้ คือ

คลื่นไส้ อาเจียน หรือท้องร่วง
ปวดศีรษะ
รู้สึกเวียนศีรษะเหมือนบ้านหมุน
มีอาการชัก
มีไข้
วิงเวียนศีรษะ หน้ามืด เป็นลม
ดังนั้น ผู้ที่ถูกผึ้งต่อยหลาย ๆ จุดในร่างกาย หากพบอาการป่วยที่รุนแรงดังกล่าวมาข้างต้น ควรรีบไปพบแพทย์เพื่อตรวจรักษาให้ทันการณ์เช่นกัน

สาเหตุของอาการผึ้งต่อย

ผึ้งมักใช้เหล็กในต่อยเพื่อป้องกันตัวจากการรบกวนของมนุษย์ และหลังจากปล่อยเหล็กในแล้ว ผึ้งบางชนิดก็จะตายไปในที่สุด โดยในการต่อยแต่ละครั้ง ผึ้งอาจปล่อยเหล็กในฝังอยู่ในผิวหนังของมนุษย์ พิษของเหล็กใน คือ โปรตีนที่ส่งผลกระทบต่อระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย ซึ่งทำให้เกิดอาการต่าง ๆ ในบริเวณที่ถูกผึ้งต่อย ส่วนผู้ป่วยโรคภูมิแพ้ที่แพ้เหล็กในของผึ้ง พิษจากเหล็กในจะยิ่งส่งผลให้เกิดอาการที่รุนแรงยิ่งขึ้นไปอีก

ผู้ที่มีความเสี่ยงถูกผึ้งต่อย

ผู้ที่อยู่อาศัยในบริเวณที่มีผึ้งทำรังอยู่ หรือไปอยู่ใกล้ ๆ รังผึ้ง
ผู้ที่อยู่นอกบ้าน หรือทำงานนอกสถานที่ ไม่ได้อยู่ในที่พักอาศัยที่ปิดมิดชิด
ผู้ที่มีความเสี่ยงเกิดอาการรุนแรงจากการถูกผึ้งต่อย

ผู้ป่วยโรคภูมิแพ้ที่แพ้เหล็กในของผึ้ง
ผู้ที่ถูกผึ้งต่อยหลาย ๆ จุดในร่างกาย
การวินิจฉัยอาการผึ้งต่อย

เมื่อผู้ป่วยไปพบแพทย์หลังถูกผึ้งต่อย นอกจากการตรวจร่างกายเพื่อดูปฏิกิริยาที่เกิดขึ้นตามบริเวณที่ถูกผึ้งต่อยแล้ว หากแพทย์มีข้อสงสัยว่าผู้ป่วยอาจมีอาการแพ้พิษจากเหล็กใน แพทย์อาจตรวจวินิจฉัยด้วยวิธีการดังต่อไปนี้

ทดสอบผิวหนัง แพทย์อาจใช้ชุดทดสอบภูมิแพ้ ด้วยการฉีดสารก่อภูมิแพ้ที่เป็นสารพิษจากผึ้งไปบนผิวหนังบริเวณแขนหรือแผ่นหลังด้านบนเพียงเล็กน้อย แล้วรอดูปฏิกิริยาที่เกิดขึ้นบนผิวหนังบริเวณนั้น วิธีการนี้จะไม่ก่อให้เกิดอาการแพ้ที่รุนแรง แต่ผู้ที่แพ้ต่อสารจริง จะปรากฏเป็นตุ่มนูนขึ้นมา
ตรวจเลือด แพทย์อาจนำตัวอย่างเลือดไปตรวจในห้องปฏิบัติการ เพื่อตรวจหาระดับภูมิคุ้มกันในเลือดที่เพิ่มขึ้นในการต้านพิษจากเหล็กในผึ้ง
การรักษาอาการผึ้งต่อย

สำหรับผู้ที่มีอาการเพียงเล็กน้อยหลังถูกผึ้งต่อย อาจปฐมพยาบาลอาการในเบื้องต้น และบรรเทาความเจ็บปวดได้ ดังนี้

หากเหล็กในอยู่ในตำแหน่งที่มองเห็นได้ชัด ผู้ป่วยควรพยายามบีบผิวโดยรอบเพื่อดันเหล็กในออกมาให้เร็วที่สุด
ล้างทำความสะอาดผิวบริเวณที่ถูกผึ้งต่อยด้วยสบู่และน้ำสะอาด
ใช้น้ำแข็งหรือผ้าเย็นวางประคบในบริเวณนั้น
หากถูกผึ้งต่อยบริเวณแขนหรือขา ให้ยกแขนหรือขาขึ้น หรือวางแขนขาไว้บนระดับที่สูงกว่าปกติ
หากสวมใส่เครื่องประดับอยู่ ให้ถอดเครื่องประดับออก เพราะอาจเกิดอาการบวมจนยากต่อการถอดเครื่องประดับในภายหลัง
ไม่เกาบริเวณที่ถูกผึ้งต่อย เพราะจะยิ่งทำให้อาการแย่ลง และเพิ่มความเสี่ยงในการติดเชื้อ
บรรเทาอาการปวดด้วยการรับประทานยาแก้ปวดที่หาซื้อได้ตามร้านขายยา เช่น พาราเซตามอล ไอบูโพรเฟน แอสไพริน (ห้ามใช้แอสไพรินในผู้ป่วยที่มีอายุต่ำกว่า 19 ปีเด็ดขาด)
รักษาอาการที่เกิดบนผิวหนัง เพื่อลดอาการบวมแดงและอาการคัน ด้วยการทายาไฮโดรคอร์ติโซน (Hydrocortisone) คาลาไมน์ (Calamine) ผสมเบกกิ้งโซดากับน้ำเปล่า หรือรับประทานยาต้านฮิสตามีน (Antihistamine) เช่น ไดเฟนไฮดรามีน (Diphenhydramine) หรือ คลอร์เฟนิรามีน (Chlorpheniramine)
ส่วนผู้ป่วยที่มีอาการรุนแรง ควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจรักษาทันที โดยแพทย์อาจใช้วิธีการรักษาอาการ ดังนี้

ให้ยาหรือฉีดยาต้านฮิสตามีน (Antihistamine) และคอร์ติโซน (Cortisone) เพื่อลดอาการแพ้ที่เกิดขึ้น และอาการอักเสบภายในทางเดินหายใจ ลดภาวะหลอดลมตีบ หรือมีเสมหะในทางเดินหายใจจากฮีสตามีน
ฉีดเอพิเนฟรีน โดยเฉพาะในรายที่มีปฏิกิริยาแพ้อย่างรุนแรง (Anaphylaxis) เพื่อรักษาและลดการเกิดอาการแพ้ที่เป็นอันตราย
พ่นยาขยายหลอดลม (Beta agonist) เช่น อัลบูเทอรอล เพื่อบรรเทาอาการหลอดลมตีบจากปัญหาการหายใจ
ให้ออกซิเจน แพทย์อาจต้องให้ออกซิเจนเพื่อช่วยในการหายใจแก่ผู้ป่วยที่มีปัญหาการหายใจอย่างรุนแรงจากอาการแพ้
ทำซีพีอาร์ หรือปฏิบัติการช่วยชีวิต (Cardiopulmonary Resuscitation: CPR) ในผู้ป่วยที่หยุดหายใจ
แพทย์อาจฉีดสารภูมิคุ้มกันบำบัดให้ ซึ่งผู้ป่วยต้องมาฉีดเรื่อย ๆ ทุก 2-3 ปี เพื่อรักษาและลดปฏิกิริยาตอบสนองต่อพิษจากเหล็กในผึ้ง
การป้องกันการถูกผึ้งต่อย

เก็บอาหารและเครื่องดื่มไว้ในภาชนะที่มิดชิด
ระมัดระวังในขณะดื่มน้ำหวานหรือเครื่องดื่มที่มีรสหวาน ตรวจเช็คหลอด ภายในกระป๋อง หรือภาชนะทีไม่ชัดเจนต่อการมองเห็นก่อนบริโภคเสมอ
ทำความสะอาดพื้นที่อยู่อาศัยโดยรอบ กำจัดขยะมูลฝอยและสิ่งที่อาจล่อผึ้งหรือแมลงต่าง ๆ เข้ามาได้
สวมใส่เสื้อผ้าเครื่องแต่งกายที่มิดชิดขณะออกจากบ้าน หลีกเลี่ยงการใส่เสื้อผ้าหลวม ๆ ซึ่งจะมีพื้นที่ว่างให้แมลงเข้าไปภายในได้
ไม่สวมใส่เสื้อผ้าลายดอกไม้หรือที่มีสีสันสดใส เพราะอาจดึงดูดผึ้งได้
ไม่ใช้น้ำหอมหรือครีมทาผิวที่มีกลิ่นหอมหวานดึงดูดผึ้งได้
ไม่เปิดกระจกในขณะขับรถ
ระมัดระวังในขณะทำกิจกรรมนอกบ้านอย่างการตัดหญ้าหรือทำสวน เพราะอาจไปรบกวนรังที่อยู่ของผึ้งและแมลงมีพิษโดยไม่ตั้งใจ
ให้ผู้ที่เชี่ยวชาญและมีประสบการณ์ช่วยกำจัดรังผึ้งและแมลงอันตรายอื่น ๆ ที่อยู่ใกล้บริเวณที่พักอาศัย
หากมีผึ้งบินอยู่ใกล้ ๆ ตัว ให้อยู่ในความสงบและเดินออกมาอย่างช้า ๆ หลีกเลี่ยงการใช้มือปัดหรือตี เพราะจะทำให้ถูกผึ้งต่อยได้
หากถูกผึ้งต่อยและยังมีผึ้งตัวอื่น ๆ บินอยู่ในบริเวณนั้น ให้ปิดปากและจมูกไว้ แล้วรีบออกจากบริเวณนั้น หรือเข้าไปอยู่ในพื้นที่ที่มิดชิด เนื่องจากเมื่อผึ้งต่อย จะเป็นการปล่อยสารเคมีดึงดูดผึ้งตัวอื่น ๆ เข้ามาเพิ่มด้วย ทำให้เสี่ยงต่อการเกิดอาการแพ้รุนแรงจากการถูกผึ้งต่อยในหลาย ๆ จุด


ขอขอบคุณ ข้อมูลจาก

https://www.pobpad.com/%E0%B8%9C%E0%B8%B6%E0%B9%89%E0%B8%87%E0%B8%95%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%A2

 
Education Blog/Health Blog
 
newyorknurse



Create Date : 04 กันยายน 2564
Last Update : 8 กันยายน 2564 5:15:09 น. 8 comments
Counter : 1398 Pageviews.

ผู้โหวตบล็อกนี้...
คุณเริงฤดีนะ, คุณหอมกร, คุณปรศุราม, คุณtoor36, คุณทนายอ้วน, คุณสายหมอกและก้อนเมฆ, คุณzungzaa, คุณอุ้มสี, คุณunitan, คุณlovereason, คุณhaiku, คุณSweet_pills


 
เจิมๆๆ
น่ากลัวจังค่ะเจ้า Yellow Jacket เนี่ยะ!!


โดย: เริงฤดีนะ วันที่: 8 กันยายน 2564 เวลา:6:31:35 น.  

 
ผึ้งฝรั่งตัวใหญ่จังค่ะพี่น้อย



โดย: หอมกร วันที่: 8 กันยายน 2564 เวลา:7:57:36 น.  

 
มันโหดตรงที่ต่อยได้หลายครั้งด้วย โดนครั้งเดียวก็จะแย่แล้ว พวกแมลงจำพวกนี้ไล่แบบเดียวกันครับ รมควัน แต่เคยเห็นที่ไทยบางคนเผารังเลยก็มี


โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 8 กันยายน 2564 เวลา:11:42:03 น.  

 
ตอนไปเที่ยวน่าน หลานสาวเกือบโดนผึ้งต่อยครับ ดีที่ผมเค้าเยอะ หนามาก แล้วตอนที่ผึ้งจะต่อยเอามือปัดไปปัดมา เหล็กในผึ้งหลุดติดผมอยู่เลยครับ รีบหารอยที่ต่อย แต่ไม่มี เลยคิดเอาว่าคงเจอผมของหลานสาวก่อนเลยไม่ถึงเนื้อครับ ใจหายมากๆ


โดย: ทนายอ้วน วันที่: 8 กันยายน 2564 เวลา:11:43:25 น.  

 
น่ากลัวจังค่ะ ขอให้หายเร็วๆนะคะ


โดย: zungzaa วันที่: 8 กันยายน 2564 เวลา:14:56:39 น.  

 
น่ากลัวค่ะพี่น้อย
อร๊ายยยยยย
หายไวไวค่ะพี่น้อย


โดย: อุ้มสี วันที่: 8 กันยายน 2564 เวลา:15:29:13 น.  

 
ผึ้งต่อยต้องเจอพญายอนะคะ รับรองหายค่ะ


โดย: unitan วันที่: 8 กันยายน 2564 เวลา:18:09:45 น.  

 
อันตรายที่แฝงมา
ขอให้พี่น้อยหายเร็วๆนะคะ



โดย: Sweet_pills วันที่: 9 กันยายน 2564 เวลา:0:48:28 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

newyorknurse
Location :
ราชบุรี .. New York ... United States

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 164 คน [?]






เริ่มเขียนBlog
เมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน 2553

ยินดีต้อนรับค่ะ

จขบ.บันทึกประสบการณ์ต่างๆ
ระยะเวลาทำงานและระยะเกษียณ
เพื่อเก็บไว้เป็นความทรงจำ

จขบ.พยายามใช้ชีวิตเกษียณให้มีคุณค่า
รักษาสุขภาพใจและกาย ท่องเที่ยวกับเพื่อนๆ
ทำสวนดอกไม้ ออกกำลังกาย
สมัครเป็นสมาชิก 24 Hrs Fitness
เพื่อให้ชีวิตที่เหลืออยู่มีคุณภาพ
จะได้ไม่เป็นภาระกับคนที่รักและห่วงใย

จขบ.เพิ่มบล็อกสุขภาพ
เพื่อจะได้นำสาระที่มีประโยชน์
เกี่ยวกับสุขภาพทั่วๆไป

จขบ.หวังว่าข้อมูลต่างๆช่วยให้
ทุกท่านที่มาอ่าน รักษาสุขภาพ
ไปตรวจเพื่อเป็นการป้องกัน
และได้รับการรักษาเนิ่นๆ เพื่อ
ชีวิตที่แข็งแรงและมีคุณภาพ

"A time to enjoy,
a time to spend time with your family
and a time to be with your friends
all comes with retirement"


*****


"Live The Moment"

อยู่กับปัจจุบันขณะ หยุดเสียใจกับสิ่งที่เกิดขี้น
ในอดีตและกลัวหรือกังวล
สิ่งทีเกิดขี้นในอนาคต "วันนี้" และ "ขณะนี้"
คือช่วงเวลาที่ดีที่สุดของคุณ !!
ใช้มันให้ดีที่สุดให้เป็นช่วงเวลาทีมีคุณค่า
น่าจดจำเพราะว่าเวลาเป็นสิ่งที่ผ่านมา
และผ่านเลยไป เอาคืนไม่ได้และ
หาเพิ่มก็ไม่ได้เช่นกัน

ขอบคุณทุกท่านที่แวะมาค่ะ


*********


ขอบคุณ Bloggang ทำให้เราได้เขียนบล็อกต่างๆ
ขอบคุณสำหรับคะแนนโหวด
ทุกๆคะแนน นะคะ

BG Popular Award # 19


BG Popular Award # 18


BG Popular Award # 17


BG Popular Award # 16


BG Popular Award # 15


BG Popular Award # 14


BG Popular Award # 13


BG Popular Award # 12


BG Popular Award # 11


BG Popular Award # 10


BG Popular Award # 9


BG Popular Award # 8

**********



ขอบคุณทุกหัวใจวาเลนไทน์ 2561
ที่เพื่อนๆมอบให้ค่ะ


ขอบคุณทุกหัวใจวาเลนไทน์ 2560
ที่เพื่อนๆมอบให้ค่ะ
Flag Counter
New Comments
Group Blog
 
<<
กันยายน 2564
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
2627282930 
 
4 กันยายน 2564
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add newyorknurse's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.