Bloggang.com : newyorknurse : คอเลสเตอรอล สรุปจากงานวิจัยของ Uffe Ravnskov,M.D,Ph.D

คอเลสเตอรอล สรุปจากงานวิจัยของ Uffe Ravnskov,M.D,Ph.D

เรื่อง คอเลสเตอรอล
สรุปจากงานวิจัยของ Uffe Ravnskov,M.D,Ph.D
ผู้แต่งหนังสือ
The Cholesterol Myths:Exposing the Fallacy that Saturated Fat and Cholesterol Cause Heart Diseases.
(มาจาก กูเกิล)

1.คอเลสเตอร์รอล(cholesterol)ไม่ใช่สารพิษที่ทำให้คนตาย
หากแต่ร่างกายต้องการนำไปสร้างต่อเช่น ฮอร์โมน วิตามินดี
ผนังเซล ..การที่มีค่าcholesterolสูงในเลือดไม่ได้ทำให้เป็น
โรคหัวใจ

2.คนที่มีระดับคอเลสเตอรอลต่ำหรือสูงในเลือด มีความเสี่ยงในการเกิดโรคหัวใจพอๆกัน

3.คอเลสเตอรอลในเลือดมาจาก2แหล่งคือ คอเลสเตอรอล
ที่ได้โดยตรงจากอาหารที่รับประทาน และคอเลสเตอรอลที่ตับสร้างขึ้น(จากอาหาร) ปริมาณคอเลสเตอรอลที่ตับสร้างจะแปรผกผันกับปริมาณคอเลสเตอรอลที่รับประทานเข้าไป กล่าวคือ..ถ้ารับประทาน
อาหารที่มีคอเลสเตอรอลมาก ตับจะสร้างน้อย นี่คือเหตุผลที่ทำให้
การรับประทานอาหารที่มีคอเลสเตอร์รอลต่ำจำนวนมากแต่กลับ
ไม่ได้ช่วยลดปริมาณคอเลสเตอร์รอลในเลือดได้เกิน 2-3%

4.ยาต่างๆที่ใช้ลดคอเลสเตอร์รอลในเลือด..ไม่ได้ลดความเสี่ยง
จากการตายด้วยโรคหัวใจ แต่กลับสร้างปัญหาให้สุขภาพ
และอาจลดช่วงการมีชีวิต(life span)

5.ยาที่ใช้ลดคอเลสเตอร์รอล พวก statins ลดความเสี่ยงจากโรคหัวใจโดยผ่านกลไกอื่นที่มิใช่ลดคอเลสเตอร์รอล อีกทั้งยังพบว่ายา พวกstatins, lipitor mevacor, zocor ,pravachol สามารถ
กระตุ้นให้เกิดมะเร็งในหนู

6.HDLกับ LDL ไม่ใช่ cholesterol ..
LDLย่อจาก Low Density Lipoprotein...
ส่วน HDL คือ High Density Lipoprotein
ทั้ง LDL และ HDL..เป็นโปรตีนที่เกาะกับไขมัน
ในเลือด (lipo แปลว่า ไขมัน )

ทั้งLDL และHDLทำหน้าที่ขนส่งcholesterolเข้าออกในกระแส
เลือด ทำการขนส่งคอเลสเตอรอลชนิดเดียวกัน..
คอเลสเตอรอลตามธรรมชาติ ไม่มีชนิดดี ชนิดเลว ...
HDLทำหน้าที่พา cholesterolที่มากไป..ออกจาก
เลือดไปเก็บไว้ที่ตับ

7.คอเลสเตอร์รอลที่มาจากอาหารพวกสัตว์ ไม่เป็นอันตราย
ต่อสุขภาพคน แต่ถ้าหากทำให้สุกด้วยการผ่านความร้อนสูงมาก
หรือใช้กระบวนการรุนแรงอื่นๆ จะทำให้ไขมันหรือคอเลสเตอรอล
นั้นๆเปลี่ยนสภาพ.ที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ .. ถ้ารับประทานอาหาร
ที่มีไขมันหรือคอเลสเตอรอลที่ถูกทำลายคุณภาพ หรือรับประทานอาหารที่มีอนุมูลอิสระ(Free radicals)มาก .ก็จะมีคอเลสเตอร์รอล
หรือไขมันชนิดที่ถูกทำลายแล้วปริมาณมาก(ในกระแสเลือด)...

8.ถ้ามีLDLในเลือดมาก พบว่ามีความสัมพันธ์กับความเสี่ยงที่สูง
เกินค่าเฉลี่ย ในการเกิดโรคของระบบหลอดและหัวใจ ...
แต่ถ้ามีHDLในเลือดสูง ก็จะสัมพันธ์กับความเสี่ยงที่ต่ำกว่า
ค่าเฉลี่ยในการเกิดโรคของระบบดังกล่าว

กล่าวอีกนัยหนึ่งก็คือ ถ้าในร่างกายมีคอเลสเตอร์รอลที่ถูก
ทำให้เสียหาย(damaged cholesterol )จำนวนมาก..ร่างกาย
ก็ไม่ต้องการLDLในเลือดอีก.เพราะLDLขนคอเลสเตอรอล
ที่ถูกทำลายคุณภาพนั้นมา..ซึ่งจะทำให้เส้นเลือดอุดตันและผนังแข็ง แต่ร่างกายจะต้องการHDLมากขึ้น.เพื่อมาช่วยขนคอเลสเตอรอล
ที่เสียหายนี้ไปไว้ที่ตับ

9.ใครเป็นผู้กำหนดค่าของคอเลสเตอร์รอลที่พอเหมาะในเลือด..
บริษัทยาและกลุ่มแพทย์มักจะได้ประโยชน์จากการขายยา เช่น ปี
ค.ศ 2004 กลุ่มแพทย์ในอเมริกาได้ลดตัวเลขระดับความปลอดภัยของLDL จาก130 เป็น100 และยังแนะนำคนที่มีความเสี่ยงในการเกิดโรคระบบหลอดเลือด และหัวใจ ให้พยายามลดค่าLDLลงเหลือ70
ซึ่งการลดค่านี้ลง.ได้ส่งผลให้คนอเมริกันประมาณ8ล้านคน.ต้องรับประทานยา(โดยไม่จำเป็น?)

สรุปแนวทางการดูแลตนเอง

1)ค่าคอเลสเตอร์รอลรวม(Total cholesterol)ในเลือด
ที่ดีที่สุดคือ..เกิน150 mg/dl..ถ้าน้อยกว่านี้ โดยยังรับประ
ทานอาหารพวกพืชเป็นจำนวนมากและไม่มีอาการผิดปกติใดๆ
ก็ไม่เป็นไร แต่ถ้าคอเลสเตอรอลต่ำมากเป็นเวลานานๆอาจทำให้
มีอาการซึมเศร้า .. เพิ่มความเสี่ยงของสมองขาดเลือดเฉียบพลัน ( stroke) และปัญหาอื่นๆที่มาจากความไม่สมดุลย์ของฮอร์โมนต่างๆ (เพราะคอเลสเตอร์รอลใช้สร้างวิตามินดี..ฮอร์โมนต่างๆ รวมทั้ง
ฮอร์โมนเพศ)..ถ้าขาดคอเลสเตอรอล จะทำให้ขาดวิตามินดีด้วย.(ยกเว้นรับประทานวิตามินดี จำนวนมาก). เพราะแสงแดดจะ
ทำงานร่วมกับคอเลสเตอรอลในร่างกายเพื่อสร้างวิตามินดี..
(การขาดวิตามินดีจะทำให้ กระดูกพรุน และอื่นๆ)

2).อัตราส่วน HDL: Total cholesterol ควรจะเกิน 25% ...
ยิ่งมีค่ามากก็ยิ่งดี ..ถ้าค่า 10-15 หรือต่ำกว่านี้..จะเพิ่มความ
เสี่ยงในเรื่องหัวใจล้มเหลวเฉียบพลัน (heart attack)

3).อัตราส่วนระหว่าง Triglyceride : HDL อย่างมากที่สุด
ควรจะ 2.0 (ไตรกลีเซอร์ไรด์มาจากอาหารพวกแป้งกับน้ำตาล)

4).ถ้าอัตราส่วนได้ตามข้อ2และข้อ3 แสดงว่ามีการรับประทาน
อาหารที่มีคอเลสเตอรอลที่ไม่ถูกทำลาย (undamaged cholesterol) เป็นส่วนใหญ่ .. ถึงแม้จะมีค่า total cholesterol เกิน 200 ก็ไม่น่ากังวล.. เคยมีบางคนที่blood total cholesterolเกิน 350 (มก.ต่อ ดล. ) กลับไม่พบว่ามีความเสี่ยงสูงขึ้นในเรื่องโรคหัวใจ ทั้งนี้เพราะ
มีค่าของอัตราส่วนตามสองข้อดังกล่าวนั้นเหมาะสม

5.)ดังนั้นแทนที่จะมุ่งความสนใจไปที่ตัวเลขเหล่านั้น ควรจะทำดังนี้

(5.1)รับประทานให้เป็นประจำทุกวัน..อาหารที่หลากหลาย
โดยเน้นพืช เช่น ผัก ถั่วแบบฝัก (legumes) ผลไม้ ธัญญพืช
ทั้งเปลือก(whole grain เช่นข้าวกล้อง.)..รับประทานพวกเมล็ดถั่วต่างๆ(nuts and seeds)ทุกวัน.. แต่ในปริมาณน้อย(ถ้ามากไป
ก็จะอ้วน..ไม่ควรทอดถั่ว ..ควรใช้การอบ)

(5.2) รับประทานให้เป็นประจำ.. อาหารพวกที่มีไขมันดี(Healthy fats..คือไม่ใช่ transfats ทรานส์แฟต) เช่น ไขมันจากผลอะโวคาโด มะกอก มะพร้าว และไข่ชนิดออกานิกส์ รับประทานปลาน้ำลึก
(cold water fish )เป็นครั้งคราว (น้ำมันถั่วเหลือง..ทำจากถั่วที่
ตกแต่งพันธุกรรม มีโทษมาก จึงมีการห้ามใช้)

(5.3)รับประทานอาหารต่อไปนี้ในปริมาณน้อยที่สุด .. อาหาร
ทำจากสัตว์ที่ผ่านกระบวนการผลิตปรุงแต่งมาก(highly processed) และ หรือ มีการทำให้สุกด้วยอุณหภูมิสูง(หรือใช้น้ำมันที่ใช้ซ้ำ)...

ความแตกต่างระหว่างdamaged กับ undamaged fat / cholesterol เช่นการรับประทานไข่ที่ทำให้สุกด้วยไฟอ่อนๆ
กับ สเต๊กที่สุกจากการใช้ไฟแรงๆ ย่อมให้ไขมันและคอเลส
เตอร์รอล ที่มีคุณภาพต่างกัน

(5.4)พยายามดำเนินชีวิตที่สมดุลย์ พักผ่อนเพียงพอ ออกกำลังกาย สัมผัสอากาศบริสุทธิ์และแสงแดดอ่อนๆ มีความสัมพันธ์ที่ดี และมี
เป้าหมายในชีวิต เป็นต้น

ขอขอบข้อมูลจากอินเตอร์เนต

สาขา Health BLog

newyorknurse

Create Date : 16 กันยายน 2561

Last Update : 16 กันยายน 2561 6:25:51 น.

10 comments

Counter : 1884 Pageviews.

ผู้โหวตบล็อกนี้...

คุณmambymam, คุณRananrin, คุณเริงฤดีนะ, คุณmoresaw, คุณวลีลักษณา, คุณสายหมอกและก้อนเมฆ, คุณtoor36, คุณSweet_pills, คุณแมวเซาผู้น่าสงสาร, คุณSweet Toddy Palm, คุณOldbuff 1222, คุณบาบิบูเบะ...แปลงกายเป็นบูริน, คุณหอมกร, คุณภาวิดา คนบ้านป่า, คุณสองแผ่นดิน, คุณhaiku, คุณกะว่าก๋า, คุณจอมใจจอมมโน

วันนี้ได้ความรู้เรื่องคลอเรสเตอรอลเยอะเลยค่ะ
ทุกวันนี้คนเป็นไขมันในเส้นเลือดเยอะมาก
จัดเป็นอีกหนึ่งโรคที่น่ากลัวค่ะ

โดย: mambymam

วันที่: 16 กันยายน 2561 เวลา:5:35:55 น.

จดจำไว้ค่ะ

โดย: เริงฤดีนะ

วันที่: 16 กันยายน 2561 เวลา:18:02:38 น.

ยาแทบทุกชนิดมีผลข้างเคียง รักษาสุขภาพตังเองดีที่สุดนะคะพี่

โดย: วลีลักษณา

วันที่: 16 กันยายน 2561 เวลา:19:05:24 น.

อะไรที่มากไปหรือน้อยไปมันก็ไม่ดีทั้งนั้นจริงๆ พอดีๆ แหละดีที่สุดครับ

โดย: คุณต่อ (toor36

) วันที่: 16 กันยายน 2561 เวลา:22:27:43 น.

การปฏิบัติตัวที่ถูกทางน่าจะดีกว่าการทานยาลดคอเลสเตอรอล
ที่ข้อ 4 บอกผลเสียไว้นะคะ
ขอบคุณพี่น้อยสำหรับข้อมูลดีๆมีประโยชน์นี้ค่ะ

ขอบคุณสำหรับคำอวยพรคุณแม่นะคะพี่น้อย

โดย: Sweet_pills

วันที่: 18 กันยายน 2561 เวลา:6:50:33 น.

เพิ่งทราบเลยค่ะว่าคอเลสเตอรอลต่ำก็ทำให้เกิดโรคหัวใจเหมือนกัน ขอบคุณที่เเบ่งปันความรู้ดีๆนะคะ

โดย: Sweet Toddy Palm

วันที่: 18 กันยายน 2561 เวลา:12:06:45 น.

newyorknurse Health Blog ดู Blog
สรุปว่ามีความสัมพันธ์กับโรคหัวใจนะคะพี่น้อย

โดย: หอมกร

วันที่: 19 กันยายน 2561 เวลา:8:29:29 น.

คอเลสเตอรอลเรื่องใหญ่เลยนะคะถ้ามีเกิน
พี่ต้องกินยาลดประจำเลย เพราะพิสูจน์แล้วว่า
ผลิตแล้วไม่ทำลาย อะไรประมาณนี้

โดย: ภาวิดา (คนบ้านป่า

) วันที่: 19 กันยายน 2561 เวลา:20:47:03 น.

สวัสดียามเช้าครับพี่น้อย

อะไรที่มากเกินไปหรือน้อยเกินไปก็ไม่ดีจริงๆนะครับ
และบริษัทขายยานี่คือ การทำการค้าบนความกลัวของมนุษย์เลย
อย่างประเทศอินเดียก็ผลิตยาถูกมาก เพื่อให้คนของเขาเข้าถึงยาได้ง่ายขึ้น
บริษัทยาข้ามชาติถึงโกรธมาก จนกลายเป็นประเด็นระดับโลก

วันก่อนผมเพิ่งอ่านบทความ หญิงสาวคนหนึ่งเป็นวีแกน
เธอหันกลับมากินผักเพระาเป็นโรคซึมเศร้า และเกิดปัญหาผิวหนัง
เพราะกินผักอย่างเดียวมายาวนาน
พอกลับมากินเนือ้สัตว์บ้าง สุขภาพเธอก็ดีขึ้นทันตาเห็นจริงๆครับ

โหวตครับพี่

โดย: กะว่าก๋า

วันที่: 20 กันยายน 2561 เวลา:6:25:04 น.

ทานอาหารทุกอย่างก็ต้องพอดี ๆ
ทานหลากหลาย เดินสายกลางกันค่ะ
ขอบคุณคุณพี่น้อยที่แชร์กันนะคะ

โดย: จอมใจจอมมโน

วันที่: 21 กันยายน 2561 เวลา:21:39:28 น.