สว.อยู่อเมริกา ต้องเข้าใจกับแผนประกันสุขภาพ - Medicare Part A & B
สว.อยู่อเมริกา ต้องเข้าใจกับแผนประกันสุขภาพ Medicare Part A & B
สว. ทีมี GreenCard ( บัตรเขียว) และ คนอเมริกัน (American Citizens) ที่ทำงานครบ 10 ปี และจ่ายเงินให้ Social security เมื่ออายุ 65 ปี จะมีสิทธิได้รับประกันสุขภาพของรัฐ เรียกว่า Medicare ซี่งมีสองส่วน เรียกว่า Medicare Part A จ่ายค่าโรงพยาบาล Medicare Part B จ่ายค่าหมอ และ ยา ต้องจ่ายให้รัฐเดือนละ $100 กว่า สำหรับผู้ที่ได้รับราชการของรัฐ ทั้งสามีและภรรยาจะได้รับเงินส่วนนี้คืนทุกปี
สำหรับผู้ทีทำงานไม่ครบ 10 ปี (ไม่จำเป็นต้องทำติดต่อกันทุกปี แต่ทำงาน ต้องมีหลักฐานทีส่งเงินเข้าระบบ Social Security ครบ 10 ปี )จะมีสิทธิได้ รับประกันสุขภาพ Medcare ทั้ง Part A และ Part B เสียเงินสำหรับ Part B แต่ต้องจ่ายเพิ่มมากกว่าคนที่ทำงานครบ 10 ปี คงมากเหมือนกัน (ไม่ทราบจำนวน เพราะยังไม่เคย เห็นใครไม่ได้รับสองส่วนนี้)
ประกันที่รัฐให้ Medicare ทั้งสองส่วน Part A และ Part B จ่ายไม่ครบ จ่ายแค่ 20% เราต้องจ่ายเองอีก 20% คนส่วนมากก็จะซื้อประกันเพิ่ม มีหลายบริษัท และราคาต่างๆกัน แล้วแต่จะเลือกแบบไหน สำหรับคนที่สุขภาพดีไม่มีปัญหา ไม่ซื้อเพิ่มก็ได้ ที่ดีคือ ปีนี้ไม่ซื้อเพิ่ม ก็จ่ายส่วนเกินไป ปลายปีเดือนกันยาถึงมกรา ทุกปี เราสามารถซื้อเพิ่มได้ นับว่าเป็นส่วนดีของประกันสุขภาพที่อเมริกา เราเปลี่ยนซื้อเพิ่มหรือลดได้ทุกปี
*****
เราอยู่อเมริกากันจนเกษียณ ก็เพิ่งจะรู้ว่ามีประกันแบบไม่ครบด้วย เพื่อนจขบ.อยู่ชิคาโก มีแต่ Medicare Part B และซื้อประกันเพื่ม จาก United Health Care เดือนละเกือบ 300 เหรียญ และก็ไม่รู้อะไรเลย ถ้าไม่มีเรื่องเกิดขี้น
โทรหาเนิสซิ่งโฮมส์ที่เพื่อนอยู่ 55 วัน สงบิลมากเกือบแสนเหรียญ เขาบอกว่าส่งใบเคลมไปที่บริษัทประกัน United health care เขาบอกว่าต้องไป claim ที่ Medicare ก่อน แต่พอมาอ่านดู เพื่อนคุณ มีแค่ Medicare Part B จ่ายแค่ค่ายาเท่านั้น ไม่จ่ายค่านอนรพ.แต่ได้รับความร่วมมืออย่างดี คุณ Besty บอกว่าเพิ่งเข้าใจ จะส่งเคลมใหม่ไปที่ United Health Care
จขบ.โทรไปที่ United Health Care และไลน์เพื่อนให้รอคุยกับเขา บอกว่าอนุญาติให้จขบคุยเรื่องประกัน และจะให้คุยเรื่องนี้ทุกครัง เขาก็บอกว่าต้องทำเป็นลายลักษณ์อักษร เพื่อนบอกว่าอยู่เมืองไทย เขาบอกว่าทำทางอินเตอร์เนตได้ ให้เข้าไปที่ myunc.com(บอกเพื่อนแล้ว ไม่แน่ใจว่าจะจัดการไหม กระตุ้นยากพอควร) ตกลงครั้งนี้เขาได้คุยกับเพื่อนเลยยอมให้จขบ.คุยด้วย เขาก็เริ่มบอกว่า ต้องไปเคลมที่ Medicare ก่อน จขบ. บอกว่าที่บัตร เพื่อนเขามีแค่ Medicare Part B จ่ายแค่ค่ายาเท่านั้น ต้องขอบคุณคุณ Mary ดีมากๆ เข้าใจและ บอกว่าขอเวลาหน่อย เดี่ยวไปอ่านไฟล์ของเพื่อนดูว่าเป็นไง สักพักเขากลับมาบอกว่าใช่ เพื่อนมีแค่ Medicare Part B เท่านั้น เขาจะทำเรื่องยื่นใบเคลมอีกครั้งแต่เขาบอกว่าบริษัทก็จ่ายส่วนหนี่ง เพื่อนคงต้องจ่ายส่วนที่เหลือ แต่ยังไม่ทราบด้ข่าวแค่นี้ก็ไม่ใช่ว่าเรื่องจะเสร็จ ต้องรอว่าเขาจ่ายหรือเปล่า และจ่ายเท่าไรเราต้องจ่ายส่วนที่เหลือเท่าไร งานนี้คิดว่าคงหลายหมื่นเหรียญ ไม่จ่ายได้ไหมที่จริงก็มีคนไม่ยอมจ่าย ถ้าไม่มีอะไร ก็ไม่จ่ายได้ ซี่งไม่ถูกนัก แต่ไม่มีจะจ่าย ก็อาจจะออมชอม เขาตกลงว่าลดให้ หรือผ่อนส่ง แต่ถ้าคนที่มีบ้าน มีเงินเกษียณ เขาก็ไม่ยอมเหมือนกัน เพื่อนอยู่กรณีหลัง
จขบ.โทรไปที่ Medicare office ต้องให้เพื่อนอนุญาติให้เขาคุยกับจขบ. เขาจะถามเพื่อนวันเกิด บัตรเบอร์อะไร และมาถามจขบ.ด้วย โชคดีเพื่อนส่งบัตร Medicare มาให้แล้วพอเขาถามตอบได้ ถ้าตอบไม่ได้ เขาจะไม่คุยด้วยเลย ตกลงก็ถามว่าเพื่อนมี Medicare Part B เท่าน้้นหรือ เขาไปค้นดู บอกว่าใช่ อ้าวแล้วทำไงจะได้ Part A เขาบอกว่า เพื่อนทำงานกับระบบ social security ไม่ครบสิบปี (เพื่อนทำมา 7 ปี) เขาบอกว่าจะเอา MedicarePart A ต้องจ่ายเงินเพิ่ม แพงเหมือนกัน ถามว่าแล้วจะทำไง เขาบอกต้องไปที่ Social Security Office
จขบ.ไปที่ Social Security Office รอคิว และได้พบเจ้าหน้าที่และเริ่มคุย เรื่องเพื่อนเขาก็บอกทันที่ว่า จะมาคุยเรื่องคนอื่นเขาไม่คุยด้วย บอกเขาว่าจะโทรหา เพื่อนให้เขาพูดด้วย โชคดีจริงๆ เกือบตีหนี่งเมืองไทย เพื่อนรับโทรศัพท์และได้ คุยกับเจ้าหน้าที่ โดยตรง เจ้าหน้าที่เช้คที่คอมพิวเตอร์ ก็บอกว่าใช่เพื่อนมีสิทธิ ได้แค่ Medicare Part B ค่ายา เท่านั้น ถามว่าทำไงถึงจะได้ Part A เขาบอกว่า ต้องมาทำที่ office เราจะทำแทนไม่ได้ และต้องเสียเงินมากเหมือนกัน ถามว่า ต้องเสียเงินเท่าไร เขาบอกว่าเขาบอกไม่ได้ ต้องมาทำแล้วจะรู้ตอนนั้น เราบอกว่า เพื่อนอยู่เมืองไทย คงมาทำเมกาไม่ได้ตอนนี้ เขาก็บอกก็ไปทำที่สถานทูตอเมริกา ก็ได้
สรุปงานนี้ยากมาก เรื่องป่วยที่ป่วยไปแล้ว ถึงมี Medicare Part A เขาก็ไม่จ่าย ย้อนหล้ง เพื่อนก็ต้องจ่ายส่วนที่เหลือเมื่อบริษัท United Health care ไม่จ่าย อยู่เมืองไทย ถ้าพอไปไหนได้ ก็ต้องไปติดต่อสถานทูตอเมริกา เพื่อทำ Medicare Part A
จขบ.มาเล่าให้คนที่อยู่อเมริการับทราบ จะได้มีประกันสุขภาพที่ถูกต้อง ต้องมี Medicare ทั้ง Part A และ Part B ถึงจะเสียเงินเพิ่ม ถ้าป่วยแล้ว ก็นับว่าคุ้มค่ะ