ตีผึ้งกลางกรุง
ตีผึ้งกลางกรุง . .. ...
หลายวันมานี่ ชายหนุ่ม ผิวเข้ม ใบหน้าคมสัน พุงป่องนิดๆ หรือที่ ชาวบ้านแถวนั้น เรียกขานกันว่า
เต๊ะซุกโม๊ะ กะเหรี่ยงหนุ่มจอมอาคม
สังเกตว่า มีผึ้งบินมาตอมไฟ แถวเพิงพักตรงชายป่า ที่เค้าชอบนอนตีพุง มากผิดสังเกต และยังบินวนเวียน หาน้ำหวานจนมืดค่ำ ก็ยังไม่กลับรัง
ด้วยสัญชาตญาณป่า เค้ารู้ได้ทันทีว่า รังมันจะต้องอยู่ไม่ไกลแน่นอน ถึงได้เที่ยวดึกดื่น ซะขนาดนี้ บ้านช่องไม่ยอมกลับ ร้ายไม่ใช่เล่นนะเนี่ย เจ้าผึ้งเพลย์บอย อิอิ . หลายวันผ่านไป ในคืนเงียบสงัด ได้ยินแต่เสียงลมหายใจ ฟืดฟาด กับเสียงกิ่งไม้ตามพื้นดินหัก ลั่น สนั่นมาตลอดทาง นี่มันเสียง ช้างป่าบุก หรือไงกัน
จริงๆแล้ว มันเป็นเสียงเดินของ เต๊ะซุกโม๊ะ พรานไพรจอมอาคม นี่เอง น้ำหนักตัวเค้ารวมพุง ประมาณ ข้าวสาร 1 กระสอบ เดินไม่ดัง ลั่นป่า ก็ผิดไปละ555
ในที่สุด หลังสะกดรอยตามผึ้งหลวงมาหลายวัน เค้าก้มาหยุดตรงโคนต้นไม้ใหญ่ต้นนึง คะเนด้วยสายตา ลำต้นประมาณ3คนโอบ ความสูงน่าจะประมาณ ตึก4-5 ชั้น อายุน่าจะ30-40ปี เป็นอย่างต่ำๆ
. .. . ..
เต๊ะซุกโม๊ะ รีบแนบหูกับลำต้นไม้ใหญ่ทันที พอได้ยินเสียงหึ่งๆ แผ่วๆ เค้าก้แสยะยิ้ม ทันที เพราะรู้ว่าต้นไม้ใหญ่ต้นนี้ ต้องมีรังผึ้งอยู่แน่นอน
เต๊ะซุกโม๊ะ คิดในใจ เอ็งเสร็จข้าแน่เจ้าผึ้งเอ๋ย จากนั้นก็รีบโบกมือ เรียกวินมอไซค์ ซ้อนกลับ เพิงที่พักทันที เย้ย555
คุณผู้อ่านบอก ไม่ใช่แระ ไอ้บร้า เอ็งอยู่ในป่า หรือ อยู่หน้า เซเว่น ปากซอยกันแน่เนี่ย เดี๊ยะๆ . .. ...
ต้นผึ้ง ต้นนี้ ลำต้นประมาณ3คนโอบ ความสูงน่าจะประมาณ ตึก4-5 ชั้น อายุน่าจะ30-40ปี เป็นอย่างต่ำๆ . ..
เต๊ะซุกโม๊ะ แม้จะเป็น กะเหรี่ยงที่ เข้ามาอยู่ กรุงเทพ ตั้งแต่เด็ก แต่เรื่องที่บรรพบุรุษของเค้า เคยสั่งเคยสอนไว้ แม้เค้าจะจำได้ไม่ได้บ้าง แต่เรื่องนึง ที่เค้าจำได้แม่นก้คือ วิชา ตีผึ้ง
ปู่ของปู่ของปู่ บอกพ่อ มาบอกเค้า อีกทีว่า นี่ไถ่ หรือ ผึ้งหลวง จะชอบจับทำรังบนต้นไม้ใหญ่ ในป่าดิบสมบูรณ์ จำพวก ต้นยาง ต้นไทร ต้นเสลียง ต้นตะเคียน
ต้นไม้ที่ผึ้งหลวงชอบ จะเป็นต้นไม้ที่สูงใหญ่ มีกิ่งก้านแผ่สาขากว้างใหญ่ ให้ความร่มเย็น และมักจะสูงเอามากๆ บางต้น สูงเท่าตึก 6-7 ชั้น ขนาดใหญ่ประมาณ 10-12 คนโอบ
ต้นไม้ใหญ่ ที่มีผึ้งหลวงมาทำรัง ในหมู่บ้าน จะ เรียก ต้นไม้นั้นว่า "ต้นผึ้ง"
ชาวกะเหรี่ยง เชื่อกันว่า เจ้าของต้นผึ้ง ต้องเป็นผู้มีบุญบารมีเป็นอย่างมาก และต้องเป็นคนมีสัจจะ ถ้าไม่มีสัจจะ ปีต่อไป ผึ้งก็จะไม่มาจับทำรังอีกเด็ดขาด . เต๊ะซุกโม๊ะ โชคดีมากที่ได้มาเจอ ต้นผึ้ง ต้นนี้ กลางกรุง แต่จะว่าไป เค้าก็มีคุณสมบัติครบตามนั้น เป๊ะเลยละจ้า ผ่านทุกข้อเลยละจ้า อิอิ
. ..
ปิ๋วศรี โคโยตี้ หมานักล่า คู่ใจของ เต๊ะซุกโม๊ะ กำลังช่วยตามกลิ่นหนูนา เอ๊ย ผึ้งหลวงอยู่ . .. ...
เต๊ะซุกโม๊ะ หลังจากเจอ ต้นผึ้ง แล้ว เค้าก้รีบกลับมา เตรียมเครื่องมือ ที่จะตีผึ้งทันที .
อันดับแรกก็ต้องมี บันไดยาวๆซัก 3ท่อน
จะไปซื้อที่ โฮมโปร หรือ ไทวัสดุ ดีน้อ เย้ย ไม่ใช่แระ
มันต้องมี ทอย หรือไม้ไผ่ที่เสี้ยมปลายแหลมยาวประมาณ 10 นิ้ว เอาไว้ตอกกับ ต้นผึ้ง เพื่อปีนขึ้นไปหารังผึ้ง
ปู่ของปู่ของปู่ เคย บอกพ่อมาบอกเค้า อีกทีว่า ทอย ที่ดี จะทำจากไม้ไผ่ที่แก่จัด เอามาเผาและรมไฟอย่างดี เพื่อให้แกร่ง ไม่หักง่าย
และจะต้องมี ทอยพิเศษ อันนึง ที่มีตาไม้ใหญ่ ติดมาด้วย เพราะ เชื่อกันว่า ทอยที่มีตาไม้นี้ จะช่วยสะกดวิญญาน นางไม้แสนสวย และภูตผี ต่างๆ ไม่ให้มาทำร้าย หมอผึ้งรูปหล่อ อย่าง เต๊ะซุกโม๊ะ ได้ อิอิ . ..
และการตอกทอย อันแรก ก้จะใช้ ทอยที่มีตาไม้นี้ เป็นอันแรก มีเคล็ดลับว่า ต้องตอกทอยอันแรกนี้ ได้แค่ 3 ครั้ง เท่านั้น
อันดับ 2 ผึ้งจะกลัวควันและไฟ ต้องมี คบไฟ
โดยมาก จะทำจาก เถารางจืดตากแห้ง เอามามัดเป็นปล้องๆ ยาวประมาณ ซัก 2เมตร ข้อดี ของคบไฟ ที่ทำจาก เถารางจืดนี่ คือ มันจะค่อยๆคุ ไม่ลุกเป็นไฟขึ้นมา
อันดับ3 รถพยาบาล หรือหน่วยกุู้ชีพนเรนทร
อันนี้ เผื่อๆไว้ เผื่อพลาดพลั้ง โดนผึ้งรุมต่อย คนละหมัด 2หมัด ร่วงลงมาจุกแอ๊ด เราต้องปลอดภัย ไว้ก่อน safety first เย้ย 555
. .. ... และแล้ว ก็ได้ฤกษ์ วันตีผึ้งก็มาถึง ปู่ของปู่ของปู่ บอกพ่อ บอก เต๊ะซุกโม๊ะ มาว่า ตีผึ้ง ต้องตีคืนเดือนมืด เพราะ ผึ้งจะงง หลงทาง กลับรังไม่ถูก แถมมันจะมองไม่เห็นเรา คนตีด้วย . .. วันนี้แหละ ข้างแรม14 ค่ำมืดตื้ดตื๋อ แต่เดี๋ยวต้องทำพิธี กราบไหว้ เจ้าที่เจ้าทาง เจ้าป่าเจ้าเขาเสียก่อน ปกติ นอกจากดอกไม้ธูปเทียน แล้ว ก็ต้องมี น้ำขมิ้น
แต่เค้าหาไม่ได้ เลยวิ่งไป ร้าน TOP ซื้อ ช๊อคโกแลตมา น่าจะพอแทนกันได้ แฮ่ๆ555
. .. เต๊ะซุกโม๊ะ เริ่มบริกรรมคาถา ขอพร จากสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ขอให้ช่วยคุ้มครอง ให้แคล้วคลาดปลอดภัย ให้ได้น้ำผึ้งมากๆทันที
พ่อผึ้งจ๋า สีกาขอสั่ง น้ำตาไหลหลั่ง ก่อน จะจากไป ถึงคราวแล้วหนอ ต้องขอลาก่อน ต้องเอาจีวร มาห่มกาย ปฏิบัติแบบองค์ เอ่อ...เฮ้อ เอิง เฮ้อ เอ่อ...
ท่านผู้อ่านร้อง อะจ๊ากก คาถาอะไรของเอ็ง นี่มัน แหล่ทำขวัญนาค เอ็งจะบร้าเหรอ เดี๊ยะๆ เย้ย 555 .
จากนั้น เค้าก้ควัก ทอย สะกดวิญญาน อันแรก ออกมาทันที ตอกเข้ากับ ต้นผึ้ง เต็มแรง
โอ๊ย เต๊ะซุกโม๊ะร้องลั่นซอย ค้อนไม่ได้โดน ทอย เล้ยย แต่โดนนิ้วเต็มเปา แง๊ๆ นิ้วแตกเลยอ่า ซุ่มซ่าม จริงๆเลยเรา
เต๊ะซุกโม๊ะ นึกในใจ เอาใหม่อีกที เค้าตอกทอย แรก 3 ครั้ง แล้ว เริ่มตอกทอยอันต่อไป เรื่อยๆ จนได้ระดับความสูง ของรังผึ้ง
รังผึ้งหลวง จะมีขนาดใหญ่กว่า รังผึ้งทั่วไป ที่เห็นนี่ เป็นตอนที่ผึ้งเริ่มมาจับทำรัง ความยาวประมาณ 60 -70ซม เห็นจะได้ . ..
กิ่งไม้ที่ผึ้งหลวงจับ ทำรัง จะเป็นกิ่งสูงเกือบสุด ด้านบนมีใบไม้ปกคลุมหนาแน่น เพื่อให้มีความร่มเย็น . .. ...
มาดูรังผึ้งจากฝีมือ เต๊ะซุกโม๊ะ หมอผึ้ง ตัวฉกาจ กันดีกว่า อิอิ .
. รังผึ้งหลวง ขนาดใหญ่มาก ใส่กาละมังเดียวไม่พอ . ..
กาละมังนี้เป้นหัวน้ำผึ้ง ส่วนที่ติดกับกิ่งไม้ จะมีความหวานมากกว่าส่วนอื่น . ..
กาละมังนี้ เป็นรังผึ้ง ส่วนปลายที่ห้อยลงมา . ..
บริเวณสีขาวๆ จะเป็นส่วนที่อยู่ของตัวอ่อนผึ้ง . .. ... เต๊ะซุกโม๊ะ คิดด้วยความดีใจว่า รังนี้น่าจะได้น้ำผึ้งหลายกิโล อิอิ ต่อไปนี้ ถ้าผึ้งมาทำรังทุกปีละก็ เราจะรวยแน่ๆ
เราจะมีสตางค์ไปซื้อเครื่องปั่น มาทำน้ำ สารพัดสี แบบเพื่อนๆที่ชอบเอามาโชว์ . เราจะมีสตางค์ ไปซื้อกระทะ โครีคิงส์ มาทำผัดไท ไข่ห่อ แบบบ้านข้างๆเค้ามัั่ง
แล้วก็ ถ้ามีรังผึ้งแยะๆ เราจะได้เก็บสตางค์ไปเที่ยว ญี่ปุ่น ตลุย Akihabara ไปตึก 7 ชั้นในตำนาน แบบ ป๋าหน้าขาวพุงกลม คนที่อยู่เชียงใหม่ แบบสาวที่ชอบคาดหน้ากากดำๆ อิอิ
ถ้าไม่งั้น เราก้จะไปอินเดีย ไปดูหมู่บ้านพระทิเบต กินซุปถั่ว ให้ท้องร่วงไปเล้ยยย เย้ย 555 . .. ... ทันใดนั้นเอง เต๊ะซุกโม๊ะ ต้องสะดุ้ง ตกใจตื่น เพราะ มีน้ำอะไรเปียกหน้า
อ้าวฝนตก สาดเข้ามา ลืมปิดหน้าต่างอีกแล้วหรือเรา ทันใดนั้น เค้ารีบวิ่งกระโจนลงจากเตียงทันที . รีบวิ่งไปดูต้นไม้ใหญ่ หน้าบ้าน ทันที เมื่อคืนฝนตกหนัก ลมแรงยังกับพายุ
เหลือบมองไปด้านบนกิ่งไม้ รังผึ้งหายไปไหน แง๊ๆๆ ใครมาขโมยรังผึ้งเค้าไปเนี่ย ไอ้โจรชั่ว นี่มันร้ายจริงๆเลย
พอสงบ สติอาราณ์ได้ นั่งทบทวนไปมา เค้าจึงมาดูโคนต้น ก็พบ รังผึ้งรังใหญ่หล่นอยู่ .
เอ๊ะ เราฝันไปหรือไงนี่ .
แต่ก้ดีเหมือนกัน ไม่ต้องออกแรงปีน รังผึ้ง คงจะโดนลมพายุหลุดจากกิ่งไม้ลงมาเมื่อคืน . นี่มัน หมูหล่นเข้าปาก หมา เอ๊ย ปาก เราแท้ๆ เลย เย้ย 555 ดีใจจัง . .. ...
จบแล้วจ้า
. .. ... ขอขอบคุณข้อมูลจาก www.acadamia.edu/3582534
โดย พยงค์ - ระวิวรรณ ศรีทอง
| Create Date : 15 กันยายน 2559 |
| Last Update : 10 ตุลาคม 2559 8:32:08 น. |
|
234 comments
|
| Counter : 4545 Pageviews. |
 |
|
เอ้ย ไม่ใช่ถ้าจารย์เป็นไรขึ้นมา สาวๆต้งอน้ำตาเช็ดตะตุ่มกันมากมาย 
ขอซื้อบัตรด่วนๆเลย บัตรแถวแจมหน้าติดสระอโนดาดนี่หมดยังคะ
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 33 คน [
อ่านไปได้ถึงเตรียมเครืื่องไม้เครื่องมือ เดี๋ยวมาใหม่ ไปทำงานก่อนครับ
multiple Literature Blog ดู Blog