ไปทานข้าวกัน
วันนี้เรากลับมาเรียนรู้ศัพท์ในชีวิตประจำวันกันบ้างครับ
ศัพท์หรือประโยคเกี่ยวกับการทานอาหารนั้นมีเยอะครับ ดังนั้นวันนี้ผมจะแนะนำประโยคง่ายๆ ที่เรามีโอกาสใช้กันบ่อยๆ ก่อนนะครับ
ตอนเที่ยง ถ้าเพื่อนมาชวนไปทานข้าวแล้วเรายังติดงานอยู่ จะบอกกับเพื่อนให้ไปก่อนเดี๋ยวเราจะตามไป ก็บอกว่า
>You go ahead (ยู้ โก อะเฮ่ด)
ถ้าวันไหนนึกครื้มๆ อยากไปกินร้านไหมแก้วหรือไกลๆ หน่อย ถ้าไปครั้งแรกคงไม่รู้จะสั่งอะไรก็ต้องขอดูเมนูอาหารก่อน ก็บอกกับพนักงานเสริฟว่า May I have the menu please? หรือ Could I have the menu please? ไอ้คำว่า menu นี่แหละครับเป็นอีกหนึ่งคำที่เราออกเสียงผิดมากที่สุด มันออกเสียงว่า แม๊น-อยู่ ครับ ไม่ใช่เมนู คุณไม่ได้ตาฝาดและผมไม่ได้เขียนผิดหรอกครับมันอ่านแบบนี้จริงๆ
ถ้าพลิกดูรายการอาหารแล้วก็ยังไม่รู้จะสั่งอะไร บางร้านจะมี Menu standตั้งไว้บนโต๊ะเพื่อแนะนำอาหารจานเด่นที่เขาแนะนำอยู่แล้ว (Recommended dishes) แบบนี้ก็ตัดสินใจง่ายหน่อย แต่ถ้าไม่มีเราก็ถามพนักงานเสริฟว่า
What do you recommend? (ว๊อท ดู ยูว์ เรคคอมเมนด์) คือคุณ(พนักงานเสิรฟ์) จะแนะนำอาหารจานเด่นๆ อะไรของร้านให้กับเราดีครับ
พนักงานเสริฟก็อาจจะตอบกลับมาว่า I recommend (ชื่ออาหาร), its delicious.
ถ้าเขาแนะนำมาแล้วเราถูกใจจะสั่งจานนั้นแหละ ก็พูดว่า OK Ill have that
แต่ถ้าเขาแนะนำมาแล้วเรายังไม่ชอบก็ถามเขาว่า What else do you recommend? (ว๊อท เอ้ลส์ ดู ยูว์ เรคคอมเมนด์) คือมีอาหารจานอื่นไหมที่คุณอยากแนะนำ
แต่ถ้า Waitperson/Waiter/Waitress (ฝรั่งจะเรียกพนักงานเสริฟรวมๆ ไม่แยกเพศว่า Waitperson แต่ถ้าจะเรียกแยกเพศก็สองคำหลังครับ) ให้ menu เรามาดูตั้งนานแล้วก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะสั่งอาหารเสียที Waitperson ก็อาจจะเดินมาถามเราว่า Are you ready to order? คือ พร้อมจะสั่งอาหารหรือยังครับ/ค่ะ
ผมขอตัดตอนมาว่าสั่งอาหารได้แล้ว พอทานเสร็จ จะเรียก Waitperson คิดค่าอาหาร อย่าใช้คำว่า check bill นะครับ คำนี้พี่ไทยประดิษฐ์กันเอง อเมริกันชนใช้คำว่า >Check please ส่วนคนอังกฤษใช้ Bill please ถนัดแบบไหนก็เลือกเอาสักอัน สั้นๆ แบบนี้แหละครับฝรั่งเข้าใจชัวร์
ถ้ากินเสร็จแล้วจะบอกเพื่อนๆ ว่ามื้อนี้หารกันก็พูดว่า Lets go Dutch (เลทส์ โก ดัชท์) (Go Dutch คือ to share the cost of a meal in restaurant)
แต่ถ้าวันไหนวิญญาณเสี่ยเข้าสิง จะเลี้ยงข้าวเพื่อน ก็บอกกับเพื่อนๆ ว่า Its my treat (อิทส์ มาย ทรีท) หรือ Its on me (อิทส์ ออน มี) หรือ This meal is on me (ดิส มีล อีส ออน มี) แค่นี้เพื่อนๆ ก็ยิ้มพุงกางแล้วครับ
ขอให้มีความสุขกับอาหารวันนี้นะครับ ________________________________________________________ ขอขอบคุณคุณพี่ไก่ (Watcharin Darapen) ผู้ให้การสนับสนุนข้อมูลอันเป็นสาระประโยชน์ให้กับทุกท่าน
Create Date : 24 มีนาคม 2551 |
|
0 comments |
Last Update : 24 มีนาคม 2551 10:44:12 น. |
Counter : 1041 Pageviews. |
|
|
|