Group Blog
 
<<
มิถุนายน 2555
 
24 มิถุนายน 2555
 
All Blogs
 

'แอนนี่ บรู๊ค' ตัดใจทิ้งอดีตสร้างชีวิตใหม่ ลุยธุรกิจ 'ร้านเล็บ' เพื่ออนาคต 'น้องฑี'







ฝ่าฟันคลื่นมรสุมชีวิตลูกใหญ่มาเกือบ 2 ปี สำหรับ แอนนี่ บรู๊ค เจ้าของตำนาน มหากาพย์ลูกใครหว่า? พยายามทิ้งความหลังเพื่อลุกขึ้นสู้ ก้าวเดินไปข้างหน้าเพราะอีก 2 ชีวิต ทั้งแม่และ น้องฑี–ฑีฆายุ ลูกชายวัย 2 ขวบ ที่ต้องดูแลและเลี้ยงดู ล่าสุดลงทุนเปิดร้านเล็บ “Annie Brooks nail salon” ย่านโชคชัย 4 คนดังนั่งคุย ขออัพเดทชีวิต “ซิงเกิ้ลมัม” กับอนาคตทั้งงานและความรักที่ไม่รู้ว่า “เข็ดรัก” จนปิดประตูไปเลยมั้ย?!

ตอนนี้สภาพจิตใจเป็นยังไงบ้าง
“โล่งขึ้น หลังจากได้เปิดใจผ่านรายการไปบ้าง อาจจะเป็นจุดจบของเราแต่อาจจะเป็นจุดเริ่มต้นของใครบางคนก็ได้ไม่รู้ อาจจะเป็นการเริ่มต้นบางสิ่งบางอย่างอีกครั้งหรือเปล่าแต่ทั้งนี้ ทั้งนั้น การที่เราไปชี้แจงครั้งนั้นมันมีเรื่องจำเป็นต้องชี้แจงจริงๆ เพราะเกิดความเข้าใจผิดในคำพูดเยอะเกินไปแล้ว แอนจึงขอชี้แจงบ้าง แต่คงไม่ถึงขนาดไปถล่มทลายใคร ฟาดงวงฟาดงาฉีกแข้งฉีกขาคนอื่นอีก ไม่ทำอย่างนั้นอยู่แล้ว”

ถูกมองการออกรายการเป็นการเกาะกระแสดัง
“ต้องขอบคุณค่ะ ที่พูดถึงเราสองคนแม่ลูกตลอดเวลา ถ้าจะให้ดีช่วยโปรโมตร้านเล็บให้ด้วยจะขอบพระคุณมาก สมัครเป็นสมาชิกวีไอพีมั้ยค่ะ (หัวเราะ)”

ณ ทุกวันนี้ยังมีกระแสโจมตีเราตลอด ตรงนั้นมีผลต่อการดำเนินชีวิตของเรา
“ทุกวันนี้เคยมีคนพูดกับแอนเวลาที่แอนรู้สึกไม่สบายใจตรงนี้ก็ถามเค้า เค้าตอบกลับมาว่าเมื่อไหร่ที่เดินออกไปนอกบ้านแล้วไม่มีคนโห่ไล่แสดงว่ามันไม่เป็นอะไรเลย บางครั้งเราคิดว่าคนนั้นไม่ชอบเรา คนนี้ไม่ชอบเรา มันเป็นเรื่องใหญ่มาก จริงๆ อาจจะไม่ใช่กลุ่มคนที่ใหญ่มากแต่นั่งอยู่หน้าคอมพิมพ์ซ้ำๆ ทำให้เรารู้สึกว่าคนกลุ่มนั้นเยอะเหลือเกินแต่เมื่อไหร่ที่เราเดินออกไปจากบ้านไปกินข้าวตามร้านอาหารแล้วไม่มีใครโห่ไล่เราไป แสดงว่าไม่มีอะไรอย่างที่เราคิดแสดงว่าคนรักก็มี คนชังก็มี เพราะฉะนั้น ทำใจได้เลย ไม่ใช่สิ่งเลวร้าย สิ่งที่เลวร้ายที่สุดในชีวิตได้ผ่านไปแล้ว ต่อแต่นี้ไปมันจิ๊บๆมากเลย”

หากรู้อนาคตต้องเจอเหตุการณ์แบบนี้ยังยืนยันที่จะเก็บลูกเอาไว้
“วันแรกที่รู้ตัวเองท้องเชื่อมั้ย คิดถึงวันนี้เรียบร้อยแล้ว วันที่ตัวเองจะต้องเลี้ยงดูลูกคนเดียว วันที่ตัวเองไม่มีใคร อาจจะต้องเป็นข่าวและถูกโจมตีอย่างมาก ณ วินาทีนั้นเรารู้หมดแล้วไม่ใช่เพิ่งรู้ตอนนี้ ตอนนั้นเราคิดแง่ร้ายทุกทางจะเกิดอย่างนั้นอย่างนี้ แต่สิ่งนึงไม่เคยคิดเลยจะเอาเค้าออกไปเพราะว่าหนึ่งชีวิตที่เกิดขึ้นมากับคนหนึ่งคนไม่ใช่เรื่องง่ายและเค้าได้มาเกิดกับเราแล้ว มาอยู่กับเราแล้วแสดงว่าเค้าเป็นลูกของเราจริงๆ เราคิดในแง่คนไทยลูกเราให้คุณเราแน่นอน ถ้าเราคิดทำแท้งทุกวันนี้คงไม่เจริญ ไม่เคยเห็นใครทำแบบนั้นแล้วมีความสุขในบั้นปลาย เราเชื่อเรื่องเวรกรรม”

เคยร้องไห้เสียใจกับเหตุการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้น
“จนถึงวันนี้มีบ้าง เราเป็นคนที่ใจยังมีเลือดมีเนื้อ ทำไมมาทำกับเราแบบนี้ เราจะรู้สึกมันท้อ เราก็ร้องไห้ พอร้องเสร็จก็ไม่มีอะไรได้ปลดปล่อย”

กำลังใจที่ทำให้เรายืนหยัดอยู่ตรงนี้ได้
“เมื่อก่อนจะหาจากคนรอบข้างแต่บางทีมันไม่พอ เวลาโดนอะไรเยอะๆ มันก็เหนื่อยจนแม้แต่ให้กำลังใจตัวเองไม่ได้แต่เวลานี้เอาอยู่ที่สุดเวลาท้อจริงๆ คือการมองหน้าลูก น้องฑีจะชอบทำหน้าทำตาใส่ สนุกสนานใส่ ทำให้เรารู้สึกนี่แหละทำให้เราท้อไม่ได้ อ่อนแอไม่ได้ ร้องไห้ให้เค้าเห็นไม่ได้ ต้องสู้เพื่อคนคนนี้แหละ ให้เค้าเติบโตต่อไปในอนาคต”

เห็นว่าเปิดร้านเล็บ มาจับธุรกิจนี้ได้ยังไง
“หลังจากอยู่แถวๆโชคชัย 4 มานาน เราสนิทกับร้านทำผมหลายร้านเหมือนกัน แล้วลูกค้าอยากทำเล็บ ทางร้านทำเล็บไม่ได้เพราะช่างไม่พอ เราขับรถวนแถวๆ นี้ เราสังเกตไม่ค่อยมีร้านทำเล็บหรือต่อเล็บ หากมีก็จะราคาแพงมาก เลยเห็นช่องทางที่ดี เราทำราคาที่ถูกลูกค้าจะเยอะขึ้น เราเอาปริมาณลูกค้า”

การเพ้นต์เล็บล่ะ
“ทุกวันนี้ก็เรียนรู้แต่ไม่เก่ง ยังต่อไม่เก่งแต่โชคดีครูสอนดี อันไหนลัดให้ได้จะลัดให้เราและตัวครูมาช่วยที่ร้านด้วย มีเด็กที่เพ้นต์ มาทำที่ร้านได้ครูดี เปิดได้เกือบเดือน ก่อนหน้านี้อุปกรณ์ไม่ พร้อม เพราะบางคนอยากทำสปามือ สปาเท้าด้วย คิดว่าร้านเล็บน่าทำได้ เราค่อยๆ เพิ่ม”

ความ เป็นดารา มีข่าวครึกโครม แบบนี้ช่วยได้แค่ไหน
“ไม่เห็นช่วยเท่าไหร่ ลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการ อย่างที่บอกว่าแถวนี้ลูกค้าไม่ค่อยเห็นร้านทำเล็บ มองไม่เห็นป้ายด้วยซ้ำว่าเป็นร้านของใคร เห็นร้านทำเล็บแล้วอยากทำ”

กลัวมั้ยมีลูกชายแล้วเห็นยาทาเล็บอยากทาบ้าง
“ไม่เป็นไร อยากทาก็ทาเพราะว่าจริงๆ แล้ว ณ วันนี้ไม่ว่าจะเป็นลูกชายลูกสาว เป็นเพศที่สาม ถ้าเค้ารักแม่ดีกับแม่ก็จบแล้ว เป็นอะไรก็ได้”

มีกระแสว่าพอมีลูกแล้วแอนไม่ดูแลแม่
“ถ้าคิดว่าแอนไม่ดูแลแม่คงตาบอดหรือหัวใจพิการแล้วล่ะเพราะตลอดเวลาแม่แอนอยู่ต่างจังหวัด แอนไปหาตลอดเพราะที่โน้นจะมีญาติๆ คอยช่วยเหลือ แม่ไม่ยอมมาอยู่กรุงเทพฯ คนต่างจังหวัดจะไม่ชอบอยู่กรุงเทพฯ อากาศที่โน้นยังไงก็ดีกว่า แต่ให้แอนกลับไปอยู่ตรงโน้นไม่มีงานให้เราทำ เราอยู่แบบนี้มา 10 ปี ไม่มีปัญหา เพราะมีไรโทร.คุยกันทุกวันเหมือนแม่ลูกปกติ แอนเลี้ยงแม่ตั้งแต่อายุ 19 แล้ว เงินทองไม่ใช่ปัญหา ไม่ใช่ว่าแอนมีลูกแล้วไม่ดูแล ยังไงแม่ก็มาก่อนอยู่แล้ว ล่าสุดแอนก็เพิ่งกลับมาจากลำปางเพราะแม่ไม่สบาย หมอวินิจฉัยเป็นโรคพุ่มพวง แอนก็ตีรถจากกรุงเทพฯกลับบ้านพาแม่ไปหาหมอเอง ไม่ได้ยากลำบากอะไร”

ความรักครั้งต่อไปล่ะเปิดหรือเข็ด
“ไม่ค่ะ เมื่อก่อนเคยคิดว่าไม่ไหวแล้ว เข็ดมากเลย ณ วันนี้ ถ้าสักวันนึงจะมีคนที่ดีจริงๆ เป็นผู้ชายที่เป็นผู้ชายจริงๆ เป็นสุภาพบุรุษจริงๆ ผู้ชายร้อยเปอร์เซ็นต์จริงๆ และต้องรักลูกชายเราด้วยทั้งต่อหน้าและลับหลัง ไม่สนว่าสิ่งที่เกิดขึ้นจะเป็นยังไง รักลูกเรา ขนาดคนอื่นเห็นน้องฑี เค้ายังรักน้องฑีมาก เพราะฉะนั้นคนต่อไปที่จะมาเป็นคู่ชีวิตเรา จะต้องรักลูกเราจริงๆ แต่แอนเชื่อว่าน้องฑีทำให้ใครๆรักเค้าได้ไม่ยาก ถ้าเป็นคนแบบนั้นเข้ามาก็พิจารณา”

มีคนเข้ามาบ้างมั้ย
“มีคนเข้ามาบ้างเค้าก็ชื่นชมเรา เข้มแข็ง เราต่อสู้ได้ ไม่ได้ท้อ ไม่ได้ถอยแบบนี้ก็ยังมีคนชอบนะ (หัวเราะ)”




 

Create Date : 24 มิถุนายน 2555
0 comments
Last Update : 24 มิถุนายน 2555 8:55:28 น.
Counter : 1812 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


ลูกโป่งลอยฟ้า_ชิงช้าสวรรค์
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 63 คน [?]




New Comments
Friends' blogs
[Add ลูกโป่งลอยฟ้า_ชิงช้าสวรรค์'s blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.