เก็บศพ"ภาวนา 100 วันจับตาตรวจสอบมรดกญาติไม่หยุดหาความจริง
เก็บศพ ''ภาวนา ชนะจิต'' 100 วัน น้องสาวพร้อมครอบครัวออกรายการเรื่องเด่นเย็นนี้ ย้ำยังคาใจผลชันสูตรเบื้องต้น ยันที่ยังสงสัยเหตุตายของนางภาวนาไม่เกี่ยวแย้งสมบัติ
ขณะที่บุตรบุญธรรมลั่นต้องการเจรจากับอีกฝ่าย แต่ติดต่อไปแล้วไม่ได้รับการตอบรับ จากนี้ไปให้ทนายจัดการทั้งหมด และไม่ขอพูดถึงเรื่องมรดกอีก หวั่นอนาคตการเรียน เพราะช่วงแม่มีอยู่ชีวิต จะให้เงินทุกเดือน ตอนนี้ทุกอย่างโดนอายัด เผยบ้านเลขที่หายไปจากเดิม มีการเปลี่ยนเลขที่ใหม่ เลยไม่รู้ว่าบ้านหลังนี้ของใครกันแน่
ดูท่าจะเป็นหนังม้วนยาวซะแล้ว สำหรับเรื่องราวการเสียชีวิตตอนเช้าของอดีตดาราสาวดาวค้างฟ้า นางอรัญญาภรณ์ เหล่าแสงทอง ชื่อเล่น หยิน หรือ ''ภาวนา ชนะจิต'' อายุ 69 ปี อดีตนางเอกภาพยนตร์ชื่อดัง เจ้าของฉายา ''ไข่มุกเอเชีย''หลังจากเมื่อช่วงเช้ามืดวันที่ 10 ก.ย. ที่ผ่านมา มีคนไปพบศพ นางภาวนา อยู่ในบ่อน้ำภายในบ้านของเธอเอง ที่ อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม
เบื้องต้นผลชันสูตรจากนิติเวช และ ผลการสืบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจค่อนข้างสอดคล้องกัน โดยสรุปว่าผู้ตาย คือ นางภาวนา ชนะจิต นั้น เสียชีวิตจากการจมน้ำ โดยสันนิษฐานว่า ผู้ตายอาจจะผลัดตกบ่อไปเอง หรือเกิดอาการวูบชั่วขณะทำให้เกิดเหตุสลดในครั้งนี้ได้ ขณะที่ก่อนหน้านี้ฝ่ายครอบครัวของผู้ตาย เชื่อว่าการเสียชีวิตมีที่มาจากการถูกฆาตกรรม เนื่องจาก ''ภาวนา ชนะจิต'' มีฐานะทางการเงินที่ร่ำรวย โดยก่อนหน้าผู้ตายจะเสียชีวิตหลายเดือน ได้มีปากเสียงกับ นายณัฐพงษ์ หลวงศิริกุล สามีของนางภาวนาอยู่เป็นประจำ จึงทำให้ญาตๆ ของนางภาวนาสงสัยถึงสาเหตุการตายของพี่สาวในครั้งนี้ ขณะที่สามีนอกสมรสนายณัฐพงษ์ ก็ยืนยันว่าตนนั้นไม่เกี่ยวข้องกับการเสียชีวิตของอดีตนางเอก เพราะช่วงเกิดเหตุตนนั้นไม่ได้อยู่บ้าน
ส่วนเรื่องมรดกที่คาดว่านางภาวนานั้นมีทรัพย์สินหลายร้อยล้าน ยังไม่ได้มีการจัดการอะไรทั้งสิ้น เพราะยังอยู่ในช่วงของการจัดพิธีศพให้นางภาวนา ซึ่งทั้งทางฝ่ายญาติ และสามีก็ได้ต่างคนต่างจัดงานศพให้กับนางภาวนา
ล่าสุด เมื่อเวลา 18.30 น. วันที่ 17 ก.ย. 55 ที่ผ่านมา นายอภิชา เหล่าแสงทอง อายุ 21 ปี บุตรบุญธรรมของอดีตนางเอก พร้อมด้วย นางหัถยา เหล่าแสงทอง มารดา และเป็นน้องสาวของภาวนา และ นายพันธ์ยศ รัตนพรพาณิชย์ สามีได้เดินทางไปร่วมรายการ ''เรื่องเด่นเย็นนี้'' ที่ดำเนินรายการโดย สรยุทธ สุทัศนะจินดา เพื่อร้องเรียน เรื่องราวการตายของนางภาวนา โดยทั้ง 3 คนยังไม่ปักใจเชื่อผลการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจในเบื้องต้น ที่สรุปว่านางภาวนาตายจาก
การจมน้ำ
ซึ่งพิธีกรรายการได้เล่าถึงที่ไปที่มาของคดีนี้ พร้อมกับนำสำนวนการสอบสวนการสันนิษฐานเบื้องต้นของตำรวจมาสรุปให้ครอบครัวของนางภาวนาฟังอีกครั้งหนึ่ง ก่อนจะถามถึงสาเหตุที่มาร่วมรายการในวันนี้ ต้องการจะบอกอะไร โดยนายอภิชากล่าวถึงข้อสงสัยแรกในการสรุปของตำรวจที่บอกว่า แม่ของตนนั้นได้เดินไปให้อาหารปลาที่บ่อน้ำ ซึ่งบ่อดังกล่าวนั้นไม่เคยมีปลา วันที่ตำรวจมาสูบน้ำออกก็ไม่พบว่ามีปลา
''บ่อนั้นมันไม่มีปลาครับ แต่ตำรวจบอกว่าไปให้อาหารปลา ผมจึงคิดว่ามันฟังดูแปลกๆ ครับ คุณแม่อาจจะไปที่บ่อจริง แต่น่าจะไปไว้เจ้าแม่มากกว่าครับ อย่างวันที่ตำรวจมาสูบน้ำที่บ่อออก ก็ไม่ได้พบว่ามีปลาอะไร''
พิธีกรสรยุทธถามต่ออีกว่า แล้วสงสัยที่ไหนอีกที่ยังติดใจอยู่ ลูกบุญธรรมอดีตนางเอกดังเผยต่อว่า ถึงแม้จะยังไม่มีหลักฐานอะไรที่ชี้ชัดถึงสาเหตุการตายของแม่ตน แต่พฤติกรรมบางอย่างก็ยังดูน่าสงสัยอยู่
ด้านนายพันธ์ยศ กล่าวเสริมว่า อย่างเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาที่ตนพาตำรวจเข้าไปที่บ้านผู้ตายก็เพื่อดูเอกสารหลักฐานต่างๆ เผื่อจะมีอะไรที่สามารถบอกถึงสาเหตุการตายของพี่สาวตน ซึ่งตนได้ขอความร่วมมือจากคุณเปรมในเรื่องนี้
พิธีกรฝีปากกล้าถามต่อว่า เรื่องที่ยังไม่จบนี้เป็นเพราะเรื่องของแย่งชิงสมบัติใช่หรือไม่
นายพันธ์ยศรีบปฏิเสธทันที โดยบอกว่าไม่เกี่ยวกับเรื่องของการแย่งชิงสมบัติอะไร เพราะเรื่องดังกล่าวมันจบไปตั้งแต่เมื่อ 21 ปีก่อนแล้ว เพราะขณะนี้น้องไต๋ (นายอภิชา)บรรลุนิติภาวะเรียบร้อยแล้ว มีสิทธิ์ชอบธรรมตามกฎหมาย ตนเป็นพ่อแท้ก็ไม่สามารถไปยุ่งได้ แต่ที่ต้องเข้าไปที่บ้าน เพราะอยากจะหาสาเหตุการตายที่แท้จริงของพี่สะใภ้ตนเท่านั้นเอง
''อาทิ ตั๋วรับจำนำที่ไปไถ่คืนมา จำนำไว้ที่ไหน เราจะได้ไปไถ่คืนมา เพราะก่อนพี่สะใภ้ตนจะเสียชีวิตเคยเล่าให้ฟังว่า เคยมีคนงานขโมยเพชรพลอยไป และคุณเปรม (นายณัฐพงษ์) ก็ไปสืบทราบมาและรู้ว่าคนงานที่ขโมยไป ไปจำนำเพชรพลอยไว้ที่ไหน ซึ่งพี่สะใภ้ได้ไปไถ่คืนมาแล้ว เราก็เลยอยากรู้ว่า ตั๋วจำนำที่ว่านี่ยังอยู่ไหม ไปจำนำไว้ที่ใคร ซึ่งมันอาจจะใช้ในการสืบเสาะถึงสาเหตุการตายของพี่สาวได้ เอกสารการซื้อขาย การโอนใบมอบต่างๆ อะไรมีไหม ที่พอจะชี้ชัดได้ว่า สาเหตุการตายของพี่สะใภ้มาจากอะไร''
พูดง่ายๆ ว่าจะไปดูธุรกรรมในช่วงที่ผ่านมาว่า จะมีพิรุธอะไรหรือเปล่า สรยุทธถาม
ซึ่งนาย พันธ์ยศ กล่าวยอมรับว่าที่ต้องการเข้าไปดู เพราะต้องการจะดูว่ามีพิรุธอะไรเกี่ยวกับการทำธุรกรรมของนางภาวนาในช่วงที่ผ่านมา
นายสรยุทธยังได้ถามไถ่ถึงภาพที่ออกสื่อในวันที่เกิดเหตุ ที่ทางนายอภิชาเข้าไปยื้อแย่งถุงอะไรบางอย่าง ซึ่งดูเหมือนการทะเลาะแย่งสมบัติกัน ซึ่งวันต่อมามีการทวงคืนกัน นายอภิชาก็ได้ชี้แจงว่า ในวันที่เกิดเหตุมีคนอยู่มากมาย ตนไม่ต้องการการสูญหายทรัพย์สินของแม่ตน ตนจึงได้ทำอย่างนั้นไป ซึ่งถุงที่หยิบมาก็มีเครื่องประดับและพระเครื่องจำนวนไม่มาก
''ที่บ้านมีคนงานอยู่เยอะครับ ขณะที่กำลังค้นหา ก็เห็นคนงานป้วนเปี้ยน ผมจึงพยายามเก็บของของแม่ผม เพื่อป้องกันการสูญหาย ในนั้นก็มีพวกเครื่องประดับพระนิดๆหน่อยๆ ครับ''
นอกจากนี้ทั้ง 3 คนยังได้ยืนยันถึงสาเหตุการเข้าไปในบ้านของอดีตนางเอกว่า เป็นเพียงการหาหลักฐานไม่ได้มีความกังวลในเรื่องทรัพย์สมบัติแต่อย่างใด
นางหัถยาน้องสาวผู้ตายยังได้เล่าถึงพฤติกรรมบางอย่างที่น่าสงสัยของนายณัฐพงษ์ ให้พิธีกรฟังถึงวันที่ทุกคนค้นหาศพผู้ตายว่า นายณัฐพงษ์ เป็นห่วงกระเป๋าที่ลูกของตนหยิบมา โดยออกมาทวงกระเป๋าใบดังกล่าวคืน เพราะเข้าใจว่ามีเอกสารอะไรบางอย่าง จนทำให้มีปากเสียงถึงขั้นยิงปืนขู่
''วันที่เอากระเป๋าใบดังกล่าวไปเก็บ เพราะเรายังหาตัวพี่สาวไม่เจอเลย ทำไมเขาถึงห่วงเอกสารตรงนั้นค่ะ สิ่งสำคัญคือ ชีวิตพี่สาว เรามีความรู้สึกว่ามันผิดปกติที่พี่สาวหายตัวไป 5-6 ชั่วโมง ที่มีการค้นหายังไม่เจอเลย ทำไมต้องมาห่วงของตรงนี้ก่อน นี่คือปมอันนึงที่ฉันสงสัยมาก เขาพยายามมาทวงคืน จริงๆ แล้วคืนนั้นเขาเอาส่วนนึงไปเก็บแล้ว น้องไต๋ก็เอาไปเก็บส่วนนึง แต่เรื่องนี้แหละที่ทำให้บันดาลโทสะ จนเขาหยิบปืนมาไล่ยิง''
พิธีกรถามกลับน้องสาวอดีตดาราดังว่า ทางนั้นคือนายณัฐพงษ์หาว่าทางเราไปด่าว่าเขาเป็นแมงดา เกาะผู้หญิงกิน นางหัถยาตอบแต่เพียงว่า มีการโต้เถียงกัน แต่สาเหตุแรกเริ่มเกิดจากการที่ทางนายณัฐพงษ์มาทวงเอกสาร ซึ่งตนไม่ได้เอาไปก็เลยโต้เถียงกัน แต่การที่ทางนั้นเอาปืนมาไล่ยิงตนนั้นทำไม่ถูก ตนจึงติดใจในเรื่องนี้
หลังจากนั้นพิธีกรจึงได้ถามถึงเรื่องการจดทะเบียนเป็นบุตรของนายอภิชา ว่าเริ่มขึ้นตั้งแต่เมื่อไหร่ ซึ่งนายอภิชากล่าวว่า ตนได้จดทะเบียนเป็นบุตรนางภาวนาตั้งแต่มกราคม ปี พ.ศ. 2535
นางหัถยายังได้กล่าวเสริมว่า ''ดิฉันตั้งใจให้เกิด เพราะพี่สาวไม่มีลูก โอเคเราเลยมอบให้เขา แล้วเขาก็รับถูกต้องตามกฎหมายตั้งแต่สมัย อ.ไพจิตร ค่ะ สมัยนั้นเขาคบหากับ อ.ไพจิตร อยู่ มันก็ 21 ปีตามอายุเขาค่ะ''
นายอภิชา : ''ก็อยู่กับแม่หยินตั้งแต่เด็กเลยครับ อยู่กับแม่ตั้งแต่ ซ.ศูนย์วิจัย ครับ อยู่ด้วยกันมาตลอด เพิ่งมามีช่วง 5-6 ปีที่เราย้ายมาอยู่บ้านนี้ ผมก็อยู่หอของโรงเรียน แล้วก็ย้ายมามหาวิทยาลัย''
ถามถึงที่ผ่านมาเราเห็นยังไงที่แม่เราอยู่กับคุณเปรม พิธีกรรายการเรื่องเด่นเย็นนี้ถาม เพราะทางนั้นเขาบอกว่าได้ทะเลาะกัน
อภิชา: ''อันนี้ ร้อยเปอร์เซ็นต์เลยครับ คือ จริงตามหลักที่คนอยู่ด้วยกันจะไม่ทะเลาะกัน ก็ต้องมีปากเสียงกัน คือแม่ผมเป็นคนปากไวด้วยครับ เขาก็จะทะเลาะมีปากเสียงกันอย่างรุนแรงหลายๆ รอบด้วยกัน แต่ยังไม่ถึงขั้นลงไม้ลงมือ มีปากเสียงกันเป็นประจำครับ อาทิตย์นึงต้องมีครั้งนึง ส่วนมากเวลาทะเลาะกันเสร็จคุณเปรมจะหายไปไหนสักพักนึงแล้วเขาก็จะกลับมา''
ในมุมของอีกฝั่งเขาก็อ้างว่า เขาก็อยู่กินกันมาถึงแม้จะไม่ได้จดทะเบียน แต่เขาก็มีสิทธิ์ในทรัพย์สินที่หามา เพราะตลอดระยะเวลาที่อยู่ด้วยกัน ก็ต่างคนต่างช่วยกันทำ ตรงนี้ เราว่ายังไง พิธีกรสรยุทธถาม ลูกชายอดีตนางเอกดัง ตอบว่า ตนอยากบอกว่าทรัพย์สินของแม่ตนนั้นเยอะมาก มีเยอะมาตั้งแต่ก่อนที่แม่ของตนจะคบกับ นายณัฐพงษ์ แต่ถามว่ามีอะไรบ้าง ตนก็ยังไม่แน่ใจ เพราะคงต้องสืบค้นอีกที ตนอยากบอกว่าทรัพย์สินใดที่ระบุว่าเป็นของพ่อบุญธรรมของตน ตนก็รับ
ได้ไม่ได้จะติดใจอะไร
ด้านนายพันธ์ยศ กล่าวเสริมว่า ''เรื่องนี้เราไม่ได้ติดใจอะไร เพราะว่าถ้าเป็นเงินที่เขาลงทุนทำมาด้วยกันจริงๆ โดยที่ไม่ได้แอบแฝงอย่างอื่น เราไม่ได้สนใจตรงนี้เลย ก็ต้องพิสูจน์กันครับว่า ที่ไปที่มาเป็นอะไร ของอย่างนี้มันพิสูจน์ได้ไม่ใช่เหรอ อย่างที่ดิน 16 ไร่ เขาซื้อมาตั้งแต่เมื่อไหร่หละครับ เขาซื้อมาตั้ง 30 ปีแล้ว เพิ่มอีก 1.2 ไร่ ซื้อจาก ธกส. อาจจะซื้อมาในช่วงที่อยู่ด้วยกัน คือ ต้องพิสูจน์กันว่าเงินของใคร เขามีเงินมาลงทุนไหม ถูกต้องเหรอเปล่า ไม่น่ามีปัญหาอะไรในเรื่องนี้ เรารับได้อยู่แล้ว แต่ขอให้มันเป็นจริง อย่างเรื่องพินัยกรรมที่เข้าไปหา เพราะว่าเราไม่รู้จริงว่าทางพี่สะใภ้เขาทำไว้หรือเปล่า ถ้าเขาทำไว้เราก็จะได้สานต่อเจตนารมณ์ แต่ที่เราเข้าไปก็ไม่ค่อยได้รับความร่วมมือเท่าที่ควร หลังจากเสร็จงานศพก็คงจะนัดญาติพี่น้องทางสายเลือดเดียวกันมารวมกันก่อน แล้วก็หารือกันดูว่าจะดำเนินการในขั้นตอนไหน เพราะในเรื่องกฎหมายในเรื่องทนายเราก็ยังไม่มีเลย''
''ต่างกับทางฝั่งโน้นพอพี่สาวเสียปุ๊บก็ตั้งทนาย 7 คนพร้อมสแตนด์บาย เจตนาเจาะจงไปหรือเปล่า ในฐานะที่ผมอยู่ในที่เกิดเหตุ ผมพบศพเป็นคนแรกทำไมไม่สอบสวนผมเลยหละ ผมเป็นคนอุ้มศพขึ้นมา''
ทางฝั่งโน้นอุ้มไม่ใช่เหรอ สรยุทธถามกลับ
''ผมเป็นคนไปพบครับ ผมยืนยัน ผมถึงบอกว่าทำไมเขาถึงไม่มาสอบเรา''
นายอภิชา : ''ถ้าเขาหามาจริงผมก็ไม่มีปัญหา คือจริงๆผมก็ไม่ได้ต้องการมาแย่งกับใครครับ แต่ว่าผมแค่ต้องการรักษาสิ่งที่แม่ผมเก็บหอมรอมริบสร้างมา คือ เขาสร้างมาด้วยตัวเขาตั้งแต่แรก แล้วถ้าเกิดวันดีคืนดีจะมีใครมาเอาไป ผมรู้สึกว่ามันเป็นสิ่งของของแม่ผมที่ผมควรจะปกป้องเอาไว้ ''
อยากจะฝากอะไรปิดท้ายไหม พิธีกรถาม
นางหัถยากล่าวปิดท้ายว่า ''ตนอยากจะวิงวอนทุกฝ่ายไม่ว่า ผลจะออกมายังไงให้เป็นไปตามกฎหมายและกฎแห่งกรรม''
นายอภิชา: ''บุญคุณของม่าหม้าชาตินี้ผมคงไม่มีโอกาสได้ทดแทนแล้วครับ สิ่งเดียวเท่านั้นคือการสานต่อเจตนารมณ์ของเขาสิ่งที่เขาสอนคือ การเป็นคนดีอย่างสม่ำเสมอครับ''
วันเดียวกันนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าในคดีอดีตดาราหนังชื่อดังเจ้าของรางวัลตุ๊กตาทอง จนได้ฉายา ''ไข่มุกเอเชีย'' นางอรัญญาภรณ์ เหล่าแสงทอง หรือ ภาวนา ชนะจิต อายุ 69 ปี ที่เสียชีวิตจากการจมน้ำในบ่อน้ำพุภายในบ้าน เมื่อวันที่ 9 ก.ย. 55 ที่ผ่านมา ตอนนี้ได้นำศพเก็บไว้ 100 วัน ที่ศาลา 1 วัดมกุฏกษัตริยาราม ญาติไม่หวั่นกลัวศพหาย เพราะมีคนดูแลล็อกไว้อย่างดี
"ไต๋" อภิชา เหล่าแสงทอง บุตรบุญธรรม กล่าวว่า ได้ไปออกรายการเรื่องเด่นเย็นนี้มากับพ่อและแม่ ก็ไม่มีอะไรมากมาย เป็นประเด็นเดิมเรื่องการจัดการมรดก ที่ไปออกรายการนี้ก็เพราะคุณสรยุทธ สุทัศนะจินดา เชิญมาไม่ได้ไปออกเพราะต้องการสร้างภาพแต่ประการใด ส่วนเรื่องคดีตอนนี้ก็รอผลจากพยาธิวิทยา ผลของเลือดและเนื้อเยื่อในกระเพาะ คาดว่าคงประมาณ 1 อาทิตย์ถึงทราบผล
ส่วนผลจะออกมาอย่างไรก็จะเดินหน้าหาความจริงต่อไป เพราะยังสามารถอุทธรห์ได้
''ที่ผมห่วงที่สุดก็คือ ตอนนี้ผมยังเรียนหนังสืออยู่ในชั้นปีที่ 4 ผมไม่มีรายได้มาจากไหน ตอนแม่ยังอยู่ท่านก็ให้ความดูแลผมตลอด ตอนนี้การจะเบิกเงินจากธนาคารมาใช้ยุ่งยาก เพราะต้องให้ศาลสั่ง ผมเลยกลัวว่าถ้าคดีนี้ยืดยาวไป ผมจะเรียนจบรึเปล่า ส่วนเรื่องบ้านที่นครปฐม ตอนนี้ก็เกิดเรื่องน่าสงสัยขึ้นมาอีก คือ จากเดิมบ้านที่แม่อยู่จะเลขที่ 44/12 แต่ปัจจุบันนี้กลับมาเป็นบ้านเลขที่ 44/22 ก็เลยงงครับว่า ทำไมถึงเป็นแบบนี้ ก็เลยต้องตรวจสอบกันต่อไปครับ จริงๆ แล้วมันเกิดอะไรขึ้น ก็ต้องใช้เวลาอีกสักพักครับ เพราะยังไงซะแล้วความจริงก็คือความจริง''
สำหรับคนบันเทิงที่มาร่วมงาน อาทิ ประจวบ จำปาทอง, อ.ไพจิตร ศุภารี, ดู๋ ดอกมะกัน, น้ำตาล น้ำเพชร เป็นต้น
| Create Date : 18 กันยายน 2555 |
| Last Update : 18 กันยายน 2555 2:54:55 น. |
|
0 comments
|
| Counter : 2045 Pageviews. |
 |
|
|
|
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 63 คน [
