''ณัฏฐ์''ซิ่งเบนซ์ชนจยย.หวิดดับ!
พระเอกหนุ่ม ณัฏฐ์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา ขับรถเบนซ์ส่วนตัวพุ่งชนรถมอเตอร์ไซค์จนได้รับบาดเจ็บสาหัส ผ่าตัดซี่โครงและเชิงกราน หลังกำลังไปถ่ายละครที่ จ.ระยอง ด้านเจ้าตัวแถลง พร้อมดูแลและขอรับผิดชอบค่ารักษาพยาบาลและค่าเสียหายทั้งหมดจนกว่าผู้ได้รับบาดเจ็บจะหายดี เผยผวาไม่ขับรถเองไปสักระยะหนึ่ง
ถือเป็นนักแสดงหนุ่มมากความสามารถอีกหนึ่งคนเลยก็ว่าได้ สำหรับพระเอกหนุ่ม ณัฏฐ์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา โดยผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้รับแจ้งว่าเกิดอุบัติเหตุรถชนบริเวณหน้าโรงแรมระยอง ชาเล่ต์ ถนนสายบ้านเพ-แกลง-กล่ำ ซึ่งมีพระเอกหนุ่มชื่อดัง ณัฏฐ์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา เป็นผู้ขับรถเบนซ์สีขาว รุ่น E Class Saloon ทะเบียน ภม 95 กทม. ที่จอดอยู่ข้างทางสภาพไฟด้านหน้ารถฝั่งซ้ายแตก กระจกหน้าแตกละเอียด และห่างไปเล็กน้อยก็ได้มีรถจักรยานยนต์ ฮอนด้า เวฟ ที่ดัดแปลงเป็นรถพ่วงขาดกระเด็นเป็น 2 ท่อน ข้างๆ มี นายอภิวัฒน์ ควรหา ผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ได้รับบาดเจ็บสาหัส ถูกนำส่ง รพ.แกลง และย้ายไปที่ รพ.ระยอง
รายงานข่าวแจ้งว่าพระเอกหนุ่ม ณัฏฐ์ ได้ขับรถกลับหลังเลิกจากการถ่ายละครที่ จ.ระยอง ซึ่งกำลังขับรถมุ่งหน้าไปบ้านเพ เมื่อถึงที่เกิดเหตุ ได้ขับรถตามรถจักรยานยนต์พ่วงข้างคันดังกล่าว และได้เร่งเครื่องเพื่อแซงแต่ไม่พ้น พุ่งชนท้ายรถจักรยานยนต์พ่วงข้างเต็มแรง ทำให้ร่างของ นายอภิวัฒน์ ควรหา ผู้ขับขี่มอเตอร์ไซค์กระเด็นลอยตกลงมาใส่กระจกหน้ารถเก๋งเบนซ์แตกละเอียด
ล่าสุด เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 1 ธ.ค. 54 พระเอกหนุ่ม ณัฏฐ์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา ได้ออกมาแถลงข่าวเกี่ยวกับกรณีขับรถชนคนจนได้รับบาดเจ็บสาหัสที่ จ.ระยอง ต่อหน้าสื่อมวลชนจำนวนมาก ณ อาคารจันทร์สว่าง ย่านสวนสยาม ซึ่งหนุ่มณัฏฐ์ก็ได้เล่ารายละเอียดเหตุการณ์อุบัติเหตุดังกล่าวด้วยน้ำเสียงระทึกว่า
''เมื่อวานนี้ครับ ตอนประมาณบ่ายโมง จริงๆ คือขับรถไปตั้งแต่วันจันทร์แล้ว เป็นช่วงที่ผมพักเที่ยงพอดี ผมก็ลืมเก็บของที่ห้องพัก แต่ได้เช็กเอาต์ออกมาก่อน ระยะห่างจากที่พักประมาณ 80 กม. ครับ เราก็ขับมาประมาณ 80 เพราะว่าแถวนั้นเป็นเขตชุมชนอยู่แล้วครับ อีกอย่าง ปกติผมไม่ได้เป็นคนขับรถเร็วอยู่แล้วครับ นอกเสียจากว่าถนนโล่ง คือตอนที่ขับกลับเราก็ขับตามเลนเราอยู่แล้ว พอถึงจุดเกิดเหตุก็มีรถของผู้ที่ได้รับบาดเจ็บขับมาเจอกันกลางถนน เป็นเหตุสุดวิสัยจริงๆ ครับ เราไม่ได้พุ่งไปหาเค้า คือมันเป็นการที่คนละทางแล้วมาเจอกัน คือเป็นเลนเดียวกันครับ แต่ว่าเราก็ไม่ได้หาคนผิดคนถูก แต่มันเป็นเหตุสุดวิสัยจริงๆ ด้วย เพราะผมเบรกไม่ทันแล้ว มันอยู่ระยะกระชั้นชิดจริงๆ ครับ ก็เลยชนไป พอชนเสร็จปุ๊บ ผมก็ตั้งสติได้ก็รีบลงไปดูเค้าเลย เราไม่ได้หนีหายไปไหน เราก็ยังอยู่ตรงนั้น ก็เป็นห่วงเค้ามาก แล้วก็มีชาวบ้านวิ่งเข้ามาผมเห็นเค้าถือวิทยุอยู่ผมเลยบอกว่าให้เค้าเรียกรถพยาบาลให้หน่อย ช่วงนั้นก็มีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติวิ่งเข้ามาดูแล้วจะจับตัวเค้า ผมก็บอกเป็นภาษาอังกฤษไปว่าอย่าจับตัวเค้า เพราะเรากลัวว่าเค้าจะมีกระดูกหักอะไรหรือเปล่า ยังไม่ควรที่จะเคลื่อนย้ายเค้าก่อนที่แพทย์จะมา แต่ก็ดีมากเลยที่มีนักท่องเที่ยวคนนึงเค้าเป็นแพทย์ด้วย ก็เลยเข้ามาปฐมพยาบาลเค้าก่อนเลยแล้วก็รอรถพยาบาลมา ผมก็อยู่ตรงนั้นไม่ได้เดินหายไปไหนเลย แล้วก็รีบโทร.แจ้งประกัน แล้วผมก็เดินมาดูคนเจ็บ แต่หลังจากที่นำคนเจ็บขึ้นรถแล้ว ผมก็ถึงได้ขึ้นรถตู้กองถ่ายไปที่ สน.บ้านกล่ำ ซึ่งเป็น สน.พื้นที่ของที่เกิดเหตุ ซึ่งเราต้องไปสอบปากคำตามระเบียบอยู่แล้ว คือผมไปเองเลยครับ''
ผู้สื่อข่าวถามต่อว่าอาการของคนเจ็บเป็นอย่างไรบ้าง หนุ่มณัฏฐ์ก็ได้เล่าว่าขณะนั้นผู้ได้รับบาดเจ็บยังมีสติอยู่ และหลังจากนั้นตนเองก็ได้โทรศัพท์ไปสอบถามตลอดเวลาด้วยความเป็นห่วง พร้อมได้ส่ง ผจก.ส่วนตัว ไปพูดคุยเรื่องค่ารักษาพยาบาลและแสดงความรับผิดชอบทุกอย่างกับครอบครัวของนายอภิวัฒน์แล้ว
''คือตอนนั้นเค้ายังมีสติอยู่ครับ เค้าก็พยายามจะลุก แต่เราก็บอกเค้าว่า พี่ครับ...อย่าเพิ่งลุก ไม่ได้สลบอะไรเลย หลังจากให้คำให้การเบื้องต้นแล้วก็ลงบันทึกประจำวันแล้ว ผมก็ถามตำรวจว่า ผมต้องทำอะไรต่อ ต้องไปเยี่ยมคนไข้ไหม เค้าก็บอกว่าคนไข้ก็คงเข้าห้องฉุกเฉินอยู่ เดี๋ยวรอเค้าติดต่อไปแล้วกัน ผมก็ร้อนใจจึงชวนพี่ทีมงานขับรถไปที่เกิดเหตุอีกครั้ง พอดีได้เจอคุณพ่อของพี่อภิวัฒน์ ซึ่งเค้าน่ารักมาก เค้าก็ได้คุยกับพี่ทีมงานว่าจะได้ย้ายลูกจาก รพ.แกลง ไปที่ รพ.ระยอง เราก็ขอเบอร์เค้าไว้เลย แล้วเราก็ขอกลับไปทำงาน เพราะปัญหาก็เกิดเรื่องขึ้นมาแล้ว เราก็ต้องแก้กันไป ส่วนงานผมก็ต้องทำ ไม่อยากให้งานผมเสีย แต่เราก็เป็นกังวลอยู่ตลอด ผมก็โทร.เช็กตลอดเลยครับว่าอาการเป็นยังไงแล้ว จนกระทั่งประมาณ 1-2 ทุ่ม ก็เลยได้มีโอกาสบอกพี่ทีมงานว่า ผมไม่ไหวแล้วนะ ไปเยี่ยมเค้าก็เถอะ คือเราร้อนใจ เราไม่อยากให้เค้ารู้สึกว่าเราทอดทิ้งและเราไม่รับผิดชอบ และเราก็ไม่ได้ตั้งใจ มันเป็นอุบัติเหตุจริงๆ เราจะดูแลเค้าจนกว่าเค้าจะหาย
เบื้องต้นตอนแรกก็ให้เค้าไปก่อนเลย 1 หมื่นบาท แล้วหลังจากนั้นเรื่องของค่าเสียหาย มอเตอร์ไซค์ที่พัง ก็ให้ประกันเคลียร์อีกรอบนึง ส่วนเรื่องของคดีก็ให้ตำรวจเคลียร์ไป คือเราก็ชัดเจนทุกเรื่อง ให้ตำรวจดำเนินการตามขั้นตอนทุกอย่าง ไม่ได้หนีหายไปไหนครับ แต่ตอนนี้ผมต้องถ่ายละคร 7 วันเลย ยังเคลียร์คิวไม่ได้จริงๆ แต่ยังไงผมก็ต้องหาโอกาสไปเยี่ยมพี่อภิวัฒน์ให้ได้ ส่วนเมื่อวานพี่เค้าเข้าห้องผ่าตัดครับ ผ่าตัดซี่โครง ก็ปลอดภัยเรียบร้อย ตอนนี้คุณหมอบอกว่าอาจจะต้องพาเข้าห้องผ่าตัดอีกรอบหนึ่งเพื่อผ่าตัดเชิงกราน แต่ก็ยังไม่คอนเฟิร์มว่ายังไง แต่ตอนนี้คุณแม่กำลังเดินทางไประยองเพื่อไปจัดการเรื่องคดี แล้วก็ไปดูแลด้วยครับ ซึ่งทางครอบครัวพี่เค้าก็ไม่ได้เรียกร้องอะไรด้วย แต่ด้วยความที่เราแสดงตัวตั้งแต่ตนแล้ว เค้าก็บอกว่าเค้าดีใจที่เราไม่ทอดทิ้งเค้า เราก็รู้สึกว่าเราดีใจนะที่เราตั้งใจดีให้เค้าเห็น''
ต่อข้อซักถามว่าตัวของหนุ่มณัฏฐ์ได้รับบาดเจ็บตรงไหนบ้างหรือเปล่านั้น ดาราหนุ่มก็ได้กล่าวว่า ตนเองไม่เป็นอะไร แต่รู้สึกเสียใจที่เกิดเหตุการณ์อย่างนี้ขึ้น
''ผมไม่เป็นอะไรครับ แต่ผมรู้สึกเสียใจมากกว่า เพราะเกิดเหตุการณ์อย่างนี้ขึ้น ผมไม่ห่วงรถเลยนะ ผมห่วงคนมากกว่า คือตอนนั้นจิตใจผมตกไปอยู่ที่ตาตุ่มแล้วว่าเค้าจะเป็นอะไรไหม คือกลัวเค้าเป็นอะไรมาก ก็อยากให้ทุกคนเข้าใจ ไม่ต้องกลัวว่าผมไม่ดูแล ผมดูแลเค้าเต็มที่จนกว่าจะหายแน่นอน (ใจยังเสียอยู่ไหม?) โชคดีที่ผมเป็นคนจิตใจที่นิ่งมาก แล้วมีสติทุกครั้งที่เกิดเรื่องฉุกเฉินหรือเป็นเรื่องที่ใช้สตินำมาก่อน ผมจะไม่ตื่น เราจะรู้ว่าเราต้องทำอะไรก่อน หลังจากเกิดเรื่องผมได้แจ้งทางพี่บอยแล้วครับ พี่บอยก็บอกว่ามันเป็นอุบัติเหตุที่ไม่อยากมีใครให้เกิด เค้าก็บอกให้เราทำหน้าที่ดูแลเค้าให้เรียบร้อย ให้เค้าหายนะ แล้วก็ต้องแยกแยะเรื่องงานกับเรื่องนี้ให้ควบคู่กันไป''
จากนั้นผู้สื่อข่าวได้ถามต่อว่าจะเป็นอุบัติซ้ำรอยของครอบครัว ''เทพหัสดิน'' หรือเปล่า? เนื่องจากก่อนหน้านี้น้องสาวของ ''หนุ่มณัฏฐ์'' ก็ได้ขับรถชนคนเสียชีวิตจนเป็นข่าวครึกโครมไปแล้วนั้น ดาราหนุ่มก็ได้ชี้แจงว่า ตนเองไม่อยากให้ดึงมาโยงกัน แต่อยากให้คิดว่าเป็นอุบัติเหตุจะดีกว่า
''ไม่หรอกครับ...อุบัติเหตุมันเกิดขึ้นได้ตลอด อย่าไปพยายามลิงก์กับเรื่องที่มันเกิดขึ้นมาแล้วเลย ผมขับรถตั้งแต่อายุ 18 ไม่เคยขับรถชนเลย แต่อุบัติเหตุมันเกิดขึ้นได้ทุกที่ ทั้งๆ ที่เราเป็นคนขับรถระวังอยู่แล้ว อีกอย่างผมเป็นคนรักรถนะ ถามคนใกล้ตัวผมก็ได้ แต่ว่ารถมันก็คือรถ มันก็คือของ ถ้ามันพังมันก็ซ่อมได้ไง แต่ถ้าคนเป็นอะไรไปแล้วพ่อแม่เค้าจะเป็นยังไง ในฐานะที่เราเป็นลูกคนนึง เราเข้าใจความรู้สึกนี้เลยครับ เราเลยอยากดูแลเค้าเต็มที่ ยังไงก็อย่าเพิ่งเบื่อผมนะครับ เพราะยังไงผมต้องไปเยี่ยมบ่อยๆ''
อย่างไรก็ตาม เมื่อผู้สื่อข่าวถามต่อว่าจากเหตุการณ์ครั้งนี้ได้อุทาหรณ์เตือนใจอะไรบ้างนั้น? ดาราหนุ่มก็ได้กล่าวว่าช่วงนี้ตนเองคงผวากับการขับรถเองไปสักพักหนึ่งก่อน
''ตอนนี้ผมไม่กล้าขับรถแล้วครับ ผมคงไม่ขับรถเองไปสักพักหนึ่งเลยแหละ ทั้งๆ ที่เราขับรถชำนาญนะ ที่ผ่านมา ผมก็จะเป็นคนขับรถให้ครอบครัวตลอด และไม่เคยมีอุบัติเหตุเลย มีแค่เฉี่ยวเสาในบ้านเท่านั้นเอง คือตอนนี้ผมขอไม่ขับรถสักพักหนึ่งดีกว่า คือมันไม่ได้กลัวนะครับ แต่เหมือนกับว่าตอนนี้ผมมีเรื่องคิดเยอะด้วย ถ้าผมขับรถแล้วเดี๋ยว ผมจะไม่มีสมาธิ คือก่อนหน้านี้ผมทำงานดึกแค่ไหน ผมขับรถเองตลอดครับ ไม่กลัวง่วงหรืออะไร เพราะเรารู้ตัวเองว่าเรานั่งอยู่หลังพวงมาลัยนะ แม่ก็เคยสอนตอลดว่า เวลาขับรถเนี่ยเท้าข้างนึง เราอยู่ในคุกแล้ว คือเราต้องมีความรับผิดชอบที่จะดูแลชีวิตของเราและของคนอื่นด้วย (ทำบุญสะเดาะเคราะห์ไหม?) ปกติผมทำบุญอยู่แล้วครับ แต่คนเรามักจะมีเรื่องไม่คาดคิดเกิดขึ้นตลอดอยู่แล้วครับ ก็ถือว่าฟาดเคราะห์ไปมากกว่า ผมรู้สึกแย่นะที่เราเป็นต้นเหตุทำให้เค้าเจ็บ'' ณัฏฐ์ กล่าวในที่สุด
| Create Date : 02 ธันวาคม 2554 |
| Last Update : 2 ธันวาคม 2554 8:14:29 น. |
|
1 comments
|
| Counter : 1403 Pageviews. |
 |
|
|
Goooood Night Krub ~ 
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 63 คน [
