Group Blog
 
<<
มีนาคม 2554
 
27 มีนาคม 2554
 
All Blogs
 
"ดิ๊บ-เอ็กซ์"แถลงโต้! ตกอับโร่ขายตัวญี่ปุ่น



"ดิ๊บ-หม่อมเอ็กซ์" แจงยังมีชีวิตอยู่แต่ร่วมกันกอดคอหนีตายจากเหตุการณ์แผ่นดิไหวที่ญี่ปุ่น อดีตบอยแบนด์ปัดกระแสข่าวลือตามหน้าอินเตอร์เน็ตหาว่าชีวิตตกอับหันไปจับอาชีพขายตัวถึงแดนอาทิตย์อุทัย

เป็นกระแสในหน้าเว็บไซต์หลายเว็บเลยสำหรับอดีตนักร้องบอยแบนด์ชื่อดัง "ดิ๊บ" ธนพงศ์ คล้ายพงศ์พันธ์ และลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของตลกชื่อดังหม่อมเหยิน อย่าง "หม่อมเอ็กซ์" อัศนัย เทศทะวงศ์ ว่าเสียชีวิตไปแล้วในเหตุการณ์แผ่นดินไหวที่ประเทศญี่ปุ่น เพราะมีข่าวลือตามหน้าเว็บไซต์อินเตอร์เน็ต

ซึ่งเมื่อทั้งสองหนุ่มได้ยินเรื่องราวของกระแสข่าวดังกล่าวแล้วจึงได้ออกมาแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนเมื่อวันที่ 26 มีนาคม 2554 ตรงบริเวณร้านอาหาร แฟบริคเกี่ยวกับกรณีดังกล่าวว่าไม่เป็นความจริงและยังมีชีวิตอยู่แต่รับว่าช่วงที่เกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้นนั้นท้องคู่อยู่ที่ประเทศญี่ปุ่นจริง และอยู่ในเมืองที่เป็นเมืองประกาศเตือนว่าอันตรายด้วย

"ที่เรามาแถลงข่าวในวันนี้ก็คงจะเป็นเพราะการที่เราเดินทางไปญี่ปุ่นนะครับ เพราะหลังจากที่เราเดินทางไปแล้วเนี่ยก็มีข่าวตามมาเยอะแยะ เช่นมีคนพูดกันว่า เอ็กซ์กับพี่ดิ๊บนี่เสียชีวิตแล้ว ไปกะสึนามิบ้าง ไปกะแผ่นดินไหวบ้าง เราก็เลยอยากจะออกมาบอกว่าเรายังอยู่ดี ยังไม่เป็นอะไร จากเหตุการณ์สึนามิที่เกิดขึ้นที่ญี่ปุ่นเหมือนที่คนเค้าลือกัน แต่ว่าเราทั้งสองคนน่ะอยู่ในเหตุการณ์ด้วย เพราะเราสองคนน่ะเดินทางไปในวันที่ 9 มีนาคม แล้วเหตุการณ์มันเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 11 มีนาคมใช่ไหมครับ

ตอนนั้นเราก็อยู่กันในโรงแรมแผ่นดิมันก็ไหวๆ เราก็เลยหนีออกมาจากโรงแรม ยอมรับเลยว่าตกใจมากๆ คือเราน่ะไม่รู้ว่ามันจะมีสึนามิ เราก็ดูจากยูทูบเราถึงเพิ่งมารู้หลังจากวันที่มันเกิดเหตุการณ์ขึ้น โหย..พอเห็นภาพนะเราก็ตกใจมากมันน่ากลัวมากอ่ะครับ พอดีว่าเราเนี่ยมีเพื่อนที่ญี่ปุ่นเราก็เลยโชคดีที่ตรงที่เรามีคนคอยช่วยเหลือ

ซึ่งบอกเลยว่าช่วงที่เกิดเหตุการณ์นั้นมันค่อนข้างที่จะลำบากมากอาหารขาดแคลน ไฟฟ้าก็ไม่มี แถมอากาศนี่หนาวมาก แต่เราไม่สามารถติดต่อใครได้เลยเพราะระบบทุกอย่างมันล่มหมดเลย ผมก็ยังได้แบบเหมือนได้ช่วยเหลือคนแก่ที่อยู่ในเหตุการณ์นั้นเพราะอาหารมันขาดแคลน เราพอมีเราก็แบ่งให้เค้าบ้าง น้ำเปล่าก็ไม่มีให้กิน มีแต่น้ำชา แล้วมันเกิดอาฟเตอร์ช็อคทั้งคืน นอนไม่ได้เลยครับ

แล้วหลังจากนั้นก็ยังมีการกระจากตัวของกัมมันตภาพรังสีอีก เราก็เลยไม่ได้ละเราต้องหนีไปให้ไกลจากจุดที่มันเกิดเหตุ เพราะในที่ๆเราอยู่เนี่ยมันเป็น 1 ใน 10 เขตที่เค้าประกาศเตือนว่าเป็นเขตอันตราย พวกเราอยากจะกลับเมืองไทยใจจะขาดนะ แต่เหมือนมันแบบทำอะไรไม่ได้เลย ติดต่อสายการบินเราก็ยังต้องรอสายเป็นชั่วโมงแต่ก็ยังไม่สามารถกลับได้อยู่ดี เราก็เลยต้องอยู่จนถึงเวลาที่มันครบตามกำหนดการที่เราจะกลับตั้งแต่ครั้งแรกคือใช้ระยะเวลาอยู่ที่นั่นถึง 15 วันเลยนะครับ เป็นอะไรที่แบบ ตกใจมากๆ จนเราได้กลับเมื่อวันที่ 24 มีนาคมครับ"

หลังจากนั้นผู้สื่อข่าวจึงได้ยิงคำถามที่ว่าจริงๆ แล้วทั้งสองคนนั้นเดินทางไปที่ญี่ปุ่นเพื่อไปขายตัวซึ่งทั้งสองก็ได้ให้คำตอบกับผู้สื่อข่าวว่า "เรื่องนี้มันเป็นกระแสค่อนข้างรุนแรงนะครับ มันเป็นเหมือนกระแสข่าวลือที่ลงอยู่ในเว็บไซต์ตามระบบโซเชี่ยลเน็ตเวิร์คน่ะครับ ซึ่งทางพี่ที่รู้จักกับผมเนี่ยเค้าเข้าไปเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้ แล้วผมคิดว่ามันเสียหายนะ มันค่อนข้างแรงเหมือนกัน ซึ่งตอนนี้เราก็พยายามหาต้นตอที่ปล่อยข่าวนี้อยู่ว่าเป็นใครและคิดด้วยว่าจะเอาเรื่องตามกฎหมายเพราะว่ามันไม่ใช่เรื่องจริง"

จากนั้นผู้สื่อข่าวจึงได้ถามต่อว่าเพราะอะไรจึงทำให้คนมองว่าหนุ่มดิ๊บไปขายตัวที่นั่น โดยส่วนตัวแล้วเดินทางไปที่ประเทศญี่ปุ่นบ่อยหรือเปล่าจึงทำให้เกิดกระแสข่าวลือเช่นนี้ ซึ่งหนุ่มดิ๊บเองก็ได้ให้คำตอบเกี่ยวกับกรณีนี้ว่า

"ตั้งแต่ผมเข้าวงการมาเนี่ยผมว่าผมก็เดินไปญี่ปุ่นถึง 9 ครั้งละนะ สำหรับผมๆ ก็คิดเลยว่าเป็นเหมือนบ้านหลังที่สองของผมอ่ะ ผมไปบ่อยมาก แล้วพอมีกระแสข่าวแบบนี้ออกมาผมคิดว่ามันไม่ถูกต้องแล้วมันก็ค่อนข้างที่จะดูถูกผมนะ ผมไปผมก็ไม่เคยคิดเรื่องแบบนั้น แล้วแบบนี้คราวหน้าถ้าผมไปอีกผมจะไม่โดนมองแบบนั้นไปตลอดหรอใช่ไหม ผมไปครั้งนี้เนี่ยก็เพราะผมจะเดินทางไปงานวันเกิดผู้ใหญ่ที่ผมรู้จักที่เค้าอยู่ที่ญี่ปุ่นมันไม่มีเรื่องอะไรแบบนั้นเลยอ่ะครับ" หนุ่มดิ๊บกล่าว


Create Date : 27 มีนาคม 2554
Last Update : 27 มีนาคม 2554 19:10:39 น. 0 comments
Counter : 1469 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ลูกโป่งลอยฟ้า_ชิงช้าสวรรค์
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 63 คน [?]




New Comments
Friends' blogs
[Add ลูกโป่งลอยฟ้า_ชิงช้าสวรรค์'s blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.