Group Blog
 
<<
เมษายน 2554
 
23 เมษายน 2554
 
All Blogs
 
"กอล์ฟ" ปล่อยโฮขอโทษแม่หนีจากบ้าน




ได้คุณพ่อช่วยมาเป็นกาวใจ "กอล์ฟ-พิชญะ" ปล่อยโฮแถลงข่าวขอโทษ นางปราศรัยผู้เป็นแม่ เหตุเผ่นออกจากบ้านไม่บอกจนเกิดอาการน้อยใจ อ้างที่ทำไปเพราะต้องการพักใกล้กับสถานที่เรียน เพื่อประหยัดเวลาในการเดินทาง ปัดพูดถึง "ดิว" ลั่นเป็นเรื่องของคนในครอบครัว ไม่อยากดึงคนนอกเข้ามาเอี่ยวด้วย




หลังจาก ปราศรัย นิธิไพศาลกุล คุณแม่ของ ''กอล์ฟ'' พิชญะ นิธิไพศาลกุล นักร้องหนุ่มซูเปอร์สตาร์ชื่อดัง ได้หนีออกจากบ้านไปเป็นเวลากว่าครึ่งปีแล้ว โดยมีกระแสข่าวว่านักร้องหนุ่มออกมาอยู่กับ ''ดิว'' อริสรา ทองบริสุทธิ์ ดาราสาวหวานใจ ซึ่งในเบื้องลึกยังไม่มีใครสามารถสืบทราบได้ว่าข้อเท็จจริงเรื่องดังกล่าวเป็นอย่างไร




ความคืบหน้าเกี่ยวกับเรื่องนี้ล่าสุด เมื่อวันที่ 22 เม.ย.54 เวลา 22.30 น. ที่อาคารจีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ ชั้น 21 กอล์ฟ พร้อมด้วย ปราศรัย และ พิเชษฐ์ นิธิไพศาลกุล คุณพ่อของนักร้องหนุ่ม ได้ออกมาแถลงข่าวชี้แจงข้อเท็จจริงเรื่องนี้ ท่ามกลางกองทัพสื่อมวลชนที่ไปติดตามรายงานข่าวเป็นจำนวนมาก




ทันทีที่เริ่มแถลงข่าว ผู้สื่อข่าวถาม นางปราศรัยว่า เกี่ยวกับข่าวที่ออกมาคุณแม่ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อจริงๆ หรือเปล่า ได้รับคำตอบว่า ''ก็ตามที่เห็นในข่าวค่ะ''




จากนั้นนักร้องหนุ่มเป็นฝ่ายเปิดฉากกล่าวกับผู้สื่อข่าวถึงสาเหตุที่ออกมาแถลงข่าวในครั้งนี้ เพราะต้องการทำความเข้าใจกับทุกฝ่ายกับเรื่องที่เกิดขึ้น




''ก็วันนี้ที่มาอยากมาแถลงให้ทุกคนเข้าใจ ซึ่งผมก็พาคุณพ่อคุณแม่มาด้วย คือที่ผ่านมาไปไหนผมก็จะบอกคุณพ่อตลอด แต่คุณพ่อทำงานที่ต่างประเทศด้วย แล้วกอล์ฟก็มีไปโชว์ตัว ก็อย่างที่ได้ทราบข่าว กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นความผิด

ของกอล์ฟด้วยที่ไม่ได้สื่อสารกับคุณแม่ เหมือนกับว่าที่ผ่านมา กอล์ฟก็อาจทำให้คุณแม่เสียใจน้อยใจ เราก็รู้ แต่เราเองก็ไม่กล้าเปิดที่จะไปคุยกับเขา''




ระหว่างนี้ นายพิเชษฐ์ ได้กล่าวเสริมลูกชายว่า ''เนื่องจากพ่อไปทำงานต่างประเทศบ่อย ไม่ค่อยได้อยู่ในประเทศไทย แต่ตรงที่กอล์ฟไปอยู่ตรงจุดนั้น (หมายถึงหอพักที่กอล์ฟออกไปเช่าอยู่) เหตุผลหนึ่งเป็นเพราะใกล้กับสถานที่เรียนด้วย

แล้วการที่เขาไปเรียน สถานที่เรียนมันไกลจากบ้าน แล้วเขาจะต้องไปเรียนเช้า เรียกว่ากว่าจะมากว่าจะไปก็ใช้เวลา ซึ่งพ่อเองก็เป็นห่วง จากนั้นกอล์ฟก็มาปรึกษาพ่อ ว่าขอมาอยู่ใกล้ๆ ตรงนี้ ในขณะเดียวกันคุณพ่อเองก็เข้าใจว่า เดี๋ยวอีกสัก

หน่อยก็คงไปบอกคุณแม่ แต่เนื่องจากคำว่าเดี๋ยวเนี่ย คุณพ่อเองก็เดินทางตลอด เพื่อเตรียมงานเกี่ยวกับแฟชั่น มันจะเป็นอย่างนี้ตลอด ดังนั้นคุณพ่อเองก็ไม่มีโอกาสได้คุยกับคุณแม่ แล้วคุณแม่เองก็ไปต่างประเทศด้วย การเป็นอยู่ในครอบ

ครัวตอนนี้บอกได้เลยว่าทุกคนในครอบครัว ต่างก็มีงานต่างคนต่างทำ มีหน้าที่ของตัวเอง ประกอบกับกอล์ฟเนี่ยช่วงนี้เขากำลังจะมีอัลบั้ม ซึ่งเป็นอัลบั้มใหม่ของเขา แล้วโปรดิวเซอร์ต่างๆ ก็จะอยู่ละแวกที่เขาอยู่ตรงนั้น ซึ่งคุณพ่อก็มองว่าด้วย

เหตุผลทั้งปวงมันก็สะดวก แล้วเราก็คิดว่าในแง่ของผู้ชายไม่ใช่เรื่องที่สำคัญมาก ก็เลยไม่ได้ไปแจ้งให้คุณแม่ทราบ ซึ่งในสถานะของพ่อก็ยอมรับเลยว่าทำไม่ถูกต้อง จนทำให้เกิดเป็นเรื่องแบบนี้''




ผู้สื่อข่าวถามว่าครอบครัวต่างคนต่างอยู่เลยหรือไม่ นายพิเชษฐ์ กล่าวก่อนว่า ''ก็ไม่เชิงว่าต่างคนต่างอยู่ และทุกคนก็มีงาน กลับมาบางครั้งก็เหนื่อย คือมานึกได้ตอนที่คุณแม่จะไปออสเตรเลีย ผมก็บอกเขาตอนที่จะไปออสเตรเลีย อยู่ใน

ช่วงเวลารีบขึ้นเครื่อง''




ระหว่างนี้ นางปราศรัย ได้กล่าวแทรกขึ้นมาว่า ''ก็รู้สึกเสียใจมาก แต่แบบเราก็ไม่รู้ เพราะเขาไม่ได้บอกเรา พอเรากลับมา คุณแม่ก็งอน แล้วอาจมีอาการน้อยใจ คือตอนนั้นคุณแม่กำลังจะเดินทางไปออสเตรเลีย แล้วคุณพ่อก็มาบอกเอาตอนที่

แม่กำลังจะขึ้นเครื่อง''




จากนั้นนักร้องหนุ่มได้กล่าวขึ้นมาว่า ''เหมือนกับการที่ได้ไตร่ตรองกับคุณพ่อไว้แล้ว ว่าการที่ผมจะไปอยู่ในละแวกนี้ มันใช้เวลาในการเดินทางน้อยมาก แค่ประมาณ 15-20 นาที''




นางปราศรัย เสริมอีกว่า ''หลังจากที่น้องออกไปอยู่นอกบ้านแล้ว เขาไม่คิดจะมาคุย เราก็เลยรู้สึกว่าไม่คุยดีกว่า ก็ปล่อยให้มันคาราซังไป''




นายพิเชษฐ์กล่าวต่อว่า "จริงๆ แล้วตอนที่กอล์ฟออกมาเขารู้ว่าคุณแม่โกรธ เขาจึงไม่กล้าเข้าไปคุย"




นักร้องหนุ่มเสริมต่อว่า "พอผมรู้ว่าคุณแม่โกรธผมเองก็ไม่กล้าเข้าไป เพราะว่าถ้าคุยกับคุณแม่ในตอนนั้นมันต้องมีอารมณ์เกิดขึ้น อาจจะมีงอนกันอะไรแบบนี้ แต่กอล์ฟเองตอนที่กอล์ฟอยู่ข้างนอก กอล์ฟก็ได้ติดต่อกับทางคุณพ่อตลอด ก็

ถามถึงคุณแม่ว่าเป็นอย่างไรบ้าง หายงอนหรือยัง"




นายพิเชษฐ์กล่าวต่อว่า "คุณพ่อเข้าใจนะ แต่ต้องรอให้เวลาผ่านไปนิดนึง คือคนเราปุถุชนธรรมดานะครับ มันก็ต้องมีการให้เวลากัน แต่ทีนี้เวลาที่ว่า คุณพ่อก็ต้องบินไปบินมาตลอด มารู้ตัวมารู้ตัวอีกทีก็ 6 เดือนผ่านไปแล้ว แต่ตอนที่กอล์ฟ

ออกมาก็เมสเซจหาคุณแม่"




นางปราศรัยกล่าวแทรกขึ้นมาว่า "คือกอล์ฟเขาจะรู้ดีว่านิสัยคุณแม่ เป็นคนขี้น้อยใจ และชอบเอาชนะ แล้วกอล์ฟเขาก็จะกลัวแม่ คือถ้าพูดไปแล้ว แม่จะเป็นคนที่ค่อนข้างดุลูกนิดนึง"




ผู้สื่อข่าวถามว่า เมสเซจที่ส่งไปหาแม่ เพื่อบอกมาอยู่นอกบ้านมีข้อความว่าอย่างไรบ้าง ตรงนี้นักร้องหนุ่มปล่อยโฮ เสียงสะอึกสะอื้นไม่สามารถตอบคำถามผู้สื่อข่าวได้ นายพิเชษฐ์จึงกล่าวแทนลูกชายว่า




"กอล์ฟก็มาคุยกับพ่อว่าในช่วงเวลา 6 เดือนที่ผ่านมากอล์ฟก็อยากเข้าไปคุยกับมาม้านะ แต่ปาป๊าจะไปคุยกับม่าม้าให้เอง คือเราไม่อยากให้ลูกมาคุยกับม่าม้า เพาระว่าเขาเข้มงวดมาก กลัวเขาเสียใจแล้วมันจะกระทบกับงานเขาไปด้วย ก็เลย

บอกว่าตั้งใจทำงานให้ดีเถอะ เพราะอัลบั้มใหม่เป็นอัลบั้มที่เขาจะต้องดำเนินการทำอะไรทุกอย่างด้วยตัวของเขาเอง ซึ่งมันเป็นอะไรที่หนักมาก นี่คืองาน เป็นงานที่เขารักและเขาชอบ แล้วเวลาที่ทำงานเขาตั้งใจทำงานจริงๆ บางทีถึงตี 3 ตี 2

คุณพ่อกลับมาก็ยังเจอเขาทำงานอยู่เลย ก็เลยบอกว่าไม่ได้นะอย่างนี้จะเลี้ยงเวลาน้อยแค่กี่ชั่วโมง ความคิดของเราก็เลยคิดว่าให้เขาทำงานไปเหอะ ตรงนี้คุณพ่อคงเคลียร์กับคุณแม่เองได้ เขาโทร.คุยกับพ่อตลอดเวลานะว่าเขาเสียใจจะทำอย่าง

ไรดี คุณพ่อก็บอกเขาว่าเข้าใจ แต่รอให้คุณแม่เขาเดินทางกลับมาก่อน"




กอล์ฟซึ่งยังร่ำไห้น้ำตาอาบสองแก้มกล่าวแทรกขึ้นมาทั้งน้ำตาว่า "คือม้าเขาเป็นคนขี้งอน กอล์ฟไม่กล้าคุย เพราะคุยแล้วกลัวเดี๋ยวใช้อารมณ์คุยกัน ล่าสุดพอเวลามันผ่านมา กอล์ฟคิดว่ามันน่าจะหายแล้ว ก็เลยส่งเมสเซจไปหา บอกว่าขอโทษ

นะที่ทำให้เสียใจ จริงๆ เมื่อวานนี้เราก็ได้เคลียร์กันแล้ว แต่พอมาถึงวันนี้ก็อยากจะบอกเหมือนกันว่าขอโทษ อะไรที่มันทำให้รู้สึกไม่ดี และเสียใจสำหรับสิ่งที่ผ่านมา"




นางปราศรัยกล่าวเสริมว่า "คุณแม่ก็ได้คุยกับเขาแล้ว เราก็เข้าใจความรู้สึกเขา แต่ด้วยความที่เรารักเขามาก เราก็เลยเสียใจมาก เท่ากับที่เรารักเขา จริงๆ แต่ก่อนแม่ก็สนิทกับกอล์ฟมาก เพราะว่าเขาเป็นเด็กดี"




ผู้สื่อข่าวถามว่า เป็นเพราะดิวเข้ามาหรือไม่ ทำให้ความสัมพันธ์ได้ห่างกันขนาดนี้ กอล์ฟกล่าวว่า ทั้งหมดเป็นความผิดของตนแต่เพียงผู้เดียวไม่อยากให้ไปดึงคนนอกมามีเอี่ยวกับเรื่องในครอบครัว




"ผมเองไม่อยากพูดถึงคนอื่น ที่จริงแล้วเป็นความผิดของกอล์ฟเองที่ไม่กล้าเข้ามาพูด หรือเคลียร์อะไร และด้วยระยะเวลา 6 เดือนที่ผ่านมา กอล์ฟเองก็มีงานมีโชว์ตัว เพราะฉะนั้นโอกาสในการที่จะนั่งเคลียร์ก็เลยหลุดไป ดังนั้นทุกอย่างทั้ง

หมดทั้งมวลเป็นที่ตัวกอล์ฟเอง ที่ไม่กล้าที่จะเข้าไปเคลียร์ อย่างที่กอล์ฟบอกว่าเป็นที่กอล์ฟเองไม่เกี่ยวกับคนอื่น ถ้ากอล์ฟกล้าเข้ามาคุยเร็วกว่านี้ หรือเคลียร์เร็วกว่านี้ทุกอย่างคงดีกว่านี้"




นายพิเชษฐ์กล่าวเสริมขึ้นมาว่า ''วันนี้จริงๆ เราพ่อแม่ลูก เราก็ได้มาสื่อสารกัน ให้เกิดความเข้าใจกันทั้งสองฝ่าย และคุณพ่อเองก็เป็นส่วนหนึ่ง ซึ่งอาจจะทำงานหนักจนลืมนึกถึง สิ่งที่ครอบครัวควรจะเป็น ต้องยอมรับว่าคุณพ่อเองมีส่วน

ผิดตรงนี้ด้วย''




ผู้สื่อข่าวถามต่อว่า ได้คุยเรื่องนี้กับดิวบ้างหรือไม่ นักร้องหนุ่มยอมรับว่า มีพูดคุยกันในเรื่องนี้บ้าง ซึ่งดาราสาวก็อยากให้มีการเคลียร์กันแบบนี้อยู่แล้ว เพื่อความเข้าใจกันของคนในครอบครัวตน




''ก็คุยครับ เขาก็ไม่ว่าอะไรมาก เขาอยากให้เคลียร์กันอยู่แล้ว ซึ่งกอล์ฟก็ไม่อยากพูดถึงคนอื่น ขอพูดถึงในครอบครัวเท่านั้นพอ''




นางปราศรัยกล่าวเสริมขึ้นมาว่า ''เราก็ได้เคลียร์กันแล้ว มันเป็นเหมือนเวลาเรารักใครมาก มันก็ทำให้เราเสียใจมาก''




ผู้สื่อข่าวถามว่ากอล์ฟแยกออกมาอยู่คนเดียวหรือไม่ นักร้องหนุ่มตอบสั้นๆ ว่า ''อยู่คนเดียวครับ'' จากนั้นนายพิเชษฐ์กล่าวเสริมว่า ''ตอนนี้คุณพ่อก็พยายามแบ่งเวลาให้ครอบครัวมากขึ้น เวลานี้อยากให้ทุกคนมีเวลาให้ครอบครัว อย่างน้อย

ก็อาทิตย์ละครั้ง มากินข้าวพบปะกัน อันนี้มันก็น่าจะเป็นการทำให้ครอบครัวอบอุ่นขึ้น''




ผู้สื่อข่าวถามต่อว่า เรียนโรงเรียนเกี่ยวกับอะไร นักร้องหนุ่มกล่าวว่าโรงเรียนที่ตนเรียนอยู่นั้นเป็นโรงเรียนที่สอนเกี่ยวกับการทำงานเพลงโดยเฉพาะซึ่งตั้งอยู่ในเมือง มีระยะทางห่างจากบ้านตนซึ่งอยู่ที่ตลิ่งชันอย่างมาก




''ผมเรียนเอสเออีครับเกี่ยวกับการทำเพลงโดยเฉพาะ โรงเรียนกอล์ฟมันจะมีปิดเทอมบ้าง แต่มันก็จะไม่เหมือนกับมหา''ลัยหรือโรงเรียนทั่วไป จะปิดประมาณ 15-20 วัน บ้านอยู่ตลิ่งชันครับ แต่โรงเรียนกอล์ฟอยู่ในเมือง โปรดิวเซอร์

กอล์ฟก็อยู่ในเมือง กอล์ฟก็เลยมาอยู่ตรงนี้เพื่อความสะดวก''




ผู้สื่อข่าวถามนางปราศรัยว่า รู้สึกอย่างไรที่ให้สัมภาษณ์สื่อไปแบบนั้น แม่ของนักร้องหนุ่มกล่าวด้วยความเสียใจว่า ไม่มีแม่คนไหนที่คิดอยากทำร้ายลูกของตนเอง แต่เมื่อทำแล้วลูกชายกลับมาเหมือนเดิม ก็มีความรู้สึกว่าที่ทำไปนั้นคุ้มค่าอยู่บ้าง

เหมือนกัน




''ไม่มีคุณแม่คนไหนอยากทำร้ายลูกหรอก คุณแม่เองก็เสียใจ และก็อยากให้เขารู้ว่าเราเสียใจ เพราะตัวคุณแม่เองก็มีอีโก้สูง คือต่างคนต่างดื้อแล้วเขาก็ไม่พูดอะไรด้วย คืออันนี้มันเป็นความเสียใจมากกว่า เหมือนกับว่าเราตั้งตัวไม่ติด เสียใจ

มันก็เสียใจ แต่อย่างน้อยก็ทำให้ลูกเรากลับมาคุยกับเราเหมือนเดิม พูดไปมันก็คุ้มที่ลูกกลับมาเป็นเหมือนเดิม แม่ว่ามันก็คุ้มกับการที่เราทำ แล้วลูกเราไม่ใช่ว่าเขาไม่ได้เป็นเด็กไม่ดี เพียงแต่ว่าเรามองกันคนละมุม และอาจจะเป็นเพราะว่าคุณพ่อ

แปลผิดไปด้วย คุณพ่อก็จะคิดว่า การออกไปอยู่ข้างนอกไม่ได้ทำอะไรผิด คุณพ่อ''




นายพิเชษฐ์กล่าวเสริมขึ้นมาว่า ''อันนี้มันเป็นเรื่องอุทาหรณ์สำหรับครอบครัว ที่ต่างคนต่างต้องยอมรับความคิดเห็นกัน คือทางแม่ก็ต้องเข้าใจในตัวลูก และลูกเองก็ต้องเข้าใจแม่ด้วย มีการตกลงกันแล้วกับกอล์ฟว่าวันไหนไม่มีเรียนจะต้อง

เข้าบ้าน''




ผู้สื่อข่าวถามนักร้องหนุ่มว่า ในฐานะที่เป็นไอดอลของวัยรุ่น อยากฝากบอกอะไรถึงแฟนๆ เกี่ยวกับเรื่องนี้บ้าง กอล์ฟกล่าวว่า




''ถือว่าเป็นบทเรียน อย่าเอาอย่างอย่าทำตาม''




ผู้สื่อข่าวถามว่ากอล์ฟกับไมค์ทะเลาะกันจริงหรือไม่ กอล์ฟกล่าวว่า




''ไม่มีการทะเลาะ ความสัมพันธ์เหมือนเดิม เจอกันในงานก็คุยกันเหมือนเดิม เพียงแต่เป็นเรื่องของงานที่ต่างคนต่างต้องแยกออกมาทำโปรเจกต์''




นายพิเชษฐ์กล่าวเสริมว่า ''อันนี้พ่อยืนยันได้ว่าเหมือนเดิม''




ผู้สื่อข่าวถามว่า ตอนนี้คุณแม่อยากได้อะไรจากกอล์ฟ




''คุณแม่ทุกคนก็อยากให้ลูกเจอในสิ่งที่ดี''




หลังจากการแถลงข่าว กอล์ฟได้โผเข้าไปกอดนางปราศรัยทั้งน้ำตา โดยมีนายพิเชษฐ์ผู้เป็นพ่อเป็นสักขีพยาน นับว่าเป็นภาพที่ประทับใจผู้ที่ได้พบเห็นอย่างมาก


Create Date : 23 เมษายน 2554
Last Update : 23 เมษายน 2554 10:50:45 น. 1 comments
Counter : 1528 Pageviews.

 
เอ๋าเอาเข้าไป ลูกโตเเล้วก็ไห้เขาตัดสินใจเอาเองไม่ใช่ว่าจะมาคุมเข้ม ต้องรายงานทุกอย่างว่าทำอะไรอยู่ที่ไหน ทำงอนลูกยังกะว่าเป็นคู่รักกันยังงั้นเเหละ เข้าใจไหมกับคำว่าสิทธิเสรีภาพน่ะ


โดย: ... IP: 66.172.227.200 วันที่: 26 เมษายน 2554 เวลา:20:47:31 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ลูกโป่งลอยฟ้า_ชิงช้าสวรรค์
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 63 คน [?]




New Comments
Friends' blogs
[Add ลูกโป่งลอยฟ้า_ชิงช้าสวรรค์'s blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.