Bloggang.com : ลูกโป่งลอยฟ้า_ชิงช้าสวรรค์ : พ่อ''กรีน''สั่ง''เคลลี่''คบได้แต่ห้ามทำร้ายลูก

พ่อ''กรีน''สั่ง''เคลลี่''คบได้แต่ห้ามทำร้ายลูก

คุณพ่อของนางเอกสาว ''กรีน-อัษฎาพร'' เปิดใจผ่านคลิปเล่าสถานการณ์วันที่ เคลลี่ ธนะพัฒน์ ไปขอขมา เผยตนยื่นข้อเสนอให้มาหมั้นลูกสาวไว้ก่อน แต่นักแสดงหนุ่มไม่ยอม ถึงกับหน้าถอดสี บอกยังไม่พร้อม ขอพิสูจน์ตัวเองนับหนึ่งใหม่ คุณพ่อเผยยอมให้คบกัน แต่ต้องอยู่ในกติกา อย่าทำตัวมากกว่าแฟน ที่สำคัญห้ามลงไม้ลงมือ แฉวันที่พระเอกหนุ่มมาขอโทษ ทีแรกยังวางฟอร์มแสดงท่าทีไม่เคารพ แต่จู่ๆ ก็เปลี่ยนท่าทีลุกขึ้นมาคุกเข่าสำนึกผิด

จากกรณีนักแสดงหนุ่มช่อง 7 เคลลี่ ธนะพัฒน์ ได้ถอนฟ้อง นายฉัตรฎรัฐ สิริวัฒน์ธนกุล คุณพ่อของนางเอกสาว ''กรีน-อัษฏาพร'' ซึ่งเป็นแฟนสาวในกรณีหมิ่นประมาทไป เมื่อวันที่ 20 พ.ค. ที่ผ่านมา โดยทางกรีนได้ควงคุณแม่มาเปิดใจถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น พร้อมบอกว่าตอนนี้ทุกอย่างจบลงด้วยดี คุณพ่อและคุณแม่อนุญาตให้คบหากันได้ต่อไป แต่มีข้อแม้ว่าหนุ่มเคลลี่จะต้องเข้าหาครอบครัวฝ่ายหญิงมากขึ้น ซึ่งทางคุณแม่ของสาวกรีนเองก็ได้ร่ำไห้เสียใจที่สังคมประณามลูกสาวตนเป็นคนอกตัญญูทั้งที่ความจริงไม่ใช่เลย

อย่างไรก็ตาม เมื่อวันที่ 28 พ.ค. 56 ได้มีคลิปเสียงสัมภาษณ์นายฉัตรฎรัฐ คุณพ่อของสาวกรีน ความยาวประมาณ 17 นาทีออกมา โดยระบุว่าเป็นการเปิดใจผ่านทาง entertain.smmonline.net โดยคุณพ่อได้เล่าถึงวันที่นักแสดงหนุ่มเข้าไปขอขมาหลังจากยกฟ้อง พร้อมเปิดเผยถึงความรู้สึกที่มีต่อตัวหนุ่มเคลลี่และทิศทางของความสัมพันธ์

โดยนายฉัตรฎรัฐบอกว่า หลังจากที่ตนพูดผ่านคลิปไปครั้งแรก ก็มีผู้ใหญ่ทางช่อง 7 ติดต่อมายังคุณแม่ของกรีนให้เข้าพบผู้ใหญ่ช่อง 7 ในวันที่ 17 พ.ค. โดยจะมี เคลลี่, ผู้ใหญ่ และตน ซึ่งตนได้ไปพบผู้ใหญ่ 7 สี ในวันที่ 17 พ.ค. จริงแต่เคลลี่ไม่ได้มา

โดยตนก็บอกเหตุผลที่ต้องออกคลิป เพราะเคลลี่ฟ้องตน แล้วมากับทนายพาลูกสาวตนไปสัมภาษณ์ด้วย ทำให้ลูกสาวตนเสียหาย เลยต้องออกคลิปมาปกป้องลูกสาว นี่คือเหตุผลหลักที่ตนบอกให้ผู้ใหญ่ทราบ ซึ่งทางผู้ใหญ่บอกว่าอย่าไปถือสาเคลลี่ เพราะนักแสดงหนุ่มออกแนวฝรั่งไปหน่อย แต่ตนเห็นว่าเคลลี่อยู่ประเทศไทยมานานเป็นสิบกว่าปีแล้ว เป็นดาราช่อง 7 ด้วยก็น่าจะรู้วัฒนธรรมไทย

''คุณเข้ามาจีบลูกสาวเขาแล้วคุณจะมาฝรั่งจ๋า และบอกลูกสาวผมบรรลุนิติภาวะแล้ว จะทำอะไรก็ได้ ผมเป็นพ่อคน ผมก็รู้สึกว่ามันไม่ใช่ ถ้าลูกสาวผมบรรลุนิติภาวะแล้ว เรียนจบแล้ว ถ้ามีมีแฟนแล้วแฟนคนนั้นเป็นคนดี คือถ้าลูกสาวเรารักใครเราก็ต้องรักตาม แต่ถ้าลูกสาวเราไม่รักเขา แยกกันดีๆ เราก็ไม่ว่ากัน แต่ถ้ามีใครมารังแกลูกสาวผม ผมก็ไม่ยอมแน่ นั่นคือสิ่งที่เราคุยกับผู้ใหญ่ แล้วผู้ใหญ่รับปากว่า เดี๋ยวจะลองไกล่เกลี่ยดูว่าเป็นไปได้ไหม''

นายฉัตรฎรัฐเล่าต่อว่า เย็นวันนั้นเคลลี่ได้ติดต่อมาทางคุณแม่กรีน และตนอยู่ออฟฟิศกับพี่ชาย เคลลี่โทร.หาแม่บอกจะเข้ามาคุยที่ออฟฟิศ ตนก็รอ ประมาณเกือบ 6 โมงเย็น ภาพแรกที่คาดการณ์ตนคิดว่าเคลลี่เข้ามาถึงแล้ว จะเข้ามาขอโทษขออภัย แต่กลับวางฟอร์มใส่ตนแทน

''อันนี้เป็นเรื่องจริงครับ เขามาถึงปุ๊บ หวัดดีคุณพ่อครับ ผมก็เลยย้อนถามว่าใครเป็นพ่อคุณ ถ้าผมเป็นพ่อคุณ คุณไม่ฟ้องผมหรอก เมื่อคุณฟ้องผมนี่ผมไม่ใช่พ่อคุณ เค้าก็เลยบอกงั้นผมเรียกคุณ เค้าก็เลยพูดว่างั้นผมเรียกคุณแล้วกันนะเค้าขอเล่าว่าที่มาที่ไปเป็นยังไง ถึงต้องมาฟ้องร้องกัน ผมก็ฟังเค้า แต่ฟังเสร็จแล้วเขาก็พูดตอนนึงว่า จริงๆ แล้วผมก็เข้าใจผิดเขา เพราะเขาเลื่อนละครทุกอย่างแล้ว เพื่อที่จะเข้ามาคุย 3 ฝ่ายเนี่ย แต่ลูกกรีนอยากมาคุยด้วย เขาก็เลยจะขอลูกกรีนมาคุยด้วย เขาพูดแล้วสั่นนะฮะ ผมก็เลยบอกคุณเคลลี่ ถ้าเราคุยกัน 3 คน คุณแม่ แฟนผม ผมคุยกันมันไม่เกี่ยวกับเจ้ากรีนเลย แล้วคุณจะดึงลูกกรีนมาเกี่ยวข้องด้วยทำไม ก็เลยกลายเป็นเรื่องที่ทะเลาะกัน ว่าผมไม่ยอมฟังเค้าเลยอะไรอย่างนี้ ผมก็เลยบอกว่า ตกลงผมต้องฟังคุณ หรือคุณต้องฟังผม (หัวเราะ)''

''พี่ชายผมก็เลยบอกว่า ใจเย็นๆ อย่าทะเลาะกัน พอดีพี่ชายอยู่ บอกคุยกันดีๆ อย่าทะเลาะกัน ผมก็เลยบอกคุณเคลลี่ คุณไม่ต้องพูดเรื่องเก่า เพราะเรื่องเก่าคุณพูดมายังไง ผมไม่เชื่อเครดิตคุณหรอก ผมก็พูดตรงๆ ไม่เชื่อเครดิตคุณ เขาย้อนผมทันทีเลยว่า เขาก็ไม่เชื่อเครดิตผม ผมก็เลยถามเขาว่า ''คุณไม่เชื่อเครดิตผม แล้วคุณมาหาผมทำไม'' ก็ไม่ต้องเข้ามาหาผม ผมก็พูดตรงๆ ในเมื่อคุณไม่เชื่อเครดิตผม แล้วไม่ต้องมาคุยกันต่อ คุยทำไม สักพักเขาคงนึกขึ้นมาได้ เขาบอกเขาจะพาแม่เขาเข้ามาคุยกับผม ผมบอกก็ดีผู้ใหญ่เข้ามาคุยกัน เรื่องจะได้จบ กลายเป็นว่าเขามาสำทับว่า ''แม่ผมแก่กว่าคุณนะ คุณต้องให้ความเคารพแม่ผมนะ'' เราก็คิดแล้วงงๆ คุณก็ห่างกับผมแค่ 10 ปีเอง ยังไงแม่คุณต้องแก่กว่าผมอยู่แล้วใช่ไหม มันไม่มีทางว่าแม่คุณไม่แก่กว่าผมได้ เสร็จแล้วผมก็บอกว่า ยินดีๆๆ จะคุยกับผู้ใหญ่ให้เข้าใจดีกว่า คุณเคลลี่ก็เงียบไป เขาก็ไม่พูดถึงเรื่องผู้ใหญ่แล้ว''

คุณพ่อของสาวกรีนเล่าต่อไปว่า เคลลี่บอกว่าที่ตนออกคลิปมาทำให้ลูกสาวเสียหาย รู้ไหม ตนจึงย้อนกลับไปว่า

''คุณเคลลี่ คุณมากับทนายความ คุณมาฟ้องผมนะ แล้วคุณสองคนขึ้นให้สัมภาษณ์ว่าผม ถ้ามาคุยกันผมจะไม่ว่าเลย คุณมาพาลูกสาวผมขึ้นเวที แล้วมาฟังคุณว่าผมเนี่ยนะ ทุกคำที่คุณพูดถึงผม มีคำว่าพ่อไหม ฝ่ายโน้น ฝ่ายนี้ กับทนาย คือผมเสียหายหมด และสุดท้ายในโลกโซเชียลมีเดีย ลูกสาวผมก็เสียหาย ออกคลิปมาเพื่อปกป้องลูกสาวผม เพราะผมออกคลิปมามันถึงนำมาสู่อย่างงี้ไงครับ ถ้าผมไม่ออกคลิปมา ไม่รู้ว่าจะเป็นยังไง ไม่มีคลิปคุณก็พูดอยู่ฝ่ายเดียวคุณเคลลี่ ขนาดคุณเข้ามาหาผมเรายังมาทะเลาะกันเลย พี่ชายผมก็ต้องมาเบรกเป็นครั้งๆ ไป เสร็จแล้วเขาก็หยุดไป ไม่ได้พูดถึงเรื่องผมออกคลิปแล้ว สิ่งที่เขาพูดถึงก็คือเขาบอกเขาดูแลกรีนมานะ แล้วเขาบอกอยากให้กรีนอยู่ด้วยที่คุยกันตอนนี้ ผมเลยย้อนถามว่า คุณบอกคุณดูแลกรีน คุณดูแลแค่สองปีเองนะ ผมดูแล 20 ปีนะ ผมเป็นพ่อเขาผมน่าจะเข้าใจเขา คุณดูแลเขา 2 ปี (หัวเราะ) พอเราพูดอย่างนี้ก็เกิดทะเลาะกันอีกพี่ชายผมก็ต้องคอยเบรก ไอ้เราไม่รู้จะพูดยังไง คือเขามาคุยกับเรา จะมาทำอะไร จะมาขอขมา หรืออะไรก็ไม่รู้ แต่จะมาทะเลาะอะไร ขอยกมือก่อน''

''จนสุดท้ายเขาบอกผมว่า ถ้าไปเจอกันที่ศาลยังไงเขาก็ชนะ ผมก็ฟังแล้วงงๆ ผมเลยว่า ถ้าคุณมั่นใจว่าชนะแล้วมาหาผมทำไม เรามาเจอวันที่ 20 เลย แล้วมาหาผม แล้วคุณชนะไปเลย เขาบอกผมไม่ยอมหยุด ผมถามว่าจะหยุดอะไร เขาบอกหยุดส่งเอกสาร เอกสารผมก็ไม่ได้ส่งตั้งแต่ปลายปีแล้ว หลังจากผมส่งให้ช่อง 7 ซึ่งผู้ใหญ่ก็ช่วยตามคุณ คุณก็เอาหนังสือมาให้ผม เป็นหนังสือรบกวนสิทธิ์ของคุณ เอามาอย่างนี้แล้วผมก็หยุดแล้ว ผมไม่อยากทำแล้ว ผมก็ขอบคุณผู้ใหญ่ช่อง7 ไปว่าที่สามารถนัดเคลลี่มาให้ผมได้ เขาไม่ได้มาพบผม แต่เขาเอาเอกสารมาพบผม ให้ผมหยุดรบกวนสิทธิ์เขา แล้วตั้งแต่นั้นผมก็ไม่รบกวนเขาเลย ตั้งแต่มีเอกสารมา ลูกสาวผมบอกจะเลิกกับเขา เราก็อารามดีใจไม่ได้ตามเลย เขาบอกว่าวันรางวัลกินรีผมเอาเอกสารไปให้เพื่อนดาราของเขาคนหนึ่ง ผมบอกใช่ ผมยืนยันว่าให้เพื่อนดาราคนนึง แล้วเพื่อนดาราคนนั้นผมให้เขาเพราะมันเป็นเอกสารคุณเอง เอกสารที่ว่าผมอย่ารบกวนสิทธิ์เขา ผมเลยฝากให้เพื่อนดาราคนนั้นไปว่า ช่วยเอาให้เคลลี่ด้วยนะ ผมไม่ชอบพฤติกรรมเขาอย่างนี้เลย ผมก็ฝากบอกแค่นี้ แล้วผมก็มากอดลูกสาวผม แล้วผมก็ออกจากงานเลย ก็แค่นั้นเอง จุดนี้กลายเป็นเขามาบอกผมว่า เขาไม่พอใจผมในจุดนี้ เปิดเผยเอกสารลับ ผมยังงงเลยเอกสารลับคุณทำมาให้ผมหยุด มันเป็นเอกสารลับที่ไหน เป็นเอกสารที่ใครๆ ก็เปิดเผยได้ครับ''

''ทำไม ผมกับคุณไม่เข้าใจกัน คุณไม่ยอมรับผม แล้วคุณก็ยังมาจีบลูกสาวผม แล้วผมก็ไม่รู้จะพูดยังไง แล้วผมจะเอายังไงดีกับผู้ชายคนหนึ่ง ที่ไม่รู้ว่าวันนึงเขาจะมาเป็นลูกเขยผมหรือเปล่า แต่เขาวางตัวอย่างนี้ ถ้าเขาอายุน้อยๆ เหมือนอย่างดาราคนอื่นผมไม่ว่าเลย เขาสี่สิบกว่าแล้วยังคิดไม่ได้เลย คือจะคิดว่าฟ้องก็ฟ้องเลย ทำเสร็จแล้วค่อยมาบอกว่า เอ้อ...ทำแล้วเป็นเรื่องยาว แล้วมาขอโทษขอโพยกัน มันไม่มีประโยชน์ เขาสี่สิบกว่าแล้ว คุณต้องคิดก่อนทำ ไม่ใช่ทำแล้วมาคิดทีหลัง ค่อยแก้ไข มันไม่ควรนะ แล้วคุณเคลลี่ถึงขนาดนั้น เราคุยกันว่าเอกสารเป็นเอกสารที่ไม่ลับ เขามั่นใจว่าป็นเอกสารลับ เราก็ฝากให้เพื่อนดาราเขาไปจริง เป็นเอกสารเขาเอง ผมไม่ชอบพฤติกรรมเขา ผมก็แค่เนี่ย กลายเป็นว่าเขาฟ้องผม
เลยจากเรื่องตรงนี้''

จากนั้น นายฉัตรฎรัฐพูดต่อไปว่า ตอนนี้กรีนอยู่กับแม่ตนก็สบายใจ คงต้องให้เวลาลูกสาว ส่วนตัวหากลูกรักใครตนก็พร้อมจะรักด้วย แต่ถ้าผู้ชายคนนั้นไม่รักลูกตนแล้ว ก็คบกันเป็นเพื่อน เหมือนพี่ เหมือนน้อง ตนไม่ว่าเลย แต่อย่ามาทำเจ้าชู้ยักษ์ใส่ลูกสาวตน แล้วมาทำเป็นครอบครอง หากทำอย่างนั้นเมื่อไหร่ ถ้าวันนึงคุณทะเลาะกัน คุณเป็นผู้ชาย แล้วคุณลงมือทำร้ายลูกสาวตน ตนไม่ยอมแน่

''วันหนึ่งถ้าผมรู้ว่าคุณแกล้งลูกสาวผม ผมไม่ยอมเด็ดขาด ก็คือลูกใครใครก็รักใช่ไหมครับ ถูกไหม แล้วเราก็ไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์อย่างนั้น เพราะฉะนั้นสิ่งที่ยังยืนยันคือให้ลูกกรีนเรียนให้จบก่อน แล้วเขาจะรักใครเราก็ต้องรักด้วย เป็นเรื่องที่ผมคิดเสมอ พูดเสมอ''

ทั้งนี้ คุณพ่อของนางเอกสาวกล่าวต่อไปว่า หลังจากที่พูดคุยกันได้สักพัก นักแสดงหนุ่มก็ลุกขึ้นมาคุกเข่าและขอโทษตน

''เคลลี่เขาคุกเข่าขอโทษผม คือหลังจากทะเลาะกันแล้ว 2-3 ชอตแล้วพี่ชายผมคอยเบรก อยู่ๆ เขาก็ตัดสินใจลุกขึ้นอ้อมโต๊ะมา คุกเข่าลงแล้วยกมือขอขมาผม ขอโทษครับป๊าครับ ผมขอเรียกป๊าครับ ผมขอโทษจริงๆ ผมผิดเองครับ ผมขออภัยด้วย ผมขอขมา เราก็ตกใจเหมือนกัน เพราะว่าเขาคุกเข่าโดยที่ไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ยเลย เราก็ต้องยืนขึ้นมา ทำอะไรไม่ถูกเลย ที่จู่ๆ เขาก็เปลี่ยนบุคลิก คือตอนที่เข้ามาเขาวางฟอร์มใส่ แล้วขอขมาใส่เรา เราก็งง พี่ชายผมก็บอกนั่งๆๆๆ นั่งก็นั่งเสร็จแล้วก็ถามผมว่าจะเอายังไง คุณพ่อจะเอายังไงต่อดี ผมก็บอกว่าอย่างนี้ถ้าให้ดีที่สุด คุณก็เอาผู้ใหญ่มา แล้วคุณเอามาหมั้นหมายลูกสาวผมไว้ก่อน สินสอดทองหมั้นเท่าไหร่ก็ว่ามา แล้วลูกสาวผมเรียบจบเมื่อไหร่ค่อยให้แต่งงานกัน พอผมพูดอย่างนี้ไป เห็นสีหน้าเขาถอดสี หน้าเขาซีดเลย แล้วเขาเอ่ยปาก ป๊าอย่าเพิ่งเลย ยังไม่ถึงเวลา เพราะกรีนเรียนหนังสืออยู่ ผมก็บอกว่าแค่หมั้นหมายกันก่อน ยังไม่ได้แต่งงาน เขาบอกเขายังไม่พร้อม ยังไม่ถึงเวลา พอดีพี่ชายผมก็เห็นด้วยตามนั้น พี่ชายก็บอกผมว่าไม่ได้ๆ อย่าเพิ่งเลย ก็เลยจบกันแค่นั้น ไม่ได้พูดอะไรมาก พี่ชายผมก็เลยสรุปว่าเอายังไง เขาก็บอกว่า 20 พ.ค. เขาจะถอนฟ้องแน่นอน แล้วผมก็ถามว่า ''ผมต้องไปด้วยไหม'' เขาบอก ''คุณพ่อไม่ต้องไป'' แล้วทนายความผมต้องไปไหม ก็ไม่ต้องไป เดี๋ยวเขาไปจัดการเอง''

ส่วนประเด็นที่เคลลี่ได้ถอนฟ้อง คุณพ่อนางเอกสาวเผยความรู้สึกว่า

''เขาถอนฟ้องวันที่ 20 ผมก็ดูจากข่าวนะ ก่อนวันนั้นผมก็กลับมาทำงานเลย เพราะอะควาเรียมปิดซ่อมแซมอยู่ช่วงปิดเทอม ต้องเปิดวันที่ 24 เราก็ต้องรีบมาซ่อมแซมให้เรียบร้อย ตอนนั้นหลังจากคุยกันแล้วว่าจะถอนฟ้องนี่ แฟนผมก็กำชับไปว่าให้เขาทำตามกติกา กติกาเดิมฮะ กติกาเดิมคืออะไร คือคุณจะพาลูกสาวเราไปไหนคุณก็ต้องให้ความเกรงใจครอบครัวเราบ้าง ไม่ใช่คุณพาลูกสาวเราไปงานโน้นงานนี้ โอ้โห...ผมว่าบางทีเขาทำตัวยิ่งกว่าแฟนนะ (หัวเราะ) ครอบครัวเราก็ไม่รู้ แม่เขาก็ไม่รู้ใช่ไหม ตอนนี้เราก็สบายใจ ลูกกรีนเข้าใจแล้ว เขาอยู่กับแม่เขาแล้ว เราก็เลยบอกเคลลี่ คุณต้องทำตามกติกาแล้วกัน ถ้าคุณทำตามกติกาได้ เราก็ยินดี ก็ว่ากันไป คุณต้องคิดว่าตัวคุณอายุไม่ใช่น้อยก็ 43 แล้ว ก็คุยกันตอนหนึ่งคุณ 43 แล้ว ถ้าคุณคบลูกสาวผม 2 ปี แล้วเลิกกันคุณก็ 45 แล้วคุณจะใช้ชีวิตยังไง 45 แล้วนะ แล้วคุณจะสร้างครอบครัวยังไง เราก็ถามเขา เขาก็ตอบเราไม่ได้ หลังจากคุยกับเคลลี่ให้ตามกติกานี้แล้วนะ เขาก็บอกเองว่าเขาขอนับหนึ่งใหม่ เขาขอเวลาพิสูจน์ตัวเอง ผมก็ว่าโอเค ในเมื่อคุณเป็นผู้ใหญ่คนนึงกล้าคุกเข่า กล้ามาขอโทษ เราให้อภัยได้อยู่แล้ว แต่คุณต้องจำไว้ คำพูดของคุณ พูดยังไงไว้คุณเคลลี่ ลูกสาวผมรักใครผมรักเหมือนกัน ผมไม่เคยมาว่า เหมือนครั้งนี้ ตั้งแต่แรกคุณจะเข้าบ้านผมตั้งแต่แรก ผมเคยห้ามที่ไหน ผมไม่เคยห้ามลูกสาวผมเลย ผมขอให้อยู่ในกติกา แล้วคุณไม่อยู่ในกติกาเอง แล้วคุณจะโทษใครดีใช่ไหม''

''เอาล่ะวันนี้คุณขอนับหนึ่งใหม่ พิสูจน์ตัวเองผมยินดี แล้วก็คือขออย่างนึงเมื่อเข้ามาแล้วนี่ คุณก็ต้องคุยกับแม่เขาเยอะหน่อย คุณเคลลี่มีอะไรคุณก็ต้องคุย เอาล่ะคุณคุยกับลูกกรีน ผมรู้คุณต้องคุยอยู่แล้ว แต่คุณต้องคุยกับแม่เขาเยอะหน่อย ไม่งั้นคุณจู่ๆ จะถือวิสาสะพาลูกสาวผมไปไหนต่อไหนได้ไงตลอดเวลา ใช่ไหม แล้วคุณจะมาใช้คำว่าบรรลุนิติภาวะเลย ถึงแม้ลูกสาวผมจะบรรลุนิติภาวะแล้ว วันนึงถ้าคุณเป็นแฟนกัน แล้วคุณลงมือลงไม้กับลูกผม คุณก็ต้องเจอผมเหมือนกัน ใช่ไหม ในสังคมโลกมันเป็นอย่างงี้จริง ส่วนใหญ่แล้วเมื่อไม่เข้าใจกัน ผู้ชายมักทำร้ายผู้หญิงเสมอ ผมมองสังคมเป็นอย่างงี้ตลอด เพราะฉะนั้นสังคมที่ดี ครอบครัวต้องสมบูรณ์แบบ โอกาสที่จะเจออย่างงั้นมันก็ไม่มี ใช่ไหม เราก็ต้องใช้เวลาพิสูจน์ ทั้งตัวเขา และครอบครัวเราด้วยนะครับ'' คุณพ่อของสาวกรีนกล่าวทิ้งท้าย

Create Date : 29 พฤษภาคม 2556

Last Update : 29 พฤษภาคม 2556 7:30:16 น.

0 comments

Counter : 1922 Pageviews.