คอลัมน์ "เทรนดี้" โดย "ทีมข่าวไทยรัฐออนไลน์" คุยกับหนุ่มฮอต "ต่อ-ธนภพ" จากซีรีส์สุดฮิต "ฮอร์โมน วัยว้าวุ่น" ถึงการเตรียมตัวขึ้นเวทีงาน "Hormones Day and Night ว้าวุ่น...วันยันค่ำ" พร้อมทั้งอัพเดตผลงานรวมถึงเรื่องหัวใจแบบเต็มอิ่ม...

ลาจอไปได้สักพักแล้วสำหรับซีรีส์ฮิตชนะใจวัยรุ่น "ฮอร์โมน วัยว้าวุ่น" ทางช่องจีเอ็มเอ็มวัน ที่งานนี้ฮอตฮิตทะลุจอจนบรรดาช่องฟรีทีวียังต้องจับตา และทำให้แจ้งเกิดเหล่านักแสดงหน้าใหม่ประดับวงการบันเทิงอีกเพียบ ซึ่งหนึ่งในนักแสดงหน้าใหม่ที่ไม่พูดถึงไม่ได้ก็ต้องนึกถึง ต่อ-ธนภพ ลีรัตนขจร นักแสดงหนุ่มหน้าตี๋ที่แจ้งเกิดจากบท "ไผ่" หนุ่มเลือดร้อนที่มองว่าการใช้กำลังคือการแก้ปัญหาที่ดีที่สุด แต่จิตใจอ่อนไหวเมื่อพบรักกับ "สไปร์ท" สาวเปรี้ยวที่มองว่าความรักและเซ็กซ์คือสิ่งสวยงาม ที่รับบทโดยนักแสดงสาวหน้าใส เก้า-สุภัสสรา ธนชาติ จนเป็นคู่จิ้นสุดฮิตไปเรียบร้อย และเมื่อกลุ่มนักแสดงจากซีรีส์ดังรวมตัวกันอีกครั้งในงาน "Hormones Day and Night ว้าวุ่น...วันยันค่ำ" ที่จะจัดขึ้นในวันที่ 8 ต.ค.นี้ ที่ลานพาร์ค พารากอน ศูนย์การค้าสยามพารากอน คอลัมน์ "เทรนดี้" โดย "ทีมข่าวไทยรัฐออนไลน์" เลยชวนหนุ่มต่อมาพูดถึงการรวมตัวกันในครั้งนี้ อีกทั้งอัพเดตความคืบหน้าของซีรีส์ "ฮอร์โมน วัยว้าวุ่น ซีซั่น 2" รวมทั้งถามถึงเรื่องหัวใจของหนุ่มต่อกับสาวนอกวงการที่คบหาดูใจมานานนับปีอีกด้วย

Q : ถามถึงงาน  Hormones Day  and Night ว้าวุ่น...วันยันค่ำ?
A : สำหรับงานนี้ผมได้มาร่วมขายบัตรของงานด้วย ก็ถือว่าประสบความสำเร็จในระดับที่เกินคาดหวัง ตอนแรกเราคิดว่ากระแสดีมากแน่ ๆ แต่พอเจอฝนตกหนักก็คิดว่าสงสัยแย่แล้ว มากันไม่ไหวแน่ แต่ว่าแฟนคลับเหนียวแน่นมากมากันเต็มเลย ก็โอเคครับ ก็ดีใจครับ เราไม่ได้บังคับซื้อทุกคน เราแค่เชิญชวนให้มาทำบุญด้วยกัน แต่คนที่ซื้อบัตรไปก็ชวนกันต่อ คนเดียวซื้อ 2 ใบทั้งรอบ Day กับ Night  ซึ่งคนที่ให้ความสำคัญเขาก็ให้ความสำคัญมาก ซึ่งรายได้จากการจัดงานครั้งนี้จะนำไปช่วย 2 มูลนิธิ คือ "บ้านโฮมฮัก มูลนิธิ สุธาสินี น้อยอินทร์ เพื่อเด็กและเยาวชน" และ "สมาคมเด็กและเยาวชนเพื่อสันติภาพชายแดนใต้" ซึ่งจีทีเอชทำงานการกุศลมาเยอะแล้ว และนี่ก็เป็นอีกหนึ่งกุศลที่เป็นกุศลใหญ่ครับ โดยที่เราให้คนเสียค่าทำบุญ 800 บาทเพื่อให้คนเข้ามาดูเราแล้วฟินกลับบ้านด้วย เราก็ได้ทำบุญ 2 ต่อ คือได้บริจาคด้วย และทำให้ทุกคนมีความสุขครับ

Q : พูดถึงรายละเอียดการเตรียมตัวในงานครั้งนี้?
A : ต้องบอกว่าหนักมากครับ เพราะจริง ๆ เราเป็นแค่นักแสดงธรรมดา แต่เนื่องจากพวกเราอยากประกาศศักดา แสดงศักยภาพให้ทุกคนได้รู้ว่า จริง ๆ ลุคสดใสของนักแสดงจีทีเอชไม่ได้แค่แสดงเป็นอย่างเดียว เราจะประกาศว่าต่อไปนี้พวกเรานักแสดงจีทีเอชตั้งแต่รุ่นนี้เป็นต้นไปทำได้ทุกอย่าง ร้องเพลงได้ เต้นได้ แสดงก็ได้ครับ ส่วนเรื่องเซอร์ไพรส์สำหรับคอนเสิร์ตนี้เราปิดหมด ไม่บอกเลยว่ามีอะไรบ้าง แล้วมาเจอทีเดียวเลยเพราะว่าทุกอย่างของเราคือเซอร์ไพรส์ ส่วนจะสลับคู่ไปโชว์คู่กับคนอื่นรึเปล่าอันนี้ไม่แน่ครับ แล้วเราก็ไม่ได้บอกด้วยว่าเราจะตามคิวกันเสมอไป คอนเสิร์ตนี้จะเป็นซุปเปอร์เอ็นเตอร์เทนไปเลย เป็นการทำทุกอย่างใหม่หมด ตอนนี้เตรียมตัวไป 70-80 เปอร์เซ็นต์ได้แล้ว จริง ๆ เราพยายามทำให้ครบร้อยก่อน เพื่อที่เราจะได้ไม่ต้องหยุด พร้อมจาก 100 เต็มตรงนั้นครับ ยิ่งเรามาเห็นคนที่มาซื้อบัตรเรายิ่งรู้สึกว่าเราให้เขาผิดหวังไม่ได้น่ะ เราต้องเต็มที่ที่สุดแล้วค่อยว่ากัน

Q : ตัวเราเองหรือแฟนคลับมีเสนอไอเดียไหมว่าอยากให้ทำอะไรเป็นพิเศษ?
A : ผมก็มีเสนอไอเดียไปนิดหน่อย แต่จริง ๆ ไอเดียที่เขาคิดไวดีมาก เจ๋งเลยครับ ทุกคนดูแล้วต้องรู้สึกว่าเวิร์ก ส่วนแฟน ๆ ก็มีบอกครับว่าอยากเห็นเราทำแบบนี้ แต่ก็ต้องดูเรื่องจังหวะของแฟน ๆ ว่าเป็นยังไง ถ้าแฟน ๆ เรียกร้องก็โอเค แต่แฟน ๆ ก็ยังไม่รู้เลยว่าเซอร์ไพรส์เราเป็นอะไร อาจจะฟินกว่ารึเปล่า

Q : คาดหวังมากน้อยแค่ไหนจากการขึ้นโชว์ครั้งนี้?
A : คาดหวังครับ เพราะเป็นครั้งแรกของผม ผมไม่เคยกล้าร้องเพลงโชว์ใคร ตั้งแต่ออกงานอีเวนต์มามีแค่อีเวนต์เดียวที่เคยไปร้องเพลงช่วยน้องเก้า แต่ร้องนิดเดียว ร้องไม่กี่ท่อน ปกติไม่กล้าเพราะเป็นคนขี้อายครับ เขิน (ยิ้ม) ซึ่งผมจะทำลายกำแพงตรงนี้ออกมาเพื่องานนี้เลยครับ

Q : ฝากถึงแฟน ๆ ที่จะมาดูคอนเสิร์ตนี้?
A : ก็ขอบคุณแฟน ๆ ทุกคนที่มาร่วมสร้างบุญสร้างกุศลกัน ขอให้ได้บุญและมีความเจริญก้าวหน้า  อย่างน้อยเราก็ได้ช่วยเหลือคนในภาคใต้ และขอเชิญชวนด้วยนะครับ จริง ๆ แล้วผมก็ไม่รู้ว่ารายได้จากตรงนี้จะเยอะแค่ไหน แต่ต่อให้เงินเยอะมันก็แค่ส่วนเล็ก ๆ เพราะว่าคนยังลำบากกันอีกเยอะ ก็อยากให้ทุกคนมาช่วยกันเถอะครับ

Q : ถามถึงความคืบหน้าซีรีส์ "ฮอร์โมน วัยว้าวุ่น ซีซั่น 2" เป็นยังไงบ้าง?
A : ตอนนี้อยู่ในช่วงเขียนบทอยู่ คาดว่าปีหน้าจะเปิดกล้องอีกรอบนึง เหมือนตอนที่เราทำงาน เขาจะเขียนบทมาข้ามปี แล้วปลายปีที่ผ่านมาก็เริ่มถ่าย  ต้นปีเราก็ถ่ายเสร็จ  คือเราคิดจะทำรูปแบบมาตั้งแต่แรกว่าทำให้มันวนเป็นซีซั่นไปเรื่อย ๆ ออกอากาศเวลาเดิมไปเรื่อย ๆ ทุกคนจะได้ไม่ลืมกัน นักแสดงก็จะยังเป็นเซตเดิมเลยครับ แต่อยากบอกว่าความเข้มข้นทวีคูณขึ้นมาอีกเยอะ เพราะว่าจะมีตัวละครใหม่ ๆ ที่ใครก็คาดไม่ถึงขึ้นมาเยอะ ซึ่งอาจจะมีนักแสดงที่ไม่ใช่ตัวหลัก 13 ตัวอาจจะนำขึ้นมาเป็นคาแรกเตอร์หลักด้วยครับ ซึ่งจริง ๆ มันถูกวางไว้หมดแล้วว่ามันจะแตกออกไปเรื่อย ๆ  ผมว่าจริง ๆ แล้วความแรงในฮอร์โมนซีซั่นแรกก็กลาง ๆ นะครับ ไม่ถือว่าแรงเลย อันนี้ผมเคยคุยกับพี่ที่เขียนบทนะ แต่จริงๆ เขาเขียนให้แรงกว่านี้เยอะเลย แต่เราเป็นห่วงว่าสังคมไทยว่าการเปิดรับจะไม่ทัน แต่ตอนนี้ทุกคนแสดงให้เราเห็นแล้วว่าคนไทยพร้อมที่จะเปิดรับกับสิ่งพวกนี้เพราะจริง ๆ มันก็คือความจริง เพียงแต่ไม่ยอมรับและปิดหูปิดตามาตลอด แต่พอมันเปิดก็ไม่มีอะไรเสียหาย ไม่ได้ทำให้สังคมเสื่อมโทรม

Q : ตอนที่ฉายซีซั่นแรกก็มีกระแสจากทาง กสทช. ออกมา พอซีซั่นต่อไปบทจะแรงกว่าเดิม แบบนี้หวั่นไหมว่าทางนั้นจะตรวจสอบจนเป็นข่าวขึ้นมาอีก?
A : ก็คงยืนยันเจตนาครับว่าเราเจตนาดีครับ มันไม่สามารถเปลี่ยนเจตนาได้ ซึ่งด้วยความที่เราเจตนาดี เราค่อนข้างแรงกล้ามาก มันได้ถ่ายทอดออกมาให้ทุกคนที่ได้ดูฮอร์โมนฯ ได้เห็นว่าเราไม่มีเจตนาร้ายที่จะสื่อออกมาแบบนั้น คนเราถ้าไม่ได้ทำผิดมันก็ไม่กลัวครับ เราไม่ได้รู้สึกว่าเราทำผิด เรารู้สึกว่าเราแค่อยากจะเล่าอะไรต่าง ๆ ให้คนฟัง ส่วนบทจะแรงแค่ไหนเรายังไม่รู้ขนาดนั้น คือเราแค่คุยกันเล่น ๆ คร่าว ๆ  คือผมเคยถามพี่คนเขียนบทว่าจริง ๆ แรงกว่านี้ได้ไหม มีแรงกว่านี้อีกไหมเพราะผมรู้สึกว่ามันแรง เขาบอกว่าถ้าเทียบกับโลกความเป็นจริงมันไม่ได้แรงเลย มีอีกหลายสิ่งที่ไม่รู้จบที่มันแรงกว่านี้อีกเยอะ ถามว่าบทใกล้เสร็จรึยังคงต้องถามทางพี่ย้ง (ทรงยศ สุขมากอนันต์) ดีกว่าครับ แต่ทันเปิดกล้องปีหน้าแน่นอนครับ แต่ยังไม่แน่ใจว่าจะเป็นต้นปี กลางปี หรือปลายปีครับ แต่ก็มีโปรโมตเรื่อย ๆ ครับ ส่วนบทผมจะไปคู่กับคนอื่นรึเปล่าอันนี้ไม่ขอตอบแล้วกัน ให้ไปลุ้นกันเองครับ เพราะมีคนจับจ้องพอสมควร

Q : มาเล่นเรื่องนี้กับเก้า-สุภัสสรา คนก็จับคู่ให้เราเป็นคู่จิ้นด้วยกันเลย?
A : ใช่ครับ (ยิ้ม) ก็ดีครับ จริง ๆ เก้าเป็นคนน่ารักอยู่แล้ว เป็นทั้งเพื่อนและรุ่นน้อง ซึ่งก็เป็นอย่างที่เก้าเคยให้สัมภาษณ์ เนื่องจากเรารู้จักกันมาก่อน ผมก็เรียกว่าเป็นพี่หรือเป็นเพื่อนก็ได้  มีอะไรก็คอยแชร์กันได้ คนก็เลยอาจจะรู้สึกว่ามีเคมีบางอย่างเวลาเล่นด้วยกัน เหมือนเคมีตรงกัน ถามว่าเขินไหมพอเขาจับคู่ให้จริง ๆ เขินมากด้วย แต่พอถึงจุด ๆ หนึ่งวันหนึ่งที่เราได้ไปเจอคนเยอะ ๆ แล้วรู้สึกว่าเราอยากทำอะไรให้เขาชื่นใจขึ้นมาแล้วเราทำให้เขาชื่นใจได้ แค่นั้นมันโอเคแล้ว ไม่ต้องสนว่าจะจิ้นรึเปล่า ภาคหน้าจะไม่จิ้นกันแล้วหรือยังจิ้นกันอยู่ไหม เราไม่คิดตรงนั้นเลยครับ แค่คนดูมีความสุขกับการแสดงของเราก็โอเคแล้ว ทุกวันนี้แค่ออกมาแล้วเราเห็นเขายังยิ้มกันก็โอเค ที่ออกงานด้วยกันบ่อย ๆ ก็น่าจะเป็นกระแสจิ้นแหละครับ

Q : จะมีโอกาสได้เห็นเรากับเก้าเล่นละครด้วยกันที่ไม่ใช่ซีรีส์ฮอร์โมนฯ ไหม?
A : ยังไม่แน่ใจ ต้องรอติดตามดูแล้วกันครับ อันนี้ไม่กล้าคอนเฟิร์มอะไรขนาดนั้น แต่จริง ๆ ก็มีนะ แต่เป็นไซด์สตอรี่ของจีทีเอชออกมา เป็นเรื่องต่อจากฮอร์โมนฯ ซีซั่นแรก  ชื่อเรื่องว่า "ผู้หญิงไผ่ใครอย่าแตะ" ทางช่องจีเอ็มเอ็มวัน ก็ขอฝากไว้ด้วยกันครับ

Q : กระแสเราดีแบบนี้ เริ่มมีงานแสดงอื่น ๆ ติดต่อมารึยัง?
A : มีครับ เดี๋ยวมีแน่นอน แต่ว่าอาจจะยังไม่ได้เปิดเผยเท่าไหร่ ก็น่าจะเป็นงานแสดงนี่แหละ ส่วนงานร้องเพลงขอดูฟีดแบ็กหลังจากงานฮอรโมนฯ ก่อนแล้วกันครับว่าเป็นยังไง ถามว่าจะมีงานแสดงกับช่องอื่นๆ ไหมอันนี้ยังไม่กล้าคอนเฟิร์มขนาดนั้น ถ้าเกิดทางผู้ใหญ่ให้โอกาส แล้วผู้ใหญ่ทางนั้นเห็นแนวทางต่าง ๆ แล้วเชิญชวนมาแล้วผู้ใหญ่ทางเราโอเค เราก็น้อมรับครับ ถามว่าคุณอาผม (วิบูลย์ ลีรัตนขจร) ได้ชวนไหม คือจริง ๆ ยังไม่มีการคุยแบบเป็นเรื่องเป็นราวเท่าไหร่ แต่เราเป็นครอบครัวเดียวกันก็มีคุยกันบ้าง คือบางครั้งข่าวที่ออกมาว่าเราคุยกันเรื่องงาน  เราก็เป็นอาหลานก็คุยกันบ้างแต่ไม่มีอะไรครับ

Q : แล้วเรื่องหัวใจกับสาวนอกวงการเป็นไงบ้าง ดูเราค่อนข้างเปิดเผย?
A : จริง ๆ ถ้าเรายิ่งปิดยิ่งเป็นประเด็นนะครับ สู้ผมบอกไปเลยดีกว่า บอกกันตรง ๆ ไปเลย ผมเป็นคนตรง ๆ มากกว่า ถ้าผมรู้ว่าอันไหนชัวร์ผมก็บอก ผมไม่อยากโกหกปิดบังอะไรใคร เพียงแต่ถ้าใครมาถามก็ตอบ แต่ผมไม่เคยโชว์ใครว่าผมมีแฟน  แต่เนื่องจากผมไม่ใช่คนปิด เพราะฉะนั้นถ้าเกิดคนถามว่ามีรึยัง ผมก็บอกมีแล้วก็จบครับ

Q : พอเราออกตัวว่ามีแฟนแล้ว แฟนคลับของต่อว่าไงบ้าง?
A : จริง ๆ แล้วความคิดของคนเราต่างกันไป อย่างที่ว่าคนเราร้อยพ่อพันแม่ มันไม่สามารถมาเดาได้ว่าการที่เขาชอบใครสักคนนึง เขาชอบเราที่ตรงไหน มันก็มีหลายกระแสมาก ซึ่งเราคงไม่ขอวิจารณ์ดีกว่า เพราะถ้าเราวิจารณ์ มันจะกลายเป็นว่าเรากำลังวิจารณ์แฟนคลับหรือคนที่ชื่นชอบเราอยู่ แต่แฟนผมเองก็โอเคครับ

Q : เรามีกระแสมากขนาดนี้แฟนเราว่าไงบ้าง เพราะไปไหนมาไหนด้วยกันก็น่าจะถูกจับตามองมากขึ้น?
A : เขาก็โอเคครับ จริง ๆ กระแสของผมก็ไม่ได้เยอะขนาดนั้นนะ (ยิ้ม) คือต้องขอบคุณทีมงานเบื้องหลังด้วย อย่าบอกเลยว่าผมเป็นกระแส ผมว่ากระแสมันมาจากบทที่ส่งมาทั้งนั้นเลย ถ้าไม่มีไผ่ก็อาจจะไม่ขนาดนี้ก็ได้ คือคนอาจจะชอบที่คาแรกเตอร์ของไผ่ ไม่ใช่คาแรกเตอร์ของต่อก็ได้ (ยิ้ม) แต่ถามว่ามีไหมที่ชอบต่อไม่ได้ชอบที่ไผ่ก็มี ส่วนเรื่องไปไหนแล้วคนจับตามองก็เริ่มจับตาครับ แต่ยังไงผมก็ไม่เปลี่ยนไปอยู่แล้วไม่ว่าตัวเองจะอยู่ในฐานะอะไร ยังไงเราก็เป็นคนเดินดินเหมือนกับคนที่มายืนรอเราน่ะ เพียงแค่เราใช้สองขาที่ยืนเดินขึ้นมาบนเวทีแค่นั้นเอง ไม่ได้ต่างอะไรกันเลย ชีวิตก็มีเท่ากัน คือไปไหนคนก็มอง แต่เราไม่ได้ทำอะไรผิดไง เราก็ไม่ได้มานั่งเกร็งว่าเขาจะเห็นเราไหม คิดในแง่ดีมันสบายใจกว่าเยอะ ถ้าสมมติชีวิตประจำวันเราแฮปปี้ การทำงานเราแฮปปี้แน่นอน ถามว่าอึดอัดไหมเวลาไปไหนแล้วคนมองก็ไม่อึดอัดนะ เพราะเราเลือกที่จะเปิด ฉะนั้นก็ต้องรับให้ได้ในสิ่งที่เราทำไปแล้ว

Q : คุยกับคนนี้มาสักพักแล้วเขาเป็นไงบ้าง?
A : ก็คุยกันมาเกิน 1 ปีแล้วครับ ก็โอเค เขาเป็นผู้หญิงที่ดีในสายตาผมนะ ก็คุยกันแล้วเข้ากันได้ ไลฟ์สไตล์ตรงกัน คือก็ไม่รู้ว่าตรงกันที่ตรงไหนได้ แต่ว่าผมรู้สึกว่าเราเข้ากันมั้ง ส่วนเรื่องข่าวเม้าท์ว่าเขาชอบหวงผมแล้วตัวเขาว่าไงบ้าง จริง ๆ เขาเป็นคนที่ไม่ค่อยอะไร ถ้าไม่ได้ทำก็จะเฉย ๆ แต่ผมกลับรู้สึกว่าบางครั้งไม่อยากให้เขาถูกมองไม่ดี เพราะว่าเราเป็นคนตรง ๆ ถ้าทำก็บอกว่าทำ  แต่นี่บางอย่างเขาไม่ได้ทำ เราก็แค่อยากบอกว่าเขาไม่ได้ทำ ไม่ใช่อย่างที่เข้าใจกัน บางอย่างมันมีข้อจำกัดในเรื่องอื่น เพราะเขาเป็นแฟนเราไม่ใช่เจ้าชีวิตเราครับ เขาไม่สามารถคุมอะไรเราได้ทุกอย่าง เขาไม่มีสิทธิ์มาห้ามเรื่องส่วนตัวขนาดนั้น

Q : สุดท้ายแล้วฝากอะไรถึงแฟนคลับกันหน่อย?
A : ฝากขอบคุณแฟนคลับที่กรี๊ดผมมาตลอดนะครับ ปลื้มใจมาก ไม่รู้ว่าของคนอื่นเป็นไงนะ แต่แฟนคลับของต่อเองก็จะเจอคนเดิม ๆ ผมเป็นคนที่ไม่ขี้เบื่อกับอะไรเดิม ๆ ผมชอบอะไรที่มันอยู่ไปกับเรานาน ๆ ครับ ขอบคุณมาก ๆ ไม่มีพวกเขาก็คงไม่มีต่อเหมือนกันครับ.