..ถ น น ส าย นี้ ..มี ต ะพ า บ 46. ....( ส า มั ค คี เ จ้า เ อ ย )
..ถ น น ส าย นี้ ..มี ต ะพ า บ 46. ....( ส า มั ค คี เ จ้า เ อ ย )
เขียนจากโจทย์งานตะพาบที่ให้เขียนเรื่องความสามัคคี
ขอให้ชื่อตอนนี้ว่า
น้ำใจและความสามัคคี
เพื่อนๆที่เข้ามาอ่าน อาจจะงงๆนะครับ
ว่ามันไม่น่าจะเกี่ยวกันหรือคิดว่าผมอาจเขียนผิดหัวข้อกระมัง
ใจเย็นๆค่อยอ่านนะครับ ^^
มนุษย์ในสังคมสามารถแบ่งได้เป็นสามประเภทคือ
ผู้สร้าง ผู้รักษา และ ผู้ทำลายโลก
คนเหล่านั้นคือใคร ?
คำตอบคือ...
อัจฉริยะบุคลสร้างโลก
มนุษย์รักษาโลก
ปุถุชนทำลายโลก
อะไรทำให้คนเหล่านี้แตกต่างกัน?
สิ่งที่แตกต่างก็คือ ความสูงต่ำของระดับจิตใจ
ความสูงต่ำนี้คือจิตใจที่เข้าถึงธรรมชาติ อันบริสุทธิ์
จิตที่สงบและมีสมาธิย่อมเกิดปัญญาและพลังแห่งการสร้างสรรค์
ผู้ที่เข้าถึงได้แก่ผู้มีพรสวรรค์และปัญญาสูงดังเช่นอัจฉริยะบุคคลต่างๆในโลก
เมื่อเข้าใจธรรมชาติในเรื่องใดก็สร้างสรรค์สิ่งสวยงามเหล่านั้นไว้ให้มวล
มนุษย์ชาติ เช่น เซอร์ไอแซค นิวตัน อัลเบิร์ตไอสไตน์ อามาดิอุส โม
สาสต์ ฯลฯ ศาสดาในทุกศาสนา
ต้องยอมรับว่าโลกเราเจริญและพัฒนามาจากบุคคลเหล่านี้
สิ่งที่คิดค้นเอาไว้หรือคำพูดคำสอนเกี่ยวกับธรรมชาติความจริงต่างๆสร้าง
ความสุขความเจริญแก่โลกอย่างแท้จริง
จิตใจที่รองลงมา คือจิตของมนุษย์หรือผู้มีใจสูง คือคนที่รู้จักเข้าใจ
ห่วงใย เห็นใจ เพื่อนมนุษย์ด้วยกัน เห็นแก่ประเทศชาติมากกว่าผลประโยชน์
ของตัวเองหรือพวกพ้อง ไม่เป็นคนใจแคบ ยอมรับฟังความคิดเห็นและปรับ
ปรุงทัศนคติให้เหมาะแก่ยุคและสมัย ไม่ประพฤติตัวผิดศีลธรรม ไม่คดโกง
ไม่ทุจริต ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต
จากเหตุการณ์น้ำท่วมใหญ่ที่ผ่านมา เราเห็นเหล่ามนุษย์แสดงตัวตนออกมา
ในรูปแบบต่างๆเช่น เหล่าจิตอาสา สื่อมวลชน คนธรรมดาๆที่ไม่นิ่งดูดาย รวม
ทั้งเหล่าเจ้าหน้าที่ทหารผู้เสียสละทำงานอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย
ใครก็ได้ที่ออกมาช่วยเหลือพี่น้องประชาชน ด้วยการบริจาคเงินสิ่งของเพื่อ
ช่วยเหลือคนที่กำลังเดือดร้อน เผยแพร่เหตุการณ์ให้คนอื่นๆได้เห็น
ล้วนทำไปด้วยใจที่สูงส่งทั้งสิ้น
เราจะเรียกว่าจิตใจที่แสดงออกในลักษณะการช่วยเหลือนี้ว่า
"ความสามัคคีก็ได้ หรือเราจะอธิบายว่าเป็น"น้ำใจ ก็ไม่ผิด
จิตใจต่ำหรือจิตใจของปุถุชนผู้หนาไปด้วยกิเลสตัณหาคือจิตใจที่ไม่เข้าใจ
โลก ไม่เข้าใจตนเอง แต่ตกเป็นทาสของกิเลสตัณหาโดยสิ้นเชิง เห็นแก่
ประโยชน์ของตนหรือพวกพ้องมากกว่าส่วนรวม ตกเป็นทาสของสื่อยั่วยุให้มี
ความเกลียดชังกันและกัน จิตใจเช่นนี้ย่อมทำลายตนและทำลายโลกที่ตน
อาศัยอยู่ด้วยโดยอาจไม่รู้ตัวก็ได้
ในคนๆหนึ่งจิตใจย่อมมีสูงบ้างต่ำลงบ้างตามการใช้ชีวิต และสถานการณ์ บาง
ช่วงที่จิตใจปลอดโปร่งแจ่มใสเกิดความคิดดีๆ เกิดเป็นงานหรือโครงการใหม่ๆ
ที่ช่วยเหลือสังคมส่วนรวมได้ หรือแม้แต่เพื่อนๆในบล็อกที่เขียนถ่ายทอดสิ่ง
ดีๆที่ตัวเองชอบ เช่นสอนทำอาหาร พาไปเที่ยว เขียนบทความดีๆคนนั้น
กลายเป็นอัจฉริยะน้อยๆผู้สร้างโลกให้งดงามไปเสียแล้ว
คนๆเดียวกัน ขาดสติ ขาดศีลธรรมทำสิ่งไม่ดีต้องติดคุกติดตะราง
เขาก็กลายเป็นปุถุชนผู้หนาไปด้วยกิเลสไปแล้วสิ่งสำคัญ
คือทำอย่างไรเราจึงจะรักษาจิตใจของเราให้ดีได้สม่ำเสมอ หรือดีขึ้นเรื่อยๆ
สิ่งที่ช่วยยกจิตใจของเราได้ก็คือ ศีลธรรม ขนบธรรมเนียมจารีตประเพณี
วัฒนธรรมที่ดีงาม และที่สำคัญที่สุดก็คือศาสนาที่ตนเองนับถือนั่นเอง
ถ้าไม่มีศาสนาหรือคำสอนคุณธรรมหลงเหลือในจิตใจของเราแล้วคนเราจะ
ไม่สามารถพัฒนาจิตใจของตนเองได้เลย
คนที่ไม่เข้าใจธรรมชาติของสิ่งใดก็ทำลายสิ่งนั้นโดยไม่รู้ตัว
คนที่ไม่เข้าใจชีวิต ก็ทำลายชีวิตของตนเอง
คนที่ไม่เข้าใจโลก ก็ทำลายโลก
คนที่ไม่เข้าใจสังคม ก็ทำลายสังคมเช่นกัน
ในความสามัคคีไม่ต้องการเรียกร้อง แต่เราเป็นได้เลยตามสภาพของจิตใจ
ของเรา ถ้าจิตใจเราสูงเป็นมนุษย์ เรากำลังรักษาโลกของเราอยู่ เราเป็น
คนมีความสามัคคี เรากำลังสรรค์สร้างสังคมของเราให้น่าอยู่
เมื่อน้ำท่วมใหญ่ครั้งนี้เกิดขึ้น ภาพความยากลำบากถูกส่งผ่านสื่อต่างๆ
โดยไม่ต้องมีการเรียกร้องให้แสดงน้ำใจ ไม่ต้องเรียกร้องให้แสดงความ
สามัคคี ต่างยื่นมือเข้าช่วยเหลือเพื่อนคนไทยเท่าที่ทำได้ ไม่ทางใดก็
ทางหนึ่ง นี่แหละคือน้ำใจเมตตาปราณี คือพลังความสามัคคีที่มีอยู่อย่าง
เต็มเปี่ยมในจิตใจคนไทย อยู่เหนือความขัดแย้งทางการเมืองโดยสิ้นเชิง
ถ้าคุณเป็นคนดี
ถ้าดีแล้วอย่าท้อ
ถ้าท้อแล้วก็อย่าถอย
ถ้าถอยได้ก็อย่าแพ้
ถ้าแพ้ได้ก็อย่าล้มเลิก
ถ้าล้มเลิกก็อย่ากลายเป็นคนเลว
แต่จงรู้จักเรียนรู้แล้วเป็นคนดียิ่งกว่าเดิม
เข้าใจโลกเข้าใจตนและเข้าใจคนอื่นๆ
เพราะโลกคือธรรมชาติของความเปลี่ยนแปลง
ย่อมมีทั้งน่าพอใจและไม่น่าพอใจ
ย่อมมีสมหวังและผิดหวังบ้าง
ทำให้เราเป็นสุขบ้างเป็นทุกข์บ้าง
ตามความหวัง ความอยาก ภายในใจเรา
มีแต่เราที่ต้องเรียนรู้ให้ทันความเปลี่ยนแปลงนั้นให้ได้
เพราะถ้าสังคมประเทศชาติขาดคนสำคัญ
คนที่ยังทำหน้าที่ด้วยความรับผิดชอบ
ในทุกตำแหน่งหน้าที่อย่างพวกคุณไปแล้ว
ก็เหมือนร่างกายที่อวัยวะแต่ละส่วนไม่ทำงาน
สังคมประเทศชาติก็จะอยู่รอดต่อไปไม่ได้
คนดีคือคนที่มีน้ำใจยอมลำบากเพื่อให้คนอื่นสบาย
คนที่ทำหน้าที่ของตนอย่างเต็มแล้วจะไม่มีใครนั่งอย่างสุขสบายใจ
เพราะสังคมดีขึ้นได้ถ้าพวกเราไม่นิ่งดูดาย
เรื่องและภาพประกอบ วนารักษ์
ขอบคุณคุณลักษณ์เรื่องเทคนิคการถ่ายภาพสวยๆแบบนี้
ขอบคุณเพื่อนประจำบล็อกที่น่ารักทุกๆคน
ของคุณทุกๆท่านที่แวะเข้ามาอ่านงานตะพาบต้วมเตี้ยมตัวนี้
สุขสวัสดีปีใหม่จงมีแด่เพื่อนๆในบล็อกแก๊งค์แห่งนี้นะครับ ^^
Create Date : 26 ธันวาคม 2554 |
|
131 comments |
Last Update : 28 ธันวาคม 2554 9:51:43 น. |
Counter : 5047 Pageviews. |
|
|
|