bloggang.com mainmenu search
วันนี้ถือเป็นวันที่ฤกษ์งามยามดีครับ ก็เลยมาส่งการบ้าน Food For Fun :: Hot Wok Mission ครั้งที่ 24 แล้วนะครับ คราวนี้คุณ กอล์ฟ - Mrs.Golf Joonjaroen ได้ออกโจทย์มาว่า

"เนื่องจากเดือนกุมภาพันธ์ เป็นเดือนแห่งความรัก ขอเชิญชวนเพื่อน ๆ ทำเมนูพิเศษให้กับคนที่คุณรัก ไม่ว่าจะเป็นคุณพ่อคุณแม่ คู่สมรส ลูกๆ แฟน หรือเพื่อนๆ จะเป็นเมนูคาวหรือหวานก็ได้ค่ะ ไม่จำกัดวัตถุดิบที่ใช้ค่ะ "

ตอนแรหห็คิดอยู่นานนะครับ ว่าจะเอาอะไรส่งการบ้านดี จะทำเค้กก็ดูธรรมดาไป ไม่เกร๋ พอดีเจ้าปิงมาวิ่งวุ่นอยู่ใกล้ๆ ก็เลยนึกขึ้นได้ผมมีคนที่รักมากอยู่คนนึง แต่ไม่เคยบอกกับเค้าเลยว่าเป็นรักและห่วงเค้ามากแค่ไหน ก็หวังว่าเมนูวันนี้จะเป็นสื่อไปถึงเค้านะครับถ้าผมเป็นรักและเป็นห่วงเค้ามากๆ เพราะเค้าเป็น "น้องสาว" ของผมเองครับ



---------------------------------------------------------------------------

ผมกับน้องสาวอายุห่างกัน 1 ปี กับ 29 วันเท่านั้น ตอนเด็กๆเราสนิทกันมากๆ เพราะมีกันอยู่ 2 คนพี่น้อง และที่บ้านไม่มีเด็กเล็กๆมานานแล้วก็เลยเล่นกันอยู่ 2 คนเป็นส่วนใหญ่

พอเริ่มโตขึ้นผมถูกเลี้ยงโดยป้าพี่สาวพ่อและพี่สาวซึ่งเป็นลูกป้าที่อยู่บ้านในรั้วเดียวกัน ส่วนน้องสาวคุณย่าซึ่งอยู่ในรั้วเดียวกันเป็นคนเลี้ยง ก็เรียกได้ว่าแบ่งกันเลี้ยงได้เลยครับ

ตอนเข้าโรงเรียนก็ถือว่ายังสนิทกันอยู่นะครับ เพราะเรียนโรงเรียนเดียวกันตั้งแต่อนุบาล จนถึง ป6 ผมมีหน้าที่ถือปิ่นโตกับข้าวไว้กินกลางวัน พร้อมน้องสาว และน้องลูกน้าอีก 2 คน เช้าคุณลุงจะไปส่ง และเย็นเราจะกลับรถโรงเรียนด้วยกันทั้งหมดครับ

ตอนอยู่ ป6 มีวีรกรรมในการปกป้องน้องเท่าที่จำได้อย่างนึงครับ คือน้องเค้าโดนเพื่อนซึ่งเป็นลูกคุณครูที่ได้ชื่อว่าดุที่สุด "กัด" ที่หัวไหล่ เรียกได้ว่าจมเขี้ยวเลยครับ เป็นรอยช้ำๆ เขียวๆ ที่รู้เพราะว่าเห็นกับตา น้องสาวไม่กล้าฟ้องแม่ ไม่รู้ว่าเพราะอะไร แต่ผมแจ๋นสุดบอกแม่เลย แล้วบอกกับแม่ว่าเดี๋ยวจะไปจัดการเอง ..... เช้าวันรุ่งขึ้นผมไปหาคุณครูคนนั้นแต่เช้า ไปบอกครูว่า "ลูกครูเป็นหมาหรือไง ถึงได้มากัดน้องสาวผมซะช้ำเลย" .... ผมแปลกใจมากที่คุณครูคนนั้นเรียกลูกกับน้องสาวผมมาสอบสวน ได้ความว่าทะเลาะกันประสาเด็ก แต่คุณครูก็ยังตีลูกตัวเองต่อหน้าเพื่อนๆ ข้อหา "กัด" เพื่อน .....

ตอนโตมาหน่อย ประมาณอยู่มัธยมได้มั้งครับ น้องสาวลื่นล้ม หัวเจาะ ผมเห็นแล้วร้องไห้โฮเลย กลัวน้องสาวจะเป็นอะไรมาก พอแม่พาน้องสาวไปเย็บผมยังแอบบนเจ้าตั้งหลายองค์ให้น้องสาวปลอดภัย ปรากฎว่าแม่นั่นแหละครับที่เป็นคนเสียเงินซื้อของแก้บน อิอิอิ

ผมมาเริ่มห่างๆจากน้องก็ตอนเรียนมัธยมครับ ไม่ค่อยรู้ความเป็นไปของเค้า จนเข้ามหาวิทยาลัยก็ยิ่งห่างๆกันไปอีก เพราะเค้าชอบกลับมืดๆ กลับมาผมก็เข้าห้องนอนไปแล้ว เสาร์อาทิตย์เค้าก็ชอบออกไปติวกันเพื่อน มาหนักที่สุดตอนเรียนจบใหม่ๆ ทะเลาะกับเรื่องอะไรจำไม่ได้แล้วครับ แต่ไม่พูดกันเป็นปีเลย ตอนน้องรับปริญญาน้องยังต้องให้แม่มาบอกให้ไปร่วมงานด้วย จนผมไปเรียนต่อก็ยังไม่ได้พูดกันซักเท่าไหร่ครับ

ผมรู้สึกว่า "เจ้าปิง" นี่แหละครับ ทำให้ผมมีอะไรคุยกับน้องตัวเองได้มากขึ้น เราคุยกันเรื่องการเลี้ยงเจ้าปิง ตั้งแต่เจ้าปิงเล็กๆ ผมต้องเป็นคนโทรไปรายงานน้องตอนกลางวันว่าเจ้าปิงเป็นยังไงบ้างในแต่ละวัน พอตอนเย็นก็กลับมาคุยกันอีกครั้ง เวลาเจ้าปิงไม่สบายก็คุยกันว่าควรจะไปหาหมอได้หรือยัง ยากินยังไง คุยกันเรื่องการพัฒนาการของเจ้าปิง .... ตอนนี้ยิ่งคุยกันหนัก เพราะเจ้าปิงต้องเข้าโรงเรียน ตอนนี้วิ่งหาที่เรียนกันหัวหมุนเลยครับ

น้องสาวผมเลือกทานผักบางชนิดครับ และไม่ชอบกินของแปลกๆ ของที่เค้าชอบก็จะเป็นพวกอาหารทอดแห้งๆ อาหารจานเดียว พะแนง เขียวหวาน เป็นอาหารพื้นๆครับ ถ้าวันไหนที่ทำของที่เค้าชอบเค้าจะกินข้าวได้มากเป็นพิเศษครับ ยิ่งถ้าทำพะแนง แกงเขียวหวานนี่กินได้ 2-3 ชามเลยครับ

ผมไม่เคยบอกน้องเลยว่าผมรักและเป็ห่วงเค้าแค่ไหน แต่ผมทุ่มความรัก ความเป็นห่วงที่มีให้น้องผมลงไปที่เจ้าปิงทั้งหมด ผมหวังว่าเมนูที่ผมทำให้เค้าทานในวันนี้จะเป็นสื่อทำให้เค้ารู้ว่าผมรักเค้ามากแค่ไหนนะครับ



พะแนงน้องรัก


ส่วนประกอบ


หมูหั่นชิ้นบางๆ
มะเขือพวงเด็ด
ใบมะกรูดซอยละเอียด
พริกชี้ฟ้าซอย
กระทิ


เครื่องปรุง


น้ำตาลปี๊บ
น้ำปลา



วิธีทำ


เอากระทิใส่ลงในหม้อ อย่าใส่หมดนะครับ เก็บไว้ซักถ้วยกว่าๆ

แล้วใส่หมูลงไปเคี่ยวไฟอ่อนๆ จนกว่าหมูจะเริ่มเปื่อย


Photobucket

Photobucket


พอหมูเริ่มจะเปื่อย ก็เอากระทิที่เหลือลงผัดในกระทะให้เดือด ปล่อยให้เดือดแรงๆไปซักครู่ กระทิจะได้แตกมันสวยๆ แล้วใส่น้ำพริกแกงพะแนงลงผัด บางที่เค้าจะให้น้ำพริกแกงเผ็ดใส่น้ำพริกเผานะครับ แต่ผมใช้น้ำพริกแพนงเฉพาะจากร้านนิตยาครับ


Photobucket


ผัดใน้น้ำพริกแกงละลายดี แล้วหรี่ไฟลงหน่อย ผัดจนกระทิแตกมันเล็กน้อยครับ

ช่วงนี้ต้องคนเป็นระยะๆนะครับ เดี๋ยวน้ำพริกจะไหม้ซะก่อน ถ้าน้ำกระทิแห้งก็เติมกระทิลงไปได้ทีละนิดๆครับ


Photobucket


ปรุงรสด้วยน้ำตาลปี๊บ น้ำปลา ที่บ้านผมชอบพะแนงที่มีรสหวานๆ เผ็ดๆครับ แล้วคนให้น้ำตาลปี๊บละลาย


Photobucket


แล้วถ่ายใส่หม้อกระทิกับเนื้อหมูที่เคี่ยวจนเริ่มเปื่อย คนให้เข้ากัน แล้วตั้งไฟต่อให้เดือด ใส่ใบมะกรูดนิดหน่อย พริกชี้ฟ้าเล็กน้อย แล้วเคี่ยวต่อครับ จะได้หอมๆ

เคี่ยวไปจนกว่าเนื่อหมูจะเปื่อยดี ชิมดูให้มีรสน้ำพริกซึมอยู่ในเนื้อหมู และน้ำกระทิลดลงไปกว่าครึ่งครับ แกงจะข้นขึ้นอย่างเห็ดได้ชัดครับ


Photobucket

Photobucket

Photobucket


พอหมูเปื่อยได้ที่ก็ใส่มะเขือพวง พริกชี้ฟ้า และโรยใบมะกรูดลงไปจนหมด พอเดือดอีกครั้งก็ปิดไฟได้ครับ


Photobucket

Photobucket


ตักใส่ถ้วย ยกไปเสิร์ฟที่โต๊ะ


Photobucket

Photobucket


แล้วร้องเชิญทุกคนมากินข้าว


Photobucket

Photobucket


พะแนงจานนี้ เผ็ด หวาน เค็ม ...... พี่ทำด้วยความเต็มใจ ....

หวังจะให้ "น้องรัก" กินให้หนำใจ จะได้มีเรี่ยวแรงไป ต่อสู้กับงานเอย...



Photobucket

Photobucket



ครัวทนายอ้วน ............... Home ........ for food lovers.





Create Date :14 กุมภาพันธ์ 2556 Last Update :14 กุมภาพันธ์ 2556 13:00:46 น. Counter : 2060 Pageviews. Comments :15