bloggang.com mainmenu search





Food For Fun : Hot Wok Return #94 เดือนเมษายน
 
 





" กินเพลินเกินห้ามใจ "
 

 
 
โจทย์จาก 
น้องหนอน คุณ  nonnoiGiwGiw
 



 
เดือนที่ผ่านมาได้ทำเมนูอาหารสุขภาพกันไปแล้ว  เดือนนี้มาตรงกันข้ามแบบเทสุขภาพทิ้งกันไปเลย
 


 
อย่างที่เขาพูดกันไว้ว่า.. You are what you eat  กินอย่างไหนก็ได้อย่างนั้น  แต่มันก็จะมีอาหารจำพวกหนึ่งที่ 
  "กินเพลินเกินห้ามใจ"  เป็นเมนูโปรดของคุณที่ถึงรู้ว่ากินเข้าไปแล้วจะทำให้ไขมันหน้าท้องเพิ่มขึ้นชัวร์  แต่ก็ยังจะกินอยู่ 55+
 
 


อยากรู้เมนูโปรดที่ว่าของเพื่อนๆ มีอะไรกันบ้าง  จะเป็นของคาวหรือของหวานก็ได้
 




------------------------------------------------------------
 
 


 
คุณนายแม่ของเจ้าของบล็อกมักจะออกตัวว่า
  “ทำกับข้าวไม่เก่ง”
 


 
เมื่อตอนเด็กๆ  เจ้าของบล็อกก็เห็นจริงตามนั้นนะครับ  ด้วยความที่คุณนายแม่ไม่เคยโชว์ฝีมือทำกับข้าวที่อื่นนอกจากทำกับข้าวในบ้านกินกันเอง
 


 
สมัยเด็กๆ  เจ้าของบล็อกอาศัยอยู่ในครอบครัวขยายขนาดใหญ่ซึ่งมีคุณลุงเขยกับคุณป้าแท้ๆของเจ้าของบล็อกเป็นหัวหน้าครอบครัว  และเผอิญที่คุณลุงเขยกับคุณป้าแท้ๆของเจ้าของบล็อกเป็น  พ่อครัว – แม่ครัว  ฝีมือดีซะด้วย  ถ้ามีงานบุญหรืองานรวมญาติทางฝั่งเจ้าคุณพ่อของเจ้าของบล็อก  คุณลุงเขยกับคุณป้าจะเป็นโต้โผ ในการทำครัว  คุณนายแม่ก็จะช่วยงานเล็กๆ  น้อยๆ  ไปตามเรื่องตามราว
 



 
ถึงแม้จะเป็นงานบุญหรืองานรวมญาติฝั่งของคุณนายแม่เองก็ตาม  เจ้าของบล็อกก็ไม่ได้เห็นคุณนายแม่ออกหน้าเป็นโต้โผใหญ่ในครัวนะครับ  เนื่องด้วยคุณน้าแท้ๆของเจ้าของบล็อกคนหนึ่งจบโรงเรียนการเรือน  และคุณน้าสะใภ้อีกคนหนึ่งเป็นแม่ค้าขายข้าวแกง  คุณนายแม่ก็เลยสบาย  ไม่ต้องเหนื่อยหน้ามันอยู่แต่ในครัว
 



 
แต่เมื่ออยู่ในบ้านแล้วคุณนายแม่ทำอาหารได้หลากหลายอย่างประหลาดครับ  .....
 
 



นอกจากเมนูที่เป็นกับข้าวทั่วๆไป  คุณนายแม่ยังมีเมนูแปลกๆ  มาทดลองทำขึ้นโต๊ะอาหารที่บ้านประจำ
 
 


 
เคยถามคุณนายแม่ว่า  “ไปเอาสูตรอาหารแปลกๆนี่มาจากไหน”
 
 




คุณนายแม่อธิบายยาวเลยครับ  .....
 
 



คุณนายแม่ทำงานที่สถานพยาบาล  เรือนจำกลางบางขวาง  ตึกที่ทำงานอยู่กลางเรือนจำ  ต้องเดินเท้าออกมาไกลกว่าจะถึงประตูด้านหน้าเรือนจำ  และการเข้า – ออก  ก็จะต้องมีการตรวจตราหลายขั้นตอน  เนื่องจากเรือนจำกลางบางขวางเป็นเรือนจำสำหรับนักโทษที่มีโทษสูง  เพื่อนๆที่ทำงานที่สถานพยาบาลก็เลยเห็นพ้องต้องกันว่า  “จะเอาข้าวมากินกลางวันที่ทำงาน”  จะได้ไม่ต้องเดินเท้าออกไปนอกเรือนจำ  ….  บ่อยครั้งที่นำอาหารสดเข้าไปปรุงกันเอง
 



 
การเอาอาหารกลางวันไปทานกันเอง  หรือการทำอาหารที่ทำงานก็จะมีสูตรลับของคนนั้น  คนนี้  เสมอๆ  คุณนายแม่จึงจำสูตรลับนั้นๆ  กลับมาทำอาหารในคนในครอบครัวรับประทานครับ
 
 



จำได้คลับคล้าคลับคลาว่า  ...  คุณนายแม่ยังเล่าให้ฟังอีกว่า  “ลูกน้อง”  คนหนึ่ง  เป็นนักโทษนั่นแหละ  แต่มีความประพฤติดี  มีความรู้ทางด้านการแพทย์มาบ้างเข้ามาช่วยงานอยู่ในสถานพยาบาล  ให้บังเอิญด้วยว่าเป็นพ่อครัวที่ทำอาหารอร่อย  คุณนายแม่ยังได้สูตรอาหารต่างๆ  มาจากนักโทษคนนี้ด้วยนะครับ


 
 
คุณนายแม่เคยทำน้ำพริกอ่อง  (ปลอมๆ)  ให้เจ้าของบล็อกทาน  โดยได้สูตรมาจากในที่ทำงานนี่แหละครับ  สมัยก่อนการจะหาน้ำพริกสำเร็จมาทำน้ำพริกอ่องนั้นยากมาก  ต้องตำเครื่องกันเอง  และวัตถุดิบสำคัญ  เช่น  ถั่วเน่า  ก็หายากมากๆ  ต้องเดินทางขึ้นไปภาคเหนือถึงจะซงื้อถั่วเน่ากลับมาได้
 
 



เพื่อนที่ทำงานคุณนายแม่จึงดัดแปลงใช้น้ำพริกแกงส้มกับน้ำพริกแกงอ่อมมาตำเข้ากับหมูสับ  ใส่มะเขือเทศสีดาหั่นชิ้นเล็กๆ  และนำไปปรุง  หน้าตาและรสชาติเข้มข้นกว่าน้ำพริกอ่องของทางเหนือเสียอีกครับ
 
 
 



เจ้าของบล็อกชอบกินน้ำพริกอ่องมากๆตั้งแต่เด็กๆแล้ว  เพราะเป็นน้ำพริกที่เผ็ดไม่มาก  คลุกกับข้าวมีรสเผ็ดน้อยๆ  มีรสหวานๆ  เปรี้ยวๆ  รับประทานกับแตงกวา  ผักชี  ผักกาดขาวเย็นๆ  ฟินนนนน  ....  ที่สุดครับ
 



 
เมื่อมีความรู้ในการทำอาหารมากขึ้นเจ้าของบล็อกจึงได้เข้าใจว่าส่วนประกอบของน้ำพริกแกงส้มกับน้ำพริกทำน้ำพริกอ่องคล้ายกันมาก  มีส่วนผสมที่เหมือนกันเช่น  หอมแดง  พริกแห้ง  กะปิใช้แทนถั่วเน่า
 
 



เจ้าของบล็อกจึงใช้น้ำพริกอ่องสูตรนี้ตลอดมาก  แม้เมื่อครั้งไปใช้ชีวิตอยู่ที่เมืองเมลเบิร์น  ประเทศออสเตรเลีย  ในฐานะนักเรียนปริญญาโทกฎหมาย  ก็ยังนำน้ำพริกอ่องสูตรนี้ไปทำให้เพื่อนๆ  ทั้งคนไทยและต่างชาติทานมาแล้วหลายครั้ง  คนที่ได้ทานต่างก็ติดใจแทบทุกคนครับ 
 
 



เมื่อซักสิบกว่าปีที่แล้ว  เจ้าของบล็อกไปเที่ยวเชียงใหม่บ่อยมากๆ  เวลาจะกลับกรุงเทพฯก็จะไปขนซื้ออาหารเหนือ  เช่น  น้ำพริกหนุ่ม  ไส้อั่ว  แคบหมู  กลับมาแจกญาติๆ  และเพื่อนๆ  และซื้อเครื่องปรุงอาหารเหนือติดไม้ติดมืออยู่บ่อยๆ  จนสนิทสนมกับกับพ่อค้า  แม่ค้า  ในตลาด 
 



 
มีอยู่ครั้งหนึ่งที่พ่อค้าคนหนึ่งบอกเคล็ดลับในการทำน้ำพริกอ่องง่ายๆ  ไม่ต้องตำเครื่องให้เหนื่อย  ....  โดยการใช้ 
น้ำพริกทำน้ำเงี๊ยว  ครับ  พ่อค้าบอกว่าส่วนประกอบของน้ำพริกอ่องกับน้ำพริกทำน้ำเงี๊ยวคล้ายกันมาก  ใช้แทนกันได้  เจ้าของบล็อกก็ลองทำดู   รสชาติเข้มข้นคล้ายๆกับน้ำพริกอ่องสูตรที่คุณนายแม่จำมาจากที่ทำงานเลยครับ  จากนั้นมาเจ้าของบล็อกจะซื้อน้ำพริกสำหรับทำน้ำเงี๊ยวไว้ติดตู้เย็นเสมอๆ  ทำได้ทั้งขนมจีนน้ำเงี๊ยว  ทั้งน้ำพริกอ่องเลยครับ
 
 



น้ำพริกอ่องเป็นเมนูน้ำพริกสุดโปรดของเจ้าของบล็อกเลยครับ  สมัยเด็กๆ  ต้องบอกให้คุณนายแม่ทำทีละเยอะๆ  เพราะเจ้าของบล็อกจะทานเยอะมากๆ  นอกจากนั้นเจ้าของบล็อกยังชอบเอาข้าวลงไปผัดในกระทะที่ทำน้ำพริกอ่องที่มีเศษน้ำพริกติดอยู่ในกระทะด้วยครับ
 
 



 

น้ำพริกอ่อง
 


 
 





ส่วนประกอบ



หมูสับ
น้ำพริกสำหรับทำน้ำเงี๊ยว
มะเขือเทศสีดาล้างทำความสะอาดแล้วหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ
 
 
 


เครื่องปรุง
 
 
น้ำมะขามเปียก 
น้ำปลา
น้ำตาลมะพร้าว
 
 




วิธีทำ
 


 
ผสมหมูสับกับน้ำพริกสำหรับทำน้ำเงี๊ยวให้เข้ากันดี  อาจจะใช้ววิธีตำในครกได้นะครับ











 
ใส่มะเขือเทศลงขยำพอให้แตก  หรือถ้าใช้ครกก็ตำแค่มะเขือเทศแหลก
 
 









ตั้งกระทะให้ร้อน  ใส่น้ำมันสำหรับผัดนิดหน่อย  ใส่หมูสับที่ตำกับน้ำพริกและมะเขือเทศแล้วลงผัดบนไฟกลางๆจนสุกประมาณ  70 – 80 %












 
ใส่น้ำเปล่าแล้วเคี่ยวไปเรื่อยๆ  จนกว่าน้ำจะงวด











 

ปรุงรสด้วยน้ำมะขามเปียก  น้ำปลา  และน้ำตาลมะพร้าว  ชิมรสดูให้ได้รสเผ็ดนิดๆ  หวานๆ  เปรี้ยวๆ









 
 
พอน้ำพริกงวดดีก็ปิดไฟได้ครับ
 










 
เสิร์ฟกับผัดสดและผักต้มต่างๆ
























131131131


 
Create Date :19 เมษายน 2567 Last Update :19 เมษายน 2567 13:09:01 น. Counter : 281 Pageviews. Comments :14