bloggang.com mainmenu search





 ถนนสายนี้ ... มีตะพาบ หลักกิโลเมตรที่ 310
 



 
 

"ทุกอย่างกำลังจะเปลี่ยนไป"
 



 
 
โจทย์โดย
คุณ กะว่าก๋า




 
 
สมัยที่เจ้าของบล็อกกำลังจะจบชั้นมัธยมต้นมีทางเลือกอยู่  2  ทาง  คือ  ถ้าจะเรียนต่อปริญญาตรีให้เลือกเรียนสายสามัญ  ม.4 – 5 - 6  แล้วสอบเอ็นทรานซ์เข้ามหาวิทยาลัย  หรือเลือกที่ไปเรียนสายอาชีพ  สายอาชีพที่อยู่ในความรับรู้ของเจ้าของบล็อกก็มี สายช่าง  ช่างเหล็ก  ช่างไม้  ช่างปูน  ซึ่งไม่ได้อยู่ในความสนใจของเจ้าของบล็อกเลย  และสายพาณิชยกรรม  ซึ่งเจ้าของบล็อกก็เรียนอ่อนวิชาคำนวณอีกน่าจะไม่เหมาะ  เจ้าของบล็อกเลือกที่เรียนสายสามัญต่อ  สอบเข้ามหาวิทยาลัย  ทำงาน  1  ปี  แล้วเดินทางไปเรียนต่อเมืองนอก  เหมือนหลายๆคน
 
 









ที่ประเทศออสเตรเลียซึ่งเจ้าของบล็อกเลือกไปเรียนต่อปริญญาโทกฎหมาย  มีเรื่องเกี่ยวกับการศึกษาที่ทำให้เจ้าของบล็อกตื่นเต้นก็คือ  ทุกๆมหาวิทยาลัยจะเป็นคล้ายๆ 
“มหาวิทยาลัยเปิด”  คือถ้ายกเว้นนักเรียนที่จบชั้นมัธยมปลายแล้ว  “ใครๆก็สามารถสมัครเรียนคณะใดๆก็ได้โดยไม่ต้องสอบเข้า” 
 
 












จำได้ว่าเจ้าของบล็อกเคยเล่าให้ฟังแล้วว่า  เมื่อตอนที่ไปถึงเมืองเมลเบิร์น  ประเทศออสเตรเลีย  2 – 3  เดือนแรก  เจ้าของบล็อกได้ไปพักอยู่กับครอบครัวเพื่อนชาวเยอรมันที่เคยทำงานในประเทศไทย  และเจ้าของบล็อกเคยสอนภาษาไทยให้ระหว่างที่อยู่เมืองไทยหลายปี  ฝ่ายภริยารู้สึกว่าจะจบ  Technical  Collage  จากประเทศเยอรมัน  (เทียบเท่ากับระดับ ปวส.  หรือ  อนุปริญญา)  เมื่อเจ้าของบล็อกเดินทางไปเรียนต่อฝ่ายภริยากำลังเรียนปริญญาตรีคณะ  Education  (ประมาณครุศาสตร์ / ศึกษาศาสตร์)  ซึ่งในขณะนั้นฝ่ายภริยาอายุ  40  กว่าปีแล้วนะครับ  (ตอนนี้เป็นอาจารย์สอนภาษาเยอรมันในโรงเรียนหญิงแห่งหนึ่งในเมลเบิร์นและเปิดโรงเรียนสอนภาษาเยอรมันที่ได้รับการรับรองจากรัฐบาลเยอรมันเพียงแห่งเดียวในเมลเบิร์น)






 




 
เมื่อเจ้าของบล็อกเริ่มที่เรียนปริญญาโท  ได้สนทนากับ  Professor  ที่สอนเจ้าของบล็อกหลายๆคน  เหมือนกับเปิดโลกทางการศึกษาให้เจ้าของบล็อกเลยครับ  เจ้าของบล็อกได้รู้จักระบบการเรียนการสอนแบบต่างๆ  ที่ต่างไปจากที่เมืองไทยมีอยู่ตอนโน้น  ได้รู้จักเส้นทางการศึกษาของคนๆหนึ่งว่ามันไม่จำเป็นต้องเป็นไปตามลำดับ  มัธยมต้น  -  มัธยมปลาย - ปริญญาตรี - โท - เอก  เสมอไป  อาจจะเรียนมัธยมต้นจบแล้วไปทำงานก่อน  ค่อยมาเรียนต่อมัธยมปลาย  แล้วไปทำงานอีกครั้งค่อยมาเรียนปริญญาตรีก็ได้  ที่สำคัญเจ้าของบล็อกได้รู้ว่า  “คณะนิติศาสตร์ที่ฮอตฮิตในหมู่นักเรียนมัธยมปลายตอนนี้  คนต่างชาตินิยมที่จะเรียนเป็นปริญญาใบที่สองเมื่อมีประสบการณ์ทำงานแล้ว”  เพราะการเรียนคณะนิติศาสตร์จะต้องใช้เหตุผลเข้ามาประกอบ  ใช้การทำธุรกิจเข้ามามีส่วน  (ถ้าเรียนกฎหมายธุรกิจ)  ที่สำคัญคนที่จะเรียนคณะนิติศาสตร์ได้ดีจะต้องมี  วุฒิภาวะ  พอสมควร  จึงจะสามารถตัดสินว่าอะไรถูกอะไรผิดได้








 


 
เมื่อเจ้าของบล็อกเรียนจบกลับมาทำงานที่เมืองไทย  ก็มีประสบการณ์ในการสัมภาษณ์คนเข้ามาทำงานในฝ่ายกฎหมาย  แรกๆเจ้าของบล็อกจะให้คะแนน +  กับคนที่จบมหาวิทยาลัยมีชื่อของรัฐ  แต่พอได้สัมภาษณ์กันจริงๆแล้วเจ้าของบล็อกแทบละลบคะแนน  +  เปลี่ยนเป็นคะแนน  -------  แทบไม่ทัน  เนื่องจากผู้มาสัมภาษณ์งานบางคนที่จบมหาวิทยาลัยมีชื่อก็อ่อนวิชาการบ้าง  ทัศคติในการทำงานบิดเบี้ยวบ้าง  ไม่มีวุฒิภาวะพอที่จะทำงานภายใต้ความกดดันบ้าง




ในขณะที่ผู้มาสัมภาษณ์งานบางคนที่จบมหาวิทยาลัยรองๆลงมากลับมีศักยภาพสูงกว่าหลายช่วงตัวนัก 








 






มีผู้สัมภาษณ์คนนึงจบปริญญาโทมาจากมหาวิทยาลัยมีชื่อในออสเตรเลีย  เวลาเจ้าของบล็อกกลับจากประเทศออสเตรเลียมาทำงานได้ปีกว่าแล้ว  ก่อนสัมภาษณ์งานเป็นภาษาอังกฤษเจ้าของบล็อกหวั่นๆเล็กน้อยว่าจะพูดภาษาอังกฤษไม่ได้ดีเท่ากับตอนที่เพิ่งกลับมาเมืองไทยใหม่ๆ .......
 
 


พอเข้าห้องสัมภาษณ์เจ้าของบล็อกก็เปิดฉากคุยกันเป็นภาษาอังกฤษก่อน  พูดแบบยาวๆ  (เป็นการกดดันนิดๆ  อิอิอิ)  เห็นผู้เข้าสัมภาษณ์รายนั้นนั่งฟังนิ่งๆ  เจ้าของบล็อกก็เลยพูดต่อไปเรื่อยๆ  จนจบ  ..... ผู้เข้าสัมภาษณ์เอ่ยขึ้นมาว่า ...
 
 



........
“ขอโทษค่ะ  หนูฟังไม่ออกค่ะ”  ........ 
 



เจ้าของบล็อกตกใจมากๆ  นึกว่าตัวเองพูดภาษาอังกฤษได้ไม่ดีเอาเสียเลย  .....
 
 


ผู้เข้าสัมภาษณ์รายนั้นอธิบายต่อว่า  ...... 
“คือว่าหนูใช้ภาษาอังกฤษไม่ค่อยเก่งค่ะ” 



 
 
เจ้าของบล็อกงงเลยครับ  นักเรียนปริญญาโทกฎหมายจากเมืองนอกทำไม  “ใช้ภาษาอังกฤษไม่ได้เลย”  ทั้งๆที่เพิ่งเริ่มสัมภาษณ์งานกันแท้ๆ  ยังคุย – ถาม  กันเรื่องทั่วไปอยู่
 



 
เมื่อเธออธิบายมากขึ้นเจ้าของบล็อกถึงได้รู้ว่าปริญญาโทกฎหมายที่เธอเรียนมานั้นเป็นแบบ  Online  Program  ครับ  อยู่ที่ไหนก็เรียนได้  ไม่ต้องไปอยู่ที่ออสเตรเลียก็เรียนได้  แต่เวลาจะสอบต้องเดินทางไปสอบที่มหาวิทยาลัย  ซึ่งเธอก็เดินทางไปสอบที่ออสเตรเลียแค่  3  ครั้ง  ระยะเวลาการสอบก็ใช้เวลาครั้งละไม่เกิน  1  อาทิตย์  .......  สรุปก็คือว่าเธอจบปริญญาโทกฎหมายโดยการใช้เวลาเรียนอยู่ในเมืองไทยเป็นส่วนใหญ่ครับ
 



 
จริงๆเจ้าของบล็อกว่าจะเล่าเรื่องถึงการวางแผนการศึกษาให้หลานสาวต่อนะครับ  แต่เห็นว่าน่าจะยาวเกินไป  เรื่องการวางแผนการศึกษาให้หลานสาวเก็บไว้เล่าในโจทย์อื่นดีกว่าครับ 



























 
136137136
Create Date :11 กันยายน 2565 Last Update :11 กันยายน 2565 12:53:40 น. Counter : 1109 Pageviews. Comments :11