bloggang.com mainmenu search
สถานที่ท่องเที่ยว : วัดพระธาตุจอมกิตติ เชียงแสน เชียงราย, เชียงราย Thailand
พิกัด GPS : 20° 17' 10.11" N 100° 4' 27.02" E

ดูแผนที่เพิ่มเติม
 





 
วัดพระธาตจอมกิตติ  เชียงแสน  เป็นวัดโบราณที่เจ้าของบล็อกไปเที่ยวในเมืองเชียงแสนก่อนจะตีรถกลับมาเที่ยวต่อในตัวเมืองเชียงรายครับ
 
 
 





วัดพระธาตจอมกิตติ  เชียงแสน  เชียงราย
 



 
 
(ต้องแจ้งก่อนว่า  ชื่อวัดพระธาตุจอมกิตติ  มีหลายที่  หลายจังหวัดในภาคเหนือมากๆ  เจ้าของบล็อกขอต่อสร้อย  “เชียงแสน”  ไว้ท้ายชื่อวัดพระธาตุจอมกิตติซักหน่อย  จะด้ำไม่สับสนกับวัดพระธาตุจอมกิตติแห่งอื่นครับ)





ตอนเด็กๆ  เวลามีงานสัปดาห์หนังสือพ่อของเจ้าของบล็อกจะอนุญาติให้ซื้อหนังสือได้เยอะกว่าเวลาปกติ  มีอยู่ปีนึงเจ้าของบล็อกได้หนังสือรวมพระธาตุในประเทศไทยมาอ่าน  ในหนังสือมีพระธาตุจอมกิตติด้วย  บอกว่าอยู่เชียงแสน  เชียงราย  ที่จำพระธาตุจอมกิตติได้เพราะว่าองค์พระธาตุเอียงค่อนข้างมาก  สะดุดตา  และมีชื่อคล้ายๆชื่อเก่าของเจ้าของบล็อก  (กิตติทัศน์)  ครับ  พอได้มาไหว้พระธาตุองค์จริงเลยปลาบปลื้มเป็นพิเศษครับ  ไม่คิดว่าจะได้มาถึงเชียงราย  (ปกติสูงสุดในประเทศที่ไปไปคือเชียงใหม่)  และที่สำคัญไม่คิดเลยว่าจะได้มากราบพระธาตุในความทรงจำแห่งนี้ครับ




 

วัดพระธาตุจอมกิตติ  เชียงแสน  ว่ากันว่าถูกสร้างขึ้นมาเป็นเวลานานกว่าพันปีแล้ว  เป็นหนึ่งใน  “พระธาตุ  9  จอม”  ที่ศักดิ์สิทธิ์  ของจังหวัดเชียงราย
 

 
 

วัดพระธาตุจอมกิตติ  เชียงแสน   ตั้งอยู่บนยอดดอยน้อย  (บางตำราก็ว่าตั้งอยู่บนดอยกิตติ)  นอกกำแพงเก่าเมืองเชียงแสน  ตำบลเวียง  อำเภอเชียงแสน จังหวัดเชียงราย  โดยอยู่ห่างจากตัวอำเภอประมาณ 1.5 กิโลเมตร
 
 


การเดินทางมายัง 
วัดพระธาตุจอมกิตติ  เชียงแสน  สามารถเดินทางได้อย่างสะดวกสบาย  จากอำเภอเมืองเชียงรายเดินทางมาตามถนนพหลโยธิน  ก่อนเข้าตัวเมืองเชียงแสนมีป้ายบอกทางไปยัง  วัดพระธาตุจอมกิตติ  เชียงแสน  อย่างเห็นได้ชัดครับ
 


 
เล่าแบบเก่าที่สุดก่อนนะครับ  .....
 


 
ศิลาจารึกวัดพระธาตุจอมกิตติกล่าวไว้ว่า  ในสมัยพุทธกาล  พระพุทธเจ้าได้เสด็จมายังดอยน้อยนี้  ดึงพระเกศาประดิษฐานไว้ในพระธาตุจอมกิตติ  ทรงทำนายไว้ว่าแคว้นนี้จะสืบดำรงพระพุทธศาสนาได้ถึง  5000  ปี
อีกตำนานพื้นเมืองของชาวเชียงแสน  -  ตำนานสิงหนติโยนก  กล่าวว่า  เมื่อ  พ.ศ. 1438  หลังจากพระพุทธโฆษาจารย์ซึ่งเป็นพระชาวมอญที่เดินทางไปศึกษาพระพุทธศาสนาจากประเทศลังกาแล้วจึงกลับมาเผยแพร่พระพุทธศาสนาในมอญ  พม่า  ตามลำดับจนเข้ามาในโยนกนคร  -  ซึ่งก็คือเมืองเชียงแสน   ได้นำพระบรมสารีริกธาตุส่วนพระนลาฏ  (หน้าผาก)  16  องค์มาด้วย  พระเจ้าพังคราช  พระเจ้าพรหมราช  (พระโอรสของพระเจ้าพังคราช)  และพญาเรือนแก้ว  (เจ้าเมืองเชียงราย)  ได้สร้างโกศเงิน  โกศทอง  โกศแก้ว  บรรจุพระธาตุ  แบ่งให้พญาเรือนแก้วนำไปบรรจุในพระธาตุจอมทองกลางเวียงไชยนารายณ์  (เมืองเชียงราย)  เมืองมูล  5  องค์  ส่วนพระธาตุที่เหลืออีก  11  องค์  พระองค์พังคราช  พระองค์พรหมราช  และพระพุทธโฆษาจารย์ได้สร้างเจดีย์บรรจุพระธาตุไว้บนดอยน้อย  ซึ่งเป็นสถานที่พุทธทำนายว่าต่อไปจะได้ชื่อ  “จอมกิตติ”  แต่อย่างไรก็ตามในปัจจุบันยังไม่ค้นพบหลักฐานที่เก่าถึงยุคสมัยโยนกนครตามที่ตำนานอ้างไว้




 
ในปี  พ.ศ. 2030  หมื่นเชียงสง  เจ้าเมืองเชียงแสน  ได้สร้างพระธาตุจอมกิตติและวิหารขึ้น  (บางตำนานก็บอกไว้ว่าทำการบูรณะ)  ตำนานพื้นเมืองเชียงแสนกล่าวว่า


 
"เถิงสักกราชได้ 849 ตัว ปีเมืองเม็ด (พ.ศ. 2030) เจ้าพระญาสุวัณณฅำล้านนากินเมืองเชียงแสนกับหมื่นพร้าวผู้เปนพรองเมืองที่นี้มาได้ 25 ปีแล้วจุติตายไปแล ยามนั้นพระญาอติโลกราชเจ้าก็ยกยังหมื่นพร้าวพรองเมืองนั้น หื้อกินเมืองเชียงแสนที่นี้ ใส่ชื่อว่า หมื่นเชียงสง ว่าอั้นแล้ว ก็หื้อหมื่นงั่วผู้หลานนั้นเปนพรองเมืองดังเก่า เหตุว่าท่านยังหนุ่มอยู่แล
 

สักกราชได้ 849 ตัว ปีเมืองเม็ด (พ.ศ. 2030) เดือน 5 ออก 12 ฅ่ำนี้ หมื่นเชียงสงได้กินเมืองแล้ว ท่านก็สร้างธาตุเจ้าจอมกิตติ เจติยะกว้าง 4 วาศอก สูง 12 วาอก ที่อันพระพุทธเจ้ายังธรมานมาถาปนาเกสาธาตุแล้วทำนวายว่า ธาตุดูกหน้าผาก ดูกอกแลดูกแขนกล้ำขวา จักมาสถิตอยู่ที่นี้ ว่าอั้นนั้นแล สร้างวิหารกว้าง 5 ยาว 9 วาแล แล้วเอานาบุญลงไปเถิงอติโลกราชเจ้า ในสักกราชได้ 850 ตัว (พ.ศ. 2031) ปีเปิกสันนี้แล ท่านก็ทานฅนไว้กับ 200 ครัว กับนา 4 หมื่น 4 พัน 500 เบี้ย ไว้เขตตั้งแต่ตีนดอยไป 40 วา ชุด้านแล"




 
ในปี  พ.ศ. 2227  เจ้าฟ้าเฉลิมเมือง  เจ้าฟ้าเชียงแสนได้ทำการบูรณะพระธาตุจอมกิตติครั้งใหญ่  ใช้เวลา 1 ปี และมีการทำบุญฉลองอย่างยิ่งใหญ่


 
"สักกราชได้ 1046 ตัว ปีกาบใจ้ เดือน 6 เพ็ง วัน 4 มหาสัทธาเจ้าฟ้าเฉลิมเมืองเปนเค้าแก่เสนาอามาตย์ปัชชานราชทังมวล พร้อมกันเวียกสร้างธาตุเจ้าจอมกิตติ ได้ขวบหนึ่งบอรมวลแล สักกราชได้ 1047 ตัว ปีดับเป้า เดือน 6 เพ็ง วัน 4 ฉลองทานมีบอกไฟแสน 8 หมื่นบอก 1 บอกน้อยมากหลายแล เดือน 6 แรม 3 ฅ่ำ วัน 2 ตกปีใหม่แล้ว แรม 4 ฅ่ำ เจาะบอกไฟหลวงบูชามหาธาตุที่ท่งห้วยหอมขึ้นนัก"
 
 


ภายหลังเมื่อเมืองเชียงแสนถูกตีแตกใน พ.ศ. 2347  ทำให้พระธาตุจอมกิตติขาดการดูแลรักษาและชำรุดทรุดโทรมลง  องค์พระเจดีย์ตั้งเอียงไปทางทิศใต้จวนจะล้มพังทลายลง
 
 


พ.ศ. 2469 พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนินเลียบมณฑลฝ่ายเหนือและมณฑลพายัพ  ได้เสด็จพระราชดำเนินทรงนมัสการพระธาตุจอมกิตติเมื่อวันที่  17  มกราคม



 
พ.ศ. 2498 พลโทยุทธ สมบูรณ์  เจ้ากรมรักษาดินแดน  เป็นผู้ติดต่อประสานงานไปยังคุณเชื้อ  ศาลิกมาลย์ อธิบดีกรมศิลปากร  ได้มาพัฒนาและปรับสถานภาพองค์พระเจดีย์ที่ตั้งเอียงให้ตรงดังเดิม  ซึ่งกรมศิลปากรได้เข้ามาดำเนินการจนแล้วเสร็จใน พ.ศ. 2510  จากนั้นจึงมีการพัฒนาปรับปรุงพื้นที่บริเวณซึ่งเป็นป่ารกชัฏ  เต็มไปด้วยซากโบราณวัตถุกระจัดกระจาย  จนเป็นที่น่ารื่นรมย์เหมาะแก่การปฏิบัติธรรม
 



พ.ศ. 2501  พระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง  เสด็จพระราชดำเนินเยี่ยมเชียงแสน และทรงนมัสการพระธาตุจอมกิตติเมื่อวันที่ 11 มีนาคม
 



พ.ศ. 2519  ได้ทำการฉลองสมโภชองค์พระเจดีย์  พระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช  บรมนาถบพิตร  สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง  และสมเด็จเจ้าฟ้าฯ กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี  เสด็จพระราชดำเนินถวายสักการะองค์พระเจดีย์  และทรงเป็นประธานงานพิธียกฉัตรพระธาตุจอมกิตติ  เมื่อวันอาทิตย์ที่ 15 กุมภาพันธ์  เวลาประมาณ 14.00 น.  โดยมีสมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงวชิรญาณสังวร เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ นิมนต์พระสงฆ์ทรงสมณศักดิ์ 10 รูป ร่วมเจริญพระพุทธมนต์



 
พ.ศ. 2532-2533 พลอากาศเอกวรนาถ อภิจารีและคณะได้ขึ้นมาบูรณะกำแพงรอบพระธาตุบางส่วน พร้อมทั้งปิดทองปูกระเบื้องลานพระธาตุ



 
พ.ศ. 2538 พลตำรวจเอกประสาน วงศ์ใหญ่ ผู้ช่วยอธิบดีกรมตำรวจ ได้สร้างนาค 2 ตัวที่บันไดทิศใต้ข้างกุฏิเจ้าอาวาส พร้อมสร้างกุฏิด้านล่างอีก 1 หลัง
 



พ.ศ. 2544-2545 พลตรีพงศ์ทัศน์ เศวตเศรนี พร้อมครอบครัวและคณะของแม่ชีมัณฑนาได้สร้างบันไดด้านทิศใต้



 
พ.ศ. 2541-2546 พลเอกโอภาส โพธิแพทย์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมและเรืออากาศตรีหญิงจันทรา โพธิแพทย์ ได้เข้าร่วมพัฒนาวัดพระธาตุจอมกิตติอย่างต่อเนื่องหลายครั้งหลายโอกาส โดยจัดหาทุนสร้างระบบไฟฟ้า ประปา ถนน ขึ้นสู่บริเวณพระธาตุจอมกิตติ บูรณะพระธาตุและสร้างกุฏิ จัดหาทุนก่อตั้งมูลนิธิพระธาตุจอมกิตติ



 
พ.ศ. 2545 คุณประจักษ์ แจ่มรัศมีโชติ รองผู้อำนวยการบริษัทการบินไทยได้ทำการบูรณะกำแพงรอบพระธาตุด้านทิศเหนือ


 
 
เมื่อวันพุธที่ 16 พฤษภาคม พ.ศ. 2550 เวลา 15.57 น. เกิดแผ่นดินไหววัดขนาดได้ 5.8 มีศูนย์กลางบริเวณชายแดนไทย-ลาว ห่างจากจังหวัดเชียงราย 57 กิโลเมตร ส่งผลให้ยอดฉัตรพระธาตุจอมกิตติ อำเภอเชียงแสน จังหวัดเชียงราย หักโค่นลงมาได้รับความเสียหาย ทางวัดได้นำไปเก็บรักษาไว้ ณ พิพิธภัณฑ์เชียงแสน สิ่งของที่บรรจุในยอดปลีองค์พระธาตุ ซึ่งมีอัญมณี 9 ชนิด ที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชและสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ได้พระราชทานบรรจุในยอดฉัตรเพื่อบูชาพระบรมสารีริกธาตุ (พระเกศาธาตุ) ขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ซึ่งพบแล้ว 7 อย่าง สูญหายไป 2 อย่าง


 
 
ต่อมา สำนักช่างสิบหมู่ กรมศิลปากรได้ซ่อมแซมฉัตรจากของเดิมให้มีความสมบูรณ์และแข็งแรงมากขึ้น รวมทั้งได้เปลี่ยนก้านและแกนฉัตรเป็นสแตนเลส จากเดิมที่เป็นเหล็ก ซึ่งผุกร่อนเป็นสนิม ส่วนตัวฉัตรนั้น ช่างได้ทำให้เข้ารูปเดิม และเปลี่ยนวิธีห่อหุ้มทองคำ 99 เปอร์เซ็นต์ จากวิธีเปียกทองโบราณ มาใช้เทคโนโลยีใหม่วิธีฟอร์มทอง โดยใช้ไฟฟ้าเป็นตัวหล่อและหุ้ม ซึ่งทำให้ทองคำอยู่ติดคงทน และสีไม่หมอง ส่วนยอดฉัตรที่ประดับด้วยอัญมณีนพเก้า และมีอัญมณีหลุดหายไป 2 ชนิดนั้น ได้มีประชาชนบริจาคโกเมนและนิล ซึ่งช่างได้นำขึ้นไปประดับไว้ครบทั้ง 9 ชนิดแล้ว ส่วนองค์พระธาตุ กรมศิลปากรได้ดำเนินการบูรณะเสร็จเรียบร้อยแล้ว ทั้งในส่วนโครงสร้างและฐานราก เสริมอิฐซ่อมแซมส่วนที่เสียหายและเสริมความมั่นคงรอยแตกร้าวด้วยกาววิทยาศาสตร์ (Epoxy) และอัดฉีดน้ำปูนเข้าไป



 
ในวันที่ 18 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2551 เวลา 09.00 น. สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินไปยังวัดพระธาตุจอมกิตติ อ.เชียงแสน จ.เชียงราย ทรงประกอบพิธียกฉัตรประดับยอดพระธาตุกลับคืนดังเดิม



 
 
การเดินทางมาสักการะพระธาตุจอมกิตติทำได้  2  ทางนะครับ  ถ้ามีศรัทธาแรงกล้า  ร่างกายพร้อม  ก็สามารถเดินขึ้นบันไดมาจากตีนดอยได้  (หลายๆตำราบอกว่ามี  339  ขึ้นเท่านั้น !!!! )  แต่เจ้าของบล็อกขอขับรถขึ้นไปจนถึงข้างๆองค์พระธาตุเพราะคุณนายแม่เดินขึ้นบันได  339  ขั้นไม่ไหวแน่ๆ 


 
 
จากตรงลานจอดรถเดินมาอีกนิดเดียวก็ได้สักการะพระธาตุแล้วครับ
 
 
 (องค์พระธาตุจะเอียงนิดๆนะครับ)








 



 

วัดพระธาตุจอมกิตติ  เชียงแสน  ตั้งอยู่บนลานประทักษิณบนยอดดอยน้อย  มีขนาดไม่ใหญ่มาก  มีกำแพงแก้วเตี้ยๆล้อมรอบองค์พระธาตุ

 
 
ส่วนฐาน ประกอบด้วยฐานเขียงในผังสี่เหลี่ยมจัตุรัสรองรับฐานปัทม์ลูกแก้วอกไก่ย่อเก็จ ระหว่างชั้นฐานปัทม์ฐานเขียงมีชั้นบัวคว่ำคั่นกลาง


 
ส่วนกลางเป็นเรือนธาตุทรงสี่เหลี่ยมมีจระนำประดิษฐานพระพุทธรูปทุกด้าน เรือนธาตุอยู่ในผังสี่เหลี่ยมจัตุรัสยกเก็จที่ต่อเนื่องมาจากฐานด้านล่าง มุมที่เกิดจากการยกเก็จค่อนข้างใหญ่และลึกมากกว่าการยกเก็จในศิลปะล้านนา เรือนธาตุของพระธาตุจอมกิตติมีการพัฒนาเพิ่มขึ้นในรายละเอียดของส่วนประกอบคือ บัวเชิงและบัวรัดเกล้ามีลักษณะคล้ายกับฐานปัทม์ลูกแก้วอกไก่ โดยเฉพาะบัวเชิงมีความต่อเนื่องจากฐานปัทม์ของส่วนฐาน ดูคล้ายกับเป็นฐานปัทม์สองชั้น แต่ที่จริงเป็นส่วนหนึ่งของเรือนธาตุเพราะจระนำได้เจาะลึกลงไปจนถึงหน้ากระดานบนของฐานปัทม์ด้านล่าง


 
ส่วนยอด เหนือเรือนธาตุประกอบด้วยชั้นหลังคาลาดที่มีแนวยกเก็จต่อเนื่องขึ้นมาจากยกเก็จของเรือนธาตุ ถัดขึ้นไปเป็นชุดฐานปัทม์สิบสองเหลี่ยมซ้อนลดหลั่งกับองค์ระฆังทรงกลม บัลลังก์กลมบัวกลุ่มกลีบยาว ปล้องไฉน และปลียอดตามลำดับ



 
จากลักษณะของส่วนฐาน เรือนธาตุ ชุดฐานบัวเหนือชั้นหลังคาลาดและบัวกลุ่มกลีบยาว อาจสันนิษฐานได้ว่ารูปแบบของเจดีย์วัดพระธาตุจอมกิตติในปัจจุบันคงมีการปฏิสังขรณ์ในราวพุทธศตวรรษที่ 22









 
 
 












อีกด้านของที่จอดรถยังมีวัดอีกวัดหนึ่ง  มีเจดีย์โบราณกับพระวิหารซึ่งสร้างใหม่  เห็นมีป้ายเขียนว่า  พระธาตุจอมแจ้ง  มีตำราหนึ่งกล่าวไว้ว่า  ตอนที่แรกสร้างพระธาตุจอมกิตตินั้นมีการสร้างองค์พระธาตุเท่านั้น  ไม่มีการสร้างวัดและสิ่งประกอบอื่นๆ  จนมาถึงปี  พ.ศ.  2030  เจ้าสุวรรณคำล้าน  เจ้าเมืองเชียงแสน  ได้ทำการบูรณะพระธาตุจอมกิตติและสร้างวัดพระธาตุจอมแจ้ง
 
 

ส่วนวัดพระธาตุจอมกิตติเพิ่งสร้างในปี พ.ศ.  2500  นี่เองครับ





 
 
 
 




ด้านหน้าพระวิหารเป็นหน้าผาแล้วทำลานโล่ง  กว้างขวางมาก  สามารถยืนชมวิวแม่น้ำโขงและฝั่ง  สปป.สาวได้เลยครับ







 
 
 
 










 
ความเชื่อ


ในการไหว้ พระธาตุจอมกิตติเชื่อกันว่า ถ้าได้กราบไหว้และตั้งจิตอธิฐานท่านจะอุดมไปด้วยยศถาบรรดาศักดิ์ ลาภยศผู้คนสรรเสริญ เจ้าคนนายคน
 
 


คำบูชาพระธาตุจอมกิตติ




อะหัง วันทามิ ปะระมะสารีริกกะธาตุโย
กะกุสันธัสสะ จะโกนาคะ นะมัสสะจะ
กัสสะธัสสะ จะสะมะนะโกตะมัสสะ เจวะ
นิพานนะ ปัจจะโย โหตุ
 


 
พระธาตุจอมกิตติ  เชียงแสน  ได้รับการขึ้นทะเบียนโบราณสถาน เมื่อวันที่ 8 มีนาคม 2478
 


 
เปิดทำการทุกวัน เวลา 8.30 – 17.00 น.
 
 
 
สถานที่ท่องเที่ยวในทริปเชียงรายในคราวนี้ก็หมดแต่เพียงเท่านี้ก่อนนะครับ  ถ้ามีโอกาสได้ไปเชียงรายอีกครั้งจะมาอัพเดทสถานที่ท่องเที่ยวในเชียงรายอีกทีครับ




 
 
อาทิตย์นี้จะไปเที่ยวเขาใหญ่ครับ  คงได้มีสถานที่ท่องเที่ยวใหม่ๆมาอัพเดทบ้างครับ











 
 



 
อีกช่องทางหนึ่งในการติดตาม 
“ทนายอ้วนพาเที่ยว”
 


Chubby Lawyer Tour  -  ทนายอ้วนพาเที่ยว
 
 
 https://www.facebook.com/ChubbyLawyerTour/
 




 
Chubby Lawyer Tour ………………….. เที่ยวไป ............. ตามใจฉัน



 
137134140
 
Create Date :15 มีนาคม 2564 Last Update :15 มีนาคม 2564 12:26:18 น. Counter : 2471 Pageviews. Comments :25