ถนนสายนี้้มีตะพาบประจำหลักกิโลเมตรที่ 82 "โดดเดี่ยว"
ถนนสายนี้้มีตะพาบประจำหลักกิโลเมตรที่ 82หัวข้อ "โดดเดี่ยว"
โจทย์โดยคุณอ้อมแอ้มสาวใจบุญของพวกเรานี่เอง ให้แต่งอย่างไรก็ได้
ขอตั้งชื่อตอนนี้ว่า"คำตอบของความโดดเดี่ยว"
คำตอบของความโดดเดี่ยว
อยู่คนเดียว
เนื้อเพลง + คอร์ดเพลง (คอร์ดกีต้าร์)
พงษ์สิทธ์ คัมภีร์
อยู่คนเดียวโดดๆ ไม่โลดไม่โผน ไม่เดือดไม่ร้อนเรื่อยๆ เอื่อยๆ
อยู่คนเดียวให้เข็ด น้ำตามันเล็ด มันเจ็บมันร้อนต้องทนให้อยู่
ก็เราคนแปลกคน เรียกหาคน
มอบหัวใจรักจริงแบ่งปันน้ำใจ
ค่ำคืนฟ้ามืดมัว หัวใจสลัว น่ากลัวกว่าฟ้าครึ้มๆ ในอก
อยุ่นิ่งในอารมณ์ ซ่อนตรมลึกๆ ซ่อนความร้าวลึก ยิ้มเศร้าใจป่วน
*ตั้งแต่รักจากไป สุดสายตา
เมื่อคนไม่มีรักให้กัน อ้างว้างข้างใน
**เพราะใจไม่เคยเปลี่ยน เวียนว่ายค้นหาความรัก มาเก็บไว้
แต่ไม่เคย ได้รักจริงใจ จากคน (ให้คน) ให้ใจ
จึงอยู่คนเดียวเดี่ยวๆ ไม่เกี่ยวไม่ข้อง ไม่เรียกไม่ร้องไม่รบกวนใคร
***อยู่แต่กับตัวเอง ได้ไง
เจ็บปวดร้าวใจอ่อนร่อนไหลแทบตาย
(เพราะอยู่คนเดียวเดี่ยวๆ)
เสียงเพลงของ ปู พงษ์สิทธิ์ คัมภีร์ลอยมา
ในห้วงของความคิดคำนึง
ด้วยท่วงทำนองและเสียงร้องที่สุดแสนจะเหงาหงอยเศร้าสร้อยแบบสุดๆ
เพลงหนึ่ง ยิ่งฟังในเวลาเหงาๆด้วยแล้ว แทบจะร้องไห้เลยทีเดียว
ไอ้อ๋าคนเล่นเฟสบุ๊คขี้เหงาทุกคนแหละ
เพื่อนตัวแสบสมัยเรียนมหาลัยบอกมาในเฟสบุ๊คผมจำได้แม่นยำ
ดูเหมือนจะเป็นคำที่พูดออกมาเล่นๆ
แต่ผมก็ยังหาเหตุผลมาหักล้างคำพูดประโยคนี้ไม่ได้สักที
จนต้องยอมรับคำพูดนี้ไปโดยปริยาย
จะเห็นได้ว่าเฟสบุ๊คได้รับความนิยมมากเรื่อยๆด้วยความรู้สึกเหงานี้เอง
ความรู้สึกโดดเดี่ยว อ้างว้าง เปล่าเปลี่ยว เหงาหงอย
คิดว่าทุกคนคงเคยเป็นกันทุกคน ไม่มากก็น้อย
ไปตามวันเวลาและโอกาสสิ่งแวดล้อมที่ต้องพบและเจอ
ยิ่งต้องมาอยู่ในเมืองใหญ่ที่ห่างไกลญาติพี่น้องเพื่อนฝูง
ก็ยิ่งรู้สึกโดดเดี่ยวมากขึ้นเท่านั้น
ไม่รู้ว่า"ความเหงามันอยู่ในสัญชาติญาณของเรา
หรืออยู่ในเจตนาของธรรมชาติ
ที่จงใจให้เรามีความรู้สึก"โดดเดี่ยว"อยู่ในใจของมนุษย์อย่างเราๆเช่นนี้
เพื่อให้มนุษย์อยู่ร่วมกันเป็นสังคม
เพื่อไม่ให้เราทอดทิ้งสังคมอยู่ลำพังกับตัวคนเดียวในความคิด
ไม่ให้เรากลายเป็นโรคซึมเศร้า เก็บตัวไม่คบหาสมาคมกับใคร
จนเกิดความคิดแย่ๆแบบฆาตกรต่อเนื่องที่อยากทำร้ายสังคมที่ทอดทิ้งเขา
หรือสุดท้ายแล้ว....เพื่อให้เราไม่อยากอยู่โดดเดี่ยวลำพังคนเดียว
ให้เราอยากมีคู่....เพื่อไม่ให้เผ่าพันธุ์มนุษย์สิ้นสลายไป
สังคมที่วุ่นวายทุกคนก็ทำหน้าที่ตื่นทำงานแต่เช้ากลับบ้านก็มืดค่ำ
เพื่อนร่วมงานส่วนใหญ่ก็ไร้น้ำใจ จ้องแต่หาประโยชน์ใส่ตัว
คอยแต่ปัดแข้งปัดขากลัวคนอื่นจะดีกว่า กลัวตัวเองจะไม่มีผลงาน
สังคมที่มีแต่การแข่งขัน
แข่งกันเรียน แข่งกันทำงาน
ความรู้สึกโดดเดี่ยวก็ยิ่งมีมากขึ้นเท่านั้น
คนบางคนที่เอาชนะความรู้สึก"โดดเดี่ยว"นี้ได้
เขาควรเป็นคนอย่างไรหนอ?
คนดีมีศีลธรรม
สมถะปลีกวิเวกอยู่ตามลำพัง
มีชีวิตที่อยู่ได้ด้วยตัวเอง
หรือจะเป็นคนเลวที่อยากทำอะไรก็ทำ
โดยไม่แคร์ความรู้สึกของคนรอบข้าง
เป็นก้อนหินที่ไร้หัวใจ เป็นคนที่หัวใจด้านชา
เป็นปัจเจกชนที่มีวิถีของชีวิตตัวเอง
แต่ดูๆไปแล้ว สิ่งแวดล้อมและสังคมกำลังจะผลิตมนุษย์เอ็กซ์เมน
พวกนี้มากขึ้นและมากขึ้น
หลังจากผ่านเหตุการณ์ร้ายๆจากคนในสังคมที่หัวใจไร้ความเมตตาปราณี
คุณอาจจะเคยมีประสบการณ์คล้ายๆแบบนี้บ้าง
ถูกโกงเสียเงินไปนับแสนด้วยกลโกงร้อยแปดจากแก้งค์ต้มตุ๋น
เพื่อนร่วมงานยืมเงินคุณแล้ว ไม่มี ไม่หนี ไม่จ่าย คุณไม่ได้เงินคืน
คุณอาจถูกปล้น ขโมยขึ้นบ้านสูญเสียทรัพย์สินมีค่าไปแทบไม่เหลือ
รถใหม่ที่คุณแสนรักมัน อยู่ดีๆจอดไว้ที่ห้างโดนกรีด
เป็นทางยาวด้วยความหมั่นไส้ ให้เจ้าของได้เจ็บหัวใจ
คุณขับรถไปดีๆอยู่เลนขวา ไม่ได้ช้าอะไร
จู่ๆก็มีคนมาขับฮ้อตะบึงมาอย่างเร็ว จ่อก้นทำท่าจะพุ่งชนท้าย
เพื่อให้คุณหลีกทางให้รถเขาเร็วที่สุด
นี่ยังไม่นับการขับรถแบบเห็นแก่ตัวที่เห็นกันแทบทุกวันให้น่าหงุดหงิดใจ
ความแตกยากในสังคมไทย ที่ดูจะไม่มีวันจบสิ้น
บางครั้งก็รุนแรงจนเกิดทำลายทรัพย์สินในบ้านเมืองและชีวิตของผู้คน
นี่ยังไม่นับข่าวปล้น ฆ่า ข่มขืน วางระเบิดภาคใต้ที่เห็นกันทุกวัน
หัวใจคุณจะรู้สึกหนาวขึ้นมาทันทีทั้งๆที่อากาศก็ร้อนแสนจะร้อน
คุณจะรู้สึกโดดเดี่ยว อ้างว้าง หดหู่ ซึมเศร้า
รู้สึกว่าไม่มีความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินแม้แต่น้อย
เกิดคำถามขึ้นมามากมายในหัว
ทำไมคนสมัยนี้ถึงได้ใจแคบ?
ทำไมคนถึงได้ทำร้ายกัน ขโมยกัน ปล้นกัน หลอกลวงกันแบบนี้?
แล้วคนดีๆอย่างเราที่ไม่เคยทำความเดือดร้อนให้ใครจะอยู่กันอย่างไรในสังคม?
สังคมก็เหมือนน้ำ เราก็เหมือนปลาในกระแสน้ำเดียวกัน
ต้นน้ำเป็นอย่างไร ปลาทุกตัวก็ต้องได้ผลกระทบอยู่อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
สิ่งนี้มีมาแล้ว ดำเนินอยู่ และจะต้องมีต่อไปเรื่อยๆ
อาจจะมากขึ้น อาจจะน้อยลง แต่ก็จะไม่สูญหายไป นี่คือสัจธรรม นี่คือความจริง
ที่เราต้องปรับใจรับกับสภาพของสังคมปัจจุบันให้ได้
อดีตที่บ้านเมืองเคยสงบ... อาจไม่เกิดขึ้นอีกแล้วก็ได้
เหมือนโลกเราที่ร้อนขึ้นทุกวัน...อากาศที่จะเป็นเหมือนเดิมคงไม่หวนกลับมาอีกแล้ว
สิ่งต่างๆดำเนินไปตามวิถีของมัน เกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป ตามธรรมชาติ
เรานั่นแหละเป็นผู้เผลอไปประเมิน เผลอไปรัก ไปชังมันเอง
การยึดติดกับอดีตในสิ่งที่เคยรัก เคยชัง ทำให้เกิดความทุกข์ขึ้นในจิตใจไม่สิ้นสุด
เพราะกรรมในอดีตและปัจจุบันที่แต่ละคนกระทำต่อกันไว้
ก็รอผลที่จะทบทวนและตอบแทนกันคนที่ก่อกรรมกันไว้นั้นเอง
อย่างไม่มีวันหยุดพักผ่อนแม้แต่เพียงชั่วขณะเลย
การใช้ชีวิตด้วยความไม่ประมาท
ไม่ไปในที่ ที่ไม่ควรไปในเวลาค่ำคืน
อยู่ให้ห่างจากบริเวณที่มีการชุมนุมด้วยความรุนแรง
การป้องกันทรัพย์สมบัติของตัวเองให้ปลอดภัยไม่ประมาทชะล่าใจ
การมีสติและวิจารณญาณในการรับชมสื่อต่างๆด้วยใจที่เป็นกลาง
สิ่งเหล่านี้จะช่วยคุณได้ เพื่อป้องกันสิ่งร้ายๆไม่ให้เกิดกับตัวคุณ
ถ้าศึกษาประวัติศาสตร์กันให้ดีก็จะพบว่า
ก่อนมีลัทธิศาสนาเกิดมาบนโลก สังคมเคยเลวร้ายกว่าปัจจุบันนี้
การทำศึกสงคราม ฆ่าฟันแย่งดินแดน จับเชลยมาเป็นทาสรับใช้ มีมานานแล้วในอดีต
จิตใจมนุษย์เคยตกต่ำถึงขีดสุดมาแล้ว
แล้วศาสนาในโลกก็อุบัติขึ้นเป็นดังแสงสว่างในดินแดนแห่งความเสื่อม
ในดินแดนที่เข้าใจว่ามีอารยธรรมนั่นเอง
ศาสนาแล้วศาสนาเล่าเกิดขึ้นเพื่อเป็นที่พึ่งอันร่มเย็นให้แก่คนในสังคม
น่าแปลกใจที่ศาสนาสำคัญๆเช่น ศาสนาพุทธ เชน ลัทธิเต๋า ขงจื้อ ก็อุบัติขึ้นแทบจะพร้อมๆกัน
ในช่วงที่ทุกคนต้องการแสงแห่งปัญญาเพื่อแก้ปัญหาให้สังคมอันเลวร้าย มืดมนที่สุด
ศาสดาเหล่านี้เป็นคนร่วมยุคสมัยเดียวกันเลยทีเดียว
ศาสนาเป็นกลไกสำคัญที่สุดกลไกเดียวที่ช่วยยกจิตใจของคนในโลกได้มานานนับพันปี
แต่กลไกอันเก่าแก่โบราณนี้ ฟันเฟืองกำลังฝืดและเป็นสนิมเต็มขั้น
เพราะขาดคนสนใจดูแลทำนุบำรุงรักษา ให้มันทำหน้าที่ได้อย่างปกติดังเดิม
ในยุคแห่งความเจริญที่คนไม่ต้องการศาสนาอีกต่อไป
เพราะคนอาจคิดว่าศาสนางมงาย ไม่มีเหตุผล
เลยไปนับถือ วิทยาศาสตร์เป็นศาสนาแทน
มนุษย์ก็ตกเป็นทางของวัตถุ ที่อาศัยเทคโนโลยีและความรู้ทางวิทยาศาสตร์สร้างขึ้น
ศีลธรรมคุณธรรมก็เสื่อมลงอย่างรวดเร็วอีกครั้งหนึ่ง
............ก็แค่นั้นเอง.
มีคนถามท่านดาไลลามะว่า
"ศาสนาอะไรเป็นศาสนาที่ดีที่สุด?"
องค์ดาไลลามะตอบว่า ศาสนาที่ทำให้เข้าถึงพระเจ้า เป็นศาสนาที่ดีที่สุด
การเข้าถึงพระเจ้าคือ การมีความเมตตา กรุณา การช่วยเหลือผู้อื่น
การรักสันติสุข ฯลฯ
ซึ่งทั้งหลายทั้งปวงดังกล่าวก็คือ
การทำให้มนุษย์มีความสูงส่งขึ้นทางด้านจิตใจ สามารถอยู่ร่วมกันในชุมชนโดยสันติ
ศาสนาใดก็ตามที่นำไปสู่เป้าหมายนี้จะเป็นศาสนาที่ดีที่สุด
หากคุณรู้สึกโดดเดี่ยว ในสังคมที่วุ่นวายสับสน ผู้คนไร้น้ำใจ
ก็ขอให้คุณปฏิบัติตามศาสนาที่ดีที่สุดตามที่คุณนับถือ
เสมือนได้จุดดวงไฟของปัญญาสว่างแล้วในใจของตนเอง
ไม่ว่าจะมีเรื่องร้ายๆเกิดขึ้นกี่ครั้งในชีวิต
สังคมจะเลวร้ายลงไปอีกสักเท่าไร
เมื่อได้ที่พึ่งที่ดีที่สุดนี่แล้ว ก็ยังอุ่นใจได้ว่า
ชีวิตของเราจะไม่มีวันมืดมิดตามไปด้วย
และจิตใจของคุณก็จะสว่างไสวด้วยศรัทธาและปัญญา
ตราบแม้แต่ลมหายใจในชีวิตของคุณเลยทีเดียว ^^
เรื่องและภาพประกอบ วนารักษ์
ขอบคุณทุกๆท่านที่แวะเข้ามาเยี่ยมเยียนติชม
ขอบคุณเพื่อนๆประจำบล็อกที่ยังคิดถึงกันอยู่เสมอ
ขอบคุณหัวข้อดีๆในครั้งนี้
ขอบคุณที่โลกนี้ยังมีศาสนาเป็นที่พึ่งและแสงสว่างให้กับพวกเราทุกๆคน^^
Create Date : 07 มิถุนายน 2556 |
Last Update : 13 มิถุนายน 2556 15:21:44 น. |
|
79 comments
|
Counter : 5720 Pageviews. |
|
|
|
โดย: ข้ามขอบฟ้า วันที่: 7 มิถุนายน 2556 เวลา:12:53:51 น. |
|
|
|
โดย: ฝากเธอ วันที่: 7 มิถุนายน 2556 เวลา:19:59:32 น. |
|
|
|
โดย: ข้ามขอบฟ้า วันที่: 7 มิถุนายน 2556 เวลา:22:35:45 น. |
|
|
|
โดย: ฝากเธอ2 วันที่: 7 มิถุนายน 2556 เวลา:23:21:17 น. |
|
|
|
โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 8 มิถุนายน 2556 เวลา:0:36:54 น. |
|
|
|
โดย: ธูปหอม IP: 110.77.208.25 วันที่: 8 มิถุนายน 2556 เวลา:6:33:08 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 8 มิถุนายน 2556 เวลา:6:38:24 น. |
|
|
|
โดย: lovereason วันที่: 8 มิถุนายน 2556 เวลา:12:11:12 น. |
|
|
|
โดย: กิ่งฟ้า วันที่: 8 มิถุนายน 2556 เวลา:12:30:05 น. |
|
|
|
โดย: ข้ามขอบฟ้า วันที่: 8 มิถุนายน 2556 เวลา:15:00:46 น. |
|
|
|
โดย: ข้ามขอบฟ้า วันที่: 8 มิถุนายน 2556 เวลา:15:05:10 น. |
|
|
|
โดย: พรไม้หอม วันที่: 8 มิถุนายน 2556 เวลา:19:54:14 น. |
|
|
|
โดย: กาปอมซ่า วันที่: 8 มิถุนายน 2556 เวลา:20:20:05 น. |
|
|
|
โดย: วนารักษ์ วันที่: 8 มิถุนายน 2556 เวลา:21:07:41 น. |
|
|
|
โดย: NENE77 วันที่: 8 มิถุนายน 2556 เวลา:21:22:34 น. |
|
|
|
โดย: schnuggy วันที่: 8 มิถุนายน 2556 เวลา:23:16:06 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 9 มิถุนายน 2556 เวลา:0:03:18 น. |
|
|
|
โดย: เศษเสี้ยว วันที่: 9 มิถุนายน 2556 เวลา:2:12:37 น. |
|
|
|
โดย: อุ้มสี วันที่: 9 มิถุนายน 2556 เวลา:2:27:50 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 9 มิถุนายน 2556 เวลา:6:20:40 น. |
|
|
|
โดย: กิ่งฟ้า วันที่: 9 มิถุนายน 2556 เวลา:9:41:56 น. |
|
|
|
โดย: pantawan วันที่: 9 มิถุนายน 2556 เวลา:12:31:34 น. |
|
|
|
โดย: tifun วันที่: 9 มิถุนายน 2556 เวลา:13:58:48 น. |
|
|
|
โดย: ชีริว วันที่: 9 มิถุนายน 2556 เวลา:14:14:27 น. |
|
|
|
โดย: NENE77 วันที่: 9 มิถุนายน 2556 เวลา:14:32:38 น. |
|
|
|
โดย: เริงฤดีนะ วันที่: 9 มิถุนายน 2556 เวลา:18:18:21 น. |
|
|
|
โดย: วนารักษ์ วันที่: 9 มิถุนายน 2556 เวลา:20:11:05 น. |
|
|
|
โดย: untalai วันที่: 9 มิถุนายน 2556 เวลา:20:50:43 น. |
|
|
|
โดย: กิ่งฟ้า วันที่: 9 มิถุนายน 2556 เวลา:22:26:10 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 10 มิถุนายน 2556 เวลา:6:40:43 น. |
|
|
|
โดย: วนารักษ์ วันที่: 10 มิถุนายน 2556 เวลา:11:23:49 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 10 มิถุนายน 2556 เวลา:11:46:22 น. |
|
|
|
โดย: ตาลเหลือง วันที่: 10 มิถุนายน 2556 เวลา:11:51:55 น. |
|
|
|
โดย: กาปอมซ่า วันที่: 10 มิถุนายน 2556 เวลา:15:36:03 น. |
|
|
|
โดย: กิ่งฟ้า วันที่: 10 มิถุนายน 2556 เวลา:15:57:25 น. |
|
|
|
โดย: NENE77 วันที่: 10 มิถุนายน 2556 เวลา:19:20:09 น. |
|
|
|
โดย: pantawan วันที่: 10 มิถุนายน 2556 เวลา:20:33:56 น. |
|
|
|
โดย: ชีริว วันที่: 10 มิถุนายน 2556 เวลา:21:13:44 น. |
|
|
|
โดย: ฝากเธอ วันที่: 10 มิถุนายน 2556 เวลา:21:44:37 น. |
|
|
|
โดย: ข้ามขอบฟ้า วันที่: 11 มิถุนายน 2556 เวลา:3:21:54 น. |
|
|
|
โดย: ข้ามขอบฟ้า วันที่: 11 มิถุนายน 2556 เวลา:3:29:17 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 11 มิถุนายน 2556 เวลา:6:53:04 น. |
|
|
|
โดย: วนารักษ์ วันที่: 11 มิถุนายน 2556 เวลา:11:05:39 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 11 มิถุนายน 2556 เวลา:12:29:04 น. |
|
|
|
โดย: ดอยสะเก็ด วันที่: 11 มิถุนายน 2556 เวลา:17:03:56 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 12 มิถุนายน 2556 เวลา:6:34:26 น. |
|
|
|
โดย: กิ่งฟ้า วันที่: 12 มิถุนายน 2556 เวลา:10:05:21 น. |
|
|
|
โดย: วนารักษ์ วันที่: 12 มิถุนายน 2556 เวลา:10:43:45 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 12 มิถุนายน 2556 เวลา:11:18:43 น. |
|
|
|
โดย: mastana วันที่: 12 มิถุนายน 2556 เวลา:12:59:33 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 12 มิถุนายน 2556 เวลา:15:58:37 น. |
|
|
|
โดย: multiple วันที่: 12 มิถุนายน 2556 เวลา:16:50:17 น. |
|
|
|
โดย: ประกายพรึก วันที่: 12 มิถุนายน 2556 เวลา:17:56:34 น. |
|
|
|
โดย: NENE77 วันที่: 12 มิถุนายน 2556 เวลา:19:44:55 น. |
|
|
|
โดย: กิ่งฟ้า วันที่: 12 มิถุนายน 2556 เวลา:22:08:45 น. |
|
|
|
โดย: **mp5** วันที่: 12 มิถุนายน 2556 เวลา:22:42:59 น. |
|
|
|
โดย: ข้ามขอบฟ้า วันที่: 13 มิถุนายน 2556 เวลา:2:25:14 น. |
|
|
|
โดย: ข้ามขอบฟ้า วันที่: 13 มิถุนายน 2556 เวลา:2:27:28 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 13 มิถุนายน 2556 เวลา:6:27:37 น. |
|
|
|
โดย: วนารักษ์ วันที่: 13 มิถุนายน 2556 เวลา:11:05:11 น. |
|
|
|
โดย: multiple วันที่: 13 มิถุนายน 2556 เวลา:11:21:15 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 13 มิถุนายน 2556 เวลา:12:47:20 น. |
|
|
|
|
|
|
|
Location :
ปราจีนบุรี Thailand
[ดู Profile ทั้งหมด]
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember ผู้ติดตามบล็อก : 31 คน [?]
|
ขอต้อนรับสู่บล็อกเล็กๆแห่งนี้มีมิตรภาพและความจริงใจให้กับเพื่อนๆทุกท่านที่แวะเข้ามาทักทายกัน ^^
บทความและรูปภาพนี้จัดทำขึ้นเพื่อเผยแพร่เป็นธรรมทาน พร้อมทั้งขอมอบเป็นน้ำใจกับเพื่อนๆทุกคนที่แวะเข้ามา สามารถคัดลอกนำไปเผยแพร่ได้ ยกเว้นเพื่อประโยชน์ทางการค้าซึ่งต้องขออนุญาตก่อนว่าเหมาะสมหรือไม่
เพื่อนบางคนมาครั้งเดียว นานๆมาที มาไม่บ่อย มาบ่อยๆ บางคนมาเยี่ยมทุกวันให้ชื่นใจ
บางคนเคยมาทุกวัน บางคนเคยมานานแล้ว บางคนหายไปจากบล็อก บางคนก็จะไม่แวะมาทักทายกันอีก
แต่ไม่ว่าอย่างไรก็จะขอเก็บความรู้สึกดีๆที่มีให้กันไว้ตราบนานเท่านาน เพราะเมื่อรักกันแล้วย่อมเข้าใจกันได้ไม่ยาก
จขบ.เป็นคนซื่อๆง่ายๆจริงใจ ไม่มีเจตนาแอบแฝงในการทำบล็อก แต่บทความหรือรูปภาพก็อาจทำให้ผู้อ่านขัดใจได้ เพราะความรู้เท่าไม่ถึงการของ จขบ.หรืออาจเป็นเพราะเราไม่เคยรู้จักดีพอ จึงกราบขออภัยมา ณ.ที่นี้ด้วย และขอขอบพระคุณทุกท่านที่แวะมาเยี่ยมเยียนด้วยความจริงใจนะครับ ^^
ฝากข้อความหลังไมค์
|
|
|
|
| 1 |
2 | 3 | 4 | 5 | 6 | 7 | 8 |
9 | 10 | 11 | 12 | 13 | 14 | 15 |
16 | 17 | 18 | 19 | 20 | 21 | 22 |
23 | 24 | 25 | 26 | 27 | 28 | 29 |
30 | |
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|