หุบเขาสีชมพูภูลมโลแสนต้นแสนอลังการจะบานแล้ว มีโอกาสร่วมทริปกับองค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน หรือ อพท. (องค์การมหาชน)ไปยังจังหวัดเลย โดยการนำของคุณสุเทพ เกื้อสังข์ รองผู้อำนวยการอพท.พาไปชมการเตรียมความพร้อมก่อนเปิดฤดูกาลท่องเที่ยวภูลมโล ซึ่งพื้นที่พิเศษเลยนั้นอยู่ในความดูแลบริหารจัดการของอพท.
อพท. ได้ร่วมกับชุมชนพัฒนาการท่องเที่ยวในพื้นที่ภูลมโล โดยมีนางพญาเสือโคร่ง หรือสมญานามว่า ซากุระเมืองไทย พื้นที่กว่าหนึ่งพันสองร้อยไร่ จำนวนกว่าหนึ่งแสนต้น ซึ่งอยู่ในเขตตำบลกกสะทอน อำเภอด่านซ้าย จังหวัดเลย
ที่นี่เป็นแหล่งชมความงามของดอกซากุระที่สวยงามที่สุดในประเทศไทย เรียกว่าไปทางไหนก็ชมพูอร่ามไปหมด สวยสดงดงามชนิดที่ไม่ต้องไปถึงญี่ปุ่นหรือเกาหลี จนทำให้กลายเป็นหุบเขาสีชมพู จะบานในช่วงฤดูหนาวนี้ ห้วงระหว่างเดือน ธ.ค. ก.พ. ของทุกปี
ในปีนี้ชมรมส่งเสริมการท่องเที่ยวโดยชุมชนกกสะทอน ได้จัดให้มีการพิธีลงนามบันทึกข้อตกลง หรือ MOU ด้านการรองรับอุบัติเหตุฉุกเฉินนักท่องเที่ยว ระหว่าง ชมรมส่งเสริมการท่องเที่ยวโดยชุมชนกกสะทอน กับ โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชด่านซ้าย หากเกิดอุบัติเหตุกับนักท่องเที่ยวที่เข้าชมในพื้นที่ภูลมโลหรือในเขตกกสะทอนก็สามารถส่งต่อมายังโรงพยาบาลได้ทันที
ความโดดเด่นของชุมชนกกสะทอนที่ดูแลภูลมโลเด่นขนาดไหน ลองมาฟังจากคุณสมพงษ์ ศรีอภัย ประธานชมรมส่งเสริมการท่องเที่ยวโดยชุมชนกกสะทอนบอกว่า ชมรมส่งเสริมการท่องเที่ยวโดยชุมชนกกสะทอน ได้รับการคัดเลือกให้เป็นชุมชนต้นแบบเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนจากอพท.
ปีนี้ชมรมส่งเสริมการท่องเที่ยวโดยชุมชนกกสะทอน มีศักยภาพ ความพร้อมรองรับนักท่องเที่ยวเต็มที่ โดยปัจจุบัน มีรถยนต์บริการนำเที่ยวภูลมโล กว่า 110 คัน รองรับนักท่องเที่ยวชมนางพญาเสือโคร่ง แบบไป กลับ วันละ 2,000 คน เริ่มเดินรถคันแรกตั้งแต่เวลา 04.00 น. หากนักท่องเที่ยวประสงค์จะชมวิว หรือดวงอาทิตย์ขึ้นบนภูลมโล เที่ยวสุดท้ายไม่เกิน 16.00 น.
กิจกรรมท่องเที่ยว ก็มีการชมวิวภูลมโล พิชิตยอดภูลมโลความสูง 1,661 เมตร จากระดับน้ำทะเลปานกลาง ซึ่งไฮไลท์อยู่ที่การเที่ยวชมดอกนางพญาเสือโคร่งที่จะพร้อมใจกันออกดอกสีชมพูเต็มภูลมโล สวยงามมาก การเข้าถึงภูลมโลเป็นเส้นทางธรรมชาติ แบบผจญภัยนิดๆ ซึ่งเป็นเสน่ห์ของการเที่ยวชม ทางฝั่งชุมชนกกสะทอน รถยนต์นำเที่ยว บริการคันละไม่เกิน 10 คน โดย/อัตรา 1 6 คน ราคาอยู่ที่ 1,500 บาท/ อัตรา 7 10 คน ราคาอยู่ที่ 2,000 บาท/ อัตราค่าบริการเป็นราคาเหมาจ่าย ร่วมค่าเข้าอุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้าไว้แล้ว
ภูลมโลอยู่เขตอุทยานฯ และพื้นที่ภูลมโลอยู่ในเขตตำบลกกสะทอน อำเภอด่านซ้าย จังหวัดเลยด้วย โดยรถยนต์นำเที่ยวทุกคันเป็นแบบขับเคลื่อนสี่ล้อ คนขับผ่านการอบรมและมีบัตรนักสื่อความหมายท้องถิ่น รถยนต์อยู่ในสภาพดี มี พรบ. ทุกคัน และมีเบอร์หมายเลขรถชัดเจน คนขับแต่งกายใส่เสื้อวิน มีหมายเลขเสื้อตรงกับรถที่ตนขับบริการนักท่องเที่ยวด้วย ระยะทางประมาณ 20 กิโลเมตร
จากชมรมฯ ถึงภูลมโล ใช้เวลาวิ่งรถประมาณ 40 50 นาที นักท่องเที่ยวสามารถติดต่อสอบถามได้ที่ชมรมส่งเสริมการท่องเที่ยวโดยชุมชนกกสะทอน ที่หมายเลขโทรศัพท์ 062 5570912 3 และสื่อสารผ่านทางแฟนเพจ เฟสบุ๊ค ภูลมโล,ซากุระเมืองไทย,นางพญาเสือโคร่ง,กกสะทอน หรือค้นหาในเว็บไซต์กูเกิล คำค้นคือ @phulomlo.koksathon ก็จะเจอเพจชมรมฯ
ในบริเวณใกล้เคียงยังมีจุดที่มี Story แสนยิ่งใหญ่ของเมืองไทย ชนิดพลาดไม่ได้ คือการตามรอยเสด็จพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ 9 ที่พระองค์ท่านเคยเสด็จบ้านหมากแข้ง ตำบลกกสะทอน อำเภอด่านซ้าย จังหวัดเลย เมื่อวันที่ 21 ธันวาคม พ.ศ. 2516 พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มหิตลาธิเบศรรามาธิบดี จักรีนฤบดินทร สยามินทราธิราช บรมนาถบพิตร สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี และสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินโดยเฮลิคอปเตอร์ทรงเยี่ยมประชาชนในพื้นที่บ้านหมากแข้ง ซึ่งเป็นพื้นที่สีแดง และอยู่ระหว่างการสู้รบของทหารไทยกับผู้ก่อการร้ายคอมมิวนิสต์อย่างหนัก
ในขณะนั้น บ้านหมากแข้ง มีบ้านอยู่ประมาณ 60 หลังคาเรือน ไปมาไม่สะดวก ต้องใช้เวลาในการเดินทางเป็นวัน เป็นถนนทางเกษตร และเป็นพื้นที่สีแดง มีการต่อสู้ระหว่างทหารไทยและผู้ก่อการร้ายคอมมิวนิสต์ จนชาวบ้านถูกคอมมิวนิสต์ยิงตาย ทำมาหากินไม่ได้ ชาวบ้านหลบหนีภัยสงครามไปอยู่บ้านตูบค้อ บ้านน้ำเย็น บ้านน้ำหมัน ต.กกสะทอน อ.ด่านซ้าย และ อ.หล่มเก่า จนถึงปัจจุบัน โดยไม่มีข้าราชการผู้ใหญ่คนไหนเข้ามาดูแลชาวบ้านเลย
ทั้ง 4 พระองค์เสด็จฯ ไปยังโรงเรียนบ้านหมากแข้ง ซึ่งเป็นที่ประทับชั่วคราว ชาวบ้านได้นำสิ่งของมาถวาย อีกทั้งพระองค์ยังพระราชทานข้าวสาร เสื้อผ้า เครื่องมือทำการเกษตร พันธุ์พืช และอื่นๆ อีกมากแก่ชาวบ้านหมากแข้ง เป็นพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้น
ต่อเมื่อปลายเดือนตุลาคม พ.ศ.2519 ฝ่าย ผกค. ได้ปะทะยิงสู้รบเจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นเหตุให้เครื่องบินตก 1 ลำ ในเช้าวันที่ 28 ตุลาคม พ.ศ.2519 และในวันที่ 5 6 พฤศจิกายน 2519 สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมงกุฎราชกุมาร ทรงเสด็จเยี่ยมเพื่อสร้างขวัญและกำลังใจในการสู้รบกับ ผกค. โดยได้ประทับแรมที่ฐานปฏิบัติการบ้านหมากแข้งเป็นเวลา 1 คืนจึงเสด็จกลับและพระองค์ได้เสด็จมาเยี่ยมเยือนครั้งหนึ่งในวันที่ 14 พฤศจิกายน พ.ศ.2519 สงครามคอมมิวนิสต์ได้สิ้นสุดลง ในปี พ.ศ.2525 โดยฝ่ายทหารได้ใช้ระบบการเมืองนำการทหารตามนโยบายที่ 66/23 และ 25/25
ปัจจุบันชมรมส่งเสริมการท่องเที่ยวโดยชุมชนกกสะทอน ซึ่งเป็นชุมชนต้นแบบของ อพท. ได้บริหารจัดการการท่องเที่ยวโดยชุมชนโดยจัดกิจกรรมตามรอยเสด็จพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ภายใต้กิจกรรม เที่ยวกกสะทอนสุขใจ เทิดไท้องค์ราชัน
สถานที่ท่องเที่ยวปัจจุบันมี อุทยานเทิดพระเกียรติบ้านหมากแข้ง เป็นสถานที่พระบาทสมเด็จพระปริมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เคยเสด็จสร้างขวัญกำลังใจแก่ราษฎรชาวบ้านหมากแข้ง และยังเป็นสถานที่ ที่แสดงออกถึงวีรกรรมอันกล้าหาญ ของสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมงกุฎราชกุมาร ในการเสด็จเพื่อสร้างขวัญและกำลังใจในการสู้รบกับ ผกค. โดยอุทยานเทิดพระเกียรติ อยู่ที่ หมู่ที่ 4 บ้านหมากแข้ง ตำบลกกสะทอน ซึ่งเป็นฐานปฏิบัติการของทหารไทยในสมรภูมิภูหินร่องกล้า
ณ ฐานแห่งนี้มีเหตุการณ์สำคัญทางประวัติศาสตร์ของชาติไทยอย่างมาก คือเมื่อครั้งยังมีการสู้รบคอมมิวนิสต์ ที่มาอาศัยอยู่ในป่าที่ภูหินร่องกล้าอยู่ อุทายเทิดพระเกียรติ บ้านหมากแข้ง แห่งนี้เคยเป็นฐานตั้งมั่นของทหารไทยที่สู้รบกับคอมมิวนิสต์ ในครั้งนั้น สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช สยามมงกุฎราชกุมาร ได้เสด็จมาประทับพักแรมเพื่อบัญชาในการสู้รบกับคอมมิวนิสต์ และเป็นขวัญกำลังใจดูแลทุกข์สุขราษฎร ณ ฐานปฏิบัติการแห่งนี้ ไปเที่ยวกกสะทอน ที่ด่านซ้าย เมืองผีตาโขน ได้ทั้งความสำราญบานใจจากการชมทุ่งดอกซากุระภูลมโลแสนสวย และได้เที่ยวตามรอยพระบาท สำนึกในพระมหากรุณาธิคุณที่ยิ่งใหญ่
(ภาพเดิมจากทุ่งซากุระภูลมโลเมื่อต้นปี 2559 ) ขอบคุณอพท.สนับสนุนการเดินทางของ Travelista นักเดินทาง ติดตามข่าวสารได้ที่ Facebook Travelista นักเดินทาง นักข่าวสาวที่อยู่ในแวดวงท่องเที่ยวกว่า 30 ปี ขอบคุณที่นำมาแบ่งปันกัน
โดย: Kavanich96 วันที่: 11 พฤศจิกายน 2559 เวลา:4:39:07 น.
|
บทความทั้งหมด
|